Monday, 29 April 2024
ติดคุก

โพสต์ผิดชีวิตเปลี่ยน โพสต์ด่าตัวย่อก็ติดคุกได้

เมื่อก่อนอาจจะได้ยินคำว่า ‘คิดก่อนพูด’ ซึ่งก็เป็นคำที่สามารถใช้ได้กับทุกยุค แต่ปัจจุบันควรเปลี่ยนมาใช้คำว่า ‘คิดก่อนโพสต์’ เพราะตราบใดที่เราโพสต์หรือแสดงความคิดเห็นที่ไม่สร้างสรรค์ลงโซเชียล เราอาจเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เพียงเพราะการไม่คิดก่อน

วันนี้ทีมข่าว The States Times จะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจกับ ข้อกฎหมายเบื้องต้นเกี่ยวกับความผิดฐานหมิ่นประมาท พูดและพิมพ์อย่างไรให้ปลอดภัย เพราะทุกคนมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่ต้องอยู่ในขอบเขตที่พอดี 

ก่อนอื่นอยากชวนผู้อ่านทำความเข้าใจกฎหมายอาญาก่อน ว่าต้องทำแบบไหนถึงผิด โดยประมวลกฎหมายอาญา กำหนดความผิดฐานหมิ่นประมาทไว้ใน มาตรา 326 โดยมีมาตรา 328 ซึ่งเป็นบทเพิ่มโทษบัญญัติไว้ว่า “มาตรา 326 ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

ทว่าการที่เราจะแสดงความคิดเห็นที่อาจเป็นความผิดมาตรา 326 ได้นั้น จะต้องมีบุคคลที่สามมายืนยันข้อเท็จจริง ซึ่งข้อความอาจจริงหรือไม่จริงก็ได้ แต่ต้องชัดเจนให้บุคคลที่สามรู้ว่าคนถูกใส่ความคือใคร และต้องเป็นพฤติกรรมที่สังคมไม่ยอมรับและน่ารังเกียจ จนทำให้ผู้ถูกใส่ความเสียชื่อเสียง ดูถูกดูหมิ่น แต่หากเป็นกรณีที่ไม่ได้ตั้งใจกล่าวถึง หรือประมาทเลินเล่อ จะไม่มีความผิดตามกฎหมายอาญา

ส่วนมาตรา 328 มีไว้เพื่อเอาผิดกับคนที่ทำให้ ข้อความหมิ่นประมาทเผยแพร่เป็นวงกว้าง โดยบัญญัติไว้ว่า “มาตรา 328 ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทําโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทําให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทําโดยการกระจายเสียง หรือการ กระจายภาพ หรือโดยกระทําการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทําต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท”

พูดง่ายๆ ก็คือ มาตรานี้กำหนดโทษหนักขึ้นเพื่อเอาผิดกับคนที่ทำให้ข้อความหมิ่นประมาทเผยแพร่ไปในวงกว้างนั่นเอง ยกตัวอย่าง เช่น กองทัพเรือฟ้องผู้สื่อข่าวและบรรณาธิการเว็บไซต์ภูเก็ตหวาน ในความผิดฐานหมิ่นประมาท และคดีตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จากการเผยแพร่รายงานของรอยเตอร์ ที่อ้างว่ากองกำลังทางเรือของไทย ได้รับผลประโยชน์จากการค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา

‘คริส วู’ เจอคุก 13 ปี - เนรเทศพ้นประเทศจีน โทษฐาน ‘ล่วงละเมิดทางเพศ-ปาร์ตี้มั่วสุม’

กว่าหนึ่งปีหลังถูกควบคุมตัวในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ล่าสุดในวันนี้ (25 พ.ย. 65) สำนักข่าว ‘รอยเตอร์ส’ (Reuters) รายงานว่าศาลเขาเฉาหยาง ปักกิ่ง ตัดสินจำคุก 13 ปี แก่ ‘คริส วู’ หรือ ‘อู๋อี้ฝาน’ (Kris Wu) ดาราศิลปินหนุ่มจีนคนดัง วัย 32 ปี ซึ่งมีผลงานเพลงและงานแสดงเป็นที่รู้จักมากมาย

หลังการสืบสวนสอบสวนพบว่า ‘คริส วู’ กระทำผิดจริง หลังจากที่ได้ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศซึ่งรวมถึงการข่มขืนกระทำชำเราหญิงสาวจำนวน 3 ราย ในช่วงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม ปี 2020

และนอกจากมีความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศแล้ว ศาลยังระบุว่า ดาราศิลปินหนุ่มคนดังรายนี้มีความผิดทางอาญาฐานก่อการมั่วสุมทางเพศในงานปาร์ตี้รวมกลุ่มฝูงชน โดยหลังจากชดใช้ความผิดในคุก 13 ปีแล้ว เขาจะถูกเนรเทศออกนอกประเทศต่อไป

'ศาล' สั่งจำคุก 'ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน' เจ้าพ่อฮอลลีวูด เพิ่มอีก 16 ปี ข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ รวมโทษ 39 ปี

(24 ก.พ. 66) สำนักข่าวเอพี ของสหรัฐอเมริกา รายงานว่า ศาลสูงในนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา แถลงคำพิพากษาให้จำคุก 16 ปี นายฮาร์วีย์ ไวน์สตีน วัย 70 ปี อดีตผู้ผลิตภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่แห่งวงการฮอลลีวูด และต้นตอที่ก่อให้เกิดกระแสแฮชแท็ก #MeToo วลีดังที่กลายเป็นการเคลื่อนไหวของสังคมทั่วโลกเมื่อปี 2560 เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมแก่เหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ

นายไวน์สตีนถูกจำคุกเพิ่มอีก 16 ปี ตามความผิดฐานข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศนักแสดงและนางแบบชาวอิตาลี ในช่วงเทศกาลหนัง ก่อนการประกาศรางวัลออสการ์เมื่อปี 2556

ผู้ก่อตั้ง Thodex รับโทษ 11,196 ปี 10 เดือน 15 วัน  ฐานฉ้อโกง ปิดระบบหนี ทิ้งลูกค้านับแสนรายสูญเงิน

ไม่นานมานี้ ‘Faruk Fatih Özer’ ผู้ก่อตั้ง Thodex แพลตฟอร์มเทรดเงินคริปโตรายใหญ่ของตุรเคีย ต่อมาปิดระบบหอบเงินนับ 2 พันล้านเหรียญหนีไปกบดานในแอลเบเนีย ทิ้งลูกค้านับแสนรายลอยคอแบบไร้แพ กับเงินลงทุนที่สูญหายไร้ร่องรอย

ตำรวจสากลสามารถตามจับกุม และส่งตัวขึ้นศาลตุรเคีย วันนี้ถูกตัดสินโทษ จำคุกนาน 11,196 ปี 10 เดือน กับอีก 15 วัน 

โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง 11,196 ปี 10 เดือน 15 วัน ในคุกตุรเคียที่มีการนิรโทษกรรม อภัยโทษ หรือลดหย่อนน้อยมาก ปัจจุบันเขาอายุ 29 ปี ต้องเกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิด อีกกี่ชาติ ถึงจะหมด

‘ศาลฯ’ สั่งจำคุก ‘อานนท์’ อีก 4 ปี ไม่รอลงอาญา คดีโพสต์เฟซบุ๊กดูหมิ่น-จาบจ้วง-ให้ร้ายสถาบันฯ

(17 ม.ค.67) ที่ห้องพิจารณาคดี 902 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบันหมายเลขดำ อ 2804 /2564 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา5 เป็นโจทก์ฟ้องนายอานนท์ นำภาอายุ 40 ปี อาชีพทนายความ เป็นจำเลยในความผิดดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14

อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2564 และวันที่ 3 มกราคม 2564 จำเลยได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กของตัวเองชื่อ อานนท์ นำภา รวม 3 ข้อความ มีผู้ติดตาม 227,286 คน มีการแชร์ข้อความนับ 10,000 ครั้ง และกดไลก์ นับ 10,000 ครั้ง โดยมีเนื้อหาดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้าย สถาบันเบื้องสูงอันเป็นความผิดตามกฎหมาย และให้ศาลบวกโทษจำคุกจำเลยคดีความผิดของศาลอาญานี้ และของศาลอื่นด้วย เหตุเกิดที่ อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด และท้องที่อื่นเกี่ยวพันกัน จำเลยให้การปฏิเสธ

วันนี้ศาลเบิกตัวจำเลยจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยมีภรรยา บุตรชาย-หญิง 2 คน และมีผู้ให้กำลังใจจำนวนหนึ่งเดินทางมาศาล

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้วเห็นว่าข้อความทั้ง 3 ข้อความที่จำเลยโพสต์ในเฟซบุ๊กซึ่งเปิดสาธารณะ ทำให้ผู้อ่านเข้าใจคลาดเคลื่อน เป็นการบิดเบือนดูหมิ่น ให้ร้าย จาบจ้วง ล่วงละเมิดสถาบัน ถือเป็นความผิดร้ายแรง 

พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมาล้วนมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ส่วนข้อต่อสู้ของจำเลยที่อ้างว่าต้องการให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น ฟังไม่ขึ้น ไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้

การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อันเป็นบทหนักสุด

พิพากษาจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา และให้บวกโทษกับคดีดำ อ.2495/2564 ของศาลอาญา ส่วนคดีอื่น ๆ ที่ขอให้ศาลบวกโทษกับศาลอื่นนั้น เนื่องจากศาลยังไม่มีคำพิพากษา จึงให้ยกในส่วนนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาจำคุกนายอานนท์ 4 ปี ไม่รอลงอาญา ปรับ 2 หมื่นบาท กรณีนายอานนท์ ซึ่งเป็นแกนนำม็อบราษฎร ปราศรัยดูหมิ่นสถาบัน บริเวณอนุสาวรีย์สมรภูมิ เมื่อปี 2563 ซึ่งเมื่อรวมโทษกับคดีนี้ คงจำคุกนายอานนท์ รวม 8 ปี


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top