Sunday, 15 June 2025
LITE TEAM

9 กรกฎาคม พ.ศ. 2524 หมู่เกาะสุรินทร์ ได้รับการประกาศจัดตั้งให้เป็น ‘อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์’

วันนี้เมื่อ 41 ปีก่อน หมู่เกาะสุรินทร์ ได้รับการประกาศจัดตั้งให้เป็น ‘อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์’ เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 29 ของประเทศไทย

9 กรกฎาคม พ.ศ. 2524 หมู่เกาะสุรินทร์ ได้รับการประกาศจัดตั้งให้เป็น "อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์" เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 29 ของประเทศไทย นับเป็นหมู่เกาะที่มีแนวปะการังน้ำตื้นและน้ำลึกที่สวยงามและสมบูรณ์ที่สุดของเมืองไทยที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก

ในอดีตหมู่เกาะแห่งนี้เคยเป็นป่าสงวนแห่งชาติ เป็นพื้นที่สัมปทานปิโตรเลียม และเคยถูกเสนอให้เป็นค่ายญวนอพยพ แต่เนื่องจากธรรมชาติทั้งบนบกและใต้น้ำมีความอุดมสมบูรณ์มาก กรมป่าไม้จึงพยายามเสนอให้เป็นอุทยานแห่งชาติ จนประสบความสำเร็จในที่สุด 

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์อยู่ในทะเลฝั่งอันดามัน ที่ ต. พระทอง อ. คุระบุรี จ. พังงา มีพื้นที่ 135 ตารางกิโลเมตร (84,357 ไร่) ร้อยละ 76 ของพื้นที่เป็นทะเล ส่วนที่เหลือเป็นแผ่นดิน ประกอบด้วยเกาะ 5 เกาะ ได้แก่ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะตอรินลา (เกาะราบ) เกาะปาจุมบา (เกาะมังกร) และเกาะสต๊อร์ก (เกาะไฟแว่บ) ในบริเวณนี้ยังมีกองหินโผล่พ้นน้ำอีก 2 แห่ง ได้แก่ หินแพและหินกอง และกองหินปริ่มน้ำ "ริเชลิว" ซึ่งเป็นจุดดำน้ำสำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง

8 กรกฎาคม พ.ศ.2498 วันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัยบูรพา ขุมปัญญาสำคัญแห่งภาคตะวันออก

ความเป็นมาก่อนจะมาเป็นมหาวิทยาลัยบูรพา เริ่มในปี พ.ศ. 2492 กระทรวงศึกษาธิการได้จัดตั้ง “โรงเรียนฝึกหัดครูชั้นสูง” ขึ้นที่ซอยประสานมิตร อำเภอพระโขนง จังหวัดพระนคร จนถึงปี พ.ศ. 2497 จึงได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น “วิทยาลัยวิชาการศึกษา ประสานมิตร” ต่อมาในปี พ.ศ. 2498 ได้ขยายวิทยาเขตออกไปอีก 2 แห่ง ได้แก่ “วิทยาลัยวิชาการศึกษา ปทุมวัน” และ “วิทยาลัยวิชาการศึกษา บางแสน” 

การจัดตั้งวิทยาลัยวิชาการศึกษาที่บางแสน จังหวัดชลบุรีนี้ ก็เพื่อให้ประชาชนทั้งหลายได้ทราบว่า รัฐบาลได้ขยายการอุดมศึกษาออกไปสู่ส่วนภูมิภาคแล้ว วิทยาลัยวิชาการศึกษาบางแสน จึงเป็นสถาบันที่ให้ปริญญาแห่งแรกในส่วนภูมิภาค          

ดินแดนที่วิทยาลัยวิชาการศึกษา บางแสนตั้งอยู่ในปัจจุบันนี้ เดิมทีเรียกว่า สวนหลวง เป็นที่ดินของกรมหมื่นพิชิตปรีชากร ใน พ.ศ. 2498 รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังเป็นผู้แทน ได้ซื้อที่ดินสวนหลวงด้วยเงิน 252,000 บาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะตั้งวิทยาลัยวิชาการศึกษาขึ้นในส่วนภูมิภาค ขณะนั้นเป็นสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีมีพลเอกหลวงพรหมโยธี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการวางศิลาฤกษ์วิทยาลัยวิชาการศึกษา บางแสน เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2498 วิทยาลัยจึงได้ถือเอา วันที่ 8 กรกฎาคมเป็นวันสถาปนาวิทยาลัยและมีการเฉลิมฉลองวันสำคัญนี้ทุกปี      

ขณะนั้นดินแดนสวนหลวงเป็นที่ขาดการทะนุบำรุง จึงมีต้นไม้ขึ้นรกรุงรังส่วนใหญ่ก็มีต้นมะพร้าว เมื่อเป็นเช่นนี้จำเป็นจะต้องหาผู้ที่เข้มแข็ง บุกเบิกวิทยาลัยแห่งนี้ พลเอกหลวงพรหมโยธี และหม่อมหลวงปิ่น มาลากุล จึงแต่งตั้งให้ ดร.ธำรง บัวศรี มาเป็นรองอธิการคนแรก และมีอาจารย์มาช่วยอีก 6 คน รวม 7 คน เป็นผู้พัฒนาดินแดนแห่งนี้เป็นรุ่นแรกวิทยาลัยวิชาการศึกษา บางแสน มีนิสิตรุ่นแรกที่ผ่านการสอบคัดเลือกเป็นชายทั้งสิ้น 41 คน ขณะนั้น มีอาจารย์ 7 ท่าน โดย ดร.ธำรง บัวศรี เป็นรองอธิการ และในปี พ.ศ. 2501 มีผู้สำเร็จการศึกษาเป็นรุ่นแรกจำนวน 35 คน

วิทยาลัยวิชาการศึกษา ได้รับการเปลี่ยนฐานะเป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒและโอนสังกัดจากกระทรวงศึกษาธิการมาสังกัดทบวงมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2517 ซึ่งมีวิทยาเขตทั้งหมด 8 แห่ง ดังนั้นวิทยาลัยวิชาการศึกษา บางแสน จึงมีฐานะเป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตบางแสน เมื่อเป็นมหาวิทยาลัย มีคณะวิชาเพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่มีการผลิตบัณฑิตเฉพาะหลักสูตร
การศึกษาบัณฑิต (กศ.บ.) เท่านั้น การผลิตบัณฑิตของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตบางแสน มีทั้งหมด 6 คณะวิชา และหน่วยงานเทียบเท่าคณะ 1 หน่วยงาน คือ บัณฑิตวิทยาลัย ซึ่งทำหน้าที่ประสานงานการจัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาโท โดยเปิดสอนใน 4 สาขาวิชา ได้แก่ การประถมศึกษา การบริหารการศึกษา ชีววิทยา และจิตวิทยาและการแนะแนว

7 กรกฎาคม พ.ศ.2510 ‘สะพานสารสิน’ เปิดใช้งานครั้งแรก ครบ 55 ปี แลนด์มาร์คเชื่อมพังงา-ภูเก็ต

วันนี้เมื่อ 55 ปีก่อน เป็นวันเปิดใช้งาน สะพานสารสิน เป็นครั้งแรก เป็นสะพานแรกที่สร้างเพื่อข้ามจากจังหวัดพังงาไปจังหวัดภูเก็ต

สะพานสารสิน เปิดใช้ครั้งแรกเมื่อ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2510 หรือเมื่อ 55 ปีที่แล้ว เป็นสะพานแรกที่สร้างเพื่อข้ามจากจังหวัดพังงาไปจังหวัดภูเก็ต โดยเชื่อมต่อระหว่างบ้านท่านุ่นของจังหวัดพังงาและบ้านท่าฉัตรไชยของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งสะพานสารสินมีความยาวทั้งหมด 660 เมตร รับผิดชอบดูแลโดย กรมทางหลวง

สะพานแห่งนี้ตั้งชื่อตามนามสกุลของ นายพจน์ สารสิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาการแห่งชาติซึ่งดำรงตำแหน่งในขณะนั้น เริ่มสร้างครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2494 โดยเปิดให้บริษัทรับเหมาทำการก่อสร้าง แต่ปรากฏว่าการก่อสร้างในระยะแรกมีปัญหาเพราะขาดความชำนาญ ต่อมาในปี พ.ศ. 2508 จึงเริ่มทำการก่อสร้างสะพานอีกครั้งจนสำเร็จ และเปิดทำการได้ในวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2510 โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 28,770,000 บาท

ปัจจุบัน สะพานสารสิน ไม่ให้รถยนต์สัญจรไปมาแล้ว โดยให้รถยนต์ใช้สะพานสารสิน 2 และ สะพานท้าวเทพกระษัตรีแทน

สะพานสารสินเดิม หรือ สะพานสารสิน 1 นั้นจึงถูกปรับปรุงให้เป็นสะพานคนเดินและสร้างหอชมวิวทิวทัศน์ สะพานแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัด

ทั้งนี้ สะพานสารสิน เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเป็นสถานที่ที่เป็นตำนานความรักของหนุ่มสาวสองคนที่ไม่สมหวัง คือ โกดำ (ดำ แซ่ตัน) กับ กิ๊ว (กาญจนา แซ่หงอ) ที่มีความแตกต่างกันทางฐานะ ด้วยโกดำเป็นเพียงคนขับรถสองแถวรับจ้างและรับจ้างกรีดยาง

6 กรกฎาคม พ.ศ.2561 รำลึก 4 ปี สูญเสีย ‘จ่าแซม’ วีรบุรุษถ้ำหลวง จากภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี

วันนี้ เมื่อ 4 ปีก่อน จ.อ.สมาน กุนัน หรือ จ่าแซม วีรบุรุษถ้ำหลวง เสียชีวิตจากภารกิจช่วยชีวิต 13 หมูป่า ที่ติดในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน

ครบรอบ 4 ปี เหตุการณ์สุดช็อก สำหรับการสูญเสีย จ.อ.สมาน กุนัน หรือ จ่าแซม อดีตนักทำลายใต้น้ำจู่โจม หรือ หน่วยซีล รุ่น 30 ซึ่งเสียชีวิตในถ้ำหลวงฯ ขณะปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี ภายในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน

จ่าแซม ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตระเวนระงับเหตุฝ่าย รปภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บ.ท่าอากาศยานไทย ตระเวนระงับเหตุฝ่าย รปภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บ.ท่าอากาศยานไทยในขณะนั้น ได้อาสาเข้าร่วมปฏิบัติการค้นหาทีมหมูป่า โดยเป็นภารกิจพิเศษ ในนามทีม AOT special team และได้โพสต์คลิปวิดีโอก่อนขึ้นเครื่องบิน โดยระบุว่า "ขอให้โชคดีอยู่กับเรา พาน้องๆ กลับบ้าน"

๔ กรกฎาคม วันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้าคณะผู้บริหารและพนักงาน สำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIME

4 กรกฎาคม วันคล้ายวันประสูติ สมเด็จเจ้าฟ้า ฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ประสูติเมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2500 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

ทรงเป็นพระราชธิดาพระองค์เล็กในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ได้รับพระราชทานพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี

พระนาม จุฬาภรณ์ หมายถึง การอัญเชิญพระนาม "จุฬา" ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มาเป็นคำต้นพระนามของพระองค์ เนื่องด้วยในวันประสูตินั้น เป็นวันมหาปีติของนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จฯ ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา

ทรงเริ่มศึกษาระดับอนุบาลที่โรงเรียนจิตรลดา ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ทรงได้รับการปลูกฝังทางศิลปะ นาฏศิลป์และดนตรี จากพระอาจารย์ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทั้งยังทรงสนพระทัยวิชาคำนวณและวิทยาศาสตร์ ขณะเดียวกันโปรดศึกษาวิชาภาษาต่างประเทศ และวิชาศิลปะควบคู่กันไป โดยทรงเลือกเรียนสายวิทยาศาสตร์ ในระดับมัธยมปลาย เพื่อนำความรู้มาต่อยอดทำประโยชน์เพื่อความสุขของประชาชน

เมื่อสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลาย ทรงเข้าศึกษาระดับปริญญาตรีคณะวิทยาศาสตร์ สาขาอินทรีย์เคมี เกียรตินิยมอันดับ 1 จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทรงสอบได้ที่ 1 ในวิชาเคมีและชีววิทยา ทั้งยังทรงได้รับรางวัลเรียนดีจากมูลนิธิศาสตราจารย์ ดร.แถบ นีละนิธิ

พ.ศ.2528 ทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาอินทรีย์เคมี มหาวิทยาลัยมหิดล ทั้งนี้ยังทรงสำเร็จการอบรมระดับหลังปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยอูล์ม สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

พ.ศ.2550 ทรงสำเร็จการศึกษาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

พ.ศ.2557 ทรงสำเร็จการศึกษาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพสัตวแพทย์ (หลักสูตรนานาชาติ) จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อนำความรู้ไปช่วยเหลือสัตว์ต่างๆ

ทรงมีพระธิดา 2 พระองค์ คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ

สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ทรงอุทิศพระวรกายเพื่ออาณาประชาราษฎร์ให้มีความสุข อยู่ดีกินดี และร่วมพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศ ไม่ว่าจะในแขนงใด

รู้จัก 'สุนา' ชูเกียรติ บุญคง เจ้าของเพจ 'สุนา Channel' ครีเอเตอร์ดังแดนใต้ กับตัวตนที่มีสไตล์ ขอแค่ไม่อายที่จะชัดเจน

สัมภาษณ์พิเศษ : สุนา ครีเอเตอร์ดังภาคใต้ จากเพจ สุนา Channel

“ชัดเจน ไม่ต้องเขินอาย แล้วเราจะมีตัวตน” 
รู้จัก ‘สุนา’ ผ่านแนวคิด LGBTQ

“พี่สุนา จากเพจ สุนา Channel ปัจจุบันก็เปิดแบรนด์เสื้อผ้า “สุนาผ้าไทย” และก็ทำเพจและยูทูบเบอร์ ‘สุนา  Channel’ ค่ะ”

1.) ‘เพจสุนา’ ดังมาจากอะไร?

สุนา : เพจสุนาทำมาแล้วประมาณ 2 ปี ค่ะ มีผู้ติดตามอยู่ประมาณ 270,000 กว่าคน เพจเริ่มต้นด้วยจากความชอบค่ะ มันเกิดขึ้นมาจาก ช่วง Covid-19 คืองานประจำประสบปัญหาเศรษฐกิจ เราก็เลยคิดอีกหนึ่งช่องทาง คือการเปิดเพจเกี่ยวกับการเรียนรู้ วัฒนธรรมภาคใต้ ร่วมกับเพื่อนอีกหนึ่งคน 

แล้วบังเอิญมันเป็น Viral ขึ้นมา จากเรื่องวัฒนธรรม การไปเที่ยวงานประเพณีภาคใต้แล้วมีการไป “ลักแกงงาน” (ภาษาใต้) ก็คือเหมือนไปขอแกงของคนในหมู่บ้าน หรือขอแกงในงานต่างๆ เช่นคำพูดว่า “ฉันขอแกงกลับไปหน่อยนะ ฉันจะเอาไปให้คนที่บ้านกินนู้นนี่นั้น” 

มันเป็นสิ่งที่คนภาคใต้ปฏิบัติ และเราเอามาพูดแบบหยอกล้อเชิงสนุกสนาน ก็เลยทำให้ดังขึ้นมาเป็น Viral 



2.) ในฐานะตัวแทน LGBTQIA+ เดือนแห่งเทศกาล Pride Month อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง?

สุนา : อยากเห็นความเท่าเทียมที่มันชัดเจนขึ้น การออกมาเรียกร้องต่างๆ อยากให้ทางผู้ใหญ่ หรือ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเห็นถึงปัญหาตรงนี้ และนำไปพัฒนาให้มันตอบโจทย์กับสิ่งที่พวกเรากำลังเรียกร้อง เพราะพวกเราก็คือหนึ่งในมนุษยชนคนนึง

3.) ข้อดีของการเป็น LGBTQIA+ คืออะไร?

สุนา : เราเป็นคนนึงคนที่อยากทำให้โลกใบนี้มีความสุข สนุก สดใส สดชื่น รู้สึกอยากให้ทุกอย่างมันพัฒนาไปในทางมันจะดีได้ทั้งชายหญิงและคนเพศอื่นๆ อยากให้มองว่าพวกเราไม่ใช่ตัวตลกแต่พวกเราคือคนที่ทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ทุกคนมีความสุขได้ 

'Ampa Ampa' สติ๊กเกอร์หอมติดแมสก์บำบัดอารมณ์ เสกกลิ่นหอมสดชื่น คลายความตึงเครียด

สองปีกว่าแล้วกับการใช้ชีวิตแบบใส่แมสก์อยู่ตลอดเวลา และคิดว่ายังคงต้องใส่ต่อไปเรื่อยๆ เชื่อว่าทุกๆคนรู้สึกแบบเดียวกันแน่นอน อึดอัดค่าาาา!!!! อยากจะกรี๊ด หายใจไม่ค่อยจะทั่วท้อง ยิ่งเพิ่งกินข้าวเสร็จแล้วน้องมาใส่แมสก์นี่นะ เป็นลมเลยได้หรือไม่😵‍💫 พามู้ดเสียไปทั้งวันได้นะพส. แต่แล้วค่าคุณผู้โช๊มมมมมม ฉันพบทางออก ฮ่าาาๆ คนอย่างริต้ามันต้องหาของมาสนองนี๊ดทุกทางสินะ55555

'Ampa Ampa สติ๊กเกอร์หอมติดแมสก์บำบัดอารมณ์น้องเสือขาว' กลิ่นหอมจาก essential oil ซึ่งมีกลิ่นให้เลือกถึง 3 กลิ่นเลย!  

1. Eucalyptus Tea Tree 
2. Pink Grapefruit
3. Peppermint Orange 

ใน 1 กล่องมี 3 แผ่นด้วยกัน และใน 1 แผ่นมีสติ๊กเกอร์ 8 ดวง รวมทั้งสิ้น 24 ดวง ในราคาแค่ 169 ส่งฟรี‼️ คุ้มมาก หรือจะคละกลิ่นภายในกล่องก็ได้เลย 

ข้อสรุปล่าสุดจากนักวิทยาศาสตร์ ‘สโตนเฮนจ์' คือ ปฏิทินสุริยคติขนาดยักษ์

สโตนเฮนจ์คือปฏิทินสุริยคติขนาดยักษ์ และตอนนี้นักวิทยาศาสตร์รู้แล้วว่ามันทำงานอย่างไร

นักโบราณคดีเชื่อกันมานานแล้วว่า สโตนเฮนจ์ อนุสรณ์สถานหินยุคก่อนประวัติศาสตร์ขนาดใหญ่ที่อยู่ในประเทศอังกฤษ เป็นปฏิทินสุริยคติโบราณมาอย่างยาวนาน เนื่องจากมันสอดคล้องกับวันครีษมายัน (วันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด) ทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาว

แต่ไม่มีใครทราบว่าทำงานอย่างไร จนในที่สุด ทิโมธี ดาร์วิลล์ (Timothy Darvill) ศาสตราจารย์ด้านโบราณคดีที่มหาวิทยาลัย Bournemouth ในสหราชอาณาจักรเชื่อว่าพบวิธีการทำงานของสโตนเฮนจ์แล้ว

"นักวิชาการได้เห็นมานานแล้วในองค์ประกอบอันน่าเกรงขามของสโตนเฮนจ์ สำหรับการคำนวณเวลาก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นปฏิทินยุคหินใหม่ อย่างไรก็ตาม ปฏิทินดังกล่าวทำงานอย่างไรยังคงไม่ชัดเจน" ศ. ดาร์วิลล์ กล่าว

เขาเชื่อว่าคำตอบคือการเพิ่มตัวเลขเข้าไปในสโตนเฮนจ์ “30, 5 และ 4 เป็นตัวเลขที่น่าสนใจในแง่ของปฏิทิน” ดาร์วิลล์ กล่าว 
 

3 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเปิดการเดินรถ รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล อย่างเป็นทางการ

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปิดการเดินรถไฟฟ้าใต้ดินสายแรกของประเทศไทย "โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (หัวลำโพง-บางซื่อ)" อย่างเป็นทางการ 

โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล หรือสายสีน้ำเงิน เดินทางช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ ระยะทาง 20 กม. จำนวน 18 สถานี โดย บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ได้รับสัมปทานในการลงทุนในระบบรถไฟฟ้าและขบวนรถไฟฟ้า รวมทั้งให้บริการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงรักษาตามมาตรฐานการให้บริการที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขสัญญา และมีสิทธิ์ในรายได้ค่าโดยสาร รวมทั้งการดำเนินกิจกรรมและการพัฒนาเชิงพาณิชย์ภายในสถานีและภายในขบวนรถไฟฟ้า

เหตุใดจึงตั้งชื่อสถานีรถไฟฟ้า ‘กลันตัน-มักกะสัน’ เหมือนชื่อรัฐของประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน

‘สถานีกลันตัน - สถานีมักกะสัน’ ชื่อนี้มีที่มาอย่างไร?

ตอนนี้มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าใน กทม. หลายสาย เช่น รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่มีชื่อสถานที่น่าสนใจสถานีหนึ่ง คือ ‘สถานีกลันตัน’ ที่มีชื่อสถานีดันไปเหมือนกับชื่อรัฐหนึ่งในมาเลเซีย นั่นคือ ‘รัฐกลันตัน’ หลายคนสงสัยว่าเป็นความบังเอิญหรือเปล่า ที่จริงไม่ได้เป็นความบังเอิญ แต่ชื่อ ‘สถานีกลันตัน’ กับ ‘รัฐกลันตัน’ มีความเกี่ยวข้องในแง่ประวัติศาสตร์จริง ๆ 

สยามในอดีตและปัจจุบันมีหลายชาติพันธุ์ และในกรุงเทพฯ เองก็มีหลายชุมชนของหลากหลายชาติพันธุ์ เช่น ชุมชนชาวญวน ชาวลาว ชาวเขมร ชาวโปรตุเกส ชาวมลายู ฯลฯ ที่จะพูดถึง คือ ‘ชุมชนชาวมลายู’ ซึ่งมาจากการเทครัวในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 - 3 แล้วมาตั้งถิ่นฐานในกรุงเทพฯ เช่น ชุมชนบ้านแขก ชุมชนมุสลิมมหานาค ชุมชนมุสลิมพระประแดง ชุมชนมุสลิมย่านรามคำแหง ชุมชนมุสลิมคลองแสนแสบ ฯลฯ 

ในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 - 3 เกิดสงครามกับหัวเมืองมลายูขึ้นหลายครั้ง และเมื่อมีการทำสงครามสิ่งหนึ่งที่แถบอุษาคเนย์มักจะทำ คือ ‘การเทครัว (กวาดต้อนเชลยศึก)’ เพราะสมัยนั้นทรัพยากรที่สำคัญที่สุด คือ ‘คน’ ช่วงเวลานั้นจึงมีการกวาดต้อนเชลยศึกชาวมลายูมายังกรุงเทพฯ และไม่ได้มาพร้อมกันแต่มาหลายรอบ

สมัยรัชกาลที่ 1 ปี 2329 กวาดต้อนเชลยศึกชาวปัตตานี (ปัจจุบันอยู่แถวแยกบ้านแขก และพระประแดง)
สมัยรัชกาลที่ 2 ปี 2364 กวาดต้อนเชลยศึกชาวปัตตานีและชาวไทรบุรี (เคดะห์) 
สมัยรัชกาลที่ 3 ปี 2381 กวาดต้อนเชลยศึกชาวกลันตัน ตรังกานู และหัวเมืองปักษ์ใต้อื่น ๆ

‘ชาวกลันตัน’ ที่ถูกกวาดต้อนมานี้ ไม่ได้มาจากเมืองกลันตันแต่อย่างใด แต่มาจากเมืองปัตตานี เพราะสมัยนั้นราชวงศ์สุดท้ายที่ปกครองเมืองปัตตานี คือ ‘ราชวงศ์กลันตัน’ จึงมีชาวกลันตันที่อาศัยอยู่ในเมืองปัตตานีด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top