Saturday, 4 May 2024
น้ำท่วมภาคใต้

“จุรินทร์” สั่งระดมรมต.-ส.ส.-สมาชิกพรรค ช่วยเหลือปชช.น้ำท่วมภาคใต้เต็มที่ 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมภาคกลางบางส่วนเช่นจังหวัดเพชรบุรี ภาคใต้จังหวัดระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะตลอดเส้นทางที่ประชาชนสัญจรลงไปภาคใต้ที่ขณะนี้ยังเกิดปัญหาน้ำท่วมสูงในหลายจุดทำให้ประชาชนยังไม่สามารถผ่านสัญจรไปมาได้ และบ้านเรือนของประชาชนในหลายพื้นที่ยังมีน้ำท่วมอยู่เป็นจำนวนมาก

โดยนายจุรินทร์ ได้สั่งการให้ รัฐมนตรี และ ส.ส.ของพรรคฯ รวมถึงตัวแทนพรรคในแต่ละเขตในทุกพื้นที่เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน นอกจากการร่วมช่วยเหลือแก้ปัญหาเร่งด่วนในขณะนี้แล้ว ยังกำชับให้ติดตามสถานการณ์เพื่อให้ความช่วยเหลือในระยะยาวต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ ย้ำให้ประสานกับส่วนกลางอย่างใกล้ชิด

นายราเมศ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ในพื้นที่น้ำท่วมเช่นจังหวัดชุมพร นายสราวุธ อ่อนละมัย ส.ส.ชุมพร พรรรคฯ ได้เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ โดยประสานกับ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค เพื่อสั่งการกรมชลประทานให้ความช่วยเหลือ นำเครื่องมือหนักเข้าพื้นที่เพราะบางจุดต้องเปิดจุดให้น้ำไหลผ่าน รวมถึงขณะนี้ได้มีการประสานไปยังนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีข่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคฯได้สั่งการให้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเข้าให้ความช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นการเร่งย้ายคน ย้ายของ ออกจากพื้นที่ที่น้ำท่วมหนักหลายจุด

'พล.อ.ประวิตร’ ลงชุมพร สุราษฎร์ธานี เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมและแสดงความเสียใจครอบครัวผู้เสียชีวิต ห่วงสถานการณ์อุทกภัยหลายพื้นที่ สั่งจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าภาคใต้

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อ 1145 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ จว.ชุมพรและสุราษฎร์ธานี เป็นห่วงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่จังหวัดภาคใต้ โดยได้สั่งการให้ สทนช.จัดต้ัง “ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคใต้” พร้อมลงรับทราบติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาพรวม จากส่วนราชการต่างๆ ณ ศาลากลาง จว.ชุมพร

โดยสรุปสถานการณ์ภาพรวม จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ตั้งแต่ 10 พ.ย.64 ส่งผลให้ฝนตกหนักต่อเนื่อง เกิดอุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่งใน 8 จว.ภาคใต้หลายพื้นที่  ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขัง 3 จว.คือ ชุมพร สุราษฎร์ธานีและสงขลา รวม 10 อำเภอ 315 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,909 ครอบครัว โดยคาดการณ์ว่ายังมีฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลต่อระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลางของภาคใต้ มีปริมาณน้ำมากกว่า 80%และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหลายแห่ง เสี่ยงน้ำล้นตลิ่ง กระทบพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำ 

พล.อ.ประวิตร’ ย้ำว่า รัฐบาลมีความเป็นห่วงใยและตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นหลายพื้นที่จังหวัด  ซึ่งมีประชาชนได้รับผลกระทบหลายครัวเรือน ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และขอเป็นกำลังใจกับผู้ประสบภัยทุกครอบครัว พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลและทุกส่วนราชการจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการช่วยเหลือดูแลจนกว่าสถานการณ์จะปกติ

พร้อมกันนี้ ยังได้กำชับให้ทุกส่วนราชการในพื้นที่ เร่งระบายน้ำลงทะเล โดยเฉพาะ  อ.สวี อ.ท่าแซะ อ.เมือง จว.ชุมพร ที่เป็นที่ต่ำและยังคงมีน้ำท่วมขัง  พร้อมทั้งให้กระจายช่วยเหลือเร่งด่วนให้ทั่วถึงในทุกพื้นที่ เร่งซ่อมแซมบ้านเรือนที่อยู่อาศัย  เร่งสำรวจความเสียหายและเยียวยาผู้ประสบภัยให้ทั่วถึง  ขณะเดียวกันให้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์และพื้นที่เสี่ยง โดยต้องมีการแจ้งเตือนภัยอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่เสี่ยง 

 

“นายก” สั่ง เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้เต็มที่ - แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตกรณีรถยนต์พลัดตกคอสะพาน อ.สุคินริน จ.นราธิวาส 

นายธนกร วังบุญคงชนะ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานเหตุรถยนต์กระบะพลัดตกคอสะพานบ้านโนนสมบูรณ์ ม. 5 ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 6 ราย นั้น

นายกรัฐมนตรีแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต สั่งการเจ้าหน้าที่ร่วมกับ กองทัพลงพื้นที่เฝ้าระวังที่พื้นที่อาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน รวมถึงจุดเสี่ยงตามสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะเส้นทางสัญจร กำชับให้นำเครื่องกีดขวางและนำป้ายประกาศมาติดตั้งไว้ เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้และไม่ต้องการให้มีเหตุการณ์ซ้ำรอยสร้างความสูญเสียต่อชีวิต และสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินขึ้นอีก

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด มีความกังวลใจ แสดงความห่วงใยต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ขอให้พี่น้องประชาชนรับฟังการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานราชการอยู่ตลอดเวลา  ขอความร่วมมืออย่าเดินทางไปในจุดที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยว รวมถึงตามจุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อความปลอดภัย ในสถานการณ์แบบนี้ ขอให้ทุกคนระมัดระวังตัวเอง ระมัดระวังคนในครอบครัวโดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง หากจำเป็นต้องอพยพขอให้รีบอพยพไปในที่ปลอดภัยตามคำแนะนำของเจ้าหน้าของรัฐ

'รมว.เฮ้ง' ห่วงน้ำท่วมใต้ สั่งหน่วยงานระดมกำลังช่วยเหลือแรงงาน เร่งด่วน!

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือกรณีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งจากข้อมูลของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ณ วันที่ 28 ก.พ.65 เวลา 06.00 น.รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 25-28 ก.พ.65 มีฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมใน 7 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย นราธิวาส ยะลา นครศรีธรรมราช พัทลุง ปัตตานี สงขลา และตรัง ได้รับความเสียหาย 30 อำเภอ 127 ตำบล 440 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 12,129 ครัวเรือน ซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี 
ที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยผู้ใช้แรงงานและประชาชนทั่วไปทุกคนที่ประสบปัญหาอุทกภัยได้รับความเดือดร้อน 

โดยได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องบูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นการเร่งด่วน ทั้งการขนย้าย อพยพ เร่งระบายน้ำ การมอบสิ่งของเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน รวมถึงจัดให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบสถานการณ์อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ผมจึงได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดแต่ละจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ เร่งบูรณาการสนับสนุนความช่วยเหลือผู้ใช้แรงงาน ลูกจ้างผู้ประกันตน และประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนกับทางจังหวัดในแต่ละจังหวัด โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายประชาชนไปในสถานที่ที่ปลอดภัย จัดที่พักพิงชั่วคราว และสนับสนุนถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภคของใช้ที่จำเป็นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
          
นายสุชาติ ยังกล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของกระทรวงแรงงาน ว่า ล่าสุดผมได้สั่งการให้หน่วยงานจัดเตรียมถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภคของใช้ที่จำเป็นไปสนับสนุน ทั้งจากส่วนกลางและจังหวัดใกล้เคียง ในส่วนของจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสงขลาเป็นศูนย์อำนวยการให้ความช่วยเหลือ ให้สำนักงานแรงงานจังหวัดในพื้นที่ของบประมาณจัดทำโครงการจ้างงานเร่งด่วนและพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพ ดำเนินการจ้างงานช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบภัยให้มีรายได้

ทบ. เร่งส่งทหารร่วม ทุกภาคส่วนช่วยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมประเมินสถานการณ์และเข้าช่วยเหลือทันที

จากสถานการณ์ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายจังหวัด ของภาคใต้ในขณะนี้ ซึ่ง พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้รับรายงานการเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมกำชับให้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 ได้ส่งกำลังพล 486 นาย เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ 8 ลำ และยานพาหนะ 69 คัน ประกอบด้วย รถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ 24 คัน รถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก 15 คัน รถยนต์บรรทุก 10 ตัน รถบรรทุกเทท้าย 11 คัน รถวางสะพาน 1 คัน รถยนต์ทางทหารอื่น ๆ 18 คัน เข้าพื้นที่ประสบภัยบูรณาการร่วมกับ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชน จิตอาสา บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนโดยทันที เน้นการเข้าเคลื่อนย้ายสิ่งของ มอบถุงยังชีพ และปรุงอาหารสดแจกจ่ายประชาชน รวมทั้งซ่อมแซมและเชื่อมต่อเส้นทางการสัญจรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก 

โดยล่าสุด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยและพื้นที่เฝ้าระวังใน 4 จังหวัด  ได้แก่ จ.ยะลา, นราธิวาส, ปัตตานี และ สงขลา รวม 16 อำเภอ ซึ่งอยู่ในระหว่างการเข้าช่วยเหลือ อาทิ จ.ยะลา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ร่วมกับส่วนราชการ เข้าช่วยเหลือประชาชน พื้นที่ อ.รามัน, อ.ยะหา และ อ.กรงปินัง  มอบถุงยังชีพตามบ้านเรือน จัดทีมแพทย์เข้าให้การตรวจรักษา และที่ อ.บันนังสตา กองพันทหารช่างที่ 15 กองพลทหารราบที่ 15 ทำการติดตั้งสะพานเครื่องหนุนมั่นแบบเร่งด่วน (MFB) เชื่อมเส้นทางให้ประชาชนสัญจรหลังฝนตกหนัก
จ.นราธิวาส 

จากฝนที่ตกหนักตลอด 4 วัน ทำให้เกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.สุไหงโกลก กองพลทหารราบที่ 15 เข้าช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงตลอดจนขนสิ่งของขึ้นที่สูง, ที่ อ.ระแงะ ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนอย่างรวดเร็ว  หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 เข้าช่วยเหลือประชาชน โดยทำอาหารปรุงสุกนำไปแจกจ่ายถึงบ้านพักเนื่องจากน้ำท่วมสูงไม่สามารถเดินทางได้

'ราเมศ' เผย 'จุรินทร์-เฉลิมชัย-เดชอิชม์' ห่วงใย ปชช ลุยช่วย 'น้ำท่วมภาคใต้' เต็มสูบ

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดในหลายพื้นที่ภาคใต้ว่า

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยและติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ เช่น จังหวัดพัทลุง ตรัง สตูล สงขลา นครศรีธรรมราช นราธิวาส ยะลา ปัตตานี อย่างใกล้ชิด

ในช่วงที่ผ่านมาได้สั่งการให้ตัวแทนพรรค สาขา รวมถึง ส.ส. และอดีต ส.ส. รวมถึงอดีตผู้สมัคร ส.ส. และทุกภาคส่วนของพรรค เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน การให้ความช่วยเหลือกรณีเร่งด่วนและได้มีในส่วนรัฐมนตรีของพรรค ได้เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ รวมถึงการสำรวจความเสียหายเพื่อช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้หน่วยงาน ตรวจดูอย่างเข้มงวดไม่ให้สินค้าที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคขาดและเข้มงวดไม่มีมีกรณีซ้ำเติมประชาชนด้วยการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า

สตูล-ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ลงพื้นที่อำเภอควนกาหลง และอำเภอมะนัง เยี่ยมช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุวาตภัย

วันนี้ 3 มี.ค. 2565 นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยนาวาตรีหญิงโนสมา หลีเส็น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล และส่วนราชการลงพื้นที่อำเภอควนกาหลง และอำเภอมะนัง จังหวัดสตูล เยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนที่บ้านเรือนได้รับผลกระทบจากเหตุวาตภัย 3 หลังคาเรือน หลังจังหวัดสตูลมีฝนตกลงมาอย่างหนักและมีลมพายุส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนหลายหลังคาเรือน 

โดยหลังแรกเป็นบ้านของนางสุรภา ชัยโรจน์ บ้านเลขที่ 183 ที่หมู่ที่ 3 บ้านควนล่อน ตำบลควนกาหลง ซึ่งบ้านเรือนได้รับความเสียหายหลังจากพายุฝนพัดหลังคาบ้านเรือนหลุดออกจากตัวบ้าน เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 ส่งผลให้หลังคาบริเวณชั้น 2 ของตัวบ้านได้รับความเสียหาย ส่วนบ้านหลังที่ 2 ร้านอาหารตามสั่งป้าแดง บ้านเลขที่ 157 หมู่ที่ 3 บ้านควนล่อน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านหลังแรกประมาณ 150 เมตร ได้รับความเสียหายจากพายุฝนพัดหลังคาสังกะสีหลุดออกจากบ้านเช่นกัน โดยองค์การบริหารส่วนตำบลควนกาหลง ได้มอบหลังคากระเบื้องและเงินเพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่เจ้าของบ้านทั้ง 2 หลังแล้ว ในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล ร่วมมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค หน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ พร้อมเงินช่วยเหลือให้แก่เจ้าของบ้านทั้ง 2 หลัง และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล ร่วมมอบเงินช่วยเหลือเช่นกัน

ผบ.ตร.ห่วงใยสถานการณ์น้ำท่วม 10 จังหวัดภาคใต้ ส่งตำรวจบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ออกช่วยเหลือชาวบ้านทันที

สืบเนื่องจากประกาศกรมอุตินิยมวิทยา เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับที่ 9 (355/2565) (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 18-20 ธันวาคม 2565) ระบุว่า ในช่วงวันที่ 18-20 ธันวาคม 2565 สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย มี จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้ ภาคใต้ : จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล

19 ธ.ค. 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติพล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร.เปิดเผยว่า “ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 มอบหมายให้ ตร. รับผิดชอบ ในการรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชนและจัดระบบจราจรในพื้นที่ประสบภัยและพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนสนับสนุนกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ต่าง ๆ นั้น

‘บิ๊กป้อม’ ลงใต้ ให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม กำชับทุกหน่วยงาน ช่วยเหลือปชช. อย่างเร่งด่วน

‘พล.อ.ประวิตร’ ลงใต้ ให้กำลังใจและติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ กำชับแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงและให้การช่วยเหลือรวดเร็วทั่วถึง

(19 ธ.ค. 65) โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ รมช.คลัง และ รมช.กห. เดินทางลงภาคใต้ จังหวัดปัตตานี ลงตรวจพื้นที่และรับทราบสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ภาพรวม จาก สทนช. พร้อมทั้งติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจากหน่วยงานในพื้นที่

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ เยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 บินสำรวจทางอากาศในพื้นที่ตำบลมูโน๊ะ อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ซึ่งในปีนี้มีปริมาณน้ำท่วมบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนสูงกว่าทุกปี แม้จะมีการแจ้งเตือนจากหน่วยงานในพื้นที่แล้ว แต่ด้วยมวลน้ำที่เข้าท่วมบ้านเรือนอย่างรวดเร็วและมากกว่าทุกปี จึงทำให้พี่น้องประชาชนไม่สามารถเตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงได้อย่างทันท่วงที ขณะนี้ได้สั่งได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่ บูรณาการกำลังกับทางอำเภอสุไหงโก-ลก เข้าให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน พร้อมกันนี้ได้ลงพื้นที่ ยังศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โรงเรียนเทศบาล 4 บ้านทรายทอง เทศบาลเมืองสุไหงโก ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับผู้อพยพจากเหตุอุทกภัย พบปะพูดคุยและให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยดังกล่าว ร่วมตักอาหารบริการพี่น้องประชาชนที่มารอรับอาหารและเครื่องดื่มไปรับประทาน ซึ่งมีระบบการจัดการ และการจัดระเบียบในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างดีเยี่ยม มีบัตรคิวสำหรับผู้ได้รับผลกระทบ และส่งตัวแทนรับของช่วยเหลือ ทำให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างครอบคลุม 

ในส่วนของบริเวณถนนเจริญเขตซอย 19 ชุมชนบือเรง ตำบลสุไหงโกลก อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ขณะนี้รถเล็กไม่สามารถใช้เส้นทางได้ มีผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย กว่า 500 ครัวเรือนแล้ว โดยส่วนใหญ่อาศัยมัสยิดบือเรงเป็นที่พักพิงชั่วคราว และมีพี่น้องประชาชนบางส่วนต้องเดินทางฝ่ายน้ำไป-กลับกว่า 2 กิโลเมตร เพื่อออกมารับถุงยังชีพ และซื้อของใช้ที่จำเป็น 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top