Sunday, 13 October 2024
TheStatesTimes

วัคซีนมา พา ZOOM เซ็ง

หลังข่าวสะพัดเกี่ยวกับผลทดสอบวัคซีนต้านโควิด19 ของ Pfizer (บริษัท ยา ไฟเซอร์) ในเฟส 3 ได้ประสบผลสำเร็จมากกว่า 90%

ก็ทำให้วิกฤติของประเทศที่กำลังเจอพายุโควิด-19 แบบหาทางหยุดไม่อยู่ เริ่มดูมีหวังขึ้น

และทันทีที่ข่าวนี้เล็ดหลุดออกมา ก็ส่งแรงดีดให้ตลาดหุ้นในสหรัฐฯ รวมถึงอีกหลาย ๆ ตลาดหุ้นทั่วโลกพุ่งตัวสูงขึ้น

แม้จะเป็นข่าวดีของมนุษยชาติ แต่กลับกันข่าวนี้กำลังกลายเป็นวิกฤติและไม่ส่งผลดีต่อต่อหุ้นของบริการวิดีโอประชุมออนไลน์ที่มาแรงแห่งยุคโควิดอย่าง "ZOOM" สักเท่าไรนัก

เพราะหลังจากข่าวความคืบหน้าของ Pfizer ออกมา ก็ทำให้มูลค่าหุ้นของ Zoom ดิ่งลดลงถึง 20%

เนื่องจากนักลงทุนมองว่า วัคซีนต้านโควิด-19 จะทำให้ผู้คนจะกลับไปทำงานในออฟฟิศได้แบบเดิมเสมือนก่อนหน้ายุคโควิด-19 ระบาดหนัก

และนั่นก็หมายความว่า Zoom จะไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปในโลกของการทำงาน

อย่างไรก็ตาม ZOOM ก็กอบโกยโอกาสจากสงครามเชื้อไวรัสสยองในครั้งนี้ไปได้มาก เพราะราคาหุ้นจนถึงวันนี้ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 650% ไปแล้ว

พร้อมทั้งดันมูลค่าตลาด (Market Cap) ของ ZOOM ที่มีการประเมินกันก่อนโควิด-19 ระบาดจาก 9.2 พันล้านดอลลาร์ พุ่งมาอยู่ที่ 6.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้

ฉะนั้น หาก 20% ที่หายไป ถูกประคองไว้ได้ด้วยกลยุทธ์ทางธุรกิจใหม่ๆ ก็อาจจะไม่ก่อให้เกิดความเลวร้ายต่อผู้ก่อตั้งอย่าง Eric Yuan (อีริค หยวน) กระมัง...

.

ที่มา – Business Insider

https://markets.businessinsider.com/news/stocks/zoom-video-stock-price-pfizer-coronavirus-vaccine-success-telework-zm-2020-11-1029781479

พรุ่งนี้มีหนาววววว อากาศต่ำสุด 21 องศา

กำลังจะนอน ดันกดมือถือดูพยากรณ์อากาศวันพรุ่งเน้
ป๊าดดดด! ช่วงเช้าตรู่วันพรุ่ง อุณหภูมิลดต่ำสุด 21 องศา!!
ใครอยากสัมผัสความหนาวหงึกๆ โปรดตื่นแต่เช้า ได้หนาวบรื๋อแน่แม่เอ๊ยยย!

วาไรตี้ที่สีลม...

ไม่ใช่เพราะรถไฟฟ้าบีทีเอสขัดข้อง แต่เราลงเดินเท้า เพราะอยากเก็บภาพย่านธุรกิจที่ว่าราคาสูงท็อปสามของประเทศ อย่างสีลม จากวัดแขก ไปยันพัฒน์พงศ์ ซึ่งเป็นจุดผสมระหว่างวัฒนธรรม ความเชื่อไว้ถึง 3 และยังไม่นับรวม ร้านอาหาร ผับบาร์ พิพิธภัณฑ์18+ ที่ดึงดูดใจ ที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ จากการเป็นฮับด้านการท่องเที่ยวยามค่ำของหนุ่มๆ รุ่นปู่ รุ่นพ่อ รุ่นพี่ มาช้านาน และน้อยคนจะทราบว่า ที่นี่มีแหล่งกบดานซีไอเออยู่ด้วย

การเดินเล่นที่ ‘สีลม’ ในวันนี้ มีความวาไรตี้ ทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ปาร์ตี้ ผสานการเรียนรู้วันเก่าใหม่ ไปพร้อมๆ กัน อ้อ! ไม่ลืมแวะอิ่มท้องกับของอร่อย ที่ไม่สามารถสัมผัสได้จากฟู้ดเดลิเวอรี่เจ้าไหน สั่งกลับยังไงก็สู้มานั่งกินร้อนๆ กับเพื่อนรักตรงนี้ไม่ได้ และบางทีอาจชิลยาวไป ถ้ารู้ใจ ไม่ว่าหยิบจับ กินดื่ม อะไร ก็เข้าใจกัน

.

ใครคาดหวัง และต้องการกำลังใจ ซัพพอร์ตเรื่อง ความรัก ความสำเร็จเรื่องเงินและการงาน ต้องมา วัดพระศรีมหาอุมาเทวี หรือ วัดแขกสีลม (ปากถนนปั้นฝั่งสีลม) ซึ่งเป็นโบสถ์พราหมณ์เก่าแก่กลางกรุง เทวสถานนี้มีหลักฐานปรากฏมาตั้งแต่สมัย ร.5 ราว พ.ศ.2453 - 2454 โดยคณะผู้ศรัทธาชาวอินเดียใต้ผู้อาศัยอยู่ย่านตำบลริมคลองสีลม อำเภอบางรัก และตำบลหัวลำโพง อำเภอบางรัก ผู้คนหลากเชื้อชาติ มากราบไหว้ บูชา แต่หากจะถ่ายภาพเก็บความทรงจำ จะทำได้เพียงด้านนอกเท่านั้น เพราะไม่มีใครที่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอ ภายในได้ ต้องเข้าไปสัมผัสด้วยตัวเองเท่านั้น

.

.

ข้าง ๆ วัดแขก ด้านถนนสีลม นอกจากทิวแถวร้านมาลัยงดงามสำหรับซื้อถวายเทพขอพรแล้ว ร้านเบเกอรี่เก่าแก่อย่าง ดี.เค. เบเกอรี่ แบรนด์ขนมปัง 70 ปี ที่ผ่านมือมาสามรุ่น มีดีที่โฮมเมด นวดและขึ้นรูปก้อนต่อก้อน ไม่ใส่สารกัดบูดอะไรทั้งสิ้น ฮอตฮิตทั้งสังขยาใบเตย และสังขยาไข่ รวมถึง คุ๊กกี้ เอแคลร์ และขนมปังหัวกะโหลก ไม่ว่าจะเศรษฐกิจฟองสบู่แตก หรือ ควิด ก็ดูสิ คนยังมากันเรื่อย ๆ อบขายกันไม่เว้นวัน อย่าเชื่อเรา ให้เชิญลอง

.

.

ฝั่งตรงข้าม ถนนปั้น เป็นซอยสีลม 20 ลึกเข้าไปเพียง 30 - 50 เมตร เป็นที่ตั้งของ มัสยิดมีราซุดดีน ใครเห็นโดมทองจับแสงยามบ่าย ก็อดหยุดภาพไว้ในกล้องไม่ได้แน่นอน ‘มัสยิดมีราซุดดีน’ เป็นมัสยิดประจำชุมชนของแขกยะวา ที่อพยพมาจากเกาะชวาของอินโดนีเชีย เคยอยู่ในซอยประดิษฐ์ อันที่จริงควรมีไก่ทอดและอาหารมุสลิมเลี่ยงชื่อประจำย่านอยู่ตรงนี้ให้ได้แวะชิ แต่วันที่เรามาเดินเตร็ดเตร่เป็นช่วงหยุดของคนขาย แหม เสียดายจัง ใครอ่าน The States time Lite ถึงแคปชั่นภาพนี้ แล้วมาในวันที่ได้กินไก่ทอด ขอร้องให้เอามาอวดได้เลย เราไม่ว่ากัน

.

.

เกรงจะไม่ครบสามโบสถ์ อย่างที่จั่วหัวเรื่องไว้ ขอโดดข้ามไปยังปลายซอยคอนแวนต์ มุมหนึ่งของสีลม ก็มีโบสถ์คริสต์สไตล์อังกฤษ ในอดีตไคร้สตเชิชเป็นคริสตจักรนานาชาติที่มีสมาชิกในที่ประชุมมาจากนานาประเทศ  และมีภูมิหลังความเชื่อจากหลายคณะนิกาย ตัวโบสถ์แห่งนี้ เกิดจากพระบรมราชานุญาตของ รัชกาลที่ 5 พระราชทานที่ดินให้หลังเหล่าคริสตสานิกชนยื่นถวายฎีกา ตรงนี้จึงเป็นทั้งศูนย์รวมความศรัทธา และสถาปัตยกรรมเรียบหรูงดงามกลางสวน

.

ได้ทีเข้าย่านพัฒน์พงศ์แล้ว เห็นแขกใครไปใครมา ชอบพูดกันว่าเป็นฮับสายไนท์ ไลฟ์ แบบดาร์ก ๆ ตั้งแต่รุ่นคุณปู่ คุณพ่อ แต่หลังโควิดนี่ออกจะเงียบเหงาไปผิดจากเรื่องที่ได้ยินมา แต่กลับทำให้เราได้เห็น สตีล ไลฟ์ ชัดเจนกว่าเก่า ทั้งอาคารและการตกแต่งย้อนยุค แต่ก็เฟี้ยวไม่น้อย เพลินกับการแหงนมองดูโครงศิลปะโมเดิร์นผสมผสานประดับประดากับตัวตึกเก่า ที่หาไม่ได้ในอาคารสมัยใหม่

.

.

เหนือจากหมู่ตึก ผับและบาร์ ในย่านนี้ ชั้น 2 ของอาคาร เพิ่งก่อกำเนิด พิพิธภัณฑ์พัฒน์พงศ์ หรือ พัฒน์พงศ์ มิวเซียม ขึ้นเมื่อปลายปีพ.ศ. 2562 รวมเอาประวัติศาสตร์ ความเป็นมาและเป็นไป และเรื่องราวที่คุณอาจรู้ และไม่รู้ เกี่ยวกับย่านนี้ 

.

.

ไมเคิล เมสเนอร์ (Mr.Michael Messner) เติบโตมาในบ้านที่คุณพ่อเป็นศิลปินและเคยดูแลพิพิธภัณฑ์ที่บ้านเกิดออสเตรีย โชคชะตาพาเขามาที่ประเทศไทยและได้แต่งงานกับหญิงสาวชาวไทย และตัดสินใจลงหลักปักฐานที่นี่ เริ่มธุรกิจจากร้านอาหารในย่านพัฒน์พงศ์ เวลาผ่านไปเขาได้สัมผัสประสบการณ์มากมาย จากลูกค้าขาประจำย่านนี้ล้วนมีเรื่องเล่าที่ไม่ธรรมดา และมีจำนวนไม่น้อยที่เคยเป็นทหารผ่านศึกจากช่วงสงครามเวียดนาม บ้างเป็นสายสืบให้กับ CIA บ้างเป็นผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นละแวกนี้ เขาจึงมีไอเดียริเริ่มที่จะสะสมร่องรอยประวัติศาสตร์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กว่า 100 ปี รวมถึงเกร็ดความรู้ ความเป็นมา เบื้องหลังแสงสีและความเย้ายวนใจของถนนพัฒน์พงศ์ อันเป็นย่านบันเทิงยามราตรีเก่าแก่ และมีชื่อเสียง ที่มีความผูกพันในเชิงประวัติศาสตร์ระหว่างชาวไทยกับชาวอเมริกัน 

.

.

ลึกเข้าไปจากโซนประวัติศาสตร์ และความเป็นมาเป็นไป เป็นส่วน 18+ ที่พ่อแม่ที่แวะมากับเด็กๆ ต้องหยุดพวกเข้าไว้แค่ประตูนี้ แต่ถ้าคุณคือ 18+ แล้วก็เชิญ คุณได้ไปต่อ แล้วเจอกับบาร์เก๋ ทั้งแสง สี ดนตรี เครื่องดื่ม และเรื่องเล่าผ่านสื่อโปสเตอร์ และวิดิโอ วิ่งวนจนต้องร้องขอชีวิต Oh my goddd 

.

มาต่อกันที่ ดาร์บี้ คิงส์ (Darby Kings ) คาเฟ่โบราณ มาย่านสีลมต้องมาโดนร้านนี้ ที่นี่มีดีทุกจาน กินมาแล้วตั้งแต่รุ่นคุณปู่ คุณพ่อ คุณอา จนมาถึงเรา เด็ดมาก ข้าวคลุกน้ำพริก ข้าวซอยกุ้ง ปอเปี๊ยะทอด และบรรดาก๋วยเตี๋ยวผัด และก๋วยเตี๋ยวสไตล์จีนต่างๆ นี่อร่อยหมด แวะมาพัฒน์พงศ์ มีหนึ่งร้อยบาท คุณก็กินอร่อยแบบตำนานได้ เชื่อเหอะ

.

.

อีกร้านเด็ดย่านสีลม เดอะ แมดริด คาเฟ่สไตล์ ยุโรป มีดีที่เนื้อ และซอส เพราะเจ้าของมีสามีเป็นเบลเยียม และคลุกคลีอยู่หลังครัวมาหลายสิบปี ร้านนี้สวย เหมาะทั้งกินข้าวแบบแฟน เพื่อน หรือครอบครัว และยังเหมาะนั่งดื่มปาร์ตี้เบาๆ เผาตับกันพอสนุก สไตล์แมดริด นั่งอยู่นี่ เห็นเครื่องตกแต่งร้านแล้วลืมไปเลยจริงๆ ว่า เรานี่อยู่ยุโรปหรือเปล่าเนี่ย อุ้ย หรือเมา...

 

ปีนี้ 'อาลีบาบา' โกยไปเท่าไหร่!?

ยังเฉียบเหมือนเดิม หลังจาก Alibaba รักษาฟอร์มยอดขายของวันเทศกาล 11.11.2020 ได้อย่างคงเส้นคงวา โดยปีนี้กวาดยอดขายตั้งแต่ช่วงนาฬิกาเริ่มหมุนไปถึง 1.71 ล้านล้านบาท มากกว่าปีก่อนที่ทำไว้ 1.16 ล้านล้านบาท

 

ทัวร์นอกบุกไทย...เท่าไรละ?

สถานการณ์ท่องเที่ยวไทยเริ่มฟื้นตัวกลับมาบ้างแล้ว หลังจากรัฐบาลออกมาตรการผ่อนคลายให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทยได้มากขึ้น  

แล้วตอนนี้จำนวนคนที่เข้ามามีมากน้อยแค่ไหน?

 

ส่องซีรีส์...ที่ดวงจันทร์

เคยแอบคิดแบบเพ้อ ๆ ว่า…

ถ้าวันหนึ่งอยากจะเปลี่ยน Feel ไปส่องซีรีส์เกาหลีที่มี ‘หลัว’ แห่งชาตินั่งส่งตาหวานให้ จนอิชั้นอดยิ้มหวานให้เหงือกเปิดไม่ได้

มันจะมีที่ไหนที่ทำให้ฉีกหนีไปแอบฟินได้แบบไม่ต้องอาย เวลาปะป๊า หม่าม้า หรือน้องชายตัวแสบแว่บมาแซวจนหุบเหงือกไม่ทัน

เอาให้สุด!! ก็อยากหนีไปนอกโลกเลยมะ (555+) เอาแบบมีวิวเป็นโลก แล้วมีดวงจันทร์เป็นที่เอนกาย นี่อาจจะเป็นไอเดียเพ้อ ๆ แต่เด๋วก่อน!! ถ้าเกิดมีใครกำลังคิดจะช่วยให้พฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงล่ะ!!

ในระหว่างที่ อิลอน มัสก์ วางแผนยึดดาวอังคาร เพื่อเป็นฐานที่มั่นใหม่ของมนุษยชาติทาง NASA ก็ได้ตั้งโครงการ Lunex เพื่อวางแผนให้มนุษยชาติไปตั้งรกรากนอกโลก โดยเลือกปักหมุดไว้ที่ ‘ดวงจันทร์’

ในปี 2024 NASA ได้วางแผนจะส่งมนุษย์ไปเยือนดวงจันทร์อีกครั้งหลังปล่อยโปรเจ็กต์เว้นว่างมาหลายปี NASA ต้องการที่จะทำให้คนเริ่มอยู่อาศัยบนดวงจันทร์ได้ภายในปี 2028 โดยมีการทุ่มเงินกว่า 370 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท)

เงินก้อนนี้ถูกจ้างให้บริษัทไอทีชั้นนำ เพื่อไปคิดระบบที่จะทำให้คนอยู่ใช้ชีวิตอยู่ได้จริง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสร้างพลังงานระยะไกล และกลไกสำหรับการลงจอดอย่างปลอดภัย (ของกระสวยอวกาศ) แต่สิ่งหนึ่งที่ดูมีความเป็นไปได้มากที่สุด คือ การนำระบบเครือข่ายสัญญาณ 4G นำร่องไปก่อน เพื่อใช้เป็นตัวช่วยสื่อสารจากดวงจันทร์กลับมาที่โลก

อันที่จริงแล้ว มาตรฐานที่ยอมรับในการสื่อสารสำหรับนักบินอวกาศ คือ คลื่นวิทยุ (Radio) แต่การนำเทคโนโลยี 4G มาแทนที่จะช่วยให้นักบินอวกาศสามารถสื่อสารได้อย่างราบรื่นกว่าและไกลกว่าเมื่อเทียบกับคลื่นวิทยุ

ที่สำคัญในทางทฤษฎีเครือข่าย 4G บนดวงจันทร์น่าจะมีความเสถียรและดีกว่าเครือข่ายบนโลกมนุษย์ เพราะไม่มีต้นไม้ สถานที่ และระบบรบกวนคลื่น เช่น คลื่นสัญญาณทีวีและวิทยุ

แล้วใครรับหน้าที่พัฒนาเครือข่าย 4G บนดวงจันทร์?

NASA ได้ประกาศให้ Bell Labs เป็นผู้ผลิตที่จะเข้ามาสร้างและวางระบบ 4G บนดวงจันทร์ ซึ่ง Bell Labs เป็นบริษัทวิจัยและพัฒนาเครือข่ายสัญญาณอินเตอร์เน็ตของ ‘Nokia’ ที่ได้รับเงินทุนไปพัฒนากว่า 14.1 ล้านเหรียญ

โดยตัวส่งสัญญาณ 4G ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้ความทนทานเหนือล้ำกว่าอุปกรณ์บนโลกมากมายหลายเท่า

ข้อดีมาก ๆ คือ ตัวส่งสัญญาณของทาง Bell Lab จะมีขนาดเล็กว่าเสาส่งสัญญาณบนโลก สามารถขนส่งไปกับยานอวกาศได้และสามารถอัพเกรดเป็น 5G ได้ด้วย

แต่ข้อเสียก็คือไม่สามารถส่งสัญญาณได้ไกลเหมือนตัวส่งสัญญาณทั่วๆ ไป แต่ก็เพียงพอต่อความต้องการของการตั้งรกรากบนดวงจันทร์แล้วแหละ

เห็นความเอาจริงเอาจังของการคิดใหญ่ไปตั้งถิ่นฐานนอกโลกชัดขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าฝันเพ้อๆ อาจะกลายเป็นเรื่องจริงได้แบบไม่ทันตั้งตัวกันเลยทีเดียว...

.

ที่มา: Unbox your thinking

อ้างอิง: https://www.nokia.com/about-us/news/releases/2020/10/19/nokia-selected-by-nasa-to-build-first-ever-cellular-network-on-the-moon/

ที่มาภาพ: https://see.news/nasas-surprising-4g-network-development-on-moon-with-nok/

วันเสาร์...เราไปคลองโอ่งอ่าง ว่าแต่มันอยู่ตรงไหน?

หลายคนอาจะเคยผ่านหูผ่านตาข่าวการปรับภูมิทัศน์ ‘คลองโอ่งอ่าง’ ที่ทำน้ำในคลองให้ใสขึ้น และปรับให้ทางเดินสองข้างทางดูสะอาดสะอ้าน รวมไปถึงพาศิลปินรุ่นใหม่มาเพ้นท์ภาพสวย ๆ แนวสตรีทอาร์ตตามกำแพงเก่า

ล่าสุดตอนนี้ ‘คลองโอ่งอ่าง’ ฮิตมากนะเธอว์จ๋า โดยก่อนหน้านี้ ทางกทม. นำโดยท่านผู้ว่ากทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นโต้โผให้มีการจัดงานในช่วงเทศกาลลอยกระทงที่ผ่านมา ช่วงค่ำ ๆ มีการประดับประดาไฟสวยงามเชียวแหละ

และผลตอบรับก็ดีเกินคาด จนทำให้ตอนนี้ทุกวันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ จะมีกิจกรรมถนนคนเดิน มีการแสดงดนตรี มีร้านค้าขายของ และมีการแต่งคอสเพลย์สร้างสีสัน วันหยุดเสาร์ -อาทิตย์นี้ใครไม่มีแผนไปเที่ยวไหน ตกเย็นลองมาเดินชิลๆ กันได้นะ

ว่าแต่ ‘คลองโอ่งอ่าง’ อยู่ตรงไหน? ก็ตั้งอยู่ย่านสะพานหัน สำเพ็ง กินพื้นที่ยาวไปถึงตีนสะพานพระราม 7 (ปากคลองตลาด) ถามต่อว่า แล้วไปยังไง? ง่ายมาก ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงสถานีสามยอด เดินไม่ไกลก็มาถึงแล้ว ช่วงนี้อากาศเย็นด้วย ใครมาเดินที่คลองโอ่งอ่างแล้ว

เผลอไผลคิดว่าเป็นคลองชองเกซอนที่เกาหลีใต้ อันนี้ก็อย่าลืมหันไปพูดกับคนข้างๆ ที่มาด้วยกันว่า ‘พี่ชาย ฉันหนาววววววว’

ใจเย็นก่อน ขอทีละเรื่อง

เมื่อวันที่ 12 พฤษจิกายน พ.ศ. 2563 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงความคืบหน้าในการบรรจุญัตติของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ขอให้รัฐสภามีมติส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งหมด 3 ฉบับ ไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ

เพื่อวินิฉัยว่ามิชอบด้วยกฏหมายหรือไม่ เนื่องจากวันที่ 11 พฤษจิกายน พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมาจากการประชุมหารือกับวิปทั้ง 3 ฝ่าย ว่า ถ้าหากต้องการประชุมตามปกติต้องบรรจุระเบียบวาระตามเรื่องที่เข้ามาไปเป็นลำดับ

แต่เนื่องจากเมื่อผลประชุมออกมา ทั้ง 3 เห็นว่าให้นำเฉพาะเรื่องรัฐธรรมนูญก่อน และในวันที่ 17 - 18 พฤษจิกายน พ.ศ. 2563 จะบรรจุเฉพาะเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้วและร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ในส่วนญัตติของนายไพบูลย์ และร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ จะบรรจุหลังวันที่ 18 พฤษจิกายน พ.ศ. 2563

ทัวร์ลงกับเป๊ก!

แฮ่! เป็นข่าวฮอตเว่อร์เลยเชียวล่ะ กรณีหนุ่ม"เป๊ก - ผลิตโชค อายนบุตร" ไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับโครงการของแบรนด์ร้านสะดวกซื้อยักษ์ใหญ่ งานนี้ถูกเชื่อมโยงไปเรื่องการเมืองซะได้ จนเกิดกระแสในทวิตเตอร์ #แบนเป๊กผลิตโชค

เรียกว่า "ทัวร์ลงเป๊ก" ซะอย่างนั้น แต่โดยส่วนตัว เป๊กเขาก็ชอบออนทัวร์นะฮะ ที่ผ่านมา หากเข้าไปดูในอินสตาแกรมของเจ้าตัว เขาออนทัวร์ เที่ยวนู่นนี่เป็นประจำ สถานที่ที่เจ้าตัวชอบไปบ่อย ๆ คือ ประเทศญี่ปุ่น หรือบางทริปในประเทศ เจ้าตัวก็เคยไปเป็นทูตบ้าง พรีเซนเตอร์บ้าง ให้กับโครงการแนว CSR ของหลาย ๆ องค์กร

เช่น ครั้งหนึ่งเคยพาแฟนคลับไปเก็บขยะตามชายหาดที่ชลบุรี หรือไปเก็บขยะ - ปลูกป่าชายเลนที่บางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี และอีกหลายต่อหลายที่ ยืนยันนั่งยันนอนยันเลยว่า เจ้าตัวชอบทัวร์ลง เอ้ย! ลงทัวร์เจง ๆ

แต่ลักษณะเป็นทัวร์ดีนะฮะ ไม่สร้างมลพิษ ไม่มีพิษมีภัย อันนี้ก็โปรดเข้าใจด้วย และโปรดเข้าใจให้มากกว่านั้น โครงการที่กำลังเป็นกรณีเดือดนี้ ที่มีชื่อโครงการว่า #อิ่มคุ้มอิ่มบุญกับคุณหลวง ก็เป็นโครงการที่เปิดให้ทุกคนช่วยกันซื้อข้าวกล่อง เพื่อนำเงินส่วนหนึ่งไปช่วยเหลือน้อง ๆ มูลนิธิเด็กทั่วประเทศ ให้ได้อิ่มท้องด้วยเช่นกัน

เอาเป็นว่า ก่อนจะไปทัวร์ลงกับใคร ก็ย้อนดูสิ่งที่เขาทำกันบ้าง ที่สำคัญ เราอ่ะทำดีสู้เขาได้บ้างหรือยัง?

สมานฉันท์สมชื่อหรือเอาเท่ห์

ในช่วงนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า การเมืองบ้านเราร้อนระอุมากขึ้นทุกที และดูเหมือนจะร้อนขึ้นเรื่อยๆไม่มีหยุด จากผู้ชุมนุมกลุ่ม "ราษฎร" ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยและการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ แต่เมื่อการเรียกร้องเริ่มมีแนวโน้มยืดเยื้อต่อไป คงหนีไม่พ้นต้องมีคนเข้ามาห้ามมวย เพื่อช่วยคลี่คลายความขัดแย้งอันร้อนระอุนี้ให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้

แล้วใครล่ะจะเป็นคนที่เข้ามาห้ามมวยระดับประเทศ ? ในความขัดแย้งต่าง ๆ ที่ผ่านมาในประเทศ กรรมการห้ามมวยก็มีมาหลาย ๆ ต่อหลายชื่อต่างกันไปในแต่ละยุครัฐบาลก็เท่านั้น แต่ถ้าพูดถึงในช่วงเวลานี้ก็คงหนีไม่พ้น "คณะกรรมการสมานฉันท์"

ซึ่งนำทีมโดยท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา "ชวน หลีกภัย" ที่ได้รับมอบหมายจากสถาบันพระปกเกล้าให้วางโครงสร้างคณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์หาทางออกให้ประเทศ

ซึ่งคณะกรรมการสมานฉันท์นี้จะเข้ามามีบทบาทในการเปิดเวทีให้คู่ขัดแย้งได้พูดคุยถึงปัญหาและหา "ตรงกลาง" ให้กับทั้งสองฝ่าย โดยให้ทั้งสองฝ่ายมาถกปัญหากันด้วยเหตุและผล เพื่อร่วมกันหาทางออกให้กับปัญหาที่เกิดขึ้น

ซึ่งจุดประสงค์ในการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์นั้นมาจากการที่ต้องการให้คนในประเทศไม่ทะเลาะกันและปรองดองกันในที่สุด แต่สุดท้ายเมื่อตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ขึ้นมาแล้วจะสามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งได้จริงอย่างชื่อหรือเปล่าล่ะ ?

โดยแนวทางในตอนนี้มีด้วยกัน 2 แนวทาง ทางแรกมีคณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ 7 หรือ 5 ฝ่าย ที่ประกอบด้วยฝ่ายที่มีอำนาจตัดสินใจหรือจะเป็นตัวแทนของกลุ่มผุ้ชุมนุม ส.ส.ฝ่ายค้าน ส.ส.รัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นโครงสร้างที่มีองค์ประกอบครบทุกฝ่าย

ในส่วนของทางที่สองคือการเสนอ "คนกลาง" จากแต่ละฝ่ายเพื่อมาเป็นคณะกรรมการหรือประธานรัฐสภาสรรหาบุคคล หรือจะตั้งประธานคณะกรรมการโดยการทาบทามมาเป็นคณะกรรมการ

ในตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปมาว่าจะใช้แนวทางไหนหรืออาจมีการนำทั้งสองแนวทางมาผสมกันเพื่อให้เกิดความลงตัวมากขึ้น ถ้าเกิดมาในแนวทางนี้จริงก็คงเป็นการหาทางออกที่ผ่านเสียงจากทุกฝ่าย

แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าไม่มีฝ่ายค้านไหนเข้าร่วมสังฆกรรมด้วย หรือง่าย ๆ "ไม่เอาด้วย" เพราะหลายฝ่ายกลับมองว่าเป็นการซื้อเวลาให้รัฐบาลมากกว่า

ถ้าคณะกรรมการสมานฉันท์เป็นเหมือนกับการหงายการ์ดปรองดองอย่างรัฐบาลต่างๆที่ผ่านมา ก็ไม่ต่างจากการเป็นฟูกลดแรงกระแทกให้กับทางฝั่งรัฐบาลหรือเป็นการซื้อเวลาเสียมากกว่าการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง ที่สุดท้ายแล้วข้อเสนอหรือรายงานต่าง ๆ ถูกดองหรือนำออกมาใช้เพียงน้อยนิด สุดท้ายถ้าเป็นไปในรูปแบบเดิมการตั้งคณะกรรการสมานฉันท์ก็มีขึ้นเพื่อลดแรงกระแทกจากผู้ชุมนุมกลุ่ม "ราษฎร" เท่านั้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top