Tuesday, 17 June 2025
NEWS FEED

พิธีเปิดโครงการฝึกอบรมพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพอากาศ (พสบ.ทอ.) รุ่นที่ 17

วันอังคารที่ 17 มกราคม 2566 พลอากาศเอก อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพอากาศ (พสบ.ทอ.) รุ่นที่ 17 ณ ห้องรับรองกองทัพอากาศ กองบัญชาการกองทัพอากาศ โดยมีผู้เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 60 คน ประกอบด้วย ข้าราชการทหาร ผู้บริหารองค์กรภาครัฐ ผู้บริหารองค์กรรัฐวิสาหกิจ และผู้บริหารองค์กรภาคเอกชน 

โครงการฝึกอบรมพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพอากาศ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 มกราคม ถึงวันที่ 21 มีนาคม 2566  มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่างข้าราชการของกองทัพอากาศ เหล่าทัพ และผู้บริหารองค์กรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ รวมถึงภาคเอกชน ให้เกิดความเข้าใจอันดีต่อกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดเป็นพลังที่สำคัญในการตอบสนองภารกิจต่าง ๆ ของกองทัพอากาศ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และพัฒนาประเทศชาติต่อไป 

รัฐบาล ต่ออายุลดภาษีดีเซล 5 บ./ลิตรอีก 4 ด. นายกฯ ระบุ ลดความเดือดร้อนปชช.

‘ประยุทธ์’ เผย ขยายเวลาลดภาษีน้ำมันดีเซลออกไป 4 เดือน ลดความเดือดร้อนประชาชน

เมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 17 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการขยายระยะเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ออกไปอีก 4 เดือน ว่า ก็ดำรงรักษาไว้ให้ได้ 35 บาท ต่อลิตร จริง ๆ ราคาควรจะขึ้นไป 40 กว่าบาทไปตั้งนานแล้ว เราดูแลอย่างนี้

สุโขทัย-จัดพิธีบวงสรวงบูรพกษัตริย์สุโขทัยทุกพระองค์ เนื่องในวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช

วันนี้ (17 มกราคม 2566) เวลา 07.00 น. ที่ลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย นายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วย นางพร้อมจันทร์ ทีคะสุข รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุโขทัย ศาล ทหาร ตำรวจ อัยการ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุโขทัย สมาชิกวุฒิสภา ดร.มนู พุกประเสริฐ นายก อบจ.สุโขทัย พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร และบุคลากร อบจ.สุโขทัย ผู้นำทีองถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ประกอบพิธีบวงสรวงพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และบูรพกษัตริย์สุโขทัยทุกพระองค์ จากนั้นผู้แทนจากภาคส่วนต่างๆ ถวายพานพุ่มดอกไม้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าวถวายราชสดุดี เนื่องในวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ประจำปี 2566

ทั้งนี้ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 3 ในราชวงศ์พระร่วงแห่งราชอาณาจักรสุโขทัย เสวยราชย์สมบัติประมาณปี พ.ศ.1822 ถึงประมาณปี พ.ศ.1841 พระองค์ทรงรวบรวมอาณาจักรไทยจนเป็นปึกแผ่นกว้างขวาง และได้ทรงประดิษฐ์ตัวอักษรไทยขึ้น ทำให้ชาติไทยได้สะสมความรู้ทางศิลปะ วัฒนธรรม และวิชาการต่างๆ สืบทอดกันมากว่า 700 ปี และ เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2376 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงค้นพบแท่นศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแห่งมหาราชที่เนินปราสาท จ.สุโขทัย ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้กำหนดวันที่ 17 มกราคมของทุกปีเป็นวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เพื่อเผยแพร่พระเกียรติที่พระองค์ทรงส่งเสริมให้เกิดความรุ่งเรืองทางปัญญา และศิลปวัฒนธรรมที่โดดเด่น คือ การประดิษฐ์ตัวอักษรไทย และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยนานัปการ

‘ก้าวไกล’ ทวงเอกสาร ‘ทัพเรือ’ ปมเรือหลวงล่ม ขู่!! หากไม่แจงให้ชัด เจออภิปราย ม.152 ในสภาฯ

‘พิจารณ์’ ทวงทัพเรือ ครบ 1 เดือนเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ยังส่งเอกสารให้ กมธ.ทหารไม่ครบ ย้ำขอรายชื่อกรรมการสอบสวน-ประวัติซ่อมเรือ เผย 19 ม.ค. เชิญ ทร. หารือที่สภา หากยังชี้แจงไม่ชัดเจน เจอตามต่ออภิปราย ม.152

(17 ม.ค. 66) พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการการทหาร แสดงความเห็นกรณีเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปางเป็นเวลาครบ 1 เดือนในวันนี้ว่า ขณะนี้ครบรอบ 1 เดือนของโศกนาฏกรรม หลังจาก กมธ. การทหารประชุมเรื่องนี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 และได้ขอเอกสารสำคัญจากกองทัพเรือทั้งหมด 8 รายการ แต่ผ่านมา 25 วัน กองทัพเรือส่งให้เพียง 2 รายการ ยังไม่มีเอกสารเพิ่มเติมมาถึง กมธ. ตามที่ขอไป

พิจารณ์กล่าวว่า สิ่งที่เราต้องการมาก คือ ประวัติการซ่อมเรือหลวงสุโขทัย ตั้งแต่ปี 2540 ถึงปัจจุบัน เพื่อให้ทราบข้อมูลการซ่อมบำรุงตามวงรอบว่าได้ทำตามมาตรฐานหรือไม่ เนื่องจากได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าว รวมถึงข้อสังเกตที่สาธารณะตั้งคำถามเกี่ยวกับสภาพความพร้อมใช้งานของเรือ ไม่ว่าจะเป็น การซ่อมบำรุงครีบกันโคลง (Fin Stabilizer) ที่มีข้อมูลว่าถูกถอดออกไปแล้ว การซ่อมแซมตัวเรือบริเวณใต้ผิวน้ำที่สึกหรอและบางลง เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ รวมถึงการซ่อมเปลี่ยนแบริ่งรองรับเพลาจักร นอกจากนั้น ยังมีรายชื่อของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ซึ่งกองทัพเรือยังไม่เปิดเผยชื่อ โดยในวันที่ 19 มกราคมนี้ ทาง กมธ.การทหาร ได้เชิญกองทัพเรือมาหารือที่รัฐสภา เพื่อติดตามความคืบหน้าและทวงถามเอกสาร

‘พีระพันธุ์’ สั่งแก้ปัญหาที่ดินด่านช้าง ให้ชาวบ้านมีที่ทำกินภายใน 1 สัปดาห์

‘พีระพันธุ์’ เร่งแก้ปัญหาที่ดินด่านช้าง ให้ชาวบ้าน 113 รายได้รับสิทธิ์ทำกินตามข้อร้องเรียนถึง ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ นายกรัฐมนตรีโดยเร็วหลังเกิดความล่าช้ามานาน ระบุ 1 สัปดาห์ต้องเสร็จ พร้อมขอให้ทำงานอย่างบูรณาการ คู่ขนานระหว่างหน่วยงานเพื่อลดขั้นตอนตามระบบราชการ ส่วนผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ได้รับที่ดิน เช่น กลุ่มที่มีที่ดินทำกินอยู่แล้ว ก็ต้องชี้แจงเหตุผลอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้ชาวบ้านเข้าใจผิดว่าถูกกลั่นแกล้ง หรือเกิดความไม่เท่าเทียม 

(17 ม.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ ตามคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีที่ดินทำกินของประชาชน ใน ต.วังยาว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี โดยมีตัวแทนจาก จ.สุพรรณบุรี, กรมป่าไม้, สำนักงานที่ดิน จ.สุพรรณบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมรายงานความคืบหน้าการดำเนินการ 

สืบเนื่องจาก ก่อนหน้านี้นายพีระพันธุ์ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาร่วมประชุม เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ทำให้เกิดความล่าช้าในการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชนที่เดือดร้อนไร้ที่ดินทำกิน ต.วังยาว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี จำนวน 113 ราย ที่ทำหนังสือร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้เร่งรัดติดตามแก้ไขปัญหาความล่าช้าในการดำเนินการตามคำบัญชาของ นายกฯ ที่ให้จัดสรรที่ดินจำนวน 557 ไร่เป็นที่ทำกินให้กับประชาชนกลุ่มดังกล่าว รวมทั้งขอให้ตรวจสอบความโปร่งใสของกรมป่าไม้ที่ให้สิทธิ์กับเอกชนเพียง 2 รายเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่กว่า 3,800 ไร่ แต่กลับไม่ให้สิทธิ์กับประชาชนเข้าทำมาหากิน โดยในการประชุมครั้งนั้น นายพีระพันธุ์ได้ขอให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องไปหาแนวทางผ่อนปรน แก้ไขกฎระเบียบ ที่เป็นอุปสรรคทำให้การดำเนินการจัดสรรที่ดินล่าช้า เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าพื้นที่ทำกินโดยเร็วก่อนการจัดการเรื่องอื่น ๆ และขอให้กลับมารายงานผลการดำเนินงานในการประชุมโดยเร็วที่สุดภายในวันที่ 15 มกราคม 2566

ทั้งนี้ในการประชุมติดตามความคืบหน้าครั้งนี้ นายพีระพันธุ์ ได้สอบถามความคืบหน้าตามที่ได้เร่งรัดไปจากการประชุมครั้งก่อน ที่ขอให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 15 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา แต่ได้รับแจ้งจากหน่วยงานด้านการจัดสรรที่ดินของ จ.สุพรรณบุรี ว่าขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นตามกำหนดได้ เนื่องจากติดที่ขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติของประชาชนทั้ง 133 ราย และการกำหนดแปลงที่ดินเพื่อจัดสรรให้กับประชาชนที่มีสิทธิ์แต่ละราย ทำให้ขั้นตอนที่จะต้องส่งต่อไปตามกระบวนการต่าง ๆ ล่าช้าต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามจะได้เร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 38 วัน

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยข้อความสั้น (SMS) หลอกให้กดลิงก์รับอั่งเปาในช่วงเทศกาลตรุษจีน

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยมิจฉาชีพ ฉวยโอกาสใช้เทศกาลต่างๆ สำคัญก่อเหตุหลอกลวงประชาชนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ดังนี้
วันตรุษจีน หรือวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีนถือเป็นเทศกาลที่สำคัญ มีการเฉลิมฉลองกันในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยวันตรุษจีนปีนี้ ตรงกับวันที่ 22 มกราคม 2566 ตามธรรมเนียมจะเป็นวันที่จะไปไหว้ขอพรญาติผู้ใหญ่ หรือคนที่เรานับถือ รวมถึงมีการมอบอั่งเปาให้ระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่มอบให้เด็ก ลูกหลานมอบให้พ่อแม่ เป็นต้น

แต่ก็เป็นหนึ่งในแผนประทุษกรรมเดิมๆ ของมิจฉาชีพที่นำมาใช้ในการหลอกลวงประชาชน โดยมิจฉาชีพจะฉวยโอกาสดังกล่าวส่งลิงก์ที่แนบมากับข้อความสั้น (SMS) อ้างว่าท่านได้รับอั่งเปาฟรี ได้รับสิทธิพิเศษ หรือได้รับเงินรางวัลต่างๆ มิจฉาชีพจะหลอกลวงประชาชนคลิกเข้าไปในเว็บไซต์ปลอม หลอกลวงให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลทางการเงิน เช่น ชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเดบิตหรือเครดิต รหัสหลังบัตร 3 หลัก รหัส OTP เป็นต้น เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ ไม่ว่าจะเป็นการนำข้อมูลไปเข้าถึงบัญชีสื่อสังคมออนไลน์แล้วไปหลอกยืมเงินผู้อื่น ใช้บัตรเดบิตหรือเครดิตรูดชำระค่าสินค้า หรือถูกโอนเงินจากบัญชีธนาคาร หรือนำไปแอบอ้างทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนตัวของประชาชน ไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง

สื่อเวียดนาม ชี้ ‘ประเทศไทย’ ครองอันดับ 1 ‘ชาวต่างชาติ’ สนใจมาท่องเที่ยวช่วงตรุษจีน

(17 ม.ค. 66) สำนักข่าว VnExpress International ของเวียดนาม เสนอข่าว Thailand most searched Asia-Pacific destination for Lunar New Year อ้างข้อมูลจาก Sojern แพลตฟอร์มออนไลน์ด้านธุรกิจการท่องเที่ยวของจีน ซึ่งพบว่า ประเทศไทยครองสัดส่วนร้อยละ 27 ของการค้นหาข้อมูลเที่ยวบินในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในช่วงเทศกาลตรุษจีนครั้งนี้ โดยมาเป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่อันดับสองคือ ญี่ปุ่น ร้อยละ 19 และอันดับสามคือ สิงคโปร์ ร้อยละ 18 ซึ่งจุดเด่นของไทยอย่างหนึ่งคือมีนโยบายวีซ่าที่เปิดกว้าง

เช่นเดียวกับข้อมูลการค้นหาเที่ยวบินในระดับเมือง พบว่า ประเทศไทยติดอันดับมาถึง 2 แห่ง คือกรุงเทพฯ อยู่ในอันดับหนึ่ง ร้อยละ 22 และภูเก็ต อยู่ที่ร้อยละ 7 ครองอันดับสี่ร่วมกับกรุงไทเปของไต้หวัน ส่วนอันดับสองคือกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ร้อยละ 15 และอันดับสามคือกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ ร้อยละ 9 โดยวันตรุษจีนซึ่งเป็นการนับปีใหม่ทางจันทรคติ ในปีนี้จะตรงกับวันที่ 22 ม.ค. 2566  เช่นเดียวกับข้อมูลจาก Ctrip บริษัททัวร์สัญชาติจีน พบว่า ไทยเป็นเป้าหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วงตรุษจีน ขณะที่เมื่อช่วงวันที่ 27 ธ.ค. 2565-1 ม.ค. 2566 มีการจองการเดินทางขาเข้าจากไทยไปจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มขึ้นร้อยละ 101

'บิ๊กป้อม' ลงพื้นที่อ.เมืองลำปาง-อ.แม่เมาะ มอบที่ดินทำกิน จี้แผนขุดลอก-ฟื้นฟู เร่งเก็บกักน้ำ

(16 ม.ค. 66) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดลำปาง โดยในช่วงเช้าเป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ณ ศาลากลาง จังหวัดลำปาง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวต้อนรับพร้อมบรรยายภาพรวมของจังหวัด ก่อนเยี่ยมชมนิทรรศการผลิตภัณฑ์ OTOP และพบปะประชาชน 

จากนั้น รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีมอบเอกสารใบอนุญาต คทช. มอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน ตามนโยบายรัฐบาล และมอบเอกสาร สปก. 4-01 ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดลำปาง และติดตามความคืบหน้าการบริหารจัดการน้ำอ่างเก็บน้ำแม่เมาะ ณ ที่ว่าการ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรและผู้ยากจนเรื่องที่ดินทำกินมาโดยตลอด และได้ดำเนินการผ่านโครงการหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐเช่น สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการในภารกิจการกระจายถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน ภายใต้การดูแลของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และได้แก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน ที่อยู่ที่อาศัยและป้องกันการสูญเสียสิทธิ์ในที่ดินจากการจำนอง การขายฝาก เพื่อให้เกษตรกรยังคงมีสิทธิ์ในที่ดินทำกินของตนเอง ตลอดจนส่งเสริมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเต็มศักยภาพในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน เพื่อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยที่ทำกิน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

'มหาดไทย' เจ๋ง!! รวบ 8.5 พันช่าง ร่วมแอปฯ 'เรียกช่าง' ตอบโจทย์งานเล็กน้อยเรื่องบ้านในราคาประหยัด

มท.1 คิกออฟเว็บแอปพลิเคชัน 'เรียกช่าง' เตรียมช่างกว่า 8.5 พันราย อำนวยความสะดวก ปชช.ใช้บริการซ่อมแซม ต่อเติม ปรับปรุงบ้านได้

(16 ม.ค. 66) ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานเปิดการใช้งานเว็บแอปพลิเคชัน 'เรียกช่าง' เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนในการเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญในการซ่อมแซมบ้านเรือน โดยมีนายนริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ร่วมงาน

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขอชื่นชมกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของพี่น้องประชาชน ที่มีความต้องการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน ซึ่งเป็นงานขนาดเล็ก และไม่สามารถที่จะหาช่างได้ หรือหากหาผู้รับจ้างมาซ่อมบ้านได้ก็อาจจะเป็นช่างที่ไม่มีคุณภาพ และอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนเพิ่มมากขึ้น โดยการจัดทำเว็บแอปพลิเคชัน 'เรียกช่าง' ในครั้งนี้ จะทำให้เกิดการเสริมสร้างความมั่นใจและการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนในการ ค้นหาช่างให้ตรงกับความต้องการ และสามารถเรียกช่างมาให้บริการ

เปิดคำ 'พล.อ.เกษม' ครูผู้สอนนายกฯ สมัย จปร. ยก ‘บิ๊กตู่’ มี ‘คุณธรรม-จริยธรรม-ความซื่อสัตย์’

นายกฯ ร่วมพิธีงานวันครู ครั้งที่ 67 ประจำปี 2566 คารวะครูอาวุโส พร้อมมอบโล่รางวัลแด่ครูของแผ่นดิน เชื่อมั่นพลังของครู คือหัวใจการเปลี่ยนแปลงคุณภาพการศึกษา ขอร่วมกันสร้างแรงบันดาลใจ พัฒนาการเรียนรู้เด็กเพื่ออนาคตของประเทศ

(16 ม.ค. 66) ณ หอประชุมคุรุสภา สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีงานวันครู ครั้งที่ 67 ประจำปี พ.ศ. 2566 เพื่อประกอบพิธีระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ และส่งเสริมยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ประกอบคุณงามความดี หรือทำคุณประโยชน์ต่อวงการศึกษาให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชนและเป็นแบบอย่างให้เยาวชนรุ่นหลังได้ยึดถือปฏิบัติตาม ภายใต้แนวคิด ‘พลังครู คือ หัวใจของการพลิกโฉมคุณภาพการศึกษา’ (Teacher’s Power is the Heart of Transforming the Educational Quality) โดยมีนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณะครู และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายกรัฐมนตรีวางพวงมาลัยถวายราชสักการะพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และสักการะปฐมบูรพาจารย์ฯ แท่นที่บูชาศีรษะครู จำนวน 7 องค์ ตามลำดับ จากนั้นนายกรัฐมนตรีสักการะพระรัตนตรัย ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และคารวะครูอาวุโส พลเอก เกษม นภาสวัสดิ์ อดีตครูผู้สอนนายกรัฐมนตรี วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และรับชมวีดิทัศน์เรื่อง ‘ครูดี ศิษย์ดี มีอนาคต’ ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีมอบโล่รางวัล จำนวน 17 รางวัล ประกอบด้วย 1) รางวัลผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาของชาติ ประจำปี 2566 จำนวน 8 ราย และ 2) รางวัลคุรุสภา ประจำปี 2565 ‘ระดับดีเด่น’ จำนวน 9 ราย

นายกรัฐมนตรีกล่าวปราศรัยเนื่องในวันครู ครั้งที่ 67 พ.ศ. 2566 ว่า การได้เข้าร่วมสักการะปฐมบูรพาจารย์ คารวะครูอาวุโส นับเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อครูผู้มีพระคุณ ผู้คอยเสริมสร้างภูมิปัญญาให้แก่ศิษย์ด้วยความอุตสาหะ อดทน เสียสละ ด้วยความหวังให้ลูกศิษย์มีความเจริญก้าวหน้าด้านสติปัญญา มีจิตใจที่มีคุณธรรมสำหรับการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ ซึ่งนับว่าเป็นหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของครูในการสร้างสรรค์ศิษย์ให้มีคุณลักษณะที่ดี เป็นพลเมืองดี และเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพของสังคม และเชื่อมั่นว่าพลังของครูคือหัวใจของการเปลี่ยนแปลงคุณภาพการศึกษา รวมทั้งการสร้างและการพัฒนาคนเพื่ออนาคตของประเทศ ซึ่งครูและบุคลากรทางการศึกษานับเป็นผู้มีความสำคัญอย่างมากในการเป็นผู้นำการเรียนรู้ กระตุ้น และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้เรียน โดยเด็กเปรียบเสมือนผ้าขาวที่คุณครูทุกคนจะต้องร่วมกันแต่งแต้มถักทอให้สวยงาม ทำให้เด็กสนใจการศึกษา สนใจการเปลี่ยนแปลงของโลกที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีไปตามลำดับ ทั้งยังต้องเป็นผู้เติมเต็มความรู้และพัฒนาผู้เรียนให้มีปัญญาที่งอกงาม พร้อมจุดประกายให้ผู้เรียนรู้จักคิดเป็น แก้ไขปัญหาได้ มีหลักคิดที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม มีจิตสาธารณะ เผื่อแผ่ แบ่งปัน และมีความรับผิดชอบต่อชุมชน สังคม และประเทศชาติ อันจะทำให้ผู้เรียนเติบโตเป็นพลเมืองที่ดี มีคุณภาพ และมีสมรรถนะในการปรับตัวได้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมในอนาคต 

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงบริบททางสังคมในยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วควบคู่กับความก้าวล้ำทางเทคโนโลยี ดังนั้นครูและผู้บริหารการศึกษาจึงต้องพัฒนาตนเองให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งรัฐบาลมีแนวทางการจัดการศึกษาให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21 ได้แก่...

1) เน้นการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีสมรรถนะในการออกแบบการเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์ มีทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น ทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างรู้เท่าทัน และทักษะการใช้ชีวิตในโลกอนาคต รวมทั้งความรับผิดชอบต่อสังคม ครอบครัว รู้รักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

2) ส่งเสริมการสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้โดยใช้เครื่องมือดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศมากขึ้นในอนาคต

3) การจัดสถานการณ์การเรียนรู้ที่ทำให้นักเรียนได้รู้จักรากเหง้าความเป็นมาของชาติ และเอกลักษณ์ของชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนความเป็นตัวตนของคนไทย โดยครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องออกแบบจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้นักเรียนเกิดความรัก ความภาคภูมิใจ หวงแหนแผ่นดินเกิด และเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ ไม่เอาเปรียบผู้อื่น รวมทั้งไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน สิ่งสำคัญคือต้องไม่ลืมรากเหง้าของตัวเอง ปลูกฝังความเป็นไทย ความรักและภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ชาติประวัติศาสตร์ชุมชน ปลูกฝังจิตสำนึกตอบแทนคุณแผ่นดินและพัฒนาบ้านเกิดในอนาคต และต้องอยู่บนหลักการที่ทำให้นักเรียนสามารถสร้างความรู้ขึ้นเองด้วยหลักของเหตุและผล

4) การยกระดับคุณภาพการศึกษาทั้งระบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลมีความปรารถนาและมุ่งมั่นมากที่สุด โดยทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาจะต้องพุ่งเป้าให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงในระดับห้องเรียน และต้องใช้ปัญหาการเรียนรู้ของนักเรียนเป็นตัวตั้ง จากนั้นครู ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ และผู้บริหารการศึกษาจะต้องนำปัญหาการเรียนรู้ของนักเรียนมาเป็น “ประเด็นท้าทาย” แล้วลงมือทำงานร่วมกันในลักษณะของชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพภายใต้กระบวนการแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพนักเรียน นำไปสู่การเรียนรู้ร่วมกันของครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งการนำความสำเร็จในการแก้ปัญหามาเป็นตัวชี้วัดผลปฏิบัติงานและความเจริญก้าวหน้าในเส้นทางวิชาชีพของครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top