Thursday, 9 May 2024
TikTok

ระวังภัยออนไลน์ เข้าดูเว็บไซต์ 18+ กดหัวใจใน TikTok เพื่อรับเงินค่าคอมมิชชัน สุดท้ายโดนหลอก

วันนี้ (20 มิ.ย. 66) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พร้อมคณะร่วมกันเปิดเผย การหลอกลวงสูงมากขณะนี้ เป็นคดีออนไลน์เรทติ้งเกี่ยวกับเว็บไซต์ 18+ และหลอกลวงให้โอนเงินทำภารกิจกดหัวใจใน TikTok เพื่อรับเงินค่าคอมมิชชัน

โดย พล.ต.ต. ชูศักดิ์ ขนาดนิด  ผบก.ตอท.บช.สอท. เปิดเผยว่า ภัยออนไลน์ที่คนร้ายหลอกลวงให้ประชาชนโอนเงินทำภารกิจเพื่อรับค่าคอมมิชชันเกี่ยวกับเว็บไซต์ 18+  “เข้าดูเว็บโป๊ สูญเงิน 3 ล้าน” คนร้ายโพส Facebook โฆษณาหาเหยื่อโดยใช้รูปแบบเว็บไซต์ 18+ เหยื่อหลงเชื่อกดลิงก์เพิ่มเพื่อนไลน์  คนร้ายเสนอเงื่อนไขให้ดูฟรีและมีเงินค่าคอมมิชชันจากการโอนเงินทำภารกิจเพิ่มเรทติ้ง  

โดยดึงเข้ากลุ่มหน้าม้า 5 คน (รวมเหยื่อและคนร้ายคนที่ 2 ด้วย) จากนั้นคนร้ายให้กดเข้าลิงก์เว็บไซต์ v-verve club ปลอมเพื่อโอนเงินทำภารกิจ เมื่อเหยื่อลงทะเบียนแล้ว ในช่วงแรกให้โอนเงินทำภารกิจจำนวนไม่มาก และเหยื่อได้เงินค่าคอมมิชชัน จากนั้นให้โอนเงินทำภารกิจจำนวนมากขึ้น คนร้ายจะอ้างว่าไม่เขียนบันทึกช่วยจำ เขียนผิด เขียนไม่ครบ เว้นวรรคไม่ถูกฯลฯ เพื่อให้โอนเงินเพิ่ม  

ต่อมาเมื่อคนร้ายให้เหยื่อถอนเงินได้  แต่ต้องจ่าย ค่าภาษี 37% ค่ายืนยันบัญชี 50% และค่าอื่นๆ ทุกครั้งจะให้โอนเพิ่มและอ้างเหมือนเดิมว่า ไม่เขียนบันทึกช่วยจำ เขียนผิด เขียนไม่ครบ เว้นวรรคไม่ถูกฯลฯ ในช่วงที่ให้เหยื่อโอนเงินเพิ่มนั้น คนร้ายจะแจ้งย้ำตลอดว่าสุดท้ายจะได้เงินคืนทั้งหมด ส่วนเหยื่อเห็นยอดเงินการลงทุนทำภารกิจขึ้นในระบบของเว็บไซต์ปลอม จึงเชื่อว่าจะได้เงินคืนทั้งหมดเช่นกัน สุดท้ายสูญเงินไป 3 ล้านกว่าบาท 

ขณะที่ รับโทรศัพท์ครั้งเดียว สูญเงินหลายแสน” คนร้ายใช้เบอร์โทรศัพท์ 02-502-8053 โทรหาเหยื่อแนะนำตัวว่าโทรมาจาก tiktok อยากให้ช่วยทำการตลาดโดยกดหัวใจ แล้วจะได้รับเงินค่าคอมมิชชั่นจำนวนมาก เหยื่อหลงเชื่อกดเพิ่มเพื่อนไลน์  คนร้ายส่งลิงก์แอปพลิเคชัน TikT0k ของจริงมาให้เหยื่อกดหัวใจ แล้วให้บันทึกหน้าจอส่งให้ดู  คนร้ายจ่ายเงินค่าคอมมิชชันให้เหยื่อ จากนั้นคนร้ายให้เหยื่อกดลิงก์เข้าเว็บไซต์ปลอมโอนเงินทำภารกิจง่ายๆ ใช้เงินทุนน้อย ๆ  เมื่อทำภารกิจเสร็จให้บันทึกหน้าจอส่งให้ดูแล้วให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีม้า  คนร้ายโอนเงินทุนพร้อมค่าคอมมิชชันให้เหยื่อคืนเพื่อให้หลงเชื่อ ต่อมาคนร้ายให้เหยื่อเข้ากลุ่ม VIP 3 คน และให้ทำภารกิจ 3 ภารกิจ 9 คำสั่งซื้อ แล้วจึงจะถอนเงินค่าคอมมิชชันได้หลายครั้ง 

โดยเพิ่มเงื่อนไขให้ยากขึ้น หากทำภารกิจผิดพลาดเหยื่อต้องรับผิดชอบ โดยต้องสั่งซื้อเพิ่ม 3-5 ครั้ง และต้องทำงานให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด ในภารกิจช่วงนี้คนร้ายให้เหยื่อโอนเงินซื้อพอร์ตหุ้น BTC ในเว็บไซต์ปลอมด้วย เหยื่อทำการกิจและโอนเงินตามขั้นตอนที่คนร้ายบอกให้ทำ ซึ่งแต่ละขั้นตอนยอดเงินจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และยอดเงินจะแสดงให้เห็นในระบบ เมื่อทำภารกิจเสร็จจะถอนเงินได้ คนร้ายอ้างว่าทำผิดขั้นตอน ถอนยอดไม่ตรง ต้องโอนเงินปลดล็อคระบบ และต้องโอนเงินฝากยอดเข้าระบบ สุดท้ายก็จะสูญเสียเงินไปจำนวนมาก

‘บี้ สุกฤษฎิ์’ มีติ๊กต็อกแล้ว!! ประเดิมคลิปแรกกราบพระโชว์ งานนี้ถูกใจแฟนคลับ ถึงขั้นบอก “คลิปต่อไปขอสวดมนต์”

(7 ส.ค. 66) กระแส TikTok มาแรงสุด ๆ แม้แต่ ‘บี้ สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว’ นักร้องซุปตาร์คนดังของเมืองไทย ก็ไม่สามารถต้านทานได้ เปิด TikTok ของตัวเองแล้ว หลังจากห่างหายวงการบันเทิงไปเข้าวัด อยู่กับชีวิตธรรมะธัมโมจนแฟนคลับคิดถึงหนุ่มบี้เพียบ

หนุ่มบี้ นักร้องดังจากบ้านเดอะสตาร์ ได้เปิด TikTiok ชื่อ ‘biesukrit_w’ โดยประเดิมช่องติ๊กต็อกด้วยคลิปแรกที่ทำเอาแฟนคลับฮาลั่น ตามมาถล่มคอมเมนต์และไลก์เพียบ หลังจากหนุ่มบี้โพสต์คลิปไป 1 วันเท่านั้น ล่าสุดยอดวิวคลิปทะลุ 5 แสนวิวไปแล้วเรียบร้อย

‘นิวยอร์ก’ สั่งแบน ‘ติ๊กต๊อก’ บนอุปกรณ์ของรัฐฯ อ้าง ห่วงความปลอดภัยต่อเครือข่ายของเมือง

(17 ส.ค. 66) นครนิวยอร์กสั่งห้ามการใช้งาน ‘ติ๊กต๊อก’ แอปพลิเคชันดังของจีนบนอุปกรณ์ของรัฐบาล โดยอ้างข้อห่วงกังวลด้านความปลอดภัย ทำให้นิวยอร์กกลายเป็นเมืองล่าสุดในสหรัฐฯ ที่มีคำสั่งห้ามดังกล่าว หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีหลายรัฐในสหรัฐฯ ที่มีคำสั่งห้ามดังกล่าวไปก่อนหน้านี้

‘ติ๊กต๊อก’ เป็นแอปที่มีการใช้งานในหมู่ชาวอเมริกันมากกว่า 150 ล้านคน เป็นของบริษัทไบท์แดนซ์ ยักษ์ใหญ่ด้านไอทีของจีน ต้องเผชิญกับข้อเรียกร้องและแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐที่ต้องการให้มีการสั่งห้ามการใช้งานทั่วประเทศ เนื่องจากกังวลต่ออิทธิพลของจีนที่อาจเกิดขึ้นตามมา

‘อีริค อดัมส์’ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ระบุในแถลงการณ์ว่า ติ๊กต๊อกเป็นภัยคุกคามด้านความปลอดภัยต่อเครือข่ายทางเทคนิคของเมือง แม้ว่าติ๊กต๊อกจะยืนยันว่า ไม่ได้แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้งานในสหรัฐฯ กับรัฐบาลจีน และยังมีการกำหนดมาตรการสำคัญเพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้งานติ๊กต๊อกอีกด้วย

ภายใต้คำสั่งล่าสุดนี้ หน่วยงานในนครนิวยอร์กจะต้องลบแอปติ๊กต๊อกออกภายใน 30 นาที และพนักงานจะไม่สามารถเข้าถึงแอปและเว็บไซต์บนอุปกรณ์และเครือข่ายใดๆ ของเมืองได้อีกต่อไป

‘อินโดนีเซีย’ มีแผนสั่งแบนห้ามซื้อขายสินค้าบน ‘เฟซบุ๊ก-TikTok’ หลังพบขายของประชันราคา ทำให้ผู้ค้าในตลาดทั่วไปรับผลกระทบ

เมื่อไม่นานมานี้ รอยเตอร์รายงาน ว่า ผู้ช่วยรัฐมนตรีพาณิชย์อินโดนีเซียแถลงต่อรัฐสภาอินโดนีเซีย ว่า รัฐบาลแดนอิเหนามีแผนที่จะสั่งห้ามการซื้อขายบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั้งเฟซบุ๊ก TikTok และอื่นๆ

รัฐมนตรีอินโดนีเซียหลายคนออกมาแสดงความเห็นว่า ผู้ค้าบนโซเชียลมีเดียใช้เล่ห์ทางราคาส่งผลกระทบต่อผู้ขายในตลาดปกติทั่วไปภายในประเทศ

รอยเตอร์ชี้ว่า ปัจจุบันกฎหมายของอินโดนีเซียยังไม่ครอบคลุมในการซื้อขายโดยตรงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

“โซเชียลมีเดียและอีคอมเมิร์ซยังไม่สามารถรวมกันได้” เจอร์รี ซัมบัวกา (Jerry Sambuaga) ผู้ช่วยรัฐมนตรีพาณิชย์อินโดนีเซียแถลงต่อหน้ารัฐสภา พร้อมกันนี้เขายังใช้ตัวอย่างผู้ขายใช้การขายของไลฟ์สดบน TikTok เป็นตัวอย่างให้เห็น

เขากล่าวต่อว่า “การแก้ไขข้อกฎกำหนดทางการค้านั้นกำลังดำเนินการที่จะมีการสั่งห้ามอย่างเข้มงวดและชัดเจนต่อสิ่งนี้”

TikTok ได้กล่าวแถลงตอบโต้ว่า “การแบ่งแยกโซเชียลมีเดียและการซื้อขายทางออนไลน์ออกจากแพลตฟอร์มเดียวจะเป็นการทำลายการสร้างสรรค์ และทางแพลตฟอร์มหวังว่า รัฐบาลอินโดนีเซียจะเปิดโอกาสพื้นที่ให้บริษัท”

โฆษก TikTok ประจำอินโดนีเซียกล่าวผ่านแถลงการณ์วันพุธ (13 ก.ย.) มีใจความว่า “มันจะเป็นการเสียโอกาสสำหรับผู้ค้าอินโดนีเซียและต่อผู้บริโภคทั้งหลาย”

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา TikTok ที่มีผู้ขายถึง 2 ล้านคนในแดนอิเหนาได้เคยออกมาประกาศก่อนหน้าว่า ทางแพลตฟอร์มยังคงไม่มีแผนเปิดธุรกิจข้ามพรมแดนในอินโดนีเซียหลังเจ้าหน้าที่แดนจาการ์ตาได้เคยออกมาเปรยว่า หากทำเช่นนั้นจะส่งผลให้สินค้าจีนทะลักเข้ามาในอินโดนีเซีย

อ้างอิงข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษา Momentum Works พบว่า อินโดนีเซียที่มีประชากรมากกว่า 270 ล้านคน คิดเป็นเกือบ 52 พันล้านดอลลาร์สำหรับธุรกรรมอีคอมเมิร์ซแค่ในปีที่ผ่านมา

และจากจำนวนทั้งหมดพบว่า 5% อยู่บน TikTok โดยเฉพาะการขายผ่านไลฟ์สตรีม

CNN รายงานเพิ่มเติมว่า บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการทดลองฟอร์แมตใหม่ของการช้อปปิ้งในหลายตลาด เป็นต้นว่าในอังกฤษ และหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ล่าสุด (12 ก.ย.) พบว่า ByteDance เปิดตัว TikTok Shop ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอคลิปสั้นสำหรับธุรกิจสำหรับช่องทางอีคอมเมิร์ซในสหรัฐฯ ที่มีผู้ใช้มากกว่า 150 ล้านยูสเซอร์

ที่ดูเหมือนเป็นการชนกับบริษัทออนไลน์ยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ ‘แอมะซอน’ เพราะอ้างอิงจาก engadget พบว่าภายใน TikTok Shop นั้นจะรวมไปถึง Shop Tab สำหรับผู้ค้าที่จะสามารถแสดงสินค้า และวิดีโอที่เกี่ยวข้องจากลูกค้าที่จะทำให้ผู้สร้างได้รายได้ค่าคอมมิชชันและโฆษณาสำหรับธุรกิจ

นอกเหนือจากนี้พบว่า TikTok ยังเปิดบริษัทโลจิสติกส์ขนส่งของตัวเองเพื่อตอบสนองชื่อ Fulfilled by TikTok คล้ายกับ Fulfilled by Amazon ที่จะเชื่อมกับโกดังสินค้าและการขนส่งสำหรับผู้ค้าที่จดทะเบียน

ทั้งนี้ ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ Nico Le Bourgeois ได้เปิดเผยว่า TikTok Shop นั้นมีผู้ค้าลงทะเบียนแล้วกว่า 200,000 ราย และผู้สร้างสรรค์ไม่ต่ำกว่า 100,000 รายที่ได้เข้าสู่การไลฟ์สตรีมขายสด

Engadget รายงานว่าปัจจุบัน Shop Tab นั้นเปิดให้ผู้ใช้ 40% จากทั้งหมดและคาดว่ารูปแบบเต็มที่จะเปิดให้ผู้ใช้ทั้งหมดในสหรัฐฯ จะมาถึงได้เร็วสุดภายในต้นตุลาคมนี้

CNN รายงานว่า TikTok มีเป้าหมายที่จะเพิ่มยอดขายทางอีคอมเมิร์ซให้ได้ 4 เท่าภายในสิ้นปี คาดว่าจะแตะ 20 พันล้านดอลลาร์ 

‘พวงเพ็ชร’ จับมือ TikTok ปั้นนักเล่าข่าวโซเชียล ชู!! ‘ถูกต้อง-แม่นยำ-รวดเร็ว’ ด้วยสไตล์ที่ดึงดูด

(26 ต.ค.66) ที่โรงแรม เอส ซี ปาร์ค นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลุยงานสื่อสารงานรัฐให้โดนใจ สไตล์ Content creator ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารออนไลน์ของบุคลากรภาครัฐ ให้มีประสิทธิภาพและก้าวทันยุคดิจิทัล โดยเน้นการสื่อสารในรูปแบบคลิปสั้น ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยม ซึ่งเป็นเทรนด์การสื่อสารยุคใหม่ที่พบว่ามีการเข้าถึงมากขึ้น และสร้างกระแสสังคมได้รวดเร็ว ว่องไว และสามารถกระจายสู่กลุ่มเป้าหมายได้ทั่วทุกมุมโลก 

โดยในวันนี้มีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อโซเชียลมาให้ความรู้และทักษะด้านการสื่อสารออนไลน์ในหัวข้อที่น่าสนใจ ประกอบด้วย หัวข้อ ‘ทำ Tiktok ให้เข้าถึงตรงใจได้อย่างไร’ โดย นางสาวนิดา คล้ายพันธุ์ จาก Tiktok Thailand และ นางสาวพิมญาดา เดชบุญญาภิชาติ หัวข้อ ‘เล่าข่าว ปัง ปัง กับ 3 ตัวตึง Tiktok’ โดย นายภัควัฒน์ รัตนสิริอำไพ (คุณปอนด์ ออนนิวส์) นายจิรายุ จันทรวงศ์ (คุณเบ็นซ์) และ นายกฤษฎิ์กุล ชุมแก้ว (คุณแต๋ง After Yum) หัวข้อ ‘ตัดคลิปอย่างไรให้ได้ 1 ล้านวิว’ โดย ผศ.เวทิต ทิงจันทร์ หัวหน้าภาควิชาสื่อสารดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม และทีมงาน หัวข้อ ‘เส้นทางสู่นักเล่าข่าวสไตล์บอลลี่’ โดย นายศรัญ แก้วประจันทร (คุณบอลลี่ขยี้ข่าว) และทีมงานโซเชียลมีเดียกรมประชาสัมพันธ์ รวมถึงกิจกรรมประชันคลิปที่ปัง คลิปที่โดน

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในความเป็นสื่อของรัฐ นอกจากมีการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ เชื่อถือได้แล้ว ความรวดเร็วและความน่าสนใจของสื่อที่นำเสนอออกไปก็มีส่วนสำคัญ เพราะนอกจากเป็นการป้องกันการเกิดข่าวปลอม ยังเป็นการสร้างกระแสความนิยมในสื่อภาครัฐ ผ่านการนำเสนอในช่องทางโซเชียลมีเดีย ที่กำลังได้รับความนิยม อย่างเช่น Tiktok, Reels, Thread จึงถือเป็นการสื่อสารรูปแบบใหม่ที่พัฒนาตามกระแสความนิยม การประชุมเชิงปฏิบัติการในวันนี้ จึงนับว่าเป็นโอกาสดีที่ได้เห็นสื่อภาครัฐปรับตัวต่อวิธีการสื่อสาร โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ รวมถึงแนวทางการพัฒนาประเทศในทุกมิติตามนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ผ่านการสื่อสารที่เข้าถึงได้ง่ายและเป็นกันเอง โดยวิทยากรชั้นนำและผู้มีประสบการณ์ในแวดวงสื่อออนไลน์

‘แพทย์’ เตือน!! ไถฟีด ‘TikTok-Reels’ อาจกระตุ้นโรคจิตแฝง แนะ!! เล่นมากๆ จนเห็นภาพหลอน-สับสน ให้รีบพบจิตแพทย์

เมื่อวานนี้ (6 พ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ‘ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช’ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองและระบบประสาท โพสต์ข้อความผ่านเพจ “สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์” ระบุว่า

“เจอ case เล่น TikTok และ Reel กระตุ้นโรคจิตแฝง

เร็ว ๆ นี้ เจอคนไข้ผู้หญิงราชการ อายุ ราว 40 ปี เล่น TikTok ติดงอมแงมต่อมาเห็นภาพหลอน

คือปกติคนไข้หูแว่วประสาทหลอนนี่เป็นคนไข้จิตเวช แต่นี่รับปรึกษาอายุรกรรมสมอง เพราะเป็นเร็ว เป็นแปลก ๆ

คนนี้เล่น TikTok Reel มา 4 เดือน post ทุกวัน ดู video วน ๆ ไปมา กดทั้ง Like ทั้ง Share มันสนุกรู้ใจ หัวเราะไป หลุดโลกความจริง เขาว่างั้น จนผลิตคอนเทนต์เอง วิ่งตาม Like Share คือมีคนกด Like Share Comment มีความสุขโดพามีนหลั่ง

คนไข้คนนี้ 5 วัน บอกว่ามีคนกระซิบให้ทำ video อย่างนั้น อย่างนี้ บอกเทคนิค เริ่มหลอนเห็นคนคุยด้วยไปนั่น ‘เค้ามาแล้ว มากระซิบด้วย เห็นไหม มีผู้ชายใส่ชุดดำมาตาม’ จนญาติเอามาส่ง รพ.

เรื่องแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ไม่เคยเจอ เพราะเดือนก่อนก็เจอ ป้าคนนึงนั่งเล่น TikTok วนไป โลกหลุดไปอยู่ใน TikTok จนวนหาทางออกไม่เจอ พอมาในชีวิตจริงก็มีชีวิตหลอน TikTok หลุดออกมาอยู่ด้วย มีคนบอกให้ทำนั่นนี่

Video วน Loop และความหลอน เราก็สงสัย เราเล่นวนไป สนุกดีหัวเราะก๊าก ๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย ไถไปเรื่อย ๆ เป็นวัน ลืมวันลืมคืนก็หนุกดี แต่คนที่มีโรคจิตแฝง หรือภาวะทางอารมณ์ไม่มั่นคงอาจไม่ใช่

คนเป็นจิตเภท Schizophrenia นี่บางทีแยกโรคจริง โรคไม่จริงไม่ออก และมักเสพคอนเทนต์หลุดจากความจริง ตัวอัลกอริทึ่มก็จับสิ คราวนี้ feed ใส่หนัก ๆ หลอนหนักไปอีก

Tammy Qiu จาก Stanford University Human-Centered Artificial Intelligence ได้กล่าวถึงความเห็นของนักจิตวิทยาที่มีต่อ social media ที่มีอัลกอริทึ่มสำหรับ feed ให้คนติดหนึบว่า

‘การออกแบบ video หรือ content และการไถฟีดแบบไม่สิ้นสุด แบบนี้เป็นออกแบบ แบบเหยื่อล่อสมอง หรือที่เรียกว่า Hook นั่นเอง โดยการออกแบบหวังเอาชนะการยับยั้งชั่งใจในสมอง โดยการกระตุ้นให้สมองหลั่งสารโดพามีน (dopamine) ซึ่งเหมือนการเสพติดยาเสพติด’

และเราก็ทราบว่า เจ้า Dopamine นี้แหละ ที่ทำให้เกิดโรคจิตได้ด้วย คือมันแชร์จุดกำเนิดเดียวกัน ยาต้านโรคจิตจึงใช้ยาที่ต้านสาร Dopamine ไง เช่น Haloperidol

ในปี 2021 นักวิจัย Ghosh และคณะตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Recent Scientific Research ก็รายงานคนไข้ที่ติด video TikTok นี่แหละ แล้วก็เกิดอาการหลอนโรคจิตกำเริบแบบนี้เหมือนกัน บางคนหลอนมีคนสั่งนุ่นนี่

ส่วนตัวคิดว่า เหตุที่ทำให้หลอน ๆ จาก video platform แบบ TikTok Reel แบบนี้ เป็นได้หลายประการ การเล่นจนติดนาน ๆ กระตุ้น Dopamine สูงขึ้น นั่นก็เป็นสาเหตุของจิตหลอน ส่วนใหญ่คนปกติทั่วไปไม่น่าจะเป็นไร แต่ใครเป็น trait คือโรคจิตแฝงที่รอการกระตุ้นก็อาจแสดงอาการได้ง่ายขึ้น

Video ที่มีลักษณะหลอน ๆ มีเยอะ ทั้งที่แบบสาวจีนร้องเต้น ภาษาอะไรก็ไม่รู้วนไป วนมา นี่ก็หลอน คนทำเสียงดัง ๆ กรี๊ด ๆ ก็มี นี่ก็หลอน ที่ทำแบบ Live แล้วเจอกับคนที่ทำท่าแปลก ๆ พูดจาเหมือนหุ่นยนต์ แถมทำแบบนี้วนซ้ำ ๆ ที่เรียกว่า NPC Live หรือการแสดงเป็นบอต (bot) อันนี้ อาจารย์ว่าคนโรคจิตอาจดูหลอน ๆ ก็ได้นะ

อัลกอริทึ่มที่มันจะฟีดแต่เรื่อง ๆ ที่เราดู ก็จะทำให้คนที่ชอบดูอะไรแปลก ๆ หลอน ๆ ได้รับ ฟีดอยู่นั่นแหละนะ ไม่หลุดไปสักที อยู่ในโลกที่หลุดจากความจริง

ในทางกลับกัน คนที่เป็นโรคจิตเวช บางทีก็ไม่กล้า หรือไม่อยากออกไปสังคม ก็ใช้ TikTok Reel หรือ social media อื่น ๆ นี่แหละเป็นช่องทาง

อาจารย์แนะนำว่า ดูแลบุตรหลาน หรือคุณแม่ที่แก่เฒ่าหน่อย ว่าเล่นมากไปไหม เล่นแล้วมีสับสนใน social media กับความจริงไหม หรือดูแล้วหลอนไหม หากมีก็ชวนกันไปเจอจิตแพทย์ครับ

อาจารย์สุรัตน์

ป.ล.คือ ข้อดีมันก็มีนะครับ คลิปการสอนสุขภาพ คลิปสอนการเรียน คลิปกลุ่มอ่านหนังสือ ครับ เสพอย่างมีสติครับ”

TikTok อินโดฯ เดือด!! ทุกพรรคอัดแคมเปญหาเสียงเพื่อวัยโจ๋ ขนาดผู้สมัครวัย 72 ยังลุกมาอัดคลิปเต้น หวังเรียกคะแนน

อินโดนีเซียเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งใหญ่ ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 นี้แล้ว 

ตอนนี้ บรรดาว่าที่ผู้สมัคร และ พรรคการเมืองอัดแคมเปญหาเสียงกันอย่างไม่ยั้ง โดยโซเชียลมีเดีย ถูกนำมาใช้เป็นช่องทางหาเสียงอย่างกว้างขวาง ซึ่งแพลตฟอร์มยอดนิยมที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลานี้ ที่อินโดนีเซียก็คือ การหาเสียงผ่าน TikTok 

ประเทศอินโดนีเซีย มีประชากรอยู่ราว ๆ 278 ล้านคน มากเป็นอันดับ 4 ของโลก ในจำนวนนั้นมีกลุ่มคนรุ่น Millennials และ Gen Z ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งมากถึง 56.5% และยังเป็นกลุ่มที่นิยมติดตามข้อมูลข่าวสารบนช่องทางโซเชียลเป็นอย่างมาก ซึ่งแพลตฟอร์มโซเชียลที่นิยมในกลุ่มคนหนุ่ม-สาวชาวอินโดนีเซียในยุคนี้ หนีไม่พ้น TikTok 

ปัจจุบันอินโดนีเซียมีบัญชีผู้ใช้ TikTok ที่ยัง Active อยู่ถึง 125 ล้านบัญชี นับเป็นประเทศผู้ใช้ TikTok มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก 

การใช้โซเชียลมีเดียช่วยในการหาเสียง มีมานานแล้วในทุกประเทศ ยิ่งในอินโดนีเซียที่กลุ่มคนรุ่นใหม่นิยมเล่นโซเชียลกันเป็นกิจวัตร แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ TikTok กลายเป็นสื่อออนไลน์ที่เข้ามามีอิทธิพล และบทบาทอย่างมากในการเผยแพร่เนื้อหา ประเด็นทางการเมือง จนกลายเป็นสนามที่ใช้ต่อสู้อย่างดุเดือดในการหาเสียงเลือกตั้งของอินโดนีเซียในปีนี้

อาร์โย เซโน บากาสโกโร ผู้ทำหน้าที่โฆษกในแคมเปญหาเสียงของนาย กันจาร์ ปราโนโว กล่าวว่า จากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว (2562) ที่ใช้ Instagram ในการหาเสียงผ่านโซเชียลมากที่สุด แต่ทว่าปีนี้กลายเป็นยุคของ TikTok ไปเสียแล้ว

จึงไม่แปลกใจที่ตอนนี้ผู้สมัครแถวหน้าทั้ง 3 คนในศึกชิงตำแหน่งผู้นำอินโดนิเซีย ล้วนสร้างคอนเทนต์เอาใจกลุ่ม Voter รุ่นใหม่ผ่านช่องทาง TikTok กันอย่างคึกคัก อย่างนาย ปราโบโว ซูบิอานโต รัฐมนตรีกลาโหมวัย 72 ปี โชว์คลิปเต้น TikTok กลางเวทีเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดูอ่อนวัย กระฉับกระเฉง เข้าถึงง่าย และได้ฐานเสียงกลุ่มคนวัย 40 ไปได้ไม่น้อย 

นาย อานีส บัสเวดัน อดีตผู้ว่ากรุงจาการ์ตา ใช้ TikTok เจาะกลุ่มวัยรุ่นผู้นิยม K-Pop ในอินโดนีเซียได้อย่างกว้างขวาง บางคลิปมีคำบรรยายภาษาเกาหลี และมีการสื่อสารผ่านเครือข่ายกลุ่มแฟนด้อมของไอดอลเกาหลีในอินโดนีเซียในการหาเสียง

ส่วนนาย กันจาร์ ปราโนโว ผู้สมัครแถวหน้าอีกคนใช้ TikTok ในสไตล์หาเสียงที่ต่างออกไป ด้วยการถ่ายคลิปแบบเรียบง่าย เหมือนคนธรรมดาทั่วไปที่เล่น TikTok สวมเสื้อแจ็กเกตแบบ Top Gun บ้าง เสื้อยืดขาวลายเพนกวินธรรมดาบ้าง เดินเท้าเปล่าบ้าง เน้นการสื่อสารที่เข้าถึงชาวบ้านทั่วไปแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่ง ก็ได้รับความสนใจไม่น้อยโลกโซเชียลของอินโดนิเซีย

แม้แต่ละคนจะมีกลยุทธ์การสื่อสารถึงฐานเสียงที่ต่างออกไป แต่ TikTok กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในสนามเลือกตั้งอินโดนีเซีย แสดงให้เห็นถึงสื่อสังคมออนไลน์อย่าง TikTok ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของประชาชนผู้ลงคะแนนเสียงมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้การหาเสียงแบบเดินเท้า เคาะประตูตามบ้าน หรือแสดงวิสัยทัศน์ผ่านรายการดีเบตบนหน้าจอโทรทัศน์ ยังคงต้องมีอยู่ 

แต่ทั้งนี้ การก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งสื่อหลักของ TikTok ในแคมเปญหาเสียงของแทบทุกพรรคในอินโดนีเซีย อาจกำลังสะท้อนถึงยุคสมัยที่เปลี่ยนผ่านสู่มุมมอง และการตัดสินใจของคนยุคใหม่ ทั้งกลุ่ม Millennials และ Gen Z ที่เกาะกระแสไว เน้นประเด็นหลัก สรุปจบสั้นภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที ก็พร้อมเข้าคูหา กาคนที่โดนใจได้แล้ว

‘ปู่ไบเดน’ ตัดสินใจเปิดบัญชี ‘TikTok’ เดินหน้าหาเสียง เจาะกลุ่มวัยรุ่น

(12 ก.พ.67) ผู้นำโลกต่างร่วมวง ‘ติ๊กต็อก’ แพลตฟอร์มมาแรงในหมู่วัยรุ่น และล่าสุดคือ ประธานาธิบดี ไบเดน

โดยเมื่อวันอาทิตย์ (11 ก.พ.67) ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดี วัย 81 ปี จากพรรคเดโมแครต โพสต์คลิปประเดิมบนบัญชี @bidenhq พูดคุยสบายๆ ในหลายๆ เรื่อง ตั้งแต่การเมืองไปจนถึงเกมนัดชิง NFL

ความเคลื่อนไหวของไบเดนสวนทางกับท่าทีของทางการ ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐไม่ว่าจากพรรครีพับลิกันหรือเดโมแครตล้วนวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเป็นของบริษัทจีน ‘ไบต์แดนซ์’ ซึ่งนักการเมืองสหรัฐกล่าวหาว่า ถูกรัฐบาลปักกิ่งใช้เป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อ แต่ ‘ไบต์แดนซ์’ ปฏิเสธมาโดยตลอด

หลายรัฐในสหรัฐรวมถึงรัฐบาลกลางห้ามใช้แอปติ๊กต็อกบนเครื่องมือของราชการ แต่แม้รัฐบาลกลางไม่ไว้ใจก็ไม่ได้ห้ามหรือควบคุมการใช้แอปเพิ่มมากไปกว่านี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อการเลือกตั้งสหรัฐใกล้เข้ามา ติ๊กต็อกยิ่งเป็นช่องทางให้เข้าถึงวัยรุ่น ไบเดนจึงตัดสินใจใช้แพลตฟอร์มนี้ โดยคลิปเมื่อวันอาทิตย์จบลงที่ประธานาธิบดีตอบคำถามว่า เขาชอบใครระหว่างตนเองกับโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวเก็งจากพรรครีพับลิกัน

“ล้อเล่นหรือเปล่า ชอบไบเดนซิ” เจ้าตัวตอบพลางหัวเราะ

สหรัฐฯ ขีดเส้นตาย 6 เดือนให้ ByteDance หากไม่ขายแอปฯ TikTok ทิ้ง เจอแบนแน่

(7 มี.ค.67) ทางการสหรัฐฯ กำลังกดดันให้ บริษัทเทคฯ จีนอย่าง ByteDance ขายแอปพลิเคชัน TikTok ภายใน 6 เดือนหรือจะพบกับการแบนจากสหรัฐฯ 

สืบเนื่องจากปัจจุบัน ทางการสหรัฐฯ มีความกังวลอย่างมากจากการที่ข้อมูลผู้ใช้ในแอปพลิเคชันอาจตกไปอยู่ในมือของรัฐบาลจีน ทำให้ทั้งสองพรรคในสภาสหรัฐฯ กำลังกดดันทางกฎหมายอย่างหนัก ทำเอาทาง TikTok ไม่พอใจอย่างมากและกล่าวว่านี่คือการแบนโดยสมบูรณ์ และกล่าวว่าการออกกฎหมายนี้จะเป็นการเหยียบย่ำสิทธิของชาวอเมริกันถึง 170 ล้านคน และทำลายธุรกิจเล็ก ๆ กว่า 5 ล้านแห่งบนแพลตฟอร์ม

ในร่างกฎหมายที่ออกโดยสภานิติบัญญัติสหรัฐฯได้กล่าวอ้างว่า TikTok ถูกควบคุมโดยชาติอื่นที่ตั้งตัวเป็นปรปักษ์และสร้างความเสี่ยงอันไม่สามารถยอมรับได้ต่อความมั่นคงของชาติ โดยบริษัทมีเวลา 165 วันในการถอนทุนออกก่อนที่จะถูกบล็อกจาก App Store และแพลตฟอร์มในสหรัฐฯ

ก่อนหน้านี้ก็มีการเคลื่อนไหวจากทางสภาของสหรัฐฯ รวมถึงเคยมีความพยายามที่จะแบบอย่างสมบูรณ์ในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

'ทรัมป์' ลั่น!! แบน TikTok ไม่ง่ายและมีแต่จะช่วยให้ Facebook ได้อำนาจมากขึ้น เพราะเดิม Meta ก็มีปัญหาด้าน 'ความเป็นส่วนตัว-ความปลอดภัย' ไม่ต่างกัน

(12 มี.ค.67) CNBC รายงาน โดนัลด์ ทรัมป์ แคนดิเดตของพรรครีพลับลิกัน กล่าวว่า เขามีความกังวลว่าการแบนแอปฯ จากจีนอย่าง TikTok จะทำให้แอปฯ อย่าง Facebook ของ Meta ซึ่งเปรียบเสมือนศัตรูของประชาชนได้ผลประโยชน์ไป และมีอำนาจมากขึ้นเป็นสองเท่า

ทรัมป์ กล่าวว่า การแบน TikTok มีผลที่ดี แต่ก็มีผลเสียออกมาเช่นกัน ทรัมป์บอกว่า มีผู้คนมากมายโดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นอเมริกันที่ชอบ TikTok มาก และคงจะเป็นจะตายหากไม่มีมัน พร้อมทั้งกล่าวโจมตีว่ามีแต่ Meta ที่ได้ผลประโยชน์นี้ และ Meta ก็มีปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเหมือนกัน 

ปัจจุบัน แอปพลิเคชันวิดีโอสั้นจากจีนโดยบริษัท ByteDance ได้รับความนิยมในสหรัฐฯ อย่างมาก แต่กระนั้น ทางการสหรัฐฯ ก็มีความกังวลว่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ เนื่องจากกังวลว่าแอปได้ส่งข้อมูลกลับไปที่จีนและอาจแบ่งข้อมูลให้ทางการของจีน จึงมีการลงความเห็นจะแบบ TikTok ในไม่กี่เดือนหากบริษัทจีนไม่ถอนทุนออกไป ซึ่งทางประธานาธิบดีอย่าง โจ ไบเดนก็มีความเห็นที่จะลงดาบแอปฯ นี้เช่นกัน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top