Friday, 17 May 2024
ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร

'เท่าพิภพ' ซัด 'อัศวิน' สั่งเทเหล้าทิ้งหลัง 3 ทุ่ม จวก คิดได้แค่นี้ ไม่เหมาะเป็นผู้ว่า กทม.

จากกรณีที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้สัมภาษณ์ ยืนยันว่า การดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารจะต้องเป็นร้านที่ได้มาตรฐาน SHA และขายได้ถึงเวลา 21.00 น. เท่านั้น จะไม่มีการขยายเวลา หากดื่มไม่หมดก็เททิ้งไป

นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า หลังจากได้เห็นคำสัมภาษณ์ของผู้ว่าฯ อัศวินแล้วรู้สึกสลดใจและเห็นใจคนกลางคืนเป็นอย่างยิ่ง ที่มีผู้ว่าฯ ซึ่งไม่สนใจและไม่เข้าใจธุรกิจกลางคืนหรือคนกลางคืนแม้แต่นิดเดียว สาเหตุอาจเพราะการไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เป็นตำรวจมาทั้งชีวิตจึงเคยชินแต่การใช้คำสั่ง ถึงเวลาก็มีเงินเดือนมา ดีไม่ดีปีใหม่ สงกรานต์ ลอยกระทงก็ไม่รู้ว่ามีกระเช้ามาให้ด้วยหรือเปล่า ชินกับการรับ กระทั่งตำแหน่งผู้ว่าฯ ก็รับมาจากการแต่งตั้งของผู้มีอำนาจ ไม่ได้มาจากประชาชน จึงไม่เข้าใจปัญหาของคนทำมาหากินเลย

"การเปิดร้านแต่ละวันแต่ละคืน เจ้าของร้านและลูกจ้างต้องมีภาระมากแค่ไหนท่านรู้หรือไม่ สมัยผมทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ในร้านอาหารเวลาเริ่มงานคือ 16.00 น. - 01.00 น. คือ 9 ชั่วโมง ได้ค่าจ้างวันละ 500 บาท ลองคิดดูถ้าเลิก 21.00 น. เวลาทำงานจะเหลือเพียง 5 ชั่วโมง รายได้ก็ต้องลดตามชั่วโมงงาน แต่ค่ารถมาทำงานยังเท่าเดิม มันคุ้มกับเขาหรือไม่ ยังไม่นับธุรกิจกลางคืนที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดก็ขาดรายได้มานาน

ในมุมของเจ้าของร้านยิ่งแล้วใหญ่ หากเปิดร้าน 16.00 น. กว่าจะมีลูกค้าเข้าจริงคือหลังเลิกงานก็ประมาณ 18.30 เป็นต้นไป แต่ประมาณ 2 ทุ่มก็ต้องบอกลูกค้าว่าจะสั่งเครื่องดื่มเป็นรอบสุดท้ายไหม ต้องหยุดก่อนสามทุ่ม ตกลงได้ขายจริงก็แค่ราว 1 ชั่วโมงครึ่ง เปิดแบบนี้ก็เหมือนไม่เปิด เป็นนโยบายที่ไม่เข้าใจคนทำธุรกิจว่าวันสิ้นเดือนคือที่ตัดสินว่าตัวเขาและธุรกิจจะสิ้นใจหรือไม่"

พปชร. ส่งผู้ว่าฯ หมูป่า ชนสนามผู้ว่าฯ กทม. พร้อมเปิดตัวกลางเดือนธันวาคมนี้

หลังจากมีกระแสข่าวต่อเนื่องว่า นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี หรือผู้ว่าหมูป่านั้น ได้ถูกทาบทามให้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคพลังประชารัฐ

'เท่าพิภพ' สุดทน!! จี้ 'อัศวิน' ลาออกผู้ว่า กทม. ปูดถลุงงบกลาง-สร้างความนิยม ไม่สมชื่ออัศวินนักรบ

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2565 เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 22 บางกอกใหญ่ ธนบุรี คลองสาน พรรคก้าวไกล กล่าวแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจส่วนตัว ถึงกรณีที่ตนได้รับร้องเรียนจากประชาชนและเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ที่ให้เบาะแสถึงพฤติกรรมการใช้งบประมาณของพลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อย่างน่าสงสัยเพื่อเอื้อแก่การสร้างฐานนิยมให้ตนเองหรือไม่นั้น 

เท่าพิภพ กล่าวว่า พฤติกรรมการใช้งบประมาณของผู้ว่าอัศวิน ส่อไปในทางที่สงสัยได้ว่าเป็นไปเพื่อการสร้างความนิยมส่วนตัว โดยมีการให้งบประมาณไปกับโครงการในลักษณะที่ตัวเนื้อหาโครงการที่ใช้งบประมาณไม่คุ้มค่า ไม่มีประสิทธิภาพ โดยกลุ่มเป้าหมายในการใช้งบประมาณเฉพาะเจาะจงไปยังหัวคะแนนเพื่อสร้างฐานเสียงทางการเมืองของตัวเอง

"หลายโครงการที่มีชื่อหรูหราและดูดีแต่ข้างในเน่าเฟะ อย่างโครงการ งบช่วยเหลือผู้ประสบภัยโควิดหัวละ 5,000 บาท ซึ่งตั้งงบประมาณไว้คือเขตละ 200 คน รวมทั้งสิ้น 50 เขต รวม 50 ล้านบาท โครงการอ้างว่าจะช่วยให้เป็นเงินให้เปล่าเพื่อช่วยเหลือให้ไปประกอบธุรกิจ โดยให้ประชาชนทั่วไปเขียนโครงการมาคัดเลือก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงนั้น การประชาสัมพันธ์โครงการทำด้วยวิธีการเลือกประธานชุมชนไปประชุมที่เขตเพื่อรับทราบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการจำกัดวงของผู้เข้าร่วมมากๆ ประธานชุมชนคนไหนดีก็จะมาแจ้งลูกบ้าน ประธานชุมชนที่ไหนเน้นผลประโยชน์ส่วนตนก็จะเก็บข่าวไว้กับพวกตัวเอง โครงการเหล่านี้พอยื่นไปแล้วยังพบว่ามีความไม่ยุติธรรมในการคัดเลือกจัดสรร ผู้ที่ได้รับเงินเหล่านี้ส่วนใหญ่มักเป็น 'เครือข่ายของที่ปรึกษา' ผู้ว่าอัศวิน ซึ่งคนกรุงเทพฯ ทั่วไปก็จะรู้ว่าคนเหล่านี้คือว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ทีม #รักษ์กรุงเทพ ของผู้ว่าอัศวิน"

‘อัศวิน’ โชว์ผลงาน นั่งผู้ว่าฯ กทม. ทำคลองให้ไม่เน่า - ไม่ต้องเข้าคิวรพ. - ชานเมืองมีรถไฟฟ้า

‘อัศวิน ขวัญเมือง’ โชว์ผลงาน นั่งผู้ว่าฯ ทำคลองให้ไม่เน่า - ไม่ต้องเข้าคิวรพ. หลายที่ฝนตกน้ำไม่ท่วม ชานเมืองมีรถไฟฟ้าถึงหน้าบ้าน 

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก เปิดใจ หลังลาออกจาตำแหน่งเพื่อมาลงรับสมัครเลือกตั้งชิงเก้าอี้ผู้ว่ากทม. โดย ระบุว่า

“กรุงเทพมหานคร” เมืองแห่งความหวัง เมืองที่พวกเราหลายคนเข้ามาเพื่อตามความฝัน เข้ามาเรียน เข้ามาทำงานและ เข้ามาใช้ชีวิต ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เข้ามาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ เพื่อตามหาความฝัน ตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือจนทำงาน และ สร้างครอบครัว เหมือนคนอีกหลายคนในเมืองแห่งความหวังแห่งนี้

ในวัยเด็ก ผมจำได้ว่า วิ่งเล่นอยู่แถววงเวียนใหญ่ ว่ายน้ำอยู่แถวสะพานพุทธ บางวันก็ว่ายน้ำเล่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา มาเตะตะกร้อที่หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร และได้เดินทางใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ มานานจนเห็นความเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับการพัฒนามาโดยตลอด

ในช่วงที่ผมเติบโตมา ได้เห็นความเจริญอย่างต่อเนื่องของเมืองแห่งนี้ แต่จากความเจริญก็ทำให้บางสิ่งบางอย่างแย่ลง จากน้ำที่เคยลงว่ายได้ ก็สกปรก คลองที่เคยมีน้ำใสสะอาด กลับกลายเป็นคลองที่มีน้ำเน่าเสีย สวนที่มีต้นไม้ร่มรื่นที่เคยเห็นคนนั่งเล่นพักผ่อน กลับกลายเป็นคอนกรีต บนถนนก็เต็มไปด้วยรถสัญจรไปมา จนเป็นภาพจำของคน กทม. ไปแล้ว ผมเป็นคนหนึ่งที่เกือบหมดหวัง ที่จะได้เห็นกรุงเทพฯ สวยงามในแบบที่ผมเคยเห็นในวัยเด็ก

จนมาวันหนึ่ง…ผมได้รับความไว้วางใจให้มาทำงานกับกรุงเทพมหานคร ผมยังจำได้ดี วันแรกที่ผมเดินทางไปทำงานในฐานะผู้ว่า กทม. ได้ผ่านคลองหลอด เห็นสภาพ 2 ฝั่งคลองที่เสื่อมโทรม น้ำในคลองเน่าเสีย สัปดาห์แรกผมได้ลงพื้นที่เขตบางขุนเทียน ผมเห็นคนจำนวนมากมาเข้าคิวหาหมอที่โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นโรงพยาบาลเล็ก ๆ เปิดให้บริการเฉพาะผู้ป่วยนอก ได้คุยกับพี่น้องประชาชน และรู้ว่าพื้นที่ 7 เขตแถวนั้น มีคนอยู่ประมาณ 500,000 คน ไม่มีโรงพยาบาลของรัฐเลย จะไปหาหมอแต่ละครั้งก็ต้องเดินทางเข้าเมืองเป็นระยะทางไกล ๆ เมื่อ กทม. เปิดโรงพยาบาลแห่งนี้ จึงเลือกหาหมอใกล้บ้าน แม้จะต้องเข้าคิวรอนานก็ตาม เมื่อผมได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ผมได้เห็นประชาชนแถวดินแดง แยกเกษตรศาสตร์ วงเวียนบางเขน ต้องถลกขากางเกง ลุยน้ำ เพื่อมารอรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์หลังจากเกิดฝนตกหนัก ผมไปลงพื้นที่เขตบางเขน แถวแยกเกษตรฯ เห็นประชาชนยืนรอรถที่ป้ายรถเมล์จำนวนมาก เพื่อต่อรถกลับบ้านที่อยู่แถวสายไหม ดอนเมือง

'ดร.นิว' ชี้!! เผด็จการเท่านั้นที่คิดป่วนเอเปก อัด!! ชัชชาติไม่รู้กาลเทศะเอาใจม็อบ 3 นิ้ว

(12 พ.ย. 65) ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง ‘เผด็จการเท่านั้นที่คิดป่วน #APEC2022’ โดยมีเนื้อหาดังนี้

การประชุม APEC 2022 นับได้ว่าเป็นอีกเหตุการณ์สำคัญที่ควรต้องวางความขัดแย้งทางการเมืองลงเสียชั่วคราว แล้วควรหันมาร่วมใจกันสามัคคีในฐานะของเจ้าภาพที่ดี เพราะการประชุม APEC 2022 ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง หากแต่เป็นเรื่องของประชาชนคนไทยทุกคน อีกทั้งเป็นโอกาสและผลประโยชน์ของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ

เนื่องด้วยการประชุม APEC 2022 เป็นการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับนานาชาติในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อีกทั้งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการโปรโมตการท่องเที่ยว อันจะนำไปสู่การขับเคลื่อนและฟื้นฟูเศรษฐกิจในยุคหลังวิกฤตโควิดได้เป็นอย่างดี การที่ประเทศไทยของเราได้เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ จึงเป็นความหวังของประชาชนทุกหมู่เหล่า

แต่คนส่วนน้อยกลุ่มหนึ่งซึ่งมีพรรคการเมืองบางพรรคคอยหนุนหลังมาโดยตลอด นับตั้งแต่ลงมือกระทำผิดกฎหมายตลอดจนช่วยเหลือประกันตัว กลับมีการวางแผนก่อการชุมนุมสร้างความปั่นป่วน จ้องบ่อนทำลายภาพลักษณ์ของประเทศชาติและผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ไม่ต่างจากเผด็จการ แถมยังเป็นเผด็จการยิ่งกว่าเผด็จการเสียด้วยซ้ำ

แม้แต่คุณชัชชาติเองก็ทำตัวน่าผิดหวังอย่างมาก เพราะไม่รู้จักกาละเทศะ จะปล่อยให้มีการชุมนุมที่ลานคนเมืองในห้วงของการประชุม แสดงให้เห็นว่าคุณชัชชาติไม่ได้เข้าใจหลักการของประชาธิปไตยอย่างถ่องแท้ คำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ของคนส่วนน้อยที่จ้องแต่จะสร้างความปั่นป่วนมากกว่าคำนึงถึงผลประโยชน์ของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top