Friday, 20 June 2025
THE STATES TIMES TEAM

รวบหนุ่มจีน หลอกชาวสวนไทย ความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักในประเทศไทยกระทำความผิดกฎหมายและก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศหรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวกับคนไทยหรือต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สมพงษ์  ชิงดวง ผบช.สตม., ,พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน  ไกรทอง รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.อภิมุข  กานตยากร รอง ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม. ได้สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.ต.สิทธิมณ สร้อยภู่ระย้า เจ้าหน้าที่ ศปชก.สตม., ร.ต.อ.อดิศร บุญชุ่ม รอง สว.กก.ปอพ.บก.สส.สตม., ส.ต.ต.รดิศ สิทธิประศาสน์ ผบ.หมู่ กก.4.บก.สส.สตม.,ส.ต.ต.สืบสกุล สุขเสนีย์ ผบ.หมู่ กก.4.บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปชก.สตม. ร่วมทำการสืบสวนกรณีที่มีประชาชนที่ทำอาชีพเกษตรกรในภาคใต้ ได้ร้องเรียนมาที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

ว่าได้มีชายชาวจีน ไม่ทราบชื่อนามสกุลที่แท้จริง ทราบเพียงแค่ชื่อ อาหม่า ได้เข้ามาทำการติดต่อชาวสวนในเขคพื้นที่ภาคใต้ โดยทำการติดต่อขอซื้อผลไม้และวัสดุที่ใช้ห่อหุ้มผลไม้สำหรับส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยอ้างว่าตนเป็นพ่อค้าจะนำผลไม้ส่งออกไปยังต่างประเทศต้องการจำนวนมาก ต่อมาได้มีชาวสวนได้หลงเชื่อและตกลงที่จะขายผลไม้และวัสดุในการห่อหุ้มผลไม้ ให้แก่คนร้ายที่ทราบชื่อเพียงว่าอาหม่า แต่ต่อมาปรากฏว่าเมื่อคนร้ายได้รับสินค้าแล้วกลับหายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้อีก จนทำให้มีชาวสวนหลายรายเดือนร้อน ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า อาหม่า คือ MR.MA (ปกปิดชื่อนามสกุลจริง) และได้ทำการสืบสวนจนสามารถออกหมายจับคนร้ายได้ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบว่าคนร้ายได้ทำการหลบหนีจากพื้นที่ภาคใต้มาพักอยู่ในคอนโดแห่งหนึ่งย่านปทุมวัน กรุงเทพมหานคร จึงได้เข้าทำการตรวจสอบและทำการจับกุม

MR.MA (ปกปิดชื่อนามสกุลจริง) อายุ 56 ปี สัญชาติจีน  ตามหมายจับศาลแขวงนครศรีธรรมราชที่ จ. 46/2564 ลงวันที่ 12 มีนาคม 2564 ข้อหา ฉ้อโกง

โดยจากการสืบสวนขยายผลทราบว่าผู้ต้องหารายนี้จะเข้าไปติดต่อทำการขอซื้อผลไม้จากชาวสวน โดยอ้างว่าจะนำส่งออกไปยังปะเทศจีน ซึ่งเมื่อได้รับสินค้าที่เป็นผลไม้และวัสดุที่นำมาใช้ในการห่อหุ้มผลไม้แล้ว ก็จะหลบหนีไป ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายหลายรายและความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท

สตม. จึงขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่าง ๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

เชียงใหม่ - สวพส. เผยแนวทางที่เหมาะสม ในการปลูกพืชผักคุณภาพบนพื้นที่สูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง เปิดเผยว่า นางสาวเพชรดา อยู่สุข รองผู้อำนวยการสถาบัน ด้านการพัฒนา และ นายอิทธิพล โพธิ์ศรี นักวิชาการ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกพืชของเกษตรกรบนพื้นที่สูง พบว่าพื้นที่สูงของประเทศไทยซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตภาคเหนือนั้นมีสภาพพื้นที่และภูมิอากาศต่างจากพื้นที่ราบเป็นอย่างมาก โดยเป็นเทือกเขาที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล ตั้งแต่ 500 ถึงมากกว่า 1,000 เมตร ทำให้มีสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็นและมีฝนตกชุก นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลและอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ประชาชนที่อยู่อาศัยบนพื้นที่สูงส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าต่าง ๆ จึงมีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก โดยในอดีตดำรงชีวิตอยู่ด้วยการทำไร่เลื่อนลอย และปลูกพืชเพียงไม่กี่ชนิด คือ ข้าว ข้าวโพด และพืชผักท้องถิ่น เพื่อเป็นพืชอาหารเป็นหลัก ส่วนพืชรายได้มีน้อยมาก จึงเกิดปัญหาการปลูกฝิ่น ซึ่งเป็นพืชเสพติดที่สร้างปัญหาให้กับคนทั้งโลก

ในการนี้พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงทรงก่อตั้ง“โครงการหลวง” เพื่อส่งเสริมให้คนบนพื้นที่สูงปลูกพืชทดแทนฝิ่น โดยพืชส่วนใหญ่ที่ปลูกทดแทนฝิ่นเป็นพืชเมืองหนาว หากปลูกพืชผักเขตร้อนจะไม่สามารถแข่งขันทางการตลาดกับพื้นที่ราบได้ แต่ในอดีตพืชผักเขตหนาวเป็นของใหม่สำหรับประเทศไทย เราขาดองค์ความรู้ว่าจะปลูกพืชผักอะไร วิธีการเพาะปลูกอย่างไร และยังไม่มีตลาด โครงการหลวงเป็นหน่วยงานหลักที่ได้วิจัย ส่งเสริม และสร้างตลาด จนทุกวันนี้เป็นที่รู้จัก มีการปลูกและบริโภคกันอย่างแพร่หลาย ต่อมารัฐบาลได้ตั้ง สวพส. ขึ้นเพื่อสนับสนุนงานโครงการหลวง และขยายผลสำเร็จไปพัฒนาพื้นที่สูงต่าง ๆ ปัจจุบันพืชพันธุ์ใหม่ ๆ และวิธีการเพาะปลูกที่ประณีตและปลอดภัย ได้รับการวิจัยและพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมแก่เกษตรกรอย่างกว้างขวาง 

พืชผักกับการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมบนพื้นที่สูง

พื้นที่สูงเป็นป่าต้นน้ำลำธารที่สำคัญของประเทศ แม้ว่ามีความจำเป็นต้องส่งเสริมอาชีพ เพื่อพัฒนาชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งอาศัยอยู่มากกว่า 4,000 ชุมชน มีประชากรประมาณ 1 ล้านคน ยังต้องคำนึงถึงการไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้น้อยและคุ้มค่าที่สุด และได้ผลตอบแทนเพียงพอต่อการดำรงชีวิต แต่ที่ผ่านมาพืชเศรษฐกิจส่วนใหญ่เป็นพืชไร่ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ใช้พื้นที่และแรงงานจำนวนมาก ถึงจะมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต จึงเป็นสาเหตุของการบุกรุกป่า เกิดการเผาและปัญหาหมอกควัน พืชผักจึงสามารถตอบโจทย์ได้ดี เพราะมีความต้องการของตลาดสูง จึงสามารถสร้างอาชีพให้กับประชาชนได้กว้างขวาง การเพาะปลูกไม่มีปัญหาการเผา สามารถให้ผลตอบแทนสูงในพื้นที่จำกัดและได้ตลอดปี โดยเฉพาะเมื่อปลูกในระบบที่ประณีต จะยิ่งใช้พื้นที่และน้ำน้อยมาก ดังจะเห็นได้ชัดเจนในพื้นที่ดำเนินงานของ สวพส. หลายแห่ง เช่น น่าน เชียงใหม่ ตาก และแม่ฮ่องสอน ที่ปรับระบบเกษตรเป็นพืชผักและพืชอื่น ๆ ที่เหมาะสมแล้ว สามารถลดการบุกรุกป่า และการเผาได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งทำให้เกษตรกรมีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

การผลิตพืชผักคุณภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ความยั่งยืนของการประกอบอาชีพปลูกพืชผักนั้น คุณภาพของผลผลิต และวิธีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งจากการที่โครงการหลวงและสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูงได้ส่งเสริมให้เกษตรกรบนพื้นที่สูงจำนวนมาก ปลูกพืชผักเป็นอาชีพมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยในปีหนึ่ง ๆ มีผลิตผลที่ผ่านระบบบริหารจัดการด้านการตลาดรวมมากกว่า 25,552 ตัน มูลค่า ประมาณ  646 ล้านบาท โดยมีหลักการและแนวทางที่เหมาะสมในการปลูกพืชผักบนพื้นที่สูง ดังนี้ 

1. การวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดิน และแปลงของเกษตรกร บนพื้นที่สูงพื้นที่ของเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลาดชัน ไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำ จึงต้องวางแผนการใช้พื้นที่ให้มีการทำการเกษตรที่หลากหลาย ตามความเหมาะสมและศักยภาพของพื้นที่ ควบคู่ไปกับการทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ

2. การวางแผนการผลิตและตลาด ความสำเร็จของการทำการเกษตรคือเกษตรกรจะต้องสามารถขายผลผลิตได้และราคาเป็นธรรม การส่งเสริมอาชีพแก่เกษตรกรในพื้นที่ดำเนินงานของสวพส. จะยึดหลักตลาดนำการผลิต หรือเป็นพืชหรือพันธุ์ใหม่ จะเริ่มส่งเสริมจากจำนวนที่ไม่มาก ควบคู่กับการสร้างตลาด สำหรับพืชผักเป็นพืชที่มีช่วงเวลาปลูกสั้น และต้องมีการวางแผนการผลิตและการตลาดให้สัมพันธ์กัน 

3. การเพาะปลูกภายใต้ระบบมาตรฐานอาหารปลอดภัย หรือ พืชผักที่ปลูกภายใต้ระบบการเพาะปลูกที่ดี (GAP) หรือเกษตรอินทรีย์ ซึ่งจะเป็นจุดแข็งและเพิ่มโอกาสทางการตลาด โดยเฉพาะความตระหนักเรื่องสุขภาพ และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในปัจจุบัน

4. การเลือกพันธุ์และผลิตต้นกล้าแบบประณีต ความแม่นยำของปริมาณผลิตผลและช่วงเวลาที่ตลาดต้องการ มาจากพื้นฐานสำคัญ คือ การผลิตต้นกล้าให้ได้ตรงตามพันธุ์ ปริมาณ และช่วงเวลา ซึ่งการผลิตต้นกล้าแบบประณีตในโรงเรือนเพาะกล้าโดยใช้วัสดุปลูกที่ดี ช่วยให้ได้ต้นกล้าที่มีคุณภาพ มีจำนวน และระยะเวลาที่แน่นอน รวมทั้งยังช่วยให้ใช้เมล็ดพืชผักพันธุ์ดีซึ่งมีราคาสูงได้อย่างคุ้มค่า 

5. โรงเรือน คือ หัวใจของคุณภาพและความปลอดภัย การปลูกผักในโรงเรือนช่วยลดผลกระทบจากสภาพอากาศที่มีความแปรปรวนโดยเฉพาะบนพื้นที่สูง และยังใช้พื้นที่น้อยแต่ให้ผลตอบแทนที่สูงมากกว่าการปลูกนอกโรงเรือนประมาณ 2-5 เท่า สามารถควบคุมการผลิตได้ค่อนข้างแม่นยำและผลผลิตมีคุณภาพดี ช่วยลดการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิตมากถึง 30-50 % ลดการใช้สารป้องกันและกำจัดวัชพืชได้ร้อยละ 100 ควบคุมการใช้น้ำและปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพ และแก้ปัญหาเรื่องของสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมได้

6. การปลูกและดูแลรักษาอย่างประณีต โดยเริ่มจากการปลูกในโรงเรือน ใช้ต้นกล้าที่คุณภาพดีสม่ำเสมอ ปลูกอย่างเป็นระบบระเบียบ เพื่อให้ทุกต้นมีพื้นที่และได้รับสภาพแวดล้อมที่เหมือนกัน ให้น้ำและปุ๋ยอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอด้วยการให้ปุ๋ยทางระบบการน้ำ และการดูแลและป้องกันกำจัดศัตรูพืชอย่างใกล้ชิด สำหรับพืชผักใบส่วนใหญ่จะปลูกลงแปลง (ดิน) โดยตรง สำหรับผักผลบางชนิด เช่น พริกหวาน และมะเขือเทศ นิยมที่จะปลูกในวัสดุปลูก (Substrate culture)

7. การจัดการหลังเก็บเกี่ยวและการตลาดที่ดี นอกจากการผลิตในแปลงปลูกอย่างประณีตและปลอดภัยแล้ว ต้องมีการเก็บเกี่ยวและการจัดการหลังเก็บเกี่ยวที่ดี ทั้งการรวบรวมและการคัดคุณภาพของผลิตผลให้เป็นไปตามที่กำหนด การบรรจุหีบห่อ และการขนส่งไปสู่ตลาด ซึ่งกระบวนการทั้งหมดต้องทำอย่างประณีตและรวดเร็ว เพื่อให้ผลิตผลถึงตลาดและผู้บริโภคด้วยคุณภาพดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัยของผลผลิต โดยตรวจสารเคมีตกค้างทั้งก่อนและหลังเก็บเกี่ยว การจัดการหลังการเก็บเกี่ยวที่เป็นระบบแบบนี้จำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับ เช่น โรงคัดบรรจุ ห้องเย็น ห้องวิเคราะห์สารเคมี หรือรถขนส่งผลผลิต ซึ่งเกษตรกรควรรวมกันเป็นวิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์ เพื่อให้รัฐสามารถให้สนับสนุนได้ง่าย รวมถึงการขอรับรองมาตรฐาน

“การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ความใส่ใจและห่วงใยสุขภาพของผู้บริโภคในปัจุบันนี้  พืชผักจะเป็นอาหารอันดับแรก ๆ ที่มีความสำคัญ แต่เกษตรกรจะสามารถปลูกพืชผักเป็นอาชีพอย่างมั่นคงได้ ความปลอดภัยของผลิตผล และการเพาะปลูกแบบประณีต เป็นสิ่งที่จะต้องคำนึงถึงอยู่เสมอ เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันทางการตลาด และความพร้อมสำหรับรองรับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เช่น สภาพภูมิอากาศ การเสื่อมโทรมและจำกัดของทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของกฏและกติกาการค้าต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต” นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ กล่าวส่งท้าย


ภาพ/ข่าว  นภาพร / เชียงใหม่

กรุงเทพฯ - ด้วยความห่วงใย ศาลเยาวชนฯ มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและอุปกรณ์ป้องกันโรค ให้แก่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 นางอโนชา ชีวิตโสภณ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชน และครอบครัวกลาง นางอุไรรัตน์ น้อยสุวรรณ นางวิรา ยากะจิ ณ พิกุล รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชน และครอบครัวกลาง และคณะผู้พิพากษาสมทบ (โครงการติดตามด้วยความห่วงใย โดย ดร.นิลุบล ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานโครงการฯ และโครงการติดตามด้วยใจ

โดยนางณัฐา อินทวงศ์ คณะทำงานและผู้ประสานงาน) เป็นตัวแทนมอบเครื่องอุปโภคบริโภคและอุปกรณ์ป้องกันโรค ให้แก่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยมี พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เป็นผู้รับมอบ เพื่อส่งต่อให้สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนราธิวาส บ้านกรุณา บ้านมุทิตา บ้านอุเบกขา บ้านปรานี บ้านสิรินธร และบ้านกาญจนา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด19 ณ โถงกลาง ชั้น 2 ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จตุจักร กรุงเทพฯ

ชลบุรี – สัตหีบพายุฝนพัดถล่ม หลังคาตลาดปลิว เสาไฟพังเสียหาย แม่ค้าลูกค้าวิ่งหนีตาย

จากกรณีช่วงเช้าของวันที่ 28 พ.ค. 64 ที่ผ่านมาได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และคลื่นลมแรงครอบคลุมทุกพื้นที่ใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ส่งผลให้หลังคาร้านค้าขายของสด ในตลาดเช้า อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ถูกแรงลมพัดจนหลังคาปลิวได้รับความเสียหาย และยังพบมีเสาไฟฟ้าหักโค่น 1 ต้น 

โดยล่าสุดนายสิทธิชัย เกียรติมนตรี สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสัตหีบ ได้เข้ามาตรวจสอบและประสานให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมกับแจ้งไปยังเจ้าของพื้นที่ ฐานทัพเรือสัตหีบ กองทัพเรือ เข้ามาดูแลและซ่อมแซมเสาไฟฟ้าที่หักโค่น เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนที่จับจ่ายซื้อสินค้าภายในตลาดต่อไป ซึ่งชาวบ้านได้เล่าเหตุการณ์ว่า ขณะกำลังยืนขายของได้มีลมพายุมาจากทางทะเล ก่อนจะพัดหลังคาร้านค้าในตลาด หลายร้านปลิวไปทั่ว ก่อนที่จะไปเกี่ยวสายทำให้เสาไฟในตลาดหักโค่นอีก ซึ่งตอนนั้นแม่ค้าต่างพากันวิ่งหนีตาย

ซึ่งหลังจากกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่เกิดขึ้นในระยะนี้  สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรงดการเดินเรือ ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง อนึ่ง พายุไซโคลน “ยาอาส” (YAAS) บริเวณรัฐกัลกัตตา ประเทศอินเดีย ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในระยะต่อไป


ภาพ/ข่าว  นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล  ทิพย์ศรี  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

สุโขทัย - ส.อบต หญิงน้ำใจงามควักงบส่วนตัวซื้อหน้ากากอนามัยแจกชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าที่ตำบลบ้านแก่งมีสมาชิก อบต ใจดีใช้งบประมาณส่วนตัวซื้อหน้ากากอนามัยมาแจกให้กับชาวบ้านถึงสองหมู่บ้านในตำบลบ้านแก่ง อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย จึงเดินทางไปยังสองหมู่บ้านดังกล่าว พบนางปัทมา สอนโต อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นสมาชิก อบต. มา 8 ปีถึง 2 สมัย กำลังแจกหน้ากากอนามัยให้กับชาวบ้าน จากการสอบถามนางปัทมา สอนโต ทราบว่าตนเองเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแก่ง มาหลายสมัย จนเป็นที่รู้จักมักคุ้นและเป็นที่รักของพี่น้องในตำบลบ้านแก่ง

เนื่องจากตนเป็นคนที่ใส่ใจในการพัฒนาชุมชนและชอบช่วยเหลือชาวบ้าน สำหรับเรื่องการแจกหน้ากากอนามัยตนเองมองเห็นว่าขณะนี้จังหวัดสุโขทัยมีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า2019(โควิด19)เพิ่มขึ้น ตนจึงมีความคิดว่าอยากมีส่วนร่วมในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคดังกล่าวตนจึงใช้งบประมาณส่วนตัวซื้อหน้ากากอนามัยมาแจกให้ชาวบ้านสองหมู่บ้านคือหมู่บ้านป่าคาและหมู่บ้านห้วยหยวก ที่ตนเองเลือก 2 หมู่บ้านเนื่องจากอยู่ห่างไกลตัวเมืองประกอบกับชาวบ้านประกอบอาชีพทำไร่ทำสวนไม่ค่อยได้มีเวลาเดินทางไปตัวเมืองบ่อยนักที่สำคัญไม่อยากให้ชาวบ้านออกเดินทางไปต่างพื้นที่เพื่อป้องกันตัวเองในเรื่องโรคโควิด-19 ด้วย โดยมีหน้ากากอนามัยที่ตนนำมาแจกมีจำนวน 350 กล่อง หรือจำนวน 17,500 ชิ้น ซึ่งเพียงพอต่อพี่น้องประชาชนแน่นอน


ภาพ/ข่าว  พงศ์เทพ สาคร สุโขทัย

ขอนแก่น - กกต.รับรอง “ธีระศักดิ์-พงศ์ธร-โกเมศ” นั่งนายกเล็กขอนแก่นแล้ว หลังมติรับรองเพิ่มเติมภายในระยะเวลา 60 วัน ตามกฎหมาย คาดสัปดาห์หน้าแถลงนโยบายต่อสภาพ และเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชนทันที

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่  28 พ.ค.2564ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. มีหนังสือด่วนที่สุดแจ้งถึง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดขอนแก่น เรื่องการประกาศผลการเลือกตั้งเพิ่มเติมตามกรอบระยะเวลาการพิจาณาภายใน 60 วัน หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง เพื่อให้ กกต.ขอนแก่น ดำเนินการแจ้งทางจังหวัดและเทศบาลต่าง ๆ ได้รับทราบและดำเนินการตามระเบียบและข้อบังคับในด่านต่าง ๆ ต่อไปท่ามกลางความสนใจจากนักการเมือง ทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่นอย่างมาก เนื่องจากการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งเพิ่มเติมในรอบที่ 2 เป็นที่น่าจะตามองอย่างมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ที่ต่างติดตามความคืบหน้าในการประกาศรับรองจาก กกต.มาอย่างต่อเนื่อง

โดยประกาศรับรองครั้งนี้มีการประกาศรับรอง นายกและสมาชิกสภาเทศบาลฯ ในส่วนที่เหลือ อาทิ นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ เป็นนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น,นายพงศ์ธร  พิศาพิทักษ์กุล เป็นนายกเทศมนตรีตำบลพระลับ,นายโกเมศ  ฑีฆธนานนท์ เป็นนายกเทศมนตรีตำบลเมืองเก่า,นายชัชวาล ธีรภานุ เป็นนายกเทศมนตรีตำบลบ้านเป็ด,นายบุญแสง พรนิคม เป็นนายกเทศมนตรีตำบลโนนสะอาด,นายพนม เย็นสบาย เป็นนายกเทศมนตรีตำบลม่วงหวาน,นายชัยดี  รัตนปรีดา เป็นนายกเทศมนตรีตำบลบ้านฝาง,นายฉิน วรปัญญาสถิต เป็นนายกเทศมนตรีตำบลภูเวียง และ นายเสาวฤทธิ์ คามกะสก เป็นนายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์ไชย

นายอภินันท์  จันทร์อุปละ ผอ.กกต.ขอนแก่น กล่าวว่า กกต.จะทำหนังสือแจ้งถึงจังหวัดและเทศบาลฯ ที่เกี่ยวข้องในการประกาศรับทราบถึงมติจาก กกต.กลาง ในการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามกรอบระยะเลา 60 วัน หลังเสร็จสิ้นวันเลือกตั้ง โดยที่เทศบาลฯแต่ละแห่งจะทำหนังสือถึงจังหวัดเพื่อจัดประชุมสภาครั้งแรกภายใน 15 วัน เพื่อเลือกประธานสภาเทศบาลและตำแหน่งอื่น ๆ สำหรับเทศบาลฯที่มีการรับรองครั้งแรกและไม่สามารถเปิดประชุมสภาได้ ส่วนเทศบาลฯที่มีการรับรองเพิ่มเติม โดยเฉพาะเทศบาลฯที่มีการรับรองนายกเทศมนตรีฯ สภาเทศบาลฯจะจัดกาประชุมเพื่อให้นายกเทศมนตรีได้แถลงนโยบายเพื่อรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ตามระเบียบที่กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดไว้ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน

สมุทรสงคราม - ศรชล.รับเรื่องร้องเรียนแจกจ่ายวัคซีนไม่เป็นธรรม จากชาวประมง

วันที่ 27 พ.ค.64 ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสมุทรสงคราม (ศรชล.จว.สส.) โดย นายชรัส บุญณสะ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสมุทรสงคราม/ผวจ.สมุทรสงคราม

(ผอ.ศรชล.จว.สส./ผวจ.สส.) พร้อมด้วย น.อ.นิคม  แจ่มยิ่ง รอง ผอ.ศรชล.จว.สส. และคณกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสงคราม ได้รับเรื่องร้องเรียน จากสมาคมประสมุทรสงคราม, สมาคมประมงเรือลากคู่สมุทรสงคราม และสหกรณ์ประมงแม่กลอง จำกัด กรณีไม่พอใจการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากกรมควบคุมโรคติดต่อ เพื่อจ่ายให้กับ จว.สส. ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงมาก เพราะอยู่ท่ามกลางระหว่างจังหวัดพื้นที่สีแดงและพื้นที่สีแดงเข้ม ทำให้โอกาสแพร่ระบาดโรคโควิด-19 มีโอกาสสูงมาก โดยตลาดปลาสหกรณ์แม่กลองเป็นตลาดกลางซื้อสัตว์น้ำที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ เปิดทำการซื้อขายสัตว์น้ำทุกวันจากชาวประมงทั้ง 22 จังหวัด ซึ่ง จว.สส. ตามแผนที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จะได้รับวัคซีนมากสุดช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.64 โดยเกรงว่าจะไม่ทันกับการระบาดของโรคโควิด-19      

ผอ.ศรชล.จว.สส./ผวจ.สส. ได้ชี้แจง พร้อมนำหนังสือที่ได้ทำเรื่องเสนอกรมควบคุมโรคติดต่อ ด่วนที่สุด ที่ สส.0017.1/7098 ลง 26 พ.ค.64 เรื่องขอรับการสนับสนุนการปรับแผนการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับจังหวัดสมุทรสงคราม ให้ผู้ที่มาร้องเรียนได้ดูและรับทราบ ทำให้ผู้ที่มาร้องเรียนเข้าใจและพึงพอใจ จึงได้สลายการรวมตัวในครั้งนี้

 


ภาพ/ข่าว ปชส.ศรชล.ภาค 1 / นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

ประจวบคีรีขันธ์ - ศนชล.บูรณาการหน่วยงาน ตรวจแรงงานต่างด้าว สถานประกอบการ โรงงาน ที่พัก แคมป์คนงาน คัดกรองโควิด-19

วันที่ 27 พ.ค.64 ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) โดย น.อ.ไกรพิชญ์ กรวีร์ปภาวิทย์ หน.ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ศคท.จว.ปข.)

ร่วมบูรณาการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ ประกอบด้วย กอ.รมน. ฉก.จงอางศึก ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แรงงานจังหวัด จัดหางานจังหวัด สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด จนท.ฝ่ายปกครอง ลงตรวจสถานประกอบการ โรงงาน หอพัก บ้านพัก ที่มีแรงงานต่างด้าว

เพื่อตอบสนองมาตรการของจังหวัดในการตรวจค้นหาแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย ให้เข้ากระบวนการตรวจคัดกรองโรค เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่อำเภอปราณบุรี โดยเข้าทำการตรวจโรงงาน จำนวน 2 แห่ง ท่าเรือแพปลา 1 แห่ง และเรือประมง 1 ลำโดย มีรายละเอียดดังนี้

   1.โรงงานแปรรูปสัปรด บจก.เนเชอรัล ฟรุต ตรวจแรงงานเมียนมาร์ จำนวน 300 คน

   2.โรงงานแปรรูปสัปรด บจก.(มหาชน)สยามอุตสาหกรรม เกษตรอาหาร ตรวจแรงงานเมียนมาร์ จำนวน 303 คน

   3.แพปลาสมนึก ตรวจแรงงานเมียนมาร์ 3 คน

   4.เรือ ส.เลิศสมุทร 111 ตรวจแรงงานเมียนมาร์ 3 คน กัมพูชา 21 คน

ผลการตรวจไม่พบการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่อย่างใด


ภาพ/ข่าว ปชส.ศรชล.ภาค 1 / นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

กองปราบ ตามรวบขบวนการค้าสัตว์ข้ามชาติ พบสัตว์บางส่วนเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากถูกจับใส่กล่องมาเบียดกัน

กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก., (หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 2 ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตร. ) และ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม, พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย, พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ รอง ผกก.3 บก.ป., นำทีมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 2 ศปจร.ตร.

โดย พ.ต.ต.หญิง กัญจิรา นรสาร สว.ฝอ.บก.ปปป. ปฏิบัติราชการ ศปจร.ตร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ไล่ล่าพ่อค้าสัตว์ป่าสงวนข้ามชาติได้ผู้ต้องหา 1 ราย บนถนนสาย 359 ทราบชื่อนายภานุพงศ์ จูสิงห์ ขับรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ทะเบียนปลอม 1ฒฉ 4894กทม.นายภาณุพงศ์ยอมรับสารภาพว่ารับจ้างขนสัตว์ป่าคุ้มครอง (ลิง) 218 ตัวในราคาครั้งละ 3,000 บาททำมาแล้ว 3 ครั้ง โดยนักบินมาจากจังหวัดพิจิตรเพื่อที่จะนำไปส่งที่จังหวัดสระแก้วซึ่งจะมีคนมารับช่วงต่ออีกทีหนึ่งแต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับได้ที่บริเวณถนนสาย 359 ดังกล่าว และยังพบว่ามีลิงเสียชีวิตแล้วก็มีเป็นบางส่วนเนื่องจากถูกจับใส่กล่องมาเบียดเสียดกัน ทั้งนี้จะได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบข้อหาครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง


ภาพ/ข่าว  ทองสุข สิงห์พิมพ์

เพชรบุรี - “วราวุธ” มอบ “ยุทธพล” ปลูกต้นไม้ที่เพชรบุรี ย้ำความสำคัญป่าชายเลน

วันที่ 27 พ.ค. นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)  เป็นประธานกิจกรรมปลูกต้นไม้เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 มีนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี นายไพโรจน์ นาครักษา ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ นายจำลอง จงศรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร ผู้บริหารในสังกัด ทส.ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้นำชุมชน เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมบริเวณชายหาดพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน อ.ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งต้นไม้ที่ปลูกในวันนี้ ประกอบด้วย ต้นจิกทะเลจำนวน 20 ต้น ต้นข่อย ต้นมะนาวผี ต้นแจง ต้นกุ่มบก ต้นเกด อีก 30 ต้น พร้อมเตรียมวางแผนจัดการป่าชายเลนอย่างเป็นระบบทั่วประเทศ

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวว่าตนได้เปิดเผยบ่อยครั้งถึงความสำเร็จและความร่วมมือของพี่น้องประชาชนที่ได้มีส่วนร่วมในการเพิ่มพื้นที่และอนุรักษ์ป่าชายเลนให้ดีขึ้นในหลายพื้นที่ แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่อาจส่งผลให้การรวมกลุ่มกันของพี่น้องประชาชนในการแสดงพลังเพื่อปลูกและบำรุงป่าอาจจะเห็นได้ไม่บ่อยครั้งนัก สำหรับวันนี้ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา และเป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2532 หลายหน่วยงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็ได้จัดเตรียมกิจกรรมปลูกป่าบกและป่าชายเลนร่วมกับจิตอาสาและพี่น้องประชาชนในพื้นที่เพื่อเป็นเครื่องหมายที่สะท้อนให้เห็นว่า พวกเรายังให้ความสำคัญกับทรัพยากรป่าไม้และพร้อมที่จะดูแลและฟื้นฟูผืนป่าให้คงอยู่และเพิ่มขึ้นเช่นนี้ต่อไป อย่างไรก็ตามวันนี้ผมได้มอบหมายให้ นายยุทธพล อังกินันนทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่และเป็นประธานในกิจกรรมปลูกไม้ป่าชายเลนในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ร่วมกับพี่น้องประชาชนและจิตอาสา นอกจากนี้ตนได้กำหนดแนวนโยบายในการขยายความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มประเทศอาเซียน ภายใต้โครงการ Thailand Plus One โดยมุ่งเน้นการรักษาผืนป่าและการลดการเผาที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างแถบภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ ตนจะได้หารือกับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการหาเทคโนโลยีที่ทันสมัยหรือนวัตกรรมใหม่ๆ มาช่วยในการสำรวจ ลาดตระเวน และติดตามการดำเนินงานและสถานการณ์ต่าง ๆ ให้ได้แบบ Real time ขอฝากให้ทุกคนช่วยกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้สมบูรณ์และคงความสมดุลอย่างยั่งยืนเช่นนี้ต่อไป เพื่อพวกเราเองและเพื่อลูกหลานของเราทุกคน

นายยุทธพล กล่าวว่า วันนี้ตนได้ร่วมกับพี่น้องประชาชนและจิตอาสาในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ร่วมปลูกป่าชายเลนเนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ บริเวณพื้นที่ชายหาด ณ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ซึ่งครั้งนี้เป็นการจัดกิจกรรมเพื่อแสดงพลังและความร่วมมือของพี่น้องชาวจังหวัดเพชรบุรี ในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนในจังหวัด ซึ่งตนได้หารือกับหน่วยงานในพื้นที่ถึงแนวทางการเพิ่มพื้นที่ป่าบกและป่าชายเลนในจังหวัดโดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมถึงการแก้ไขปัญหาการบุกรุกและการจัดหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยให้กับผู้ที่ประสบปัญหาในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ตนได้มอบให้อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำรวจพื้นที่ป่าชายเลนในจังหวัดเพชรบุรี รวมถึง 24 จังหวัดชายฝั่งทะเลเพื่อวางแผนการบริหารจัดการ รวมถึงการกำหนดมาตรการและแนวทางการตรวจลาดตระเวนร่วมกับภาคประชาชนและอาสาสมัครในพื้นที่อย่างเป็นระบบและเกิดความยั่งยืนในการดำเนินงานต่อไป

ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ทช. กำลังเร่งรัดประชาสัมพันธ์เชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนโดยทั่วไปเข้ามาร่วมปลูกฟื้นฟูป่าชายเลนให้คืนสู่ความสมบูรณ์ในการปลูกป่าชายเลน เพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต ซึ่งขณะนี้ กรม ทช.ได้เตรียมพื้นที่พร้อมดำเนินการไว้แล้วประมาณ 1 หมื่นไร่ เพื่อรองรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมอีกทั้งหน่วยงานในสังกัดกรม ทช. ได้จัดเตรียมกล้าไม้ป่าชายเลนไว้บริการแจกฟรีสำหรับหน่วยงานและประชาชนที่มีความประสงค์จะขอรับกล้าไม้ไปปลูกในพื้นที่เอกสารสิทธิ์หรือพื้นที่สาธารณะเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวตามเหมาะสมโดยติดต่อขอรับกล้าไม้ได้ที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1-10 และศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนทุกแห่งในพื้นที่


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top