Wednesday, 26 June 2024
พนักงาน

'อีลอน' เสียงอ่อย หลังพนักงานทวิตเตอร์ 'อยากออก' เยอะเกินคาด!! ยอมถอยให้ WFH ให้ผจก.รับผิดชอบ ไม่เวิร์ก โดนออกเอง

(18 พ.ย.65) เพจ 'เดือดทะลักจุดแตก' โพสต์ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทวิตเตอร์ หลังพนักงานพร้อมลาออกกันเยอะเกินคาด ว่า...

ทำไปทำมา คนจะออกกันทั้งบริษัท 

กระแสตีกลับ ทำไปทำมา มันชักจะใหญ่จนพอจะโหมพลิกเรือได้แล้วน่ะสิครับ ปั่นป่วนวุ่นวายกันไปหมดแล้ว

ไม่โพสต์ซ้ำแล้วนะครับ เรื่องที่อีลอน มัสก์ต้องการให้คนของเขาทำอะไรบ้าง --- พนักงานทวิตเตอร์รู้สึกเหลือทน จากที่ตอนแรกกริ่งเกรงจะต้องเสียงาน ทว่าตอนนี้ มาทำนองว่า "ออก ก็ออกสิวะ! ออกยกไปกันแ_งให้หมดเลย"

แต่ อีลอน มัสก์ เริ่มมีผ่อนปรนนะครับ (แน่นอนว่าเรื่องชั่วโมงทำงานแบบ "ฮาร์ดคอร์" นั้นไม่มีทางผ่อน)

‘เพจจอดับ’ แชร์เรื่อง หนุ่มวัย 40 เสียชีวิตคาโต๊ะทำงาน เคยเปรย “คงต้องให้ผมตายก่อนละมั้ง ถึงจะหาคนมาช่วยงาน”

ใครว่า "ทำงานจนตาย" ไม่มีจริง หนุ่มวัย 40 กว่า ฝ่ายจัดทำผังรายการทีวี ต้องตรากตรำงานหนัก เจ้าตัวเคยเปรย คงต้องให้ผมตายก่อนละมั้ง เขาถึงจะหาคนมาช่วยงาน

(6 ก.พ. 66) เฟซบุ๊ก จอดับ ได้เผยแพร่เรื่องราวของ หนุ่มวัย 40 กว่า ทำอาชีพฝ่ายจัดทำผังรายการทีวี เสียชีวิตบนโต๊ะทำงาน หลังตรากตรำงานหนัก โดยที่เจ้าตัวเคยเปรย “คงต้องให้ผมตายก่อนละมั้ง เขาถึงจะหาคนมาช่วยงาน” ระบุว่า…

“ทำงานจนตาย” ไม่มีจริง 

มันเพิ่งเกิดขึ้นกับหนุ่มใหญ่ในวงการทีวี

เขาอาจไม่ใช่คนเด่นคนดังนั่งหน้าจอ แต่ก็อยู่มาตั้งแต่สมัยยังเป็นเคเบิ้ลทีวี ในฐานะฝ่ายจัดทำผังรายการ พอมาถึงยุคดิจิทัล งานก็ยิ่งถาโถมหนักขึ้นเรื่อย ๆ โดนสั่งให้ทำผังรายการคนเดียวควบถึง 2 ช่อง ไม่เคยมีการหาคนมาช่วยกันแบ่งเบา

การทำผังรายการมีรายละเอียดหยุมหยิม ทั้งตัวรายการ ทั้งโฆษณา สารพัดสารพัน ต้องคอยปรับแก้ตลอดเวลา แล้วนี้ คน ๆ เดียว ให้เหมาทำทั้ง 2 ช่อง

ในแต่ละวัน เขาต้องทำงานเกินเวลา และแต่ละสัปดาห์ก็ทำงานเกิน 5 วัน บางสัปดาห์ซัดไป 7 วันรวด พอนานไปร่างกายก็เริ่มแย่ มีอาการป่วย พอลาหยุด ลาป่วย ไปได้แค่วันสองวัน ก็โดนโทรจิกตามให้รีบกลับมาทำผังรายการ

นี่มันสถานีโทรทัศน์หรือโรงงานนรกกันแน่ เป็นใครเจอแบบนี้ ก็เสื่อมโทรมทั้งร่างกายและจิตใจ

สุดท้าย เขาก็ตายในหน้าที่ บนโต๊ะทำงานในตึกน้ำผลไม้ ย่านพระราม 6 ร่างกายและจิตใจของเขาแบกรับภาระต่อไปไม่ไหวแล้ว

เขาฟุบลงกับโต๊ะอย่างเงียบ ๆ คว่ำหน้าลงกับงานที่เขาแบกรับจนเกินกำลัง มันอ่อนล้าเกินกว่าที่ร่างกายมนุษย์คนนึงจะทนต่อไปได้ คนผ่านมาเห็นก็นึกว่าเขาแค่ฟุบหลับ จึงไม่ได้ปลุก ปล่อยอยู่เช่นนั้น จนข้ามคืน

แม่บ้านมาเจอเขาในตอนเช้า จึงได้รู้ว่าร่างนั้นไม่มีลมหายใจแล้ว

ฐานรากของพิรามิดที่สูงตระหง่าน มักจะเต็มไปด้วยซากศพของแรงงานทาส ที่ถูกปล่อยทิ้งอย่างไร้ค่า
หลับให้สบายนะเบิร์ด โบยบินไปสู่เสรี เธอหลุดพ้นจากพันธนาการของโลกนี้แล้ว

ต่อมา เพจจอดับ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติม คงต้องรอให้ผมตายก่อนละมั้ง ที่เบิร์ดต้องมีติดตัวตลอดเวลาคือถุงใส่ยา

แต่โดยรวมเขาก็แข็งแรงดี ไม่ถึงขนาดล้มหมอนนอนเสื่อ ก็เหมือนชายวัย 40 กว่า ๆ ทั่วไป ที่มีปัญหาเรื่องความดัน เรื่องน้ำตาล เป็นธรรมดา

‘Meta’ ประกาศปลดพนักงานกว่า 10,000 ตำแหน่ง สนองเจตนารมณ์ Mark “ปีนี้บริษัทจะมุ่งเน้นไปที่ผลกำไร”

เมื่อวานนี้ (14 มี.ค.66) World Maker รายงานว่า หลายสื่อรายงานว่า Meta หรือ Facebook เก่าจะปลดพนักงานเพิ่มอีกมากถึง -10,000 ตำแหน่งจากที่ปลดไปก่อนหน้านี้แล้ว -11,000 ตำแหน่ง !!! ทำให้ปลดพนักงานรวมกันภายในไม่กี่เดือนมานี้เป็น -21,000 ตำแหน่งข้าไปแล้ว ! หรือคิดเป็น -20% ของพนักงานทั้งหมดราว 80,000 คน

ข่าวนี้เกิดขึ้นหลังจากไม่กี่สัปดาห์มานี้ มีรายงานเบื้องต้นแล้วว่า Meta จะปลดพนักงานรอบ 2 อีกหลายคน แต่ไม่มีใครคิดว่าจะมากถึงขนาดนี้ !

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น Facebook ดีดมากกว่า +5% คืนนี้ หลังจาก Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้งกล่าวว่าปีนี้บริษัทจะมุ่งเน้นไปที่ผลกำไร! ซึ่งการปลดพนักงานออกอาจเป็นส่วนสำคัญที่จะลดค่าใช้จ่ายและทำให้ผลกำไรของบริษัทพุ่งสูงขึ้น (แม้ว่าจะดูเหมือนข่าวร้ายแต่สำหรับผู้ถือหุ้นอาจเป็นข่าวดี ?)

การปลดพนักงานของ Meta เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งทั่วโลกที่ไล่ออกกันยับ ๆ ในปีนี้ ! ซึ่งก็น่าติดตามต่อไปว่าการปลดพนักงานครั้งมหากาพย์จะส่งผลกระทบต่อตัวเลขเศรษฐกิจในอนาคตหรือไม่ ? 

📌 เพราะแม้ว่าจะมีการปลดไปในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ แต่ตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ยังคงแข็งแกร่งผิดคาด โดยเฉพาะตลาดแรงงานที่ดูตึงตัวจน FED ต้องประกาศขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไป (ก่อนจะเกิดวิกฤต SVB ทำให้ตลาดเริ่มเปลี่ยนคาดการณ์)

ทั้งนี้ ดูเหมือนว่าหุ้นของบริษัทเทคฯ ยักษ์ใหญ่หลายแห่งจะเริ่มดีดตัวขึ้นเช่นกันหลังจากมีข่าว Lay off ออกมา เพราะนักลงทุนมองว่าจะส่งผลดีต่อกำไร แม้จะเป็นเรื่องแย่ต่อตัวเลขเศรษฐกิจก็ตาม

และการปลดพนักงานออกอาจช่วยเรื่องเงินเฟ้อได้ไม่มากก็น้อย ดังนั้นให้รอดูตัวเลข CPI ในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ? ขณะที่โดยรวมแล้วบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลกน่าจะมีการปลดพนักงานรวมกันกว่า -100,000 คนเข้าไปแล้วในไตรมาสแรกปีนี้

‘CPALL’ อนุมัติโครงการสะสมหุ้นสำหรับพนักงาน ครั้งที่ 4 หนุนการมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ-สร้างความจงรักภักดีกับองค์กร

เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 66 บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘CPALL’ แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2566 ได้มีมติอนุมัติโครงการสะสมหุ้นสำหรับพนักงาน ครั้งที่ 4 (Employee Joint Investment Program – EJIP) ซึ่งโครงการดังกล่าวเกิดจากการที่บริษัท และ บริษัทย่อย มีนโยบายให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในความเป็นเจ้าของบริษัท และเกิดความจงรักภักดีอยู่กับองค์กร โดยโครงการดังกล่าว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2566 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 2569 รวมระยะเวลา 3 ปี

ทั้งนี้ พนักงานที่เข้าร่วมโครงการต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
- เป็นพนักงานตั้งแต่ระดับผู้ช่วยผู้จัดการแผนกหรือเทียบเท่าขึ้นไป โดยเป็นไปตามความสมัครใจของผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ไม่รวมกรรมการบริษัทฯ และ ที่ปรึกษา
- พนักงานจะต้องมีอายุการทำงาน นับจนถึงวันเริ่มจ่ายเงินสะสมไม่น้อยกว่า 3 ปี
- พนักงานที่มีอายุการทำงานไม่ครบ 3 ปี ต่อมาภายหลังมีอายุการทำงานครบ 3 ปี ให้มีสิทธิสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตามรอบของระยะเวลาที่บริษัทฯ กำหนดไว้
- กรณีที่พนักงานได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บังคับบัญชาหรือผู้บริหารให้มีสิทธิสมัครเข้าร่วมโครงการได้ เมื่อมีอายุงานรวมแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี

รูปแบบของโครงการ
1.) บริษัทและบริษัทย่อยจะหักเงินเดือนพนักงานผู้ที่มีสิทธิและสมัครใจเข้าร่วมโครงการในอัตราร้อยละ 5 ของเงินเดือนทุกเดือนจนกว่าจะสิ้นสุดโครงการเพื่อสะสมเข้ากองทุน
2.) บริษัทและบริษัทย่อยจะจ่ายสมทบเพิ่มเข้ากองทุนในอัตรา 80% ของเงินที่หักจากพนักงานทุกเดือน
3.) บริษัทหลักทรัพย์ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัทให้เป็นผู้ดำเนินการโครงการ จะนำเงินสะสมของพนักงานรวมกับเงินสมทบของบริษัท และบริษัทย่อยไปทำการซื้อหุ้น CPALL ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่กำหนดของทุกเดือน

ผลประโยชน์ในหุ้น
- เงินปันผลจะตกเป็นของพนักงานโดยตรง
- ผลประโยชน์ด้านราคาจะตกเป็นของพนักงานเมื่อมีการขาย
- พนักงานสามารถใช้สิทธิอื่นๆ ในหุ้นที่ถือ เช่น สิทธิการจองหุ้นเพิ่มทุน ใบสำคัญแสดงสิทธิการเข้าประชุมผู้ถือหุ้น

วิธีการขายหุ้นในโครงการ
- พนักงานไม่มีสิทธิขายหุ้นจนกว่าจะครบกำหนดอายุโครงการ เว้นแต่ พ้นสภาพจากการเป็นพนักงาน ถึงแก่กรรม ขอลาออกจากโครงการ หรือ เกษียณอายุ
- บริษัทกำหนดให้พนักงานที่เข้าร่วมโครงการมีสิทธิขายหุ้นก่อนครบกำหนดอายุโครงการได้เมื่อโครงการมีอายุครบครึ่งหนึ่ง (1 ปี 6 เดือน) โดยให้ขายหุ้นได้ในจำนวนไม่เกินครึ่งหนึ่งของจำนวนหุ้นที่มีอยู่
- พนักงานที่ขอลาออกจากโครงการจะไม่มีสิทธิได้เงินสมทบของบริษัท ในระยะเวลาที่เหลือของโครงการ รวมทั้งไม่มีสิทธิสมัครเข้าร่วมโครงการในครั้งถัดไป 1 ครั้ง (ถ้ามี)

‘เพจดัง’ แฉ!! ‘ร้านสุดโหด’ ทำโทษพนักงานมาสาย คว้าไม้เรียวฟาดกระหน่ำ แทนหักเงินนาทีละ 5 บาท

(29 มี.ค. 67) กลายเป็นประเด็นที่กำลังถูกพูดถึงไปทั่วโลกในขณะนี้ เมื่อทางบัญชี @RedSkullxxx ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอผ่านทางเอ็กซ์ (X) เผยเหตุการณ์สุดช็อก

โดยระบุข้อความว่า “ลูกน้องเข้าสายปรับนาทีละ 5 บาท ถ้าไม่ให้หักเงินก็เปลี่ยนเป็นตีแทน นี่โกรธผัวแล้วมาลงกะลูกน้องป่าววะ หมดยุคทาสแล้วอิ…”

พร้อมแนบคลิปวิดีโอ หญิงสาวรายหนึ่ง ใช้ไม้เรียว กำลังฟาดชายคาดว่าเป็นพนักงานแบบรัว ๆ เสียงดังฟังชัด ท่ามกลางพนักงานคนอื่น ๆ ที่ยืนดู

ทั้งนี้ เมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกโซเชียล มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่ มองว่าการกระทำดังกล่าวรุนแรงเกินกว่าเหตุ และเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะเป็นการทำร้ายร่างกาย วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกรมแรงงานเข้าตรวจสอบ

>> ความคิดเห็นส่วนหนึ่งจากชาวเน็ต : 

- “มาอีกคนละคิดว่าทำแบบนี้แล้วไม่ผิด จะหักเงินเดือน หรือ ให้พักงานอะไรก็ทำไป แต่ทำแบบนี้ผิดแน่นอน ต่อให้เจ้าตัวยินยอมก็เถอะ เดี๋ยวก็จะมีเหตุผลหรือตรรกะแปลก ๆ ที่เข้าข้างตัวเองอีก”
- ลูกน้องก็ยอมเนอะ อยากถามว่า คนหรือxวายที่ยอมให้เขาตี ส่วนอีคนที่ออกกฎกับคนที่ตีxึงเป็นคนแบบไหน แล้วหักนาทีละ 5 บาท xึงจ่ายเงินเขาวันละเท่าไหร่ ถ้าวันละ 300 มาสาย 60 นาที เท่ากับไม่ได้ค่าแรง แล้วxึงจะทำงานทำไม แถมผิดกฎหมายด้วย เป็นxูแค่เห็นกฎ xูก็เดินออกจากร้านแล้ว คนนะไม่ใช่xวาย!

- นี่ ที่ทำงานรึ ? ถึงจะมีข้อตกลงกันไว้ ขอเถอะอย่าลงโทษกันด้วยการตีเลย ให้น้อง ๆ เขาทำเลยเวลาให้ ทำอย่างอื่นทดแทน ให้หักเงินก็ไม่มีใครอยากให้หักหรอก เขาถึงยอมให้ตีไง เพราะ 5 บาท 10 บาท มันก็คือเงิน สำคัญมากสำหรับคนที่มีรายได้รายวัน ซื้อน้ำกินก็ยังดี แต่น้อง ๆ เองก็ปรับปรุงตัวอย่างไปสายอีก
- มันตั้งกฎได้นะ ทำนองว่าสายกี่ครั้ง ๆ ก็ใบเตือน สะสมไปเรื่อย ๆ ไว้หักโบนัส เบี้ยขยัน อะไรก็ว่าไป ใช้แบบนี้พนักกงานฟ้องกรมแรงงานได้นะว่าใช้ความรุนแรงในสถานที่ประกอบการ

- คุกแน่นอน
- แล้วก็คือยอมให้เขาตี?
- แจ้งทำร้ายร่างกายได้ไหมอะ
- เป็นxูจะถีบให้
- แบบนี้ก็ได้เหรอ
- ฟ้องทำร้ายร่างกายเลย

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เรื่องนี้จะจบลงอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป

วงในบอกเอง!! ทำไมลูกค้าต้องรอคิวจ่ายเงินที่ร้านสะดวกซื้อ  แม้มีพนักงานอยู่เยอะ แต่กลับไม่มาช่วยคิดเงินก่อน

เมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.67) เชื่อว่าหลายคนก็คงสงสัย เมื่อไปที่ร้านสะดวกซื้อแล้วต้องต่อคิวรอจ่ายเงิน ทั้งที่ลูกค้ารอต่อคิวเยอะมาก แต่พนักงานของร้านบางคน ทำอะไรไม่รู้อยู่ด้านหลังเคาเตอร์แคชเชียร์ ทำไมไม่มาช่วยกันคิดเงินก่อน ปล่อยให้เพื่อนร่วมงานรับชะตากรรมอยู่คนเดียว

โดยในเฟซบุ๊กกลุ่ม ‘กลุ่มที่ไม่ว่าพิมพ์อะไรเราก็ให้กำลังใจในทุกเรื่องแบบงง ๆ อิหยังวะ’ มีคนเข้ามาโพสต์ว่า เวลาที่ไปร้านสะดวกซื้อ ลูกค้าต่อคิวจ่ายเงิน แต่มีพนักงานคิดเงินแค่คนเดียว บางคนยืนคิดยอดบัญชี บางคนอยู่หลังตู้แช่ ทำไมไม่มาคิดเงินให้ลูกค้าก่อน

ซึ่งก็มีคนที่เจอประสบการณ์แบบเดียวกัน เข้ามาเล่าว่า ตนเข้าร้านสะดวกซื้อร้านหนึ่งในช่วงเวลา 07.00-07.30 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน และร้านกลับเปิดเคาน์เตอร์แคชเชียร์แค่ช่องเดียว คนคิดเงินคนเดียว คนชงเครื่องดื่มอีกคน ทำไมจัดการแบบนี้ทั้งที่เป็นชั่วโมงขายดี

ไม่นับร้านสะดวกซื้อเจ้าดังที่มักจะเปิดเคาน์เตอร์คิดเงินช่องเดียวจนคนทะลัก แถมพอจะจ่ายเงิน ยังต้องแนะนำโปรโมชั่นให้ลูกค้าก่อนอีก พนักงานบางคนก็ช้า กว่าจะหยิบของสแกน กว่าจะหยิบใส่ถุง ลูกค้าต้องยืนกลั้นใจนานสองนาน ว่าแล้วก็อยากไปช่วยทำงานแทน

ต่อมาก็มีคนมาให้คำตอบเรื่องนี้ว่า พนักงานร้านสะดวกซื้อแต่ละคน มีหน้าที่ประจำ ไม่ใช่แค่ต้องยืนเคาน์เตอร์ และเหตุที่มีพนักงานหลังเคาน์เตอร์เยอะแยะ แต่กลับไม่มาช่วยคิดเงิน เพราะพนักงานต้องส่งยอดให้ตรงเวลา เขามีเวลาเป๊ะ ๆ ที่ต้องห้ามส่งยอดช้า ห้ามรับออร์เดอร์ช้า ต้องรีบจัดของให้เสร็จก่อนส่งต่อพนักงานชุดต่อไป บางคนก็เป็นเวลาพักของเขา เขาก็ต้องไปพัก ไม่ต้องทำงาน

รวมไปถึงสินค้าเดลิเวอรี่ ที่พนักงานต้องรีบรับออร์เดอร์ ถ้าเกินเวลาที่กำหนด ระบบจะส่งเรื่องไปที่สำนักงานใหญ่ และสาขาจะโดนใบเตือน แต่หากกดรับแล้ว จะใช้เวลาจัด จะส่งตอนไหน ก็ขึ้นอยู่กับออร์เดอร์ที่ได้รับ

สรุปคือ พนักงานร้านสะดวกซื้อทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องทำ และต้องทำงานของตัวเองให้เสร็จด้วย แม้ว่าคนจะเยอะ แต่ก็ไม่ได้มีหน้าที่คิดเงินแค่อย่างเดียว

ขณะที่มีผู้คอมเมนต์ท่านหนึ่ง ซึ่งเผยว่าตนเคยมีประสบการณ์ในการทำงานที่ร้านสะดวกซื้อ ก็ได้โพสต์เล่าให้ฟังด้วยว่า...

"จากใจคนเคยทำงานพนักงานร้านสะดวกซื้อคือเรื่องจริง ถ้าทำงานไม่เสร็จในกะตัวเองต้องลากยาวจนกว่าจะเสร็จ ซึ่งร้านที่เคยทำมาต้องโหลดของเข้าร้านเองด้วยซ้ำ และของแต่ละรอบคือ 4-5 พาเลท ของที่ส่งแบบเป็นลัง ๆ ขนาดมีตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการมีน้องในกะ 3 คนยังไม่ทันเลย...

"การส่งงานต่อให้อีกกะมันค่อนข้างมีความเกรงใจคนรับงานอยู่ จนทำให้ต้องรับผิดชอบของที่กะเราเป็นรับมาถึงแม้ว่าอีก 10 นาทีจะหมดกะเราแล้วก็ตาม ตอนที่ทำอยู่คือไม่เคยเลิกงานตรงเวลาเลย เวลาเข้ากะดึกงานก็เหนื่อยมากแล้ว ไหนจะอดนอนอีก เช้าก็อยากกลับบ้านไปพักผ่อน แต่งานไม่เสร็จกว่าจะได้กลับบ้านคือเกือบเที่ยง ทนทำเพราะ ผจก.ดี เพื่อนร่วมงานดี และมาหลัง ๆ คือร่างกายไม่ไหวจริง เลยต้องหางานใหม่...

'การส่งต่อกะที่เคาเตอร์ยิ่งต้องรอบคอบเพราะมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวคนส่งนับ 1 รอบ คนรับก็ต้องรับถ้าเงินไม่ตรงก็เรื่องเกิดรับเครื่องต่อไม่ได้ไม่งั้นคนรับเครื่องต่อก็ซวยถ้าไม่นับเงิน ใครไม่ได้ทำก็ไม่รู้หรอก เข้าใจได้เพราะตอนยังไม่ได้ทำก็วีนฉ่ำเหมือนกัน พอมาทำถึงเข้าใจ หลังจากนั้นก็ไม่เหวี่ยงไม่วีนอีกเลย คิดซะว่าถ้าช้าต้องยืนรอก็ยังรอในห้องแอร์ไม่ได้ร้อนอะไร เป็นกำลังใจให้พนักงานเคาเตอร์ทุกคนนะคะ...

อีกเรื่องคือ เรื่องขายสินค้าโปรถ้ามีเวลาฟังไปเหอะค่ะ ถ้าไม่สนใจก็แค่ปฏิเสธไป ร้านพวกนี้เขามีบัดเจทยอดขายถ้าทำไม่ถึงยอดก็โดนเตือนอีก เขาเลยต้องพูด ต้องถามบ่อย ๆ ถ้ามันไม่มีอะไรมาบีบบังคับไม่มีใครเขาอยากพูดให้คนอื่นรำคานหรอกเชื่อเหอะ"


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top