Friday, 10 May 2024
สืบนครบาล

สืบนครบาลขยายผลเครือข่ายเอี้ยก้วยทลายการลักลอบลำเลียงยาเสพติด กว่า 1.3 ล้านเม็ดเข้าสู่กลางมหานคร

ตามนโยบายรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตระหนักถึงปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นภัยคุกคามและเป็นหนึ่งในปัญหาชาติที่สำคัญ ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจัง 

เมื่อวันที่ 12  พฤษภาคม  2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ผอ.ศอ.ปส.ตร.), พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.สําเริง สวนทอง รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ชป.5 ศอ.ปส.ตร , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ, พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.กก.สส.2 บก.สส.บช.น.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวน 2 ทำการสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่รายสำคัญ ให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดแพร่กระจายลงสู่ชุมชน  โดยได้ร่วมทำการจับกุม

1. นายชัยคุปต์ หรือเบีย   แต้มดี    อายุ 41 ปี ที่อยู่ 160/137 ม.5 ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
2. นายสุวิชา หรือไมค์     มุสิกะคุณ  อายุ 40 ปี  ที่อยู่ 85/10 ม.1 ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี

พร้อมของกลาง

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 1,395,000 เม็ด

2. รถยนต์กระบะสี่ประตู ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นไฮลักซ์วีโก้ สีขาว  ทะเบียน ฆอ 372 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน

โดยกล่าวหาว่า “ จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป ”

สถานที่จับกุม   บริเวณริมถนนติวานนท์ หน้าร้านเซ็งซิมอี้ ฮกหลีจีน ปากซอยติวานนท์ 14/2 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ  21.20 น.

‘ตร.’ บุกจับ คู่ผัวเมียสอนเทรด ตุ๋นลูกศิษย์ลงทุน-เก็งกำไร อ้างไม่ได้ตั้งใจโกง แต่ตรวจพบมีประวัติเคยฉ้อโกงติดตัว

วันที่ (29 มิ.ย. 66) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./ หัวหน้าชุด PCT 5, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง, พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก สส.บช.น., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าว/ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์, พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าว/ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าว/ บก.สส.บช.น. ร่วมกับ พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม น.ส.ธรรยชนก อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.300/2565 ลงวันที่ 26 ส.ค. 65 และนายกนก หรือ ‘นายเก้าทัพ’ อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.209/2565 ลงวันที่ 17 มี.ค. 66 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” จับกุมตัวได้ที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 12 ตำบลท่าสาย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากช่วงเดือน ส.ค. 62 กลุ่ม K1FX Trader Club ได้มีการประชาสัมพันธ์ในช่องทางออนไลน์ว่า ได้มีการจัดตั้งบริษัทกองทุนชื่อ ‘Ascension Wealth’ มีระบบการลงทุนที่ปลอดภัย รับผลกำไรที่ยั่งยืน ด้วย Copy Trade Investment โดยมีการการันตีผลตอบแทนขั้นต่ำเดือนละ 5 % ของเงินต้น และมีการประกันเงินทุน 100% พร้อมด้วยกรมธรรม์คุ้มครองการลงทุน ทำให้กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อมั่นว่า บริษัทกองทุนดังกล่าวมีการแบ่งปันผลกำไรได้จริง จึงได้มีการลงทุนรวมเป็นเงินกว่า 24 ล้านบาท

ต่อมาโบรกเกอร์ FTG ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ที่นายกนก ใช้ได้ปิดตัวลง ผู้เสียหายได้สอบถามขอดูข้อมูลจากนายกนก แต่นายกนกก็ไม่ให้ข้อมูลใดๆ แก่ผู้เสียหาย หลังจากนั้นผู้เสียหายก็ติดต่อกับนายกนกฯยากขึ้น และไม่ได้รับผลตอบแทน ซึ่งต่อมาผู้เสียหายได้พยายามติดต่อกับนายกนก เรื่อยมาเพื่อขอทุนคืน แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงเชื่อว่าถูกฉ้อโกงเงิน จึงได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม เพื่อดำเนินคดี

กระทั่งศาลจังหวัดนครปฐมได้พิจารณาออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งคู่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ สืบนครบาล ร่วมกับชุด PCT5 จึงรีบทำการสืบสวนหาเบาะแส จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายดังกล่าวมาดำเนินคดีได้

จากการสอบสวน น.ส.ธรรยชนก หรือโดนัท ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า นายกนก หรือเคน หรือนายเก้าทัพ สามีเป็นคนเอาบัญชีธนาคารตนไปรองรับเงินที่ผู้เสียหายลงทุนเทรดเก็งกำไรค่าเงิน (Forex) ส่วนนายกนก หรือเคน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้ข้อมูลว่าเดิมทีตนเองรับราชการ มีความรู้และสนใจเรื่องการลงทุนเทรดเก็งกำไรค่าเงิน (Forex) จึงได้ตัดสินใจลาออกจากราชการเพื่อมาทำธุรกิจเรื่องการลงทุนเทรดเก็งกำไรค่าเงิน (Forex) อย่างเต็มตัว

นายกนก หรือเคน หรือนายเก้าทัพ ให้การอ้างว่า ความจริงแล้วตนไม่ได้มีเจตนาที่จะฉ้อโกงผู้เสียหาย แต่เนื่องจากประสบปัญหานำเงินที่ได้จากผู้เสียหายไปลงทุนนั้นขาดทุนซึ่งตนพยายามที่จะชดใช้คืนผู้เสียหายแต่ละรายอยู่ และไม่ได้หลบหนีไปไหน พร้อมที่จะเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

จากการตรวจสอบประวัติคดีของ น.ส.ธรรยชนก ในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่าปัจจุบัน ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 502/2564 ลงวันที่ 17 ส.ค.2564 กระทำความผิดฐาน ‘ฉ้อโกง’ ท้องที่ สภ.คูคต อีก 1 หมายจับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานแจ้งให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบดำเนินการอายัดตัวผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ตลอดจนการลงทุนต่างๆ มีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ชัดเจนก่อนทำการลงทุน ตลอดจนขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย ควรมีสติวิเคราะห์ถึงพฤติกรรม กลโกง

หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ ‘สืบสวนนครบาล IDMB’ ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.
 

ความสำเร็จโครงการการสืบสวนสอบสวนยุค 5G ระหว่าง นักศึกษาธรรมศาสตร์ กับสืบนครบาล

เมื่อวันที่  25  สิงหาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ประธานพร้อมด้วย ดร.ญาดา เดชชัย เธียรประสิทธิ์ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์  ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. , ผกก.สส.1-4 บก.สส.บช.น. , ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ , ผกก.ฝอ.ฯ , คณะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะครูพี่เลี้ยงจากสืบนครบาล,สถานีตำรวจนครบาล ห้วยขวาง ลุมพินี พระโขนง และพญาไท ที่ร่วมโครงการฯ และคณะอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ร่วมพิธีปิดโครงการ การสืบสวนสอบสวนยุค 5G ห้องปฏิบัติการกฎหมาย Special Law Lab "Young Lawyers - Police Engagement (YLPE) Project (TU Law and Royal Thai Police) รวม 14 วัน
ณ ห้องประชุมอัจฉริยะ ชั้น 4 บก.สส.บช.น.

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้รับชมการรายงาน สรุปผลการศึกษางานพร้อมทั้งมอบประกาศนียบัตร ให้แก่นักศึกษาผู้เข้าร่วมโครงการฯ

นักศึกษาผู้เข้าร่วมโครงการ กล่าวแสดงความในใจว่า ได้เข้าใจชีวิตตำรวจ และการทำงานของตำรวจที่ไม่เคยรู้ ว่าหนัก เครียด ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะหน้างานสืบสวน ของสืบนครบาล ต้องมีความอดทน เสี่ยงอันตราย  อยากให้โครงการนี้ มีการขยายผลต่อไปอีก และขอบคุณ ท่านพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ตลอดจนผู้การจ๋อ และคณะครูพี่เลี้ยงสืบนครบาล

จุดจบคนโกง สืบนครบาลรวบ 'ป้าประยูร' บัญชีม้าติด แบล็กลิสต์ หลอกขายเสื้อวงศิลปินเกาหลี อ้างว่าเอาบัญชีจำนำไว้

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้สุจริต ชุดลาดตระเวนออนไลน์ได้สืบสวนหาข่าวพบว่ามีมิจฉาชีพใช้บัญชีม้าธนาคาร หลอกขายเสื้อของวง 'Got7'และเป็นเสื้อของศิลปินดัง 'Jackson Wang' ให้กับเยาวชนเป็นจำนวนมาก เจ้าตัวอ้างว่าเปิดบัญชีแล้วได้นำบัญชีไปจำนำไว้เป็นเงิน 7,000-8,000 บาท 

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์  พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. สั่งการให้ ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. นำโดย พ.ต.ต.ทศรัสมิ์ กิติธารา สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ชุดปฏิบัติการที่ 4 สืบสวนจับกุม นางประยูร จินดา อายุ 57 ปี อยู่ 14 ม.8 ต.อุ่มเม้า อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 183/2566 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2566 คดีอาญาที่ 973/2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

สามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านเช่าไม่ทราบเลขที่ ภายในซอยชุมชนวัดมะกอกกลางสวน ซ.9 แขวงและเขต พญาไท กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากมีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่ง หลอกขายบัตรเสื้อผ้าของเหล่าศิลปินเกาหลีชื่อดัง โดยใช้ชื่อบัญชีรับโอนเงินชื่อบัญชี “นางประยูร จินดา”  ตำรวจสืบสวนนครบาลจึงได้ทำการตรวจสอบพบว่า ชื่อบัญชีดังกล่าวมีประวัติในแบล็กลิสต์บัญชีคนโกงของเว็บไซต์ “www.blacklistseller.com” จำนวน 14 รายการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนหาข้อมูล นางประยูร จนสืบทราบว่า นางประยูร ได้มีการหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่ง เมื่อพบผู้ต้องหาจึงได้แสดงตัวจับกุมตัวพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมาย ให้นางประยูรทราบ

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าได้มีการเปิดบัญชีแล้วได้นำบัญชีดังกล่าวไปให้กับเพื่อนในที่ทำงาน โดยเป็นการนำบัญชีไปจำนำไว้ และได้เงินจากการนำบัญชีไปจำนำเป็นเงิน 7,000-8,000 บาท หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการไปนำบัญชีของกลับมาเลย

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่ง สภ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สืบนครบาลรวบใบเฟิร์นเน็ตไอดอลชื่อดังหลอกลงทุนร้านทำเล็บ จนมุมกลางห้างดัง

“ใบเฟิร์นเน็ตไอดอลดังถ่ายแบบเป็นอินฟลูเอนเซอร์ โปรไฟล์ IG ของเธอจึงมีผู้ติดตามกว่า 120,000 คน โพสภาพคู่กับรถหรูและดาราผู้มีชื่อเสียงอีกหลายๆคน สร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนตุ๋นเหยื่อหลอกลงทุน “ร้านตัดผมและร้านทำเล็บ” โดยมีเหยื่อหลงเชื่อร่วมลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ราย ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ก่อนหายเข้ากลีบเมฆ ผู้เสียหายและทีมงานทนายความชื่อดังประสสนขอความช่วยเหลือกับ น .1 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. โดย เกรงว่าจะมีประชาชนเดือดร้อนเพิ่ม จึงสั่งการให้สืบนครบาลเร่งรัดสืบสวนหาตัว จนกระทั่งทราบเบาะแสว่าหนีมาเข้าถ้ำเสือนครบาล อยู่ใน กรุงเทพ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หัวหน้าชุด PCT5 ส่งชุด PCT5 และ สืบนครบาล ตระเวนปลอมตัวเป็นเอเจนซี่แฝงตัวตามคอนโดหรูย่านทองหล่อ กระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ โดยเธอเผยกับชุดจับกุมว่า “ตอนนี้ตนพยายามหา ซื้อของแบบซื้อมาขายไป หวังว่าถ้ามีเงินก็จะนำไปทยอยคืนให้กับผู้เสียหาย”

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ , ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สืบนครบาล ,ตำรวจ PCT5 และ พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ ผัดก๋า รอง ผกก.สส.สภ.สันกำแพง  จว. เชียงใหม่ กับพวกได้ร่วมจับกุม

น.ส.มณฑิรา อินทร์สุวรรณ หรือ “ใบเฟริน” อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน ผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 หมายจับ ดังนี้

1.หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ.997/2566 ลงวันที่ 5 ต.ค. 66 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” (สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่)
2.หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ.1073/2566 ลงวันที่ 26 ต.ค. 66 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” (สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่)

โดยกล่าวหาว่า ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

พฤติการณ์กล่าวคือ ตำรวจชุด PCT5 และชุดสืบนครบาล ติดตามไล่ล่า “เน็ตไอดอลดัง อักษรย่อ บ.” หลังเธอได้ตระเวนก่อเหตุ หลอกลวงให้ลงทุน “ร้านตัดผมและร้านทำเล็บ” โดยมีเหยื่อหลงเชื่อร่วมลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ราย ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ด้วยเธอเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างหน้าตาดีและยังเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ออกรายการทีวีต่างๆ ถ่ายแบบ เป็นอินฟลูเอนเซอร์ โปรไฟล์ IG ของเธอจึงมีผู้ติดตามกว่า 120,000 คน และในเฟสบุ๊คของเธอยังมีการโพสภาพคู่กับรถหรูและดาราผู้มีเชื่อเสียงอีกหลายๆคน สร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้มาสอดส่องโปรไฟล์เธอเป็นอย่างดี กระทั่งช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมาเธอได้เริ่มโพสเชิญชวนให้ร่วมลงทุนเป็นหุ้นส่วนการทำร้านตัดผมและทำเล็บ โดยเสนอเป็นแพ็กเกจต่างๆ ยอดปันผลขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ลงทุน และเมื่อถึงกำหนดก็จะได้เงินปันผล ซึ่งเมื่อเหยื่อหลงเชื่อและตัดสินใจโอนเงินไปร่วมลงทุนกับเธอแล้ว เธอก็ไม่ค่อยตอบข้อความ อ้างว่างานเยอะ ติดงานต่างๆ ส่วนสัญญาที่พิมพ์มาให้เซ็นก็ผิดๆ ถูกๆ หลายครั้ง และเมื่อถึงกำหนดจ่ายเงินปันผลเธอก็จะบ่ายเบี่ยงไม่จ่ายเงิน จนถึงช่วงปลายเดือน มิ.ย. 66 เธออ้างกับเหยื่อว่า บริษัทถูกยักยอกเงิน ทำให้ไม่มีเงินมาคืนให้กับผู้ร่วมลงทุน และหนีหายเข้ากลีบเมฆไป กระทั่งบรรดาเหยื่อที่ร่วมลงทุนกับเธอได้ทยอยเข้าแจ้งความ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ  จำนวน  2 หมายจับ ซึ่งล่าสุดเหยื่อได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่าเจ้าตัวได้หลบหนีมากบดาลในพื้นที่ จ.กรุงเทพฯ เรียกได้ว่าหนีมาเข้าถ้ำเสือนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หัวหน้าชุด PCT5 ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัว โดยมีเพียงเบาะแสว่าเธอ “กินหรูอยู่สบายละแวกทองหล่อ” ชุดสืบสวนตระเวนตรวจสอบแต่ยังคงไร้ร่องรอย กระทั่ง พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ได้เบาะแสจากสายลับว่าเธอควงหนุ่มอยู่ตามห้างดังในพื้นที่ จ.กรุงเทพ จึงตระเวนกระจายกำลังตามห้างดังทั่วกรุงเทพกว่า 5 วัน กระทั่งวันที่ 8 พ.ย. 66 ชุดสืบสวนที่แฝงตัวอยู่ตามห้างได้พบตัวขณะกำลังเดินหาซื้อชุดว่ายน้ำกับหนุ่มชาวต่างชาติ จึงเข้าแสดงตัวและจับกุมตัวเธอได้ โดยจับกุมตัวได้ที่ ห้างยูเนียนมอลล์ แขวงจอมพล เขตจตุจักร จ.กรุงเทพฯ

ในชั้นจับกุม น.ส.มณฑิราฯ หรือใบเฟริน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยภาคเหนือ เปิดร้านทำเล็บอยู่ จ.เชียงใหม่ ล่าสุดเข้ากรุงเทพมาได้เป็นเวลา 3 สัปดาห์แล้วแต่ไม่ได้เป็นการหลบหนี ในทางคดีตนเองเปิดร้านทำปมและเล็บอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ เห็นว่ามีรายได้ดี จึงได้มาร่วมลงทุนร่วมกัน ร้านกู๊ดคัด โดยร่วมลงทุนรายละ 50,000-1,000,000 บาท และเปิดรับลงทุนร่วมรับจำนำของ จากนั้นนำไปขายเพื่อนำเงินมาแบ่งกัน  แต่ช่วงหลังกำไรน้อยมาก และซื้อสินค้ามาขายไม่ค่อยได้ ทำไห้ไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ร่วมลงทุน  ส่วนร้านทำผมเนื่องจากหาช่างไม่ได้ และลูกค้าน้อย ทำให้ไม่มีเงินจ่ายไห้กับผู้ร่วมลงทุน ตอนนี้ตนพยายามหา ซื้อของแบบซื้อมาขายไป หวังว่าถ้ามีเงินก็จะนำไปทยอยคืนให้กับผู้เสีย” หลังจับกุมตัว ได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา และจะมีการขยายผลการจับกุมโดยละเอียด ซึ่งจากข้อมูลที่ได้วิธีการที่ผู้ต้องหารายนี้ใช้หลอกลวง นั้นเริ่มจากการสร้างโปรไฟล์ให้มีความน่าเชื่อถือ ถ่ายภาพคู่รถหรู หรือดาราผู้มีชื่อเสียงคนอื่นๆ จากนั้นการหลอกลวงจึงทำได้ไม่ยากนัก จึงขอเตือนไปยังพี่น้องประชาชนยุคใหม่ว่า การร่วมลงทุนในโลกออนไลน์นั้นมีความเสี่ยง เพราะในปัจจุบันเหล่ามิจฉาชีพจะแฝงตัวอยู่ในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก การตรวจสอบความน่าเชื่อถือจากโปรไฟล์ในโลกออนไลน์นั้นยังไม่เพียงพอ จะต้องศึกษาหรือปรึกษาผู้มีความรู้ทางด้านการลงทุนให้ดีก่อน เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อ และขอเตือนไปยังเหล่ามิจฉาชีพทางออนไลน์ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการระดมปราบปรามผู้กระทำผิดทางออนไลน์อยู่ตลอด ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ฉะนั้นผู้ที่ยังทำหรือคิดจะทำขอเตือนว่า มันไม่คุ้มได้คุ้มเสีย เมื่อได้ลงมือก่อเหตุแล้วและมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้วยังไงก็ต้องถูกจับกุม เพียงแต่จะช้าหรือเร็วแค่นั้นเอง”

สืบนครบาล รวบ 'เต้ย บ้านแพ้ว' แก๊งหลอกรับจำนำรถผ่านสื่อโซเชียล โอนเงินไถ่รถคืนสุดท้ายหายเงียบ

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผู้เดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ให้ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายซึ่งมีพฤติการณ์รับจำนำรถแต่ไม่ยอมคืนรถ

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์, พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก สส.ฯ,, พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ และ พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.สส.3ฯ ได้สั่งการให้  พ.ต.ท.สัญญลักษ์ สังขะภักดี สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 3/1 ดำเนินการจับกุม

นายธนพงษ์ แก้วกำเนิด อายุ 31 ปี ที่อยู่ เลขที่ 31/4 หมู่ที่ 2  ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ 450/2565 ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 

โดยกล่าวหาว่า “ ร่วมกัน ฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันโดยทุจริตนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” 

จากการตรวจสอบพบว่ามีหมายจับในคดีอื่น อีกจำนวน 3 หมาย ดังนี้
1. หมายศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 52/2566 ลง 8 กุมภาพันธ์ 2566 ฐานความผิด "ฉ้อโกงประชาชนและโดยสุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันเป็นความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 83, 341, 343 และ พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(1)
2. หมายศาลจังหวัดมุกดาหาร ที่ จ.155/2566 ลง 17 สิงหาคม 2566 ฐานความผิด "ร่วมกันยักยอก และร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฏหมายกำหนดไว้
3. หมายศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.272/2566 ลง 12 มิถุนายน 2566 ฐานความผิด "ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์"

สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้าน เลขที่ 11/3 ม.3 ต.อำแพง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร นำส่ง สภ.ครบุรี จังหวัดนครราชสีมา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

กล่าวคือ สืบนครบาลได้รับการขอความช่วยเหลือจากประชาชนผ่านเพจ พบว่านายธนพงษ์ (ผู้ต้องหา)กับพวกลงประกาศรับจํานํารถติดไฟแนนซ์ในเฟซบุ๊ก ผู้เสียหายสนใจจึงติดต่อไปและตกลงทําสัญญากู้ยืมเงินโดยมีรถยนต์เป็นหลักประกัน ต่อมาผู้เสียหายต้องการไถ่รถคืน จึงได้โอนเงินให้ผู้ต้องหา หวังว่าจะได้รถยนต์คืนมา สุดท้ายหายเงียบ มูลค่าความเสียหายประมาณ 500,000 บาท พร้อมรถยนต์ อีก 4 คัน โดยกลุ่มคนร้ายมีการก่อเหตุทั้งหมด 4 ครั้ง ใน 4 พื้นที่ ดังนี้
1. เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2565 นายธนพงษ์ ฯ กับพวกลงประกาศรับจำนำรถติดไฟแนนซ์ในเฟซบุ๊กสาธารณะ มีผู็เสียหายเข้ามาติดต่อทำสัญญาโดยมีรถยนต์เป็นประกัน จากนั้นผู้เสียหายต้องการไถ่รถคืน แต่กลับติดต่อใครไม่ได้ (ที่เหตุเกิดจังหวัดมุกดาหาร)
2. วันที่ 14 ต.ค.65 นายธนพงษ์ ฯ กับพวกได้รับจำนำรถกะบะโตโยต้าสีขาวทะเบียนกรุงเทพมหานคร ของผู้เสียหาย ในราคา 85,000 บาท ซึ่งภายหลังผู้เสียหายได้โอนเงินเข้าบัญชีนายนายธนพงษ์ ฯ แต่ไม่ได้รับรถยนต์กระบะคืน (ที่เกิดเหตุทจังหวัดพิษณุโลก)
3. วันที่ 21 พ.ย.65 นายธนพงษ์ฯ กับพวก ได้รับจำนำรถยนต์  มีผู้เสียหายมาติดต่อขอจำนำรถยนต์ โดยนำรถยนต์มาเป็นประกัน จากนั้นผู้เสียหายได้โอนเงิน จำนวน 90000 บาท เพื่อต้องการจะไถ่ถอนรถยนต์คืน แต่กลับไม่ได้รถยนต์คืน และติดต่อผู้ต้องหาไม่ได้ (ที่เหตุเกิดจังหวัดกาฬสินธุ์)
4.วันที่ 25 พ.ย.65  นายธนพงษ์ ฯ กับพวก ได้รับจำนำรถยนต์ มีผู้เสียหายมาติดต่อจำนำรถยนต์์ ยี่ห้อ เรโว่ทะเบียน นครราชสีมา แต่เมื่อผู้เสียหายได้โอนเงินเข้าบัญชีนายธนพงษ์ ฯ 100,000 บาท หวังจะได้รถยนต์คืน กลับติดต่อใครไม่ได้ (ที่เกิดเหตุจังหวัดนครราชสีมา)

จนกระทั่ง วันที่ 5 ม.ค. 67 เวลาประมาณ 19.50 น.เจ้าหน้าที่สืบนครบาล  ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายธนพงษ์ หรือเต้ย แก้วกำเนิด อายุ 31  ปี (ที่อยู่ เลขที่ 31/4 หมู่ที่ 2  ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร) บุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ จ.450/2565 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 ในความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต นำเข้าสู่รับบคอมพิวเตอร์” จับได้ที่บริเวณหน้าบ้าน เลขที่ 11/3 หมู่ 3 ต.อำแพง อ.บ้านแพ้ว จ.สุมทรสาคร และเป็นบุคคลตามหมายจับ อีกจำนวน 3 หมายจับดังกล่าว

จากการซักถามผู้ต้องหา ยังให้การภาคเสธ รับแต่เพียงว่า เพื่อนให้ไปเปิดบัญชีธนาคารและคอยไปกดเงินให้เพื่อน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีการทำเป็นขบวนการและมีผู้เสียหายร้องเรียนเข้ามาหลายคน 

จากนั้น จึงได้ทำบันทึกจับกุมและส่งตัวผู้ต้องหาให้ พงส.สภ.ครบุรี จว.นครราชสีมา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัย ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อในการกู้เงินจากแหล่งเงินกู้นอกระบบ ซึ่งไม่มีความน่าเชื่อถือและไม่ได้รับอนุญาต รวมการค้ำประกันรถยนต์หรือทรัพย์สินทั้งหมด หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

สืบนครบาล ทลายแหล่งปล่อยเงินกู้รับจำรถดอกเบี้ยโหดย่านตรวจยึดรถยนต์และจักรยานยนต์จำนวนมาก

สืบเนื่องจากสืบนครบาลได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก ถึงผู้มีอิทธิพลทำการทวงหนี้นอกระบบ โดยมีสมาชิกในกลุ่มหลายคน มักใช้ความรุนแรง ข่มขู่ ยึดรถและทรัพย์ของลูกหนี้มาเก็บไว้ที่บ้าน จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ทราบ และวางแผนตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าวตามนโยบายของรัฐ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์   รอง ผบ.ตร.(สส) และ พล.ต.ท.สำราญ  นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. 

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.วิชิต  ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1, พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์  รอง ผกก.สส.1 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ปฏิบัติราชการ  สว.กก.สส.1 , พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1 , ร.ต.อ. พลวัต  นาคถมยา  รอง สว.ฯ ,  ร.ต.ท.อัศวิน  มะลัยสิทธิ์ รอง สว.ฯเจ้าหน้าที่สืบนครบาล ได้หมายค้นศาลอาญาตลิ่งชันที่ 22/2567 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ให้ทำการตรวจค้นบ้านบุคคลดังกล่าว ซ.ฉิมพลี 20 แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ พบนายชนะโชติ อายุ 40 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าบ้านนำตรวจค้น และจับกุม

นายชนะโชติ โรจน์เกตุ อายุ 40 ปี  บ้านเลขที่ 34 ซ.ฉิมพลี 20 แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ตรวจยึดของกลางดังนี้

1.รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อtoyota รุ่นcorolla สีเทา 
2.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อisuzu รุ่น d-max สีเทา
3.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ honda รุ่น wave s 100 สีเทาดำ 
4.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ yamaha สีน้ำเงิน 
5.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ honda รุ่น wave i  สีดำแดง
6.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ honda รุ่น wave s 100 สีเทาแดง
7.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ honda รุ่น wave i  สีน้ำเงิน 
8.ปืนสั้นลูกโม่ยี่ห้อ smith and wesson จำนวน 1 กระบอก
9.ปืนยาวลูกซองยี่ห้อ remington จำนวน 1 กระบอก
10.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ samsung สีเทาจำนวน 1 เครื่อง
11.เอกสารประกอบการกู้ยืมเงินจำนวน 1 ชุด

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงิน ตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา มาตรา 4 อนุมาตรา 1”

จากนั้นได้นำผู้ต้องหาไปยังที่ทำการพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พฤติการณ์คือ จากสืบสวนทราบว่า เมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจเคยเข้าตรวจค้นบ้านนายสายัณห์ เจ้าของบ้าน ส่วนกำลังอีกชุดเข้าค้นอีกบ้านพร้อมจับกุม นายชนะโชติ หรือ ตั๊ก อายุ 34 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นลูกชายของนายสายัณห์ ทั้งคู่ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นผู้มีอิทธิพลทำการทวงหนี้นอกระบบ โดยมีสมาชิกในกลุ่มหลายคน มักใช้ความรุนแรง ข่มขู่ ยึดรถและทรัพย์ของลูกหนี้มาเก็บไว้ โดยจากการตรวจค้นบ้านทั้ง 3 หลังยึดของกลางเป็น อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก อาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังตรวจยึดรถกระบะยี่ห้อมาสด้า รุ่นบีที 50 สีบรอนซ์เงิน ที่มีผู้เสียหายแจ้งความกับ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ว่าถูกยึดมาเพราะติดหนี้

พล.ต.ต.ธีรเดช ขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงวิธีหลีกเลี่ยงการถูกทวงหนี้นอกระบบด้วยรูปแบบต่างๆ และแนวทางการป้องกัน ดังนี้ 1.หากถูกแก๊งทวงหนี้ แอบอ้าง ข่มขู่ ควรตั้งสติให้ดี อย่าตื่นตระหนก รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ หรือให้ความช่วยเหลือ 2.ทำการบันทึกข้อมูลการสนทนา ภาพถ่าย คลิปวิดีโอ เอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องไว้ เพื่อใช้ในการดำเนินคดีภายหลัง และ 3.หากมีความจำเป็นต้องกู้เงิน ควรกู้จากสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือและตรวจสอบได้ นอกจากนี้หากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิด สามารถแจ้งไปยังเพจ "สืยนครบาล IDMB" ได้ตลอดเวลา  

สืบนครบาล จับ ”เสี่ยสันต์” ลักลอบค้ากระสุนปืนเถื่อน เร่ขายให้ลูกค้าทางออนไลน์

จากสถิติอาชญากรรมที่มีการใช้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนก่อเหตุอาชญากรรมมีเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมาก อาทิ เหตุกราดยิงภายในห้างสรรพสินค้า , เด็กนักเรียนนักศึกษาต่างสถาบันนำอาวุธปืนไปใช้ยิงคู่อริ เป็นต้น โดยสืบสวนขยายผลจนทราบว่าผู้ก่อเหตุซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเพื่อมาก่อเหตุผ่านช่องทางออนไลน์ 

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้ตระหนักและเน้นย้ำให้กำลังพลในสังกัดเฝ้าสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มเครือข่ายที่ลับลอบจำหน่ายอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ ทางออนไลน์และช่องทางอื่นให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง จนชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ออกแกะรอยสืบสวน

วันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ,พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ร่วมกันจับกุม นายสันติ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี ขณะขับรถกระบะส่วนตัว นำกระสุนปืนขนาดต่างๆ ไปจัดส่งพัสดุให้แก่ลูกค้าที่สั่งซื้อ บริเวณโกดังจัดส่งพัสดุบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 14 

ตรวจยึดของกลาง กระสุนปืนขนาดต่างๆได้ รวม จำนวน 31,800 นัด ซึ่งมีการบรรจุพัสดุจ่าหน้าซองผู้ส่ง – ผู้รับ เรียบร้อยเพื่อเตรียมจัดส่งให้แก่ลูกค้า นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นภายในรถกระบะซึ่งผู้ต้องหาขับมาส่งพัสดุพบ กระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 2,500 นัด บรรจุอยู่ในกล่องห่อด้วยกระดาษที่น้ำตาลอำพราง

จากนั้นตำรวจได้นำตัวนายสันติ์ ไปที่บ้านเลขที่ 125 ซอยเจริญใจ ถนนเอกมัย แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เพื่อตรวจค้นตามหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ ค 45/2567 ลงวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2567 ผลการตรวจค้น พบ กระสุนปืน ขนาด .22 LR จำนวน 21,150 นัด ,กระสุนปืนลูกซอง ขนาด 12 จำนวน 1,050 นัด ,กระสุนปืน ขนาด .45 จำนวน 100 นัด ,กระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 1,300 นัด ,กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 1,650 นัด ,กระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 800 นัด ,กระสุนปืน ขนาด .32 จำนวน 150 นัด และกล่องพัสดุเปล่าสำหรับเตรียมบรรจุจัดส่งพัสดุ และอุปกรณ์สำหรับแพ็คส่งพัสดุ จำนวนหนึ่ง รวมกระสุนที่ตรวจค้นพบทั้งหมด จำนวน 31,800 นัด

สอบสวนนายสันติ์ หรือ สันติ์ ปรีดี ” ให้การภาคเสธ โดยให้การว่าเดิมทีตนเปิดบริษัทเกี่ยวกับขายวัสดุก่อสร้าง ต่อมาตนประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ มีเพื่อนแนะนำให้เข้าไปทำงานเป็นเซลล์ในบริษัทจำหน่ายกระสุนรายหนึ่งจนมีความรู้ ทำได้ประมาณ 1 ปี จึงลาออก เนื่องจากตนมีฐานลูกค้าและได้รู้จักกับคนในวงการพอสมควรจึงสามารถติดต่อสั่งซื้อกระสุนปืนขนาดต่างๆ จากตลาดมืด เพื่อนำมาส่งขายให้แก่ลูกค้าต่างๆ ซึ่งสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์

สืบนครบาล รวบสาวใหญ่ตระเวนกรีดกระเป๋า เคยก่อเหตุมีหมายจับแต่ก็ยังไม่เลิกก่อเหตุ

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ  พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผู้สุจริตหาเช้ากินค่ำ

เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส. ,พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บชน. , พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ปฏิบัติราชการ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ปฏิบัติราชการ สว.กก.สส.1 พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 2 ดำเนินการเจ้าหน้าที่สืบนครบาล ร่วมกับสายตรวจ สน.พญาไท ได้จับกุมตัว

น.ส.มนัสนันท์ หรือ จรรยพร อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1633/2560 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2560
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการในข้อหาลักทรัพย์โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น” จากการตรวจสอบในฐานระบบ ยังพบหมายจับติดตัวอีก 1 หมาย ได้แก่ หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.208/2565 ลงวันที่ 23 มี.ค.2565  ซึ่งกระทำความผิดฐาน "ร่วมกันลักทรัพย์โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่นฯ โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป"

พฤติการณ์ในการจับกุม เจ้าพนักงานตำรวจ สืบนครบาล ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากพ่อค้าแม่ค้าขายเสื้อผ้า ย่านประตูน้ำ กรุงเทพ ว่ามีกลุ่มบุคคลแต่งตัวปกปิดตัวตนเดินตระเวนลักทรัพย์ในบริเวณตลาดประตูน้ำ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบดังเหตุดังกล่าว ต่อมาวันที่ 16 มี.ค. 67 เจ้าหน้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมพบหญิงต้องสงสัยแต่งตัวปกปิดตัวตน เจ้าพนักงานชุดจับกุมจึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจสอบหญิงคนดังกล่าว และได้นำตัวมาซักถาม จนทราบว่า ชื่อนางสาวมนัสนันท์ หรือ จรรยพร อายุ 54 ปี ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1633/2560 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้อ่านหมายจับและ ให้นางสาวมนัสนันท์ อ่านเองแล้ว ยอมรับว่าเป็นว่าบุคคลตามหมายจับดังกล่าวนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวและทำบันทึกจับกุมที่ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

โดยพฤติการณ์ในการก่อเหตุ เมื่อปี 2559 ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุร่วมกับเพื่อนที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ กรีดกระเป๋าผู้เสียหาย ขณะซื้อของแถวตลาดสำเพ็ง จากนั้นได้นำบัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหายไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มใกล้จุดเกิดเหตุ 7 ครั้ง ได้เงินไป 1 แสน 4 หมื่นบาท 

สอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ รับว่าไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง โดยร่วมก่อเหตุกับนางกิมเฮงตั้งแต่ปี2559เรื่อยมา ออกตระเวนก่อเหตุตามตลาดประตูน้ำ โบ๊เบ๊ สำเพ็ง ที่มีคนพลุ่กพล่าน และจะแต่งตัวมิดชิดพรางหน้าพรางตัวแบบมุสลิมป้องกันถูกติดตามจับกุม โดยผู้ต้องหาทำหน้าที่เป็นคนกรีดกระเป๋า ส่วนนางกิมเฮงเป็นคนยืนบังให้ เหยื่อที่เลือกจะเป็นผู้หญิงเท่านั้นที่สะพายกระเป๋าข้าง อาศัยจังหวะที่เหยื่อเผลอ ทำธุระ 

พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนภัยพี่น้องประชาชนที่มักชอบไปเดินตลาดที่มีคนจำนวนมาก จะมีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวด้วย จึงขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการดูแลทรัพย์สิน และไม่ควรใส่เครื่องประดับ และของมีค่าติดตัว หากสะพายกระเป๋าควรสะพายไว้ข้างหน้าไม่ควรสะพายไว้ข้างหลัง เพราะคนร้ายอาจแฝงตัวเข้ามาจากด้านหลังเพื่อกรีดกระเป๋าฉกทรัพย์สิน หรือของมีค่าไป

'สืบนครบาล' โพสต์เฟซ ช่วยสาวคิดสั้น หลังเจอปัญหา เรื่องเครียดรุมเร้า  ตร.เข้าเกลี้ยกล่อม เตือนใจ ‘อย่าไปเสียเวลา ให้กับสิ่งที่ไม่ได้ ทำให้เราดีขึ้น’

เมื่อวานนี้ เฟซบุ๊กเพจ 'สืบนครบาล IDMB'โพสต์เล่าเหตุการณ์ช่วยสาวคิดสั้น ตั้งใจนั่งรถมาโดดสะพาน เพื่อจบชีวิตที่แม่น้ำเจ้าพระยา หลังเครียดเหตุเลิกแฟนหนุ่ม และเพื่อนยืมเงินไม่คืน โดยได้ระบุว่า ...

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 07.00 น. ร.ต.ท บรรเจิด คงเจริญ รอง สวป. และ จ.ส.ต.มงคล อัปมะโน ผบ.หมู่ (ป.) สน.วัดพระยาไกร ได้รับแจ้งจากพนักงานวิทยุฯ ว่ามีหญิงคิดสั้นจะกระโดดสะพาน จึงได้รีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหญิงคนดังกล่าวนั่งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ติดกับสวนสาธารณะใต้สะพานกรุงเทพ จึงได้เข้าไปเกลี้ยกล่อม ใช้เวลาประมาณ 10 นาที หญิงคนดังกล่าวจึงยอมขึ้นมากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

จากการสอบถาม แจ้งว่าเพิ่งเลิกรากับแฟนหนุ่ม และพักอยู่ด้วยกันแถวคลองเตย บวกกับถูกเพื่อนสาวยืมเงินไปจำนวน 5,000 บาท และไม่ยอมคืน จึงเกิดความเครียด นั่งวินจักรยานยนต์จากคลองเตย มาที่สะพานกรุงเทพ ช่วงเวลาประมาณ 05.30 น. เพื่อจะก่อเหตุดังกล่าว 

ร.ต.ท.บรรเจิด จ.ส.ต.มงคลฯ จึงให้การทำช่วยเหลือจนปลอดภัยและไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้พาตัวน้องมาสงบสติอารมณ์ ที่ สน.วัดพระยาไกร และ น้องได้โทรติดต่อเพื่อน เพื่อจะไปขอพักอาศัยกับเพื่อนแถวประชาอุทิศต่อไป

โดยในตอนท้าย ยังได้ฝากข้อคิดเตือนใจไว้ด้วยว่า 

"อย่าไปเสียเวลา ให้กับสิ่งที่ไม่ได้ทำให้เราดีขึ้น"


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top