Saturday, 28 June 2025
THE STATES TIMES TEAM

เมื่อ ‘เวทมนตร์คาถา’ เป็นพิธีกรรมสำคัญในราชสำนักสมัยอยุธยา!! | MEET THE STATES TIMES EP.36

 ???? เมื่อ ‘เวทมนตร์คาถา’ เสริมบุญญาภินิหาร เป็นพิธีกรรมสำคัญในราชสำนักสมัยอยุธยา!!
???? ศาสตร์ลับ!! แห่งความเชื่อในสมัยอยุธยา ที่นิยมทั้งราษฎร ไปจนถึงราชสำนัก

???? ในรายการ MEET THE STATES TIMES ข่าวคุยเพลิน

???? ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

Metaverse โลกเสมือนจริง! ที่พร้อมกลืนกินชีวิตมนุษย์! | Knowledge Times EP.34

????Knowledge Times BizView
????Metaverse โลกเสมือนจริง! ที่พร้อมกลืนกินชีวิตมนุษย์!

เมื่อไม่นานมานี้ Facebook ได้ออกมาประกาศรีแบรนด์ บริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ ‘Meta’ ชื่อใหม่ที่แฝงความหมายสุดลึกล้ำ ที่มีความหมายว่า ‘เหนือไปกว่า, ไกลไปกว่า’ แต่นอกจากการเปลี่ยนชื่อที่บอกถึงการก้าวไปอีกขั้นแล้ว นี่ยังสะท้อนให้เห็นถึงก้าวสำคัญของ ‘Facebook’ ด้วยการก้าวเข้าสู่แนวทางใหม่อย่าง ‘Metaverse’ 

ซึ่งการเข้ามาเขย่าโลกของ Metaverse จะทำให้โลกที่เป็นอยู่เหนือขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการทำให้โลกในอนาคตไปได้ไกลกว่าหน้าจอ ทลายข้อจำกัดของระยะทาง และทำให้ผู้ใช้บริการเชื่อมต่อถึงกันได้ง่ายยิ่งขึ้น

ฟังดูแล้ว Metaverse เป็นเหมือนโลกใหม่ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าและยังสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เรียกได้ว่านี่อาจกลายเป็นอีกหนึ่ง ‘จุดเปลี่ยน อารยธรรมมนุษย์’ ก็ว่าได้

หากทวนเข็มนาฬิกาย้อนกลับไป จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนผ่านทางด้านนวัตกรรมของโลกแต่ละครั้ง ในแต่ละรอบใช้ระยะเวลาราว ๆ 30-60 ปี ยกตัวอย่าง การที่มนุษย์รู้จักการใช้ประโยชน์จากไฟฟ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในผลผลิตจากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ตั้งแต่สมัยเทสลา และเอดิสัน เมื่อยุคปี 1900 หรือเมื่อ 120 ปีที่แล้ว ก็นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนและจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญครั้งหนึ่ง

เมื่อเวลาผ่านไปการเปลี่ยนผ่านของนวัตกรรมก็ได้กลับมาอีกครั้ง โดยในรอบนี้คือการเริ่มเข้าสู่ยุคเซมิคอนดักเตอร์ ในสมัย Fairchild Semiconductor ช่วงปี 1960 ซึ่งบริษัทนี้เอง ที่ได้ต่อยอดให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น บริษัท Intel, HP, Apple, Microsoft ในเวลาต่อมา

และการเปลี่ยนผ่านครั้งล่าสุดนั่นก็คือ การเข้ามาของอินเทอร์เน็ต ในช่วงปี 1990 และนี่ก็กลายเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นที่ทำให้มีนวัตกรรมมากมาย เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตผู้คน ทั้งโซเชียลมีเดีย อีคอมเมิร์ซ หรือแม้แต่ระบบบล็อกเชนที่เป็นพื้นฐานของคริปโทเคอร์เรนซีในปัจจุบัน และทำให้มีบริษัทที่เกิดขึ้นมาในยุคนี้ก็คือ Amazon, Tesla และ Facebook

และเมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 17 ปีก่อน Facebook ในวันนั้นได้เติบโตขึ้นและได้กวาดคนกว่าครึ่งโลกเข้าไปใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตัวเองได้สำเร็จ 

จนกระทั่งวันนี้ Facebook ได้ประกาศก้าวสู่การเปลี่ยนผ่านครั้งใหม่ ภายใต้ชื่อ ‘Meta’ ที่จะพลิกโลกด้วย Metaverse และ Artificial Intelligence หรือปัญญาประดิษฐ์ ที่จะเชื่อมโลกแห่งความเป็นจริงกับโลกสมมุติ ผ่านคอมพิวเตอร์ได้อย่างกลมกลืน 

ลองคิดดูว่า นวัตกรรมที่เราเห็นในปัจจุบันที่โลกคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในโลกความเป็นจริง เช่น รถขับเคลื่อนอัตโนมัติ ที่คอมพิวเตอร์ประเมินสภาพแวดล้อมทุกอย่างด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องมีมนุษย์เข้าไปเกี่ยวข้อง

แต่ในทางกลับกันมนุษย์เองก็สามารถเข้าไปมีบทบาทในโลกเสมือนจริง ที่คอมพิวเตอร์สร้างเอาไว้ได้เช่นกัน ผ่าน Virtual Reality เหมือนอย่างที่เราเคยเห็นกันในหนังไซไฟ ที่คนสวมแว่นตาและเข้าไปอยู่ในโลกเสมือน

แต่หนังก็อาจจะอธิบาย ได้เพียงแค่ส่วนเดียวเท่านั้น เพราะอันที่จริงแล้ว Metaverse เป็นระบบนิเวศ หรือ Ecosystem ที่ถูกสร้างขึ้นในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ สังคม การใช้ชีวิต การปกครอง และระบบการเงินรูปแบบใหม่ที่จะสร้างเศรษฐกิจใหม่ในโลกใบนั้น

โดยในโลก Metaverse นั้น จะเป็นการผสมผสานความเป็นจริงและโลกเสมือนเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน จนบางครั้งอาจทำให้เราหลงลืมไปได้เลยว่า เรากำลังมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งไหนกันแน่..

แน่นอนว่าการเข้ามาของสิ่งใหม่ โดยเฉพาะสิ่งที่ทำหน้าที่ ‘เสมือนมนุษย์’ นั้น ในช่วงแรกย่อมทำให้เกิดความรู้สึกแปลก แต่เมื่อนานวันไปสิ่งเหล่านี้จะแทรกซึมและทำให้มนุษย์ชอบได้ไม่ยาก

นั่นเพราะ Metaverse จะช่วยลดแรงเสียดทานในสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกจริงของมนุษย์ สิ่งต่าง ๆ ที่เป็นปัญหา หรือเป็นไปไม่ได้ ก็สามารถ ‘เป็นไปได้’ ราวกับมนุษย์นั้นเป็นพระเจ้าในโลกเสมือนใบนี้

แล้วถ้าหากคิดว่าโลกเสมือนจริงแห่งนี้ยังอยู่ไกลตัว....ขอบอกเลยว่าโลกเสมือนแห่งนี้อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด และเราอาจก้าวขาข้างหนึ่งเข้าไปแล้วก็ได้... 

ไม่ว่าเป็นการเพลิดเพลินในเล่นโซเชียลมีเดีย เล่นเกมจนลืมเวลา หรือแม้แต่ใครที่หลงใหลในคริปโทเคอร์เรนซี และสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ NFT เพราะเราวาดฝันว่าจะได้เป็นเศรษฐี และเจ้าของทรัพย์สินในโลกนั้น

สิ่งเหล่านี้ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่าโลกเสมือนจริงแห่งนี้อยู่ใกล้ตัวเรา แถมเรายังใช้ชีวิตและสัมผัสอยู่ในโลกเสมือนเหล่านี้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากการที่ทุกคนกำลังมีตัวตนทางสังคม มีสิ่งแวดล้อม มีทรัพย์สิน ในโลกที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมา และนั่นหมายความว่าเราได้ย่างก้าวเข้าสู่ Metaverse เป็นที่เรียบร้อยแล้ว..

แต่สิ่งที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือการที่มนุษย์อาจหลงใหลในโลกเสมือนแห่งนี้ จนถอนตัวไม่ขึ้น หรืออาจถึงขั้นที่ไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำว่าตนเองได้ตกหลุมพรางโลกเสมือนแห่งนี้เข้าให้แล้ว

นอกจากนั้น คนที่ลองเข้าไปแล้วมีความสุข ก็เริ่มชักชวนคนรอบข้างให้เข้าไปตาม หากใครไม่เข้าร่วมก็จะกลายเป็นคนตกยุค ถ้าไม่มีสิ่งนั้นมาครอบครอง คุณก็จะเหมือนไดโนเสาร์ เต่าล้านปี....

ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทกับชีวิตมนุษย์ ที่สามารถให้ทั้ง ‘คุณ’ และ ‘โทษ’ ในเวลาเดียวกัน และกลายเป็นหนึ่งโจทย์ใหม่ของมนุษย์ที่ผ่านการใช้ชีวิตในโลกเดิมหรือโลกความเป็นจริง ที่อาจจะเกิดการต่อต้านโลกใบใหม่ 

แต่สุดท้าย ก็ต้องทำใจยอมรับว่า มนุษย์ในยุคใหม่ หรือ เจเนอเรชันถัดไป จะตบเท้าก้าวสู่ Metaverse มากขึ้นเรื่อย ๆ และกลายเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนคุ้นเคย เหมือนเช่นอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ ที่เมื่อหลายสิบปีก่อน คงไม่มีใครคิดว่าจะกลายเป็นสมาร์ตโฟน ที่สามารถย่อโลกทั้งใบไว้ในมือเดียวได้เช่นทุกวันนี้

‘หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์’ ทรงกรุณาให้ ‘พลตรีพัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์’ เป็นผู้แทนในองค์เชิญผ้าไตรกฐิน ณ วัดดอนละนาม

วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน 2564 ณ วัดดอนละนาม  ต.ละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ "หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์" พระราชปนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 4) ทรงกรุณาให้ "พลตรีพัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์" เป็นผู้แทนในองค์ เชิญผ้าไตรกฐินพร้อมทั้งบริวาร เพื่อน้อมถวาย ณ วัดดอนละนาม ตำบลละหาน อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ

ในการนี้ นายยุทธพงษ์ เอี้ยงอ้าย เลขานุการในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ / นายนพรัตน์ ฉัตรเพชรตระการหัวหน้าสำนักงานเลขาในองค์ฯ/ นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล ผู้ช่วยเลขานุการในองค์ฯ / นายณัฐวุฒิ เหมือนเพ็ชรเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขานุการในองค์ฯ ร่วมในพิธีกฐินประทานฯ พร้อมด้วย พุทธศาสนิกชน ชาวบ้าน ที่พักอาศัยโดยรอบได้เข้าร่วมทำบุญกฐินฯ ในครั้งนี้ด้วย เพื่อถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาสืบไป

‘หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์’ ทรงกรุณาให้ ‘นายภูมิพัฒน์ สังขวิภาพจพิบูล’ เป็นผู้แทนในองค์ฯ เชิญผ้าไตรกฐินถวาย ณ วัดบ้านเหล่างิ้ว

ณ วัดบ้านเหล่างิ้ว ต.จังหาร อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด "หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์" พระราชปนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 4) ทรงกรุณาให้ "นายภูมิพัฒน์ สังขวิภาพจพิบูล" เป็นผู้แทนในองค์ เชิญผ้าไตรกฐินพร้อมทั้งบริวาร เพื่อน้อมถวาย ณ วัดบ้านเหล่างิ้ว ตำบลจังหาร อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด 

ในการนี้ นายยุทธพงษ์ เอี้ยงอ้าย เลขานุการในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ / นายนพรัตน์ ฉัตรเพชรตระการหัวหน้าสำนักงานเลขาในองค์ฯ/ นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล ผู้ช่วยเลขานุการในองค์ฯ / นายณัฐวุฒิ เหมือนเพ็ชรเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขานุการในองค์ฯ ร่วมในพิธีกฐินประทานฯ พร้อมด้วย พุทธศาสนิกชน ชาวบ้าน ที่พักอาศัยโดยรอบได้เข้าร่วมทำบุญกฐินฯ ในครั้งนี้ด้วย

'การให้อภัย' ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอดีตได้ แต่ 'การให้อภัย' นั้น อาจเปลี่ยนแปลงอนาคตได้

การให้อภัย ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอดีตได้

แต่การให้อภัยนั้น อาจเปลี่ยนแปลงอนาคตได้

- ท่านพุทธทาสภิกขุ - 

ความสั่นคลอนแห่ง​ 'พุทธศาสนา'​ แรงศรัทธา​ 'สูง-ต่ำ'​ จากร้อยพ่อพันแม่ | MEET THE STATES TIMES EP.35

????ความสั่นคลอนแห่ง​ 'พุทธศาสนา'​ แรงศรัทธา​ 'สูง-ต่ำ'​ จากหลากร้อยพ่อพันแม่!!
????ชวนคิด!! ค่านิยมผิดเพี้ยนสะเทือน ‘พุทธศาสนา' เหตุเพราะยุคเปลี่ยน หรือความคิดที่บิดเบี้ยวกันแน่!?

ในรายการ MEET THE STATES TIMES

ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

สวนแรกหลังเปิดเมือง สวนนงนุชพัทยาเนรมิตสวนมิตรภาพในอุซเบกิสถาน กระชับความสัมพันธ์

นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ได้นำทีมจัดสวนมากกว่า 100 คน เข้าปรับปรุงภูมิทัศน์สวนมิตรภาพอุซเบกิสถาน ประจำประเทศไทย (Friendship Garden) ที่ สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน  ถนนวิทยุ  กรุงเทพมหานคร เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง ไทย – อุซเบกิสถานโดยมี MR. FAKHRIDDIN SULTANOV กงสุลใหญ่และผู้แทนถาวรแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถานประจําคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียและแปซิฟิก (UN ESCAP) ให้การต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับทางสวนนงนุชพัทยา

นายกัมพล ตันสัจจา กล่าวว่า ไทยกับอุซเบกิสถาน มีความสัมพันธ์ทางการทูตมายาวนาน วันนี้ทางสวนนงนุชพัทยา ได้เข้าทำสวนแห่งมิตรภาพ ให้เกิดความเป็นสง่าสวยงาม และเป็นพยานแห่งมิตรภาพฉันพี่น้อง ที่เจริญเติบโตและมั่นคง ดั่งต้นไม้ที่ปลูกขึ้นทุกต้นในสถานที่แห่งนี้   ทั้งนี้สวนนงนุชพัทยา ได้นำอุปกรณ์และนักจัดสวน นำต้นไม้นับพันต้น เข้าปรับภูมิทัศน์ สำหรับการปรับปรุงภูมิทัศน์ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในแนวคิด Friendship Garden ซึ่งถือว่าเป็นสวนแรกหลังจากที่มีการเปิดเมืองในช่วงสถานการณ์โควิด และเป็นสวนที่ 11 ที่เข้าปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ ระหว่าง 2 ประเทศ ที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาอย่างยาวนาน
และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ซึ่งมีการแพร่ระบาดไปทั่วโลก

รวมไปถึงประเทศไทย พนักงานสวนนงนุชทุกคน ก่อนไปทำงานในพื้นที่นอกสวนนงนุช ต้องผ่านการตรวจ คัดกรองโควิด -19  เชิงรุก โดยวิธีการตรวจค้นหาเชื้อทางโพรงจมูก (SWAB)  ร่วมถึงกลับเข้ามาภายในสวนนงนุช ก็ต้องได้รับการตรวจอีกรอบเพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งเป็นการสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับพนักงานและประชาชน ที่จะต้องเข้ามาท่องเที่ยวภายในสวนนงนุชอีกด้วย

‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ จัดพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2564 สืบทอดขนบธรรมเนียมอันดีงาม ในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปี  2564 ในวันศุกร์ ที่ 5 พ.ย. 64 เวลา 14.00 น. ณ พระอุโบสถวัดตรีทศเทพวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

พล.ต.อ.วิระชัย  ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2564 ณ พระอุโบสถวัดตรีทศเทพวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจ และประชาชนเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกันภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

สำหรับพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน มีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการร่วมกันทำบุญ สร้างกุศล สืบทอดขนบธรรมเนียมและประเพณีจากครั้งบรรพกาลสู่ชนรุ่นหลังธำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงาม เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา 

ทั้งนี้ ยอดเงินจากการร่วมทำบุญถวายผ้าพระกฐินพระราชทานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติปี 2564 จะถวายให้แก่วัดตรีทศเทพวรวิหาร และมอบให้กับโรงเรียนวัดตรีทศเทพ เพื่อใช้ในการดำเนินงานด้านต่าง ๆ และเป็นค่าใช้จ่ายด้านสาธารณกุศลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

‘รมว.สุชาติ’ ลงพื้นที่เยี่ยมศูนย์ฟื้นฟูคนงานฯ ภาค 5 สงขลา พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานฯ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ประกันตนทุพพลภาพ และส่งเสริมการมีงานทำ

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เดินทางตรวจเยี่ยมติดตามการดำเนินงานของศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานภาค 5 ตำบลป่าขาด อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา พร้อมด้วย พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นางวันทนา ณัฐพูลวัฒน์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย

โดยมี นางสุรียพรรณ์ ณ สงขลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายสมเกียรติ สิริชูทรัพย์ ประกันสังคมจังหวัดสงขลา นายปฐพี จิระวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานภาค 5 จังหวัดสงขลา หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน จังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ผู้ประกอบการ SME อาสาสมัครแรงงาน และบัณฑิตแรงงานในจังหวัดสงขลา และผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพฯ ให้การต้อนรับ

นายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของท่าน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงาน ภายใต้การกำกับดูแลของท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใย ลูกจ้าง ผู้ประกันตน ที่ประสบอันตรายหรือมีความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้น จนเป็นเหตุให้เป็นผู้ทุพพลภาพรวมถึงให้ความสำคัญในการดูแลผู้ประกันตนอย่างใกล้ชิดในทุก ๆ ด้าน แม้ลูกจ้าง/ผู้ประกันตนประสบอันตราย กระทรวงแรงงานโดยสำนักงานประกันสังคม พร้อมเข้าดูแลผู้ประกันตนอย่างใกล้ชิดในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทั้ง 7 กรณีอย่างเต็มที่ รัฐบาลและกระทรวงแรงงานจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างแน่นอน

ในโอกาสนี้ ตนและคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ได้โอกาสมาติดตามการดำเนินงานของศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานภาค 5 จังหวัดสงขลา ที่กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้จัดตั้งขึ้น เพื่อให้บริการฟื้นฟูสมรรถภาพ แก่ลูกจ้างที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย เนื่องจากการทำงานตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ.2537 และผู้ประกันตน ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533  

โดยหากมีการประสบอันตราย เจ็บป่วย หรือสูญเสียอวัยวะ สามารถที่จะเข้ารับการฟื้นฟูฯ ได้เต็มตามสิทธิที่กฎหมายกำหนดไว้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยมีรูปแบบการฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน เป็นกระบวนการต่อเนื่องและจำเป็นสำหรับลูกจ้าง ที่สูญเสียสมรรถภาพในการทำงาน สูญเสียอวัยวะ พิการหรือ ทุพพลภาพและผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพ หลังสิ้นสุดการรักษาจากโรงพยาบาลแล้ว

ประกอบด้วย 2 ประการ คือ เป็นกระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน ในรูปแบบที่สมบูรณ์ครบวงจร ได้แก่ การฟื้นฟูสมรรถภาพด้านการแพทย์ การฟื้นฟู สมรรถภาพด้านอาชีพ ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านจิตใจ และสังคม และเป็นการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพ

โดยดูองค์รวม ได้แก่ การให้บริการโดยพิจารณาภาพรวมของผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพ เป็นรายบุคคลในทุก ๆ ด้านไปพร้อมกัน โดยมุ่งเน้นการประสานงาน ของทีมงานทุกด้าน ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อลูกจ้าง และผู้ประกันตน

 

‘โมเดอร์นา’ สั่นคลอน!! สหรัฐฯ ชะลอใช้ - จ่อเตือน! วัคซีนทำเสี่ยงหัวใจอักเสบ!! | Knowledge Times EP.33

???? รอบรู้แบบรู้ลึก ในรายการ ‘Knowledge Times’ | EP.33
???? ‘โมเดอร์นา’ สั่นคลอน!! สหรัฐฯ ชะลอใช้ - จ่อเตือน! วัคซีนทำเสี่ยงหัวใจอักเสบ!!

สำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ (FDA) กล่าวเมื่อวันศุกร์ ที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยได้แจ้งถึงทางโมเดอร์นาว่า “ทางหน่วยงานจำเป็นต้องขยายเวลาเพิ่มเติมเพื่อประเมินผลวิเคราะห์และศึกษาเรื่องผลข้างเคียง รวมไปถึงความเสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีนโมเดอร์นา"

โดยสำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การประเมินสำหรับออกคำแนะนำว่าควรฉีดวัคซีนของโมเดอร์นาให้เด็กอายุ 12 ถึง 17 ปีหรือไม่? อาจใช้เวลาจนถึงเดือนมกราคม ปี 2022 

อย่างไรก็ตามผลการศึกษาหนึ่งที่เผยแพร่ในเดือนสิงหาคม โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ ซีดีซี ระบุว่า อาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง อย่างโรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ มีความเกี่ยวข้องกับวัคซีนต้านโควิด-19 ของโมเดอร์นา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชายอายุน้อย และกลุ่มเด็กผู้ชาย โดยพบว่าความเสี่ยงของอาการดังกล่าวจะสูงขึ้นอย่างมากหลังจากติดเชื้อโควิด-19 

ขณะเดียวกันผลการศึกษาของซีดีซี ยังพบว่าภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หลังฉีดวัคซีนเทคโนโลยี mRNA อีกตัว ที่ผลิตโดยไฟเซอร์ - ไบออนเทค เกิดขึ้นน้อยมากและโดยทั่วไปมีอาการไม่รุนแรง ซึ่งเมื่อวันศุกร์ ที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา ยังได้รับอนุมัติจากสหรัฐฯ สำหรับฉีดให้เด็กอายุ 5 ถึง 11 ขวบ ในปริมาณที่น้อยกว่าวัยผู้ใหญ่แล้ว

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงต้นเดือตุลาคมที่ผ่านมา โมเดอร์นา ก็ได้ออกถ้อยแถลงชี้แจงลักษณะเดียวกัน หลังจากเกิดข่าวการระงับใช้โมเดอร์นาในเดนมาร์ก สวีเดน และฟินแลนด์ ให้มีการหยุดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของโมเดอร์นาในกลุ่มคนหนุ่มสาวเป็นการชั่วคราว โดยบอกว่าอาการเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ และกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก โดยส่วนใหญ่จะมีอาการไม่มาก และสามารถหายได้เองในเวลาอันสั้นเช่นกัน

ซึ่งถ้อยแถลงในครั้งนั้น ระบุด้วยว่าโมเดอร์นา มีความตระหนักถึงประกาศจากกระทรวงสาธารณสุขของ 4 ชาตินอร์ดิก อย่างประเทศเดนมาร์ก สวีเดน ฟินแลนด์ และนอร์เวย์ ที่แนะนำให้มีการหยุดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของโมเดอร์นาเป็นการชั่วคราว ซึ่งสวีเดน และฟินแลนด์ ได้มีการระงับการใช้งานวัคซีนของโมเดอร์นากับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ส่วนเดนมาร์ก และนอร์เวย์ได้ออกคำสั่งตามมา แต่ว่าสองประเทศนี้ห้ามใช้วัคซีนโมเดอร์นาฉีดให้กับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี

รวมไปถึงไอซ์แลนด์ ที่มีการระงับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของโมเดอร์นาให้กับประชากรทุกวัย ตามหลังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มประเทศนอร์ดิก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบด้วยเช่นกัน และจนกว่าจะมีการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนยี่ห้อดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม โมเดอร์นา ได้กล่าวเพิ่มเติมในคำแถลงว่า ความปลอดภัยของผู้บริโภคที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง เรามีความมุ่งมั่นที่จะหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งนับตั้งแต่มีการระบาดมาจนถึงเวลานี้ได้ส่งผลกระทบต่อประชากรหลายล้านรายทั่วโลก และคร่าชีวิตคนไปแล้วกว่า 4 ล้านราย

สำหรับประเทศไทย โมเดอร์นาเป็นวัคซีนทางเลือกที่จะได้นำมาใช้ในประเทศโดยภาคเอกชน ซึ่งเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมานี้ ทางคณะกรรมการอาหารและยา ก็ได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนดังกล่าวในตำรับยาแผนปัจจุบัน ในฐานะยาควบคุมพิเศษ

ล่าสุดวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา วัคซีนโมเดอร์นาล็อตแรก จำนวน 560,200 โดส ได้ถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งขนส่งโดยสายการบิน Lufthasa (ลุฟท์ฮันซ่า) เที่ยวบิน H772 โดยหลังจากนี้ คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ในการตรวจสอบคุณภาพวัคซีน แล้วจะกระจายไปยังโรงพยาบาลหรือศูนย์ฉีดต่าง ๆ ที่ได้มีการสั่งจองวัคซีนโมเดอร์นาเอาไว้ 

ส่วนในเรื่องของประกันสุขภาพหลังการรับวัคซีนโมเดอร์นา สำหรับประชาชนจะมีการชดเชยอย่างไรนั้น ภญ.ศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า สำหรับการชดเชยหลังฉีดวัคซีนโมเดอร์นาทั้งเข็มกระตุ้น และฉีดแบบ 2 เข็ม ทางองค์การเภสัชกรรมได้ทำประกันจากบริษัท ทิพยประกันภัย ซึ่งติดไปกับการซื้อวัคซีนของ รพ.เอกชน เพื่อฉีดให้ประชาชน เบื้องต้น กรณีโคม่า หรือเสียชีวิตได้รับชดเชย 1 ล้านบาท ทุพพลภาพถาวร ชดเชย 5 แสนบาท สำหรับอาการไข้ หรือต้องเข้ารักษาเป็นผู้ป่วยใน มีค่าชดเชยเป็นค่ารักษาพยาบาล 1 แสนบาท

อย่างไรก็ตาม วัคซีนโมเดอร์นา เป็นวัคซีนทางเลือกที่ประชาชนยังคงมีความต้องการสูง มีประสิทธิภาพทั่วไปในการป้องกันโควิด-19 อยู่ที่ราว 94.1 - 94.5% ซึ่งนับว่าแทบจะสูงที่สุดในบรรดาวัคซีนโควิด-19 ที่มีในปัจจุบัน จากผลการทดลองในผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้สูงถึง 94% ในกลุ่มผู้ใหญ่ ขณะที่การรวบรวมผลประสิทธิภาพจากการใช้จริงในการฉีดให้แก่ประชาชนทั่วไปสามารถลดความเสี่ยงการติดเชื้อได้ 91% เมื่อได้รับวัคซีนครบ 2 โดส และสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีต่อการยับยั้งสายพันธุ์เดลตาด้วย

ถึงอย่างนั้นแล้วก็คงต้องติดตามกันต่อไป ในส่วนของ FDA ว่าจะเห็นชอบวัคซีนของโมเดอร์นา เพื่อใช้กับเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีหรือไม่ ก่อนจะขออนุมัติใช้กับเด็กอายุต่ำกว่านั้นเป็นลำดับถัดไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top