Monday, 29 April 2024
การศึกษาไทย

ขอนแก่น - รมช.ศธ.เปิดนิทรรศการ "KKC Smart Education 2021" ตอกย้ำมาตรฐานการศึกษาของไทย! ในยุคโควิด-19 ทั้งออนไลน์ - ออนไซค์ต้องได้มาตรฐาน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 ต.ค.2564 ที่ ห้องประชุมแก่นเมือง ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น คุณหญิง กัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดนิทรรศการ "KKC Smart Education 2021: เพราะการศึกษาต้อง Move on" ซึ่งกระทวงศึกษาธิการ และสำนักงานศึกษาธิการ จ.ขอนแก่น ได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้น โดยมี นายสุภัทร จำปากุล ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ,นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผจ.ขอนแก่น ,นายศุภชัย จันปุ่ม ศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน ผู้ปกครอง เข้าร่วมงานกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางมาตราการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด

คุณหญิง กัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า รัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดนโยบายในการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพ มีความพร้อม ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โดยกำหนดจุดเน้นในการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรอบรู้และใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเป็นเครื่องมือในการดำรงชีวิตโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องของการจัดการองค์ความรู้และยกระดับทักษะที่จำเป็นที่เน้นพัฒนาความรู้และสมรรถนะ ด้าน Digital  Literacy และเน้นหนักในเรื่องของการศึกษาแบบยกกำลัง 2 ในการพัฒนาครูให้มีความรู้ สมรรถนะและทักษะ

"ขณะเดียวกันในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา โดยพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้และระบบบริหารจัดการห้องเรียน Smart School และ Smart Classroom ซึ่งจังหวัดขอนแก่นมีแนวโน้มการขยายตัวของเมืองและเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องโดยถูกกำหนดให้เป็น 1 ใน 7 เมือง ของประเทศในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยี สู่การพัฒนาเป็นเมืองอัจฉริยะต้นแบบหรือ Smart City ได้อย่างชัดเจนและลงตัวที่สุด"

 

นโยบายพรรคการเมืองมีผลต่อ ‘การศึกษาระดับชาติ’ อย่างไร | Click on Clear THE TOPIC EP.131

📌 มอง ‘ชะตาการศึกษาไทย’ ผ่าน ‘นโยบายพรรคการเมือง’!! ไปกับ ‘ครูเป็ด มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร’!!

📌ใน Topic : ชะตา!! ‘การศึกษาไทย’ นโยบายพรรคการเมืองมีผลต่อ ‘การศึกษาระดับชาติ’ อย่างไร?!

ในรายการ Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้

🕗เวลา 2 ทุ่มตรง รับชมไปพร้อมกัน !!

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

🎥ช่องทางรับชม LIVE 
Facebook: THE STATES TIMES
YouTube: THE STATES TIMES
TikTok: THE STATES TIMES

‘สวนนุงนุชพัทยา’ มอบเงินสนับสนุน ‘งบประมาณกองทุนเพื่อการศึกษา’! ให้แก่โรงเรียนบ้านปางห้วยตาด เพื่อใช้ในการเรียนการสอน

ที่โรงเรียนบ้านปางห้วยตาด อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนุงนุช พัทยา  ได้มอบเงินสนับสนุนงบประมาณกองทุนเพื่อการศึกษาให้แก่โรงเรียนบ้านปางห้วยตาด  จำนวน 250,000 บาท  โดยมี นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม (นายอำเภอแม่แตง)นายพิชิตชัย อินทร์ภูวงศ์  รอง ผอ.สพป.เชียงใหม่ เขต 2 พร้อมด้วยคณะศึกษานิเทศก์ สพป.เชียงใหม่ เขต 2 พร้อมด้วยคณะศึกษานิเทศก์ สพป.เชียงใหม่ เขต 2 เป็นผู้รับมอบพร้อมด้วย คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และแขกผู้มีเกียรติ

โดยการมอบเงินสนับสนุนงบประมาณกองทุนเพื่อการศึกษาในครั้งนี้เนื่องจากที่ผ่านมาทางคณะได้เคยเดินทางมามอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนโรงเรียนบ้านปางห้วยตาด หลังจากนั้นได้มีการพูดคุยกับทางคณะครูผู้บริหาร ซึ่งได้รับทราบว่าทางโรงเรียนนั้นได้เงินงบประมาณมาใช้ในการเรียนการสอน ซึ่งไม่เพียงพอในการบริหารโรงเรียนทั้งปี โดยยังขาดเงินในการบริหารอีก 250,000 บาท ทางสวนนงนุช นำโดย นายกัมพล ประธานสวนนงนุชพัทยา จึงได้มอบเงินสนับสนุนงบประมาณกองทุนเพื่อการศึกษาให้แก่โรงเรียนบ้านปางห้วยตาด ตามที่ทางโรงเรียนต้องการ เพื่อจะได้นำมาบริหารงานของโรงเรียน  เพื่อให้เด็กได้มีการมีเรียนรู้ เป็นอนาคตที่ดีของประเทศชาติที่ดีต่อไป

 

ถึงเวลาแล้วหรือยัง? ‘Lifelong Learning’ ควรมาแทนการศึกษาภาคบังคับ | Click on Clear THE TOPIC EP.133

📌 ถึงเวลาหรือยังที่ ‘การศึกษาไทย’ ต้องปฏิรูป!! พูดคุยไปกับ ‘นายเมธชนนท์  ประจวบลาภ’
ผู้อำนวยการสถานศึกษาศูนย์การเรียนเซนต์ ยอห์นบอสโก!!

📌ใน Topic : ถึงเวลาแล้วหรือยัง? ‘Lifelong Learning’ ควรมาแทนการศึกษาภาคบังคับ!!

ในรายการ Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

มิติใหม่ ‘การศึกษาไทย’!! พัฒนาการเรียนรู้ ผ่านวิถีแห่ง ‘บ้านเกิด’ | Click on Clear THE TOPIC EP.139

📌 เปิดใจ!! พัฒนา ‘การศึกษาไทย’!! ด้วยแนวทางการเรียนรู้จาก ‘บ้านเกิด’ ไปกับ ‘คุณสริภา สุจิตต์’ นิสิตและนักกิจกรรม

📌 ใน Topic : มิติใหม่ ‘การศึกษาไทย’!! พัฒนาการเรียนรู้ ผ่านวิถีแห่ง 'บ้านเกิด'

ร่วมจับประเด็น เน้นความรู้ได้ในรายการ Click on Clear THE TOPIC

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

การศึกษายุคใหม่!! ต้องปั้นเด็กไทย ให้เป็น ‘Global Leader’ | Click on Clear THE TOPIC EP.148

📌  โลกยุคใหม่ กับการศึกษาไทยที่ควรเป็น!! พบกับแขกรับเชิญพิเศษ ‘คุณสืบศิษฏ์ ศานติศาสน์’  เจ้าของเพจ “คิดแบบ Global Citizen” เจ้าของรางวัล ครูผู้สอนดีเด่นแห่งปี

📌 ใน Topic : การศึกษายุคใหม่!! ต้องปั้นเด็กไทย ให้เป็น ‘Global Leader’

ร่วมจับประเด็น เน้นความรู้ได้ในรายการ Click on Clear THE TOPIC

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

‘กรณ์’ ชี้!! คนรุ่นใหม่ อยากเห็นระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่น ไม่ทุ่มซื้อคุณภาพด้วยเงินล้าน - เรียนเรื่องไม่มีประโยชน์

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเรื่องการเติมพลังคนรุ่นใหม่ ว่า เมื่อคืนนี้ล้อมวงคุยนิสิตจุฬาฯ สนุกมากครับ แว่บเดียวเวลาผ่านไป 3 ชั่วโมง หลายคนเป็นสายเทค แทบทุกคนเป็นนักกิจกรรม บางคนเคยร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่น

เราคุยกันถึงความเป็นเสรีนิยมประชาธิปไตย ซึ่งเป็นปรัชญาหลักของ พรรคกล้า – KLA Party ที่เน้นการยอมรับความหลากหลาย และการเคารพสิทธิของทุกคนในการเลือกวิธีใช้ชีวิต โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าจะ ‘ต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น’

ผมบอกกับน้องๆ ว่า แต่ละพรรคให้ความสำคัญกับเรื่องที่ต่างกัน เรามองว่าเรื่องที่ต้องมาก่อนคือเรื่อง #เศรษฐกิจปากท้อง โอกาสในการทำมาหากิน และโอกาสในการสร้างเนื้อสร้างตัว เรา #ลงมือทำ ด้วยหลัก #ปฏิบัตินิยม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้

และผมอธิบายอุดมการณ์ของพรรคที่ให้ความสำคัญกับ ชาติ ศาสนา และสถาบันกษัตริย์ ว่าหมายความว่าอย่างไร และเป็นเพราะอะไร

‘พงศ์พรหม ยามะรัต’ ห่วงอนาคตการศึกษาไทยใกล้ถึงจุดพัง เหตุสภาพแวดล้อมทางการศึกษาไม่เอื้อเด็กใฝ่เรียน แถมเด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่รักสบาย อยากได้แต่สินค้าแบรนด์เนม

นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊ก Pongprom Yamarat ระบุว่า..

คุยกับหลายๆคนเรื่องเด็กไทยจำนวนไม่น้อยอยากไปเรียนต่างประเทศ

หลายคนสอบชิงทุนกันไปได้ หลายคนเร่งพัฒนาทักษะภาษาจีน อังกฤษ เยอรมันเองจนไปเรียนต่อได้ดี

นอกจากเหตุเรื่องระบบการศึกษาไทยถอยหลังลงคลองมา 20 ปีแล้ว

มันมีอีก “ปัญหาซ้อนปัญหา” ครับ

ผมจะสรุปเป็นข้อๆเพื่อให้กระชับ

1. เด็กรุ่นนี้ ก็เหมือนเด็กรุ่นก่อนๆ หรือรุ่นผม คือมีเด็กชอบเรียนรู้ผสมกับเด็กรักสบาย อันนี้เป็น basic เด็กทั่วโลก

2. ปัญหาแรกที่เจอ คือ “ความอึดอัด” ในเด็กรุ่นเดียวกันครับ

3. ผมมีหลานจบ Ivy League อยากพัฒนาประเทศไทย เลยกลับมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยดัง สิ่งที่พบคือเด็กไทยสนแต่การพูดคุยเรื่องกระเป๋าแบรนด์เนม ที่เที่ยวสวยๆ ชีวิตสบายๆ ไม่ได้เรียนด้วย passion อะไร กะให้สอบๆเพื่อได้ใบปริญญา หลานผมสอนได้ปีเดียวก็กลับอเมริกา เพราะบอกว่าเด็กรุ่นเขาในไทย มันต่างจากเด็กรุ่นเขาในอเมริกามาก เด็กไทยในไทยรักสบาย และเปราะบางเหลือเกิน

4. ผมเจอเด็กอีกหลายเคสที่กระตือรือร้นไปต่างประเทศ เพราะเบื่อคนรุ่นเดียวกัน เด็กๆเหล่านี้มีความเห็นตรงกัน 3 อย่าง

4.1 การศึกษาไทยในโรงเรียนดีๆเช่นสาธิต ไม่แย่ 

4.2 แต่สิ่งแวดล้อมในกรุงเทพ ไม่มีแหล่งเรียนรู้ เช่นมิวเซียม หอศิลป์ ศูนย์นวัตกรรมเพียงพอ เพราะมีแต่ห้าง และพื้นที่จัดคอนเสิร์ต

4.3 เด็กรุ่นเดียวกันสนใจแต่บันเทิง แฟชั่น แบบตามกระแส สนการกิน การใช้ชีวิตตามโซเชียล แต่ไม่มีใครสนใจที่จะเข้าใจที่มา เช่นแห่ซื้อกระเป๋าดัง แต่ไม่รู้หรอกว่ามันดัง มันดี เพราะอะไร เหตุเพราะไม่ศึกษา ไม่มีวัฒนาการชอบเรียนรู้ แต่เอาเวลาไปถ่ายรูปกันหมด5. ลูกของคนรู้จักกำลังเรียน Ivy League แห่งนึง แล้วกลับมาฝึกงานในไทย สิ่งที่เจอคือคุยกับเพื่อนๆฝึกงานจาก มหาลัยในไทยไม่รู้เรื่อง เพราะขณะที่ฝึกงาน เรียนรู้งานอย่างแข็งขัน เด็กเรียนไทยคุยกันแต่เรื่องที่เที่ยว เปิด IG นัดกันทำ workshop ก็มาสาย แต่พอจะปาร์ตี้ ก็ปาร์ตี้ไม่สุด สรุปคือ work ก็ไม่ hard พอจะ play ก็ไม่ hard อีก กลายเป็นว่าน้อง ๆ Ivy League เหล่านี้ต้องมาคุยกับคนรุ่นผมแทน เพราะเด็กไทยในไทย “ไม่มีพลังพอ”

ศธ. รับนโยบายปรับหลักสูตรปลูกฝังเด็กนักเรียน เน้นรัก ‘ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์’ หวงแหนแผ่นดินเกิด

เมื่อวันที่ 26 พ.ย.นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้พัฒนาและปรับปรุงการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ ให้มีความน่าสนใจ และมีนโยบาย 8+1 กำหนดโครงสร้างเวลาเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และให้สถานศึกษาขั้นพื้นฐานจัดรายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ ออกมา 1 รายวิชา เพื่อบ่มเพาะให้นักเรียนภาคภูมิใจรักความเป็นไทย หวงแหนในสิ่งที่บรรพชนให้ไว้เป็นมรดกทางปัญญา รักษา สืบสาน ต่อยอดและนำมาปรับประยุกต์ในปัจจุบัน 

โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ในวันที่ 28 พ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ‘การบริหารจัดการโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และ 1 รายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน’ และพิจารณาแนวทางขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ปีงบประมาณ 2566 เพื่อเป็นแนวทางให้ต้นสังกัดของสถานศึกษา และสถานศึกษาสามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายอนุชา กล่าวว่า ในร่างประกาศ ศธ. ฉบับดังกล่าว กําหนดให้สถานศึกษาขั้นพื้นฐานจัดโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และรายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ 1 รายวิชา โดยจัดเวลาเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ ระดับประถมศึกษา 40 ชั่วโมงต่อปี ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 40 ชั่วโมงต่อปี (1 หน่วยกิตต่อปี) และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย รวม 3 ปี 80 ชั่วโมง (2 หน่วยกิต) ซึ่งสถานศึกษาสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เช่น การใช้พิพิธภัณฑ์เป็นสื่อ การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและต่อยอดประวัติศาสตร์สู่งานอาชีพ การบูรณาการประวัติศาสตร์กับรายวิชาอื่น และการศึกษานอกสถานที่และแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เป็นต้น หากบอร์ด กพฐ.พิจารณาให้ความเห็นชอบ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ลงนามในประกาศ ศธ. จะมีการแยกรายการประเมินผลการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ใหม่ โดยในแบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา (ปพ.3) จะมีการแสดงผลการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์แยกออกมา จากเดิมที่รวมอยู่ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 

'เพื่อไทย' ลั่น!! ระบบการศึกษาภายใต้ 'บิ๊กตู่' สร้างความเหลื่อมล้ำ เสี่ยงทำเด็กหลุดจากระบบ เพราะปัญหาความยากจน

(20 เม.ย.66) ดร.ณหทัย ทิวไผ่งาม ประธานคณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ พรรคเพื่อไทย, ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย คณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ด้านอุดมศึกษา พรรคเพื่อไทย, สุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช คณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ด้าน EdTech พรรคเพื่อไทย, รศ.ดร.จอมพงศ์ มงคลวานิช คณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ด้านอาชีวศึกษา พรรคเพื่อไทย, ดร.ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตลาดกระบัง (ยกเว้นแขวงลำปลาทิว) เบอร์ 6 พรรคเพื่อไทย คณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ด้านกิจกรรมพัฒนาเยาวชน พรรคเพื่อไทย แถลงเปิดตัว คณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ พรรคเพื่อไทย
.
ดร.ณหทัย กล่าวว่า ระบบการศึกษาภายใต้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สร้างความเหลื่อมล้ำและเด็กนักเรียนเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษาเพราะปัญหาความยากจนอย่างรุนแรง เมื่อเด็กหลุดจากระบบการศึกษา ก็จะตกงานไร้อาชีพอยู่กับความยากจน ดังนั้น การพัฒนาศักยภาพคน คือ ทางออก

พรรคเพื่อไทยจึงออกแบบนโยบายเพื่อการศึกษา ที่จะทำทั้งในระบบการศึกษา และ ออกแบบแพลตฟอร์มใหม่ให้คนได้เรียนรู้ตลอดชีวิต โดยโครงสร้างใหญ่นโยบายถูกคิดจากปรัชญาของพรรค นั่นคือ นโยบายการศึกษาจะต้อง ‘ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส’ ให้กับผู้เรียน ผ่าน 6 นโยบายดังนี้...

>> 1. นโยบาย 1 นักเรียน 1 แท็บเล็ต, 1 ครู 1 แท็บเล็ต ฟรีอินเตอร์เนต เพื่อขจัดความเหลื่อมล้ำของการเข้าไม่ถึงการศึกษาและลดภาระผู้ปกครอง 

>> 2. นโยบายสร้างระบบการเรียนรู้ดิจิทัลแบบครบวงจร 'แพลตฟอร์ม Learn to Earn' เพื่อขจัดปัญหาเหล่านี้
2.1 ลดความเหลื่อมล้ำ ใครอยากเรียนอะไรต้องได้เรียน เนื้อหาหลากหลายทันสมัย เรียนสนุก
2.2 ขจัดปัญหาคนตกงานจะต้องหมดไป เพราะงานจะวิ่งเข้าหาผู้เรียน ผู้เรียนเห็นงานเห็นอาชีพเห็นรายได้ตอบแทนตั้งแต่ก่อนเรียน ระบบยังออกแบบช่วยให้มีงานทำเร็วที่สุด 
2.3 ระบบยังมีตัวช่วยทดสอบสมรรถนะของผู้เรียนและหางานที่เหมาะให้  ค้นหาศักยภาพตัวเองยิ่งหาเจอไว ยิ่งฉายแวว  
2.4 ออกแบบการเรียนเองได้ ตั้งแต่เวลาเรียน ถ้าขยันก็สามารถจบไว แข่งกับตัวเอง หรือ ถ้าเรียนไปทำงานไปก็ค่อยๆ สะสมหน่วยกิตเทียบโอนได้ 
2.5 สร้างรายได้ใหม่ รายได้เสริม หรือเปลี่ยนอาชีพ หรือรับงานเสริมหลังเรียนเสร็จได้เลย
 

>> 3. นโยบายจบปริญญาตรี อายุ 18 ปี ขจัดเนื้อหาการเรียนที่ทับซ้อนและไม่ทันสมัย 

>> 4. นโยบายเรียนอาชีวะฟรีมีอยู่จริง ตั้งแต่ ปวช.-ปวส. 

>> 5. นโยบาย 1 อำเภอ 1 ทุน รื้อฟื้นกลับขึ้นมาให้เด็กในต่างจังหวัดได้รับโอกาสไปศึกษาต่างประเทศเพื่อกลับมาพัฒนาบ้านเกิด 

>> 6. นโยบายโรงเรียน 2 ภาษาทุกท้องถิ่น เพื่อยกระดับการเรียนรู้ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษา Coding ตั้งแต่ ป.1 เพื่อพัฒนาให้ทันต่อโลกที่เปลี่ยนไปแล้ว
 

นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยจะปรับปรุงกฎหมายและยกระดับกระทรวงศึกษาธิการให้มีประสิทธิภาพทั้งระบบมากยิ่งขึ้น โดยยึดนักเรียนและชุมชนเป็นศูนย์กลาง อาทิ...


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top