Friday, 3 May 2024
นางสาวไทย

‘น้องเฟิร์น’ สาวน้อยออทิสติกหัวใจแกร่ง ขอเป็นตัวแทนคนพิการ บนเวทีนางสาวไทย

สร้างปรากฏการณ์บนเวทีการประกวดนางสาวไทยเมื่อ “เฟิร์น พรนภาพรรณ” สาวน้อยออทิสติกถึงตัวจะพิการแต่ใจสู้ขอลงประกวดสักครั้งในชีวิต ! 

เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2565 ที่กองประกวดนางสาวไทยประจำปี 2565 ได้มีการจัดรอบคัดเลือกเพื่อเฟ้นหานางสาวไทยในปีนี้ มีสาวน้อยคนหนึ่งได้สร้างความประทับใจในรอบคัดเลือกนี้อย่างมาก 

นั่นคือ “เฟิร์น พรนภาพรรณ สังวาลทอง” สาวน้อยวัย 21 ปี จากคณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาไทย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ผู้พิการออทิสติก ได้เข้ามาลงประกวดชิงมงกุฎในครั้งนี้ด้วย ซึ่งเฟิร์นนั้นเป็นออทิสติก ประเภท A TYPE ลักษณะเหมือนคนปกติทุกอย่าง แต่จะมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร การทำความเข้าใจเรื่องการตีความ รวมไปถึงการเข้าสังคม

'สุโขทัย' ค้นหาสาวงามเป็นตัวแทน ' ทูตแห่งการท่องเที่ยว' เผยแพร่มรดกอันงดงามของ จ.สุโขทัยสู่สายตาโลก

เมื่อวานนี้ (18 ก.พ. 66) เวลา 19.30 น. นายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานเปิดงานประกวดนางสาวไทยสุโขทัย พร้อมด้วยนางพร้อมจันทร์ ทีคะสุข รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุโขทัย ร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินการประกวดฯ โดยมีดร.พรรณสิริ กุลนาถสิริ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 ส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชนเข้าร่วมงาน ตามที่กองประกวดนางสาวไทย มอบหมายให้ผู้ถือลิขสิทธิ์ดำเนินการจัดการประกวดนางสาวไทยแต่ละจังหวัด โดยจังหวัดสุโขทัยได้เริ่มดำเนินการเปิดรับสมัครสรรหาสาวงามที่สนใจเข้าร่วมการประกวดนางสาวไทยสุโขทัย (Miss Thailand Sukhothai) ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 16 – 19 กุมภาพันธ์ 2566 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ซึ่งมีผู้เข้าร่วมแข่งขันการประกวดทั้งหมด 9 สาวงาม ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น 'นางสาวไทยสุโขทัย' จะต้องมีหน้าที่เป็น 'ทูตวัฒนธรรม' เผยแพร่การท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวภายในจังหวัด เผยแพร่วัฒนธรรมพื้นถิ่น ที่ควรค่าแห่งมรดกอันงดงาม รวมถึงนำเสนอของดีประจำจังหวัด ทั้งเรื่องอาหารพื้นถิ่น ประเพณีพื้นบ้าน และผลิตภัณฑ์อันเลอค่า ให้ปรากฏแก่สายตาของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สมกับเป็นเมืองสร้างสรรค์และเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ ควรค่าแก่มรดกแห่งความทรงจำ

‘ปุ๊ก อาภัสรา’ เปิดภาพล่าสุด ‘หม่อมโจ้’ ลูกชายคนแรก พาหลานขึ้นรถไฟฟ้า รถเมล์เที่ยว

เรียกได้ว่านานๆจะออกมาเผยโฉมหน้าอันหล่อเหลาออกสื่อบ้าง สำหรับ “หม่อมโจ้” หรือ “มล.รุ่งคุณ กิติยากร” ลูกชายคนแรกของคุณแม่คนสวย “ปุ๊ก อาภัสรา หงสกุล” นางสาวไทย พ.ศ. 2507 และนางงามจักรวาล ค.ศ. 1965

ล่าสุดคุณแม่ “ปุ๊ก อาภัสรา” ได้ออกมาโพสต์รูปภาพของลูกชายหม่อมโจ้ ที่ได้พาลูกชาย “น้องกัสสป” ขึ้นรถเมล์ไปนั่งรถไฟฟ้าเที่ยวอย่างเรียบง่าย โดยระบุแคปชั่นเอาไว้ว่า “กัสสปะนั่งรถไฟฟ้าไปเที่ยวกับ คุณพ่อครับ”
 

‘นางสาวไทยปี 66’ ชื่นชมโครงการ ‘หยุดเผาเรารับซื้อ’ หวังเป็นจุดเริ่มต้นคืนอากาศบริสุทธิ์เชียงใหม่อย่างยั่งยืน

ผลพวงจากไฟป่าและหมอกควันที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสุขภาพและเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ หลาย ๆ กิจกรรมต้องหยุดชะงัก โดยเฉพาะภาคการศึกษาที่ต้องหยุดการเรียนการสอน หลาย ๆ ภาคส่วนพยายามที่จะรณรงค์เพื่อให้หยุดการเผาทำลายป่า

แต่ทว่า ไฟป่าก็ยังคงเกิดขึ้นทุกปี ในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของทางจังหวัดเชียงใหม่ 

นางสาวชนนิกานต์ สุพิทยาพร นางสาวไทยประจำปี 2566 ในฐานชาวเชียงใหม่โดยกำเนิด ได้สะท้อนมุมมองต่อปัญหาดังกล่าวว่า ในฐานะคนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่มาทั้งชีวิต และต้องเผชิญกับปัญหาหมอกควันและฝุ่นพิษมาทุกปี ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตอย่างมาก ทั้งในแง่สุขภาพ และการเรียน เพราะในบางวันที่สถานการณ์รุนแรง จะต้องหยุดเรียน รวมถึงหยุดกิจกรรมกลางแจ้งทั้งหมด  

แน่นอนว่า เรื่องของหมอกควันหรือฝุ่น PM2.5 เป็นเรื่องที่ทุกคนควรจะร่วมแรงร่วมใจ ร่วมกันแก้ไขปัญหาจากต้นเหตุที่ไม่ใช่แค่ปลายเหตุ และในฐานะของอดีตนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อยากสะท้อนให้เห็นปัญหาหลัก คือเรื่องของการศึกษา การที่ต้องหยุดเรียนทําให้เหมือนถูกลิดรอนสิทธิในการที่จะได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมกับคนจังหวัดอื่นๆ ที่ยังได้เรียนอยู่ตามปกติ 

เพราะฉะนั้น ต้องกลับมาอีกคิดกันใหม่ การแก้ไขปัญหาบางทีอาจจะไม่ใช่แค่การหลีกเลี่ยงฝุ่น แต่ควรจะมาเริ่มจากการแก้ไขที่ต้นเหตุ ว่าจะทํายังไงให้ประชาชนหรือเกษตรกรหยุดการเผา หรือแม้กระทั่งการปลูกฝังจิตสํานึกให้กับเด็กรุ่นใหม่ว่า การหันกลับมาช่วยเหลือบ้านเมือง เป็นเรื่องสําคัญมาก

อย่างไรก็ดี จากการที่ภาครัฐและเอกชนได้รวมตัวเป็นภาคีเครือข่ายเชียงใหม่ร่วมขจัด PM2.5และลดโลกร้อน ร่วมผลักโครงการหยุดเผาเรารับซื้อ ด้วยการรับซื้อเศษตอซังข้าวโพดจากเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเปลี่ยนเศษซากทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล เชื่อว่า โครงการนี้จะช่วยลดการเผาป่าและจะช่วยคืนอากาศบริสุทธิ์ให้กับชาวเชียงใหม่ เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุที่สำคัญ ที่หวังว่าจะทำให้เกษตรหยุดการเผาได้อย่างยั่งยืน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top