Saturday, 27 April 2024
สืบนครบาล

 สืบนครบาลตามจับเซียนพระกำมะลอ หลอกเช่าพระทิพย์ มีหมายจับติดตัว 3 หมาย

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมากในปัจจุบัน 'ชุดลาดตระเวนออนไลน์' สืบสวนนครบาล IDMB ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนผู้เดือดจำนวนมาก ว่าถูกกลุ่มแก็งค์ที่อ้างตนว่าเป็นเซียนพระ หลอกผู้เสียหายเช่าพระเครื่องบูชาและวัตถุมงคล สูญเงินเป็นจำนวนมาก 

เมื่อวันที่ (7 พ.ย. 65) เวลาประมาณ 05.20 น. พล.ต.ท.ธิติ  แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบ.ช.น. สั่งการ ชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบสวนนครบาล IDMB โดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ และ พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ กับพวกได้เข้าทำการจับกุมตัว นายชัยวิวัฒน์ ธนินจีรภัทร์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 500/36 หมู่ 1 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันต์

ผู้ต้องหาเป็นบุคคลตามหมายจับจำนวน 3 คดี 
1. หมายจับศาลแขวงนครราชสีมา ที่ จ218/2564 ลงวันที่ 3 ก.ย. 65 ซึ่งต้องหากระทำผิดฐานฉ้อโกง 
2. หมายจับศาลแขวงพิษณุโลก ที่ จ.123/2564 ลงวันที่ 21 ก.ค. 64 ซึ่งต้องหากระทำผิดฐานฉ้อโกง
3. หมายจับศาลจังหวัดชัยภูมิ ที่ 124/2564 ลงวันที่ 14 ก.ย. 64 ซึ่งต้องหากระทำผิดฐานฉ้อโกง

โดยแต่ละคดีล้วนแล้วแต่มีพฤติการณ์ในทำนองเดียวกันทั้งสิ้น โดยกล่าวหาว่า ฉ้อโกง ได้บริเวณริมถนนหน้าบ้านเลขที่ 168/39 หมู่บ้านไอลีฟทาวน์ ซ.ประชาอุทิศ 90 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

กล่าวคือ ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนผู้เดือดร้อนจำนวนมาก ว่าถูกกลุ่มแก็งค์ที่อ้างตนว่าเป็นเซียนพระ หลอกผู้เสียหายเช่าพระเครื่องบูชาและวัตถุมงคล สูญเงินเป็นจำนวนมาก พล.ต.ต.ธีรเดชฯ จึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ นำโดย พ.ต.ต.ทศรัสมิ์ กิติธารา สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมกำลังสืบสวนติดตาม แกะรอยพฤติการณ์ของกลุ่มแก๊งค์ดังกล่าว จนสามารถระบุตัวคนร้ายชื่อว่า นายชัยวิวัฒน์ ธนินจีรภัทร์ อายุ 33 ปี อยู่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันต์ จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มแก๊งนี้มีพฤติการณ์ออกตระเวน อ้างตนเป็นเซียนพระ สร้างภาพลักษณ์ตัวเองให้ดูน่าเชื่อถือในโลกออนไลน์ ด้วยการโพสต์ขายพระที่ได้รับความนิยมในหมู่เซียนพระ ซึ่งเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ สนใจ ติดต่อซื้อขาย  และตกลงโอนเงินให้ แต่คนร้ายมิได้ส่งมอบสินค้าให้ตามที่ตกลงกันไว้ หากผู้เสียหายรู้ตัว จะทำการปิดเฟสบุ๊คหลบหนี โดยผู้ต้องหาก่อเหตุแล้วในหลายพื้นที่เป็นระยะเวลาปีเศษ

อีกทั้ง จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาเป็นบุคคลตามหมายจับจำนวน 3 คดี 1. หมายจับศาลแขวงนครราชสีมา ที่ จ 218/2564 ลงวันที่ 3 ก.ย.65 ซึ่งต้องหากระทำผิดฐานฉ้อโกง หมายจับศาลแขวงพิษณุโลก ที่ จ.123/2564 ลงวันที่ 21 ก.ค. 64 ซึ่งต้องหากระทำผิดฐานฉ้อโกง หมายจับศาลจังหวัดชัยภูมิ ที่ 124/2564 ลงวันที่ 14 ก.ย. 64 ซึ่งต้องหากระทำผิดฐานฉ้อโกง โดยแต่ละคดีล้วนแล้วแต่มีพฤติการณ์ในทำนองเดียวกันทั้งสิ้น 

สืบนครบาลตามรวบเซาะ คลองตันนำพวกบุกอุ้มสาว 18 ศัตรูหัวใจใช้มีดจี้คอลากขึ้นรถ กร้อนผมตัดผม ทำร้ายร่างกาย จับแก้ผ้ากระทำอนาจาร ก่อนปล่อยทิ้งข้างทาง

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชน  ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน ว่าเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 65 เวลาประมาณ 00.30 น. ได้เกิดเหตุ ผู้ร่วมก่อเหตุทั้ง 7 คน (หญิง 6  ชาย 1) ได้บุกไปยังบ้านผู้เสียหายรายซึ่งเป็นหญิงสาว อายุเพียง 18 ปี โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ใช้มีดและกรรไกรจี้คอผู้เสียหาย ก่อนจะลากออกจากบ้านพาไปขึ้นรถยนต์ โดยบนรถผู้เสียหายได้ถูก 'กร้อนผม' และถูกทำร้ายร่างกายสารพัดตลอดทาง และกระทั่งได้ขับมาถึงทางเปลี่ยวละแวก หนองแขม กลุ่มผู้ก่อเหตุช่วยกันจับผู้เสียหาย 'แก้ผ้า' และปล่อยทิ้งไว้ข้างทาง แต่ต่อมาเกิดความกลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่จึงรับผู้เสียหายกลับไปส่งที่บ้าน และโดยอ้างว่า “เป็นน้ำใจที่นำกลับมาส่ง ให้ลืมๆเรื่องที่เกิดขึ้นไป” ซึ่งหลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมด ได้มีการออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุที่ยังหลบหนีทั้ง 3 ราย  

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 65 เวลาประมาณ 22.30 น.พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ   ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ ร.ต.อ.หญิงธิดารัตน์ ผดุงประเสริฐ และเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB ได้จับกุมตัว

น.ส.พัญญรัตน์  ฉัตรทอง  หรือ 'เซาะ คลองตัน' อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 ซอยทรัพย์สาคร แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพ ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2403/2565 ลงวันที่ 7 พ.ย. 65  ในข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป”

จับกุมตัวได้ที่ หน้าบ้านเลขที่ 792 ซอยปรีดีพนมยงค์ 32 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนากรุงเทพมหานคร พฤติการณ์กล่าวคือ หลังเกิดเหตุและได้รับแจ้งเหตุจากผู้เสียหายชุดสืบสวนของ สน.วังทองหลาง ได้สืบสวน จนสามารถยืนยันตัวผู้ร่วมก่อเหตุได้ทั้ง 7 ราย คือ 1. น.ส.สุมิตตรา (สงวนนามสกุล) หรือมะขาม อายุ 23 ปี , 2. น.ส.สุนิตา (สงวนนามสกุล) หรือบัว อายุ 20 ปี , 3. น.ส.จุฑารัตน์ (สงวนนามสกุล) หรือน้ำ อายุ 23 ปี , 4.นายณัฐพงษ์ (สงวนนามสกุล) หรือต้อม อายุ 35 ปี , 5. น.ส.พัญญรัตน์ (สงวนนามสกุล) หรือ 'เซาะ คลองตัน' อายุ 22 ปี , 6.น.ส.ศันศิณี (สงวนนามสกุล) หรือยัด อายุ 23 ปี , 7.น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ซึ่งต่อมาได้มีการดำเนินคดีโดยมีกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ยอมเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนบางส่วน แต่ยังมีอีก 3 ราย ที่ยังหลบหนี คือ น.ส.เซาะ ต่อมาชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMBได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่ารู้สึกไม่ปลอดภัย เนื่องจากพฤติกรรมที่ถูกกระทำนั้นอุกอาจมาก ทำให้เกิดความหวาดระแวงตลอดเวลา ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงได้สั่งการ ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB จับกุมตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีโดยเร็ว ซึ่งจากข้อมูลที่ผู้เสียหายกังวลหนึ่งในผู้ก่อเหตุคือ น.ส.พัญญรัตน์ หรือ “เซาะ คลองตัน” เพราะเป็นผู้ประสานงานให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดในการบุกมาที่บ้านผู้เสียหาย และ น.ส.เซาะ ยังเคยเป็นอดีตแฟนของ นายเอ (นามสมมุติ) ซึ่งปัจจุบัน นายเอ กำลังคบหาอยู่กับผู้เสียหาย และปัจจุบัน น.ส.เซาะ ยังคงหลบหนีอยู่ โดยหลังรับแจ้ง ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้สืบสวนจนทราบว่าที่พักอาศัยของ น.ส.เซาะ ต่อมา 10 พ.ย. 65 ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. จึงได้เดินทางไปจับกุมตัวตามหมายจับ ได้มีการนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยในชั้นจับกุมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบโดย น.ส.พัญญรัตน์ หรือ “เซาะ คลองตัน” ในชั้นจับกุม “เซาะ คลองตัน” ให้การภาคเสธ โดยรับสารภาพในข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน”เพราะได้เข้าไปบ้านของคู่กรณีจริง แต่ปฏิเสธในข้อหา “โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป” 

‘สืบนครบาล’ รวบ ‘ปุยนุ่น’ แม่ค้าออนไลน์ หลอกขายอาหารเสริมฯ เสียหายกว่า 5 ล้านบาท

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยต่อมาชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนทางเพจ ‘สืบสวนนครบาล IDMB’ ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัว นางสาวปุยนุ่น คนระแหง ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นตัวการในการเปิดบัญชีเฟซบุ๊กหลอกขายอาหารเสริมประเภทคอลลาเจนเม็ดยี่ห้อ JOJU, โลชั่นทาผิวยี่ห้อออร่าไวท์, เซรั่มสตอเบอรี่ลดริ้วรอยยี่ห้อ Yerpall, สบู่ใบบัวบกยี่ห้อ Chariya, เซรั่มทาบำรุงผิวยี่ห้อโดสแดง นาโนไวท์โดส 

โดยใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี ‘ปุย นุ่น (อาฟิวส์)’, ชื่อบัญชี ‘สุมินตรา สุนาชัย’, ชื่อบัญชี ‘นุ่น นนนนนน’, ชื่อบัญชี ‘มณีรัตน์ ทองคำ’, ชื่อบัญชี ‘ศิรินันท์ ภูมิใจ’ ในการโพสต์หลอกขาย จนมีชื่อติดในติดแบล็กลิสต์ บัญชีคนโกง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 เวลาประมาณ 12.30 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่, พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี, พ.ต.อ.กมล นุ่มหอม รอง ผบก สส.บช.น., พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น, พ.ต.ต.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., ร.ต.อ.ธนพล มโนสร รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้สืบสวนติดตามจับกุมตัว นางสาวมณีรัตน์ ทองคำ หรือ ‘นุ่นศรี’ หรือ ‘ปุย นุ่น (อาฟิวส์)’ หรือ ‘สุมินตรา สุนาชัย’ หรือ ‘นุ่น นนนนนน’ หรือ ‘มณีรัตน์ ทองคำ’ หรือ ‘ศิรินันท์ ภูมิใจ’ อายุ 19 ปี ที่อยู่ 158 หมู่ 4 ตำบลบ้านมุง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก 

โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน ‘ฉ้อโกง และมาตรา 14 วรรคสอง (1) ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550’

พบหมายจับจำนวน 2 หมาย ประกอบด้วย
1. หมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ จ 486/2565 ลงวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ‘ฉ้อโกง และมาตรา 14 วรรคสอง (1) ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550’ ท้องที่ สภ.ช้างเผือก ภ.จว.เชียงใหม่

2. หมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง (สาขามีนบุรี) ในความผิดฐาน ‘ไม่มาศาลตามกำหนดนัด’ ในคดีที่ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ‘ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน’ ตามหมายจับระหว่างพิจารณา ที่ 21/2565

จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณหน้าที่พักคนงานริมถนนเทศบาล 7 หมู่ 4 ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหารับสารภาพว่าตนเองเป็นคนพื้นเพเกิดที่จังหวัดพิษณุโลก เรียนจบชั้น ป.6 ย้ายมาอาศัยในพื้นที่ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่อายุ 12 ปี โดยสารภาพว่าก่อนที่จะมาเริ่มก่อเหตุ เคยทำอาชีพขายครีมบำรุงผิวผ่านทางออนไลน์ แต่เมื่อประสบปัญหาหมุนเงินไม่ทัน จึงรับออเดอร์ลูกค้ามาแล้วนำเงินไปหมุนใช้จ่ายอย่างอื่นแทนก่อน เมื่อถึงกำหนดส่งสินค้าตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งก็ไม่สามารถหาสินค้ามาส่งให้ลูกค้าได้ จึงไปซื้อสินค้าชนิดอื่น เช่น แชมพูราคาถูก, น้ำดื่มในร้านสะดวกซื้อ หรืออื่น ๆ ที่สามารถหาได้ส่งให้ลูกค้าแทนสินค้าที่ต้องการ เมื่อเห็นว่าได้กำไลดีจึงหลงผิดทำต่อเนื่องเรื่อยมา 

'สืบนครบาล' รวบเสี่ยณัฐพระโขนงหลอกนำทองปลอมหลอกขายพริตตี้สาว

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบที่กระทำความผิดสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก  ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMBได้รับแจ้งเรื่องความเดือนร้อนจากประชาชนอาชีพพริตตี้ถูกคนร้ายนำทองปลอม น.น. 2 บาท มาหลอกขาย เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายจำนวน 30,000 บาท  และจากการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์คนร้ายที่ก่อเหตุเคยถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และฉ้อโกงมาแล้ว 2 ครั้ง 

ต่อมาวันที่ 26 ธันวาคม 2565 เวลาประมาณ 18.30 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ , พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี , พ.ต.อ.กมล นุ่มหอม รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ  ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พร้อมด้วยชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB และเจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯบก.สส.บช.น. ได้สืบสวนติดตามจับกุมตัว 

นายณัฐอินทร์ทัช อายุ 34 ปี ที่อยู่ เลขที่ 7 ซอยวชิรธรรมสาธิต 74 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ โดยกล่าวหาว่าฉ้อโกง ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 622/2565 ลงวันที่  2 กันยายน พ.ศ.2565 สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณลานจอดตลาดรถวิน ภายในซอยศรีนครินทร์ 40 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร

จากการซักถามปากคำในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธว่าเมื่อ มิ.ย.65 ตนไม่ได้มีเจตนาที่จะนำทองปลอมน้ำหนัก 2 บาท มาเสนอขายให้แก่พริตตี้สาวผู้เสียหาย แต่ทองดังกล่าวอ้างว่าตนได้มาจากการรับซื้อมาจากคนที่เล่นเสียพนัน โดยในวันเกิดเหตุเมื่อตนได้ทองมาจากผู้เล่นเสียพนันให้ตนแล้ว ตนได้นัดพริตตี้สาวให้มาพบ ต่อมาตนมีธุระที่จะต้องใช้เงินด่วนจึงได้เสนอให้พริตตี้โอนเงินเข้าบัญชีตนจำนวน 30,000 บาท เพื่อแลกกับสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนมิได้ปักใจเชื่อคำให้การ เนื่องจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าผู้ต้องหาเป็นคนที่มีความรู้ด้านการสั่งทำกรอบพระ สั่งทำเครื่องประดับ ที่ทำจากเงินและทองไม่บริสุทธิ์ โดยมีร้านรับทำกรอบพระย่านศรีนครินทร์เป็นของตนเอง จึงมีความรู้ในการสั่งซื้อสั่งทำเครื่องประดับ รวมทั้งรู้แหล่งซื้อทองปลอมราคาหลักพัน ประกอบกับเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์กระทำความผิดของผู้ต้องหาพบว่าก่อนหน้าที่จะมาถูกจับกุมในครั้งนี้ ผู้ต้องหาดังกล่าวเคยถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง และ ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน มาแล้ว 2 ครั้ง คือ

ผบ.เด่นสั่งสืบนครบาลแกะรอยรวบตั้ม ร่มเกล้ายอดฝีมือตัวลักรถจักรยานยนต์จำนวนมากทั่วเมืองกรุง

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ส่งทีมลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลเฝ้าแกะรอยขบวนการลักรถจักรยานยนต์ตามหอพัก และแฟลตตามชุมชนต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับให้ ตร.ดูแลประชาชนผู้หากินสุจริต และรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคม เนื่องจากรถจักรยานยนต์เป็นเครื่องมือในการทำมาหากินของคนรากหญ้า โดยจากการสืบสวนภาพกล้องวงจรปิดพบมีวิธีการลักรถจักรยานยนต์ที่เป็นที่นิยมในท้องตลาด คือจะทำการถีบคอรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย พร้อมทำการต่อสายตรง โดยการสืบสวนพบว่านายตั้ม ร่มเกล้าเป็นตัวลักมือฉมังตระเวนก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ทั่วเมืองกรุง พร้อมดำเนินการเร่ง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานโจรกรรมรถ ให้ สืบสวนนครบาลติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมาย ทั้งขบวนการ

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระรองออย รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1 บช.น. , พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บช.น. , พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.พิสิฐ เตชะ สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายบุญฤทธิ์ หรือตั้ม โชคสิริ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 ม.5 ต.หนองนาแซง อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ ผู้ต้องหา ตามหมายจับในคดี “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหน้า หรือจำหน้าได้”

โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหอพักพฤกษาเฮ้าส์ ห้องพักเลขที่ 106 ซอยเคหะร่มเกล้า 20 แขวงสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ พร้อมของกลาง ได้แก่
1. เสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะก่อเหตุจำนวนทั้งสิ้น 11 ตัว
2. คีบตัดเหล็กที่ใช้ตัดดิสล็อคล้อ หรือ สายเหล็กคล้องล้อ
3. ค้อน ไขควง คัดเตอร์ ที่ใช้งัดแงะรถคันประทุษร้าย
4. สายไฟต่อตรง 5 เส้น
5. กุญแจรถมอเตอร์ไซค์คันที่ถูกลัก 5 คัน
6. ทะเบียนรถคันที่ถูกลักมาจำนวน 2 แผ่น
6.1 9กข 3090 นายศักดิ์สิทธิ์ จันยุทา เจ้าของทรัพย์แจ้งรถจักรยานยนต์หายไว้ที่ สน.ลาดกระบัง
6.2 4ขธ 8215 นางสาวบุษบา พลพวก เจ้าของรถ แจ้งความหายไว้ที่ สน.โคกคราม วันที่ 9 ก.พ. 2566 15.00 น.
7. แม่กุญแจที่ใช้คล้องล้อรถ 6 ดอก
8. เอกสารเกี่ยวกับรถที่ถูกลัก 7 คัน

‘สืบนครบาล’ ขอเกาะกระแส ดึกๆ เห็นน้องกี้ไปแว้นกับผู้ใหม่ที่ไหน โปรดแจ้งเบาะแส รับค่าตอบแทนรายละ 3,000 บาท

(10 เม.ย.66) ดังไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ กับเพลงดังล่าสุด ที่คาดการณ์ว่าจะครอบครองพื้นที่งานสงกรานต์ทั่วไปทั้งประเทศไทย สำหรับ ‘ธาตุทองซาวด์’ ของ ยังโอม หรือ โอม-รัธพงศ์ ภูรีสิทธิ์ ที่ปล่อยอัลบั้มเต็มชื่อ ธาตุทองซาวด์ ที่รวบเพลงไว้ถึง 19 เพลง

เรียกได้ว่าเพลงนี้เป็นกระแสที่ใครๆ ต้องขอเกาะตามเทรน์สักหน่อย โดยเฉพาะท่อน “อีกี้นี้มันเป็นสก้อย ไปกับผู้บ่อย ผู้พาไป skrt” ที่สุดปัง ทำเอาสาวๆ โคฟเป็น “อีกี้” กันทั้งบ้านทั้งเมือง

‘สืบนครบาล’ เผย รวบแล้ว ‘แก๊งอุ้มขแมร์’ ค้นบ้านขู่กรรโชกเงิน 3.1 ลบ. ชี้ ใช้วิธีแอบอ้างเป็น กอ.รมน.-เจ้าหน้าที่กองปราบ

(23 เม.ย.66) เพจ ‘สืบนครบาล’ โพสต์คลิปวิดีโอ ความยาว 51 วินาที เผยให้เห็นชายกลุ่มหนึ่ง เดินอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง โดยแต่งตัวคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งพบว่าหนึ่งในกลุ่มคนที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินถือถุงกระดาษที่ภายในบรรจุเงินกว่า 3 ล้านบาทออกมาจากบ้านด้วย

โดยได้ระบุข้อความว่า “คลิปวงจรปิด…มัดตัว! กองปราบเก๊ กับ กอ.รมน.ปลอม ร่วมกรรโชกเงินจำนวน 3.1 ล้านบาท

สืบนครบาล สืบ บก.น.4 และ สน.หัวหมาก ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหากรรโชกเงินจำนวน 3.1 ล้านบาท นำส่ง สน.หัวหมาก ดำเนินคดี

ผบช.น. สั่งประสานหน่วยงานที่ถูกแอบอ้างขยายผลถึงที่สุด”

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในวันเดียวกันนี้ ทางเพจสืบนครบาล ได้รายงานเพิ่มเติมว่าสามารถจับตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้ระบุข้อความว่า

“สืบนครบาล ร่วม สืบ บก.น. 4 และ สืบ สน.หัวหมาก รวบ “แก๊งอุ้มขแมร์” แอบอ้างเป็น กอ.รมน. และกองปราบ ค้นบ้านกรรโชกเงิน 3.1 ล้านบาท

โดยเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 66 เวลาประมาณ 12.30 น. ขณะที่ผู้เสียหายได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านพักที่เกิดเหตุ ได้มีชายจำนวน 4 คน แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กอ.รมน. และเจ้าหน้าตำรวจกองปราบ มาขอทำการตรวจค้นบ้านหลังที่เกิดเหตุ และได้แจ้งแก่ผู้เสียหายว่าได้กระทำความผิดฐาน ยักยอก ต่อมาได้เรียกรับเงินจากผู้เสียหายเป็นจำนวนเงิน 3,100,000 บาท หลังจากนั้นได้หลบหนีไป

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่ร่วมกันก่อเหตุและทำการจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ได้แก่ นาย นายยะฝาด (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี, นาย ธนพัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี, และ นาย ธนมงคล (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี พร้อมของกลางเป็นทองคำรูปพรรณน้ำหนักรวม 9 บาท และเงินสด 250,000 บาท โดยในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา”


ที่มา : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9660000037453

สืบนครบาลรวบยุทธ ท่าเรือ หลอกลงทุนอ้างให้ผลตอบแทนคิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ต่อปี

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลร่วมกับชุด PCT5 ได้รับแจ้งเบาะแสพฤติกรรมของยุทธ ท่าเรือ หลอกให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนระดมทุน โดยอ้างให้ผลตอบแทนคิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ต่อปี หรือ 10 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือนเป็นอย่างน้อย โดยใช้วิธีการให้นักลงทุนหรือลูกค้ามาทำสัญญาคู่ค้าร่วมหรือกิจการร่วมค้า และให้ค้ำประกันเป็นสลากออมสิน แต่มิได้บอกว่าสลากออมสินนั้นเปิดเป็นประเภทบุคคลธรรมดา โดยมีชื่อเป็นผู้ทรงตั๋วร่วมกับเจ้าของเงินด้วย ซึ่งถ้าเจ้าของเงินที่หลงเชื่อร่วมลงทุนไม่เข้าใจระบบการเงินจะตกเป็นเหยื่อทันที โดยผู้ก่อเหตุไม่แจ้งข้อมูลนี้ให้ผู้ที่หลงเชื่อร่วมลงทุนทราบ รวมทั้งมีพฤติการณ์หลอกให้ผู้เสียหายโอนค่าดำเนินการต่างๆ เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าทนาย ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย กว่า 2 ล้านบาท

จากการตรวจสอบประวัติของบุคคลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนพบข้อมูลว่ามีหมายจับที่ต้องการตัวเพื่อดำเนินคดีอยู่ 2 หมายจับ คือ 

พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) ได้เร่งรัดให้ดำเนินการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วเนื่องจากมีพฤติการณ์ที่เป็นภัยต่อประชาชนในสังคม

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566  พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./  หน.PCT ชุดที่ 5  พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง  , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมชุด PCT5  ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว 

นายศักย์ศรณ์ หรือศรณ์ หรือยุทธ ท่าเรือ  สิทธิศักดิ์ อายุ 47 ปี อยู่ที่ 828 ถนนเทศบาล 5 ตำบลท่าเรือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1826/2565 ลงวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ”  

โดยสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่บริเวณชั้น 2 ของอาคารจอดรถภายในห้างสรรพสินค้าเดอะ สตรีท รัชดา ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยไม่ให้ความร่วมมือที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม 

จากการตรวจสอบข้อมูลผู้เสียหายที่ได้มีการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนไว้พบมูลค่าความเสียหายของผู้เสียหายแต่ละราย รายละกว่า 900,000 บาท มูลค่าความเสียหายร่วมกว่า 2,000,000 บาท ซึ่งเมื่อวิเคราะห์จากพฤติการณ์ก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายที่เคยถูกก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้อีก ตลอดจนเชื่อว่ามีผู้ที่อยู่ระหว่างถูกก่อเหตุ หรือเริ่มสงสัยในพฤติกรรมของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมรายอีก 

ทลายโรงชำแหละรถโจร แก๊ง 'มาม่าซัง-สายมู' สืบนครบาลขยายผล จาก 'เซเลบเก๊' หลอกหญิงก่อนขโมยรถส่งขายโรงชำแหละ

วันที่ 5 พ.ค. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำทีม พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดที่ 5 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 , ชุดสืบสวนนครบาล แถลงผลการจับกุม ตัวสองสามีภรรยาซึ่งเป็น 'หัวหน้า' เครือข่ายคือ นางสมนึก ขุนทอง อายุ 65 ปี (มาม่าซัง) อยู่บ้านเลขที่ 95 ม.3 ต.จอมประทัด อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1339/2566 ลงวันที่ 3 พ.ค. 66

น.ส.กนกวรรณ ขุนทอง อายุ 41 ปี (ลูกสาว) อยู่บ้านเลขที่ 14 ซ.นนทบุรี 6 แยก 6/2 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1338/2566 ลงวันที่ 3 พ.ค. 66 น.ส.นฤมล สังขนัครา อายุ 19 ปี (หลานสาว) ซึ่งเป็น steammer game online สายเซ็กซี่) อยู่บ้านเลขที่ 95 ม.3 ต.จอมประทัด อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1337/2566 ลงวันที่ 3 พ.ค. 66 นายรุ้ง ศรีบุญเพ็ง อายุ 47 ปี (ลูกเขย) อยู่บ้านเลขที่ 763/8 ม.19 ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1340/2566 ลงวันที่ 3 พ.ค. 66 ข้อหาร่วมกันรับของโจรอันเป็นการค้ากำไร โดยจับกุมได้ที่ หน้าบ้านเลขที่ 95 ม.3 ต.จอมประทัด อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี 

พร้อมของกลาง รถยนต์ ยี่ห้อ Toyota รุ่น Yaris ติดป้ายแผ่นทะเบียน 7042 ฉะเชิงเทรา รถยนต์ยี่ห้อ Mitsubishi รุ่น Mirage ติดป้ายแผ่นทะเบียน กว 7159 นครสวรรค์ รถยนต์ยี่ห้อ Toyota รุ่น Fortuner ติดป้ายแผ่นทะเบียน ขฉ 5190 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ยี่ห้อ Honda รุ่น City ติดป้ายแผ่นทะเบียน ขห 2489 เชียงใหม รถยนต์ยี่ห้อ mazda 3 ติดป้ายแผ่นทะเบียน ศอ5206 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น ซิตี้ สีดำ ติดป้ายแผ่นทะเบียน กจ 9257 เลย รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น ยาริส สี เทา ติดป้ายแผ่นทะเบียน 2ขอ 3198 กทม รถยนต์ยี่ห้อ นิสสัน รุ่น อัลเมร่า สีขาว ติดป้ายแผ่นทะเบียน 6กฆ 1135 กทม. รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส สีเทา ติดป้ายแผ่นทะเบียน กพ4693 ภูเก็ต

​พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่จับกุมตัว นายภีรพัฒน์ บุญมี อายุ 26 ปี หรือ อุ้ม หรือ อั้ม หรือ พอช หรือ พัด หรือ แซ็ค หรือ แร็ค ผู้ต้องหาตามหมายจับ 7 หมายจับ ซึ่งคนร้ายรายนี้ได้แฝงตัวอยู่ในแอ็พพลิเคชั่นหาคู่ สร้างโปรไฟล์เป็น “เซเลบเก๊” ทำการ “นัดยิ้ม” กับเหยื่อที่เป็นหญิงสาวและจะอาศัยจังหวะที่เหยื่อนอนหลับไป “ขโมยรถ” ของเหยื่อไปขายให้กับกลุ่มผู้ค้ารถเถื่อน 

ภายหลังจับกุม พล.ต.ต.ธีรเดช ได้ขยายผล จนสืบทราบเบาะแสว่ารถยนต์ของเหล่าหญิงสาวผู้เสียหายที่ถูกเซเลบเก๊รายนี้ขโมยไปนั้น ถูกนำไปขายให้กับ “มาม่าซัง” ย่านบางบัวทอง เป็น “สายมู” ที่ชื่นชอบดูดวง จากแนวทางการสืบทราบว่า มาม่าซัง คือ นางสมนึก ขุนทอง ที่มีผู้ร่วมขบวนการ เป็นลักษณะ “ธุรกิจครอบครัว”

จากแผนประทุษกรรมของแก๊งนี้ จะเปิดกิจการร้านนวดบังหน้า และใช้พื้นที่ด้านหลังร้าน เป็นสถานที่ซุกซ่อนรถที่ไปรับซื้อจากเหล่ามิจฉาชีพ หรือรถที่หลุดจำนำ ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการ “ชำแหละ” แยกอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งภายในโรงชำแหละ พบมีเครื่องไม้เครื่องมือในการแยกชิ้นส่วนรถยนต์ เรียกได้ว่า “ครบวงจร” ก่อนจะนำชิ้นส่วนรถขายทอดตลาด จากการสืบสวนแก๊งมาม่าซัง จะรับรถเข้ามาโดยเฉลี่ยแล้วสัปดาห์ละไม่น้อยกว่า 5 คัน และเป็น “เจ้าใหญ่”

ได้ไม่คุ้มเสีย! สืบนครบาลรวบสาวกลางอนุสาวรีย์ชัย รับจ้างเปิดบัญชีม้า เช็กประวัติมีหมายจับเพียบ

วันที่ 7 พ.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดที่ 5 , พร้อมด้วย พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี , พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ , พ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกะแจะ ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) นำกำลังจับกุม น.ส.ชัญญานุช ใคร่ครวญ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107/7 หมู่ที่ 6 ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ตามหมายจับกว่า 10 หมายจับ 

ประกอบด้วย หมายจับศาลจังหวัดยโสธรที่ จ.76/2565 ลงวันที่ 9 ส.ค. 65 หมายจับศาลจังหวัดพังงาที่ จ.222/2565 ลงวันที่ 28 ก.ย. 65 หมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ จ.631/2565 ลงวันที่ 15 พ.ย. 65 หมายจับศาลจังหวัดราชบุรีที่ จ.328/2565 ลงวันที่ 13 ธ.ค. 65 หมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.531/2565 ลงวันที่ 29 ธ.ค. 65 หมายจับศาลจังหวัดเกาะสมุยที่ จ.10/2566 ลงวันที่ 12 ม.ค. 66 หมายจับศาลอาญาที่ 75/2566 ลงวันที่ 12 ม.ค. 66 หมายจับศาลอาญาที่ จ.166/2566 ลงวันที่ 16 ม.ค. 66 หมายจับศาลอาญาพระโขนงที่ จ.168/2566 ลงวันที่ 23 มี.ค. 66 และหมายจับศาลจังหวัดกระบี่ที่ จ.147/2566 ลงวันที่ 24 มี.ค. 66 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน จับตัวได้ที่ “กลางถนน” บริเวณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี จ.กรุงเทพ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top