Saturday, 15 March 2025
Taiwan

‘ไช่ อิงเหวิน’ เตือน!! สันติภาพในเอเชียจะถูกทำลาย หาก ‘จีน’ ยึดไต้หวันได้สำเร็จ

ประธานาธิบดี ‘ไช่ อิงเหวิน’ แห่งไต้หวัน ชี้!! หากจีนสามารถยึดเกาะไต้หวันได้สำเร็จจะกลายเป็น ‘หายนะ’ ต่อสันติภาพในเอเชีย พร้อมย้ำว่ารัฐบาลไทเปพร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องบ้านเมืองจากภัยคุกคาม

บทความซึ่งเผยแพร่ทางนิตยสาร Foreign Affairs มีการระบุข้อความของ ไช่ ว่า ในขณะที่ประเทศต่างๆ เริ่มตระหนักถึงภัยคุกคามจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนมากขึ้น พวกเขาก็ควรเข้าใจด้วยว่าการทำงานร่วมกับไต้หวันนั้นจำเป็นมากเพียงใด

“และพวกเขาควรจำไว้ด้วยว่า หากไต้หวันตกเป็นของจีน นั่นหมายถึงหายนะของสันติภาพในภูมิภาคและระบบพันธมิตรประชาธิปไตย และเท่ากับว่าในการแข่งขันระหว่างค่านิยมต่างๆ ของโลก ระบอบเผด็จการยังคงมีอำนาจเหนือกว่าระบอบประชาธิปไตย” ไช่ ระบุ

‘Apple’ ขอซัปพลายเออร์ไต้หวันติดฉลาก ‘ผลิตในจีน’ เหตุหวั่นถูกปรับ - ปฏิเสธการนำเข้าสินค้า

แอปเปิล (Apple) ได้แจ้งไปยังซัปพลายเออร์ในไต้หวันให้ติดฉลากบนผลิตภัณฑ์ที่จะส่งไปจำหน่ายในจีนแผ่นดินใหญ่ว่า ‘ผลิตในประเทศจีน’ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหากับด่านศุลกากรจีน หลังการไปเยือนไทเปของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ทำให้ประเด็นข้อพิพาทไต้หวันกลับมาร้อนระอุหนัก

หนังสือพิมพ์นิกเกอิของญี่ปุ่นรายงานว่า แอปเปิล ได้แจ้งกำชับไปยังซัปพลายเออร์ในไต้หวันให้ปฏิบัติตามระเบียบของจีนอย่างเคร่งครัด โดยระบุแหล่งผลิตสินค้าที่จะส่งไปจีนว่ามาจาก 'Chinese Taipei’ หรือ ‘Taiwan, China’ เนื่องจากการติดฉลาก ‘Made in Taiwan’ นั้นอาจจะทำให้สินค้าถูกกัก ถูกสั่งปรับ หรือแม้กระทั่งถูกปฏิเสธการนำเข้าจีน

ในส่วนของไต้หวันเองนั้นกำหนดให้ผู้ส่งออกสินค้าระบุแหล่งผลิตว่ามาจาก ‘Taiwan’ หรือ ‘Republic of China’ ซึ่งเป็นชื่อทางการของเกาะแห่งนี้

นโยบายล่าสุดของแอปเปิลเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากพอสมควร โดย GreatFire.org ซึ่งรณรงค์ต่อต้านมาตรการเซ็นเซอร์สื่อออนไลน์ของจีน ระบุว่า แอปเปิลใช้มาตรการที่หนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ โดยก่อนหน้านี้ก็เคยเอา emoji รูปธงไต้หวันออกจากคีย์บอร์ดสำหรับผู้ใช้สินค้าแอปเปิลในจีนและฮ่องกงมาแล้ว

โอกาส ‘ไทย’ หลังขึ้นแท่น ‘คลัสเตอร์ PCB’ รายใหญ่ที่สุดในอาเซียน ภายใต้ ‘ไต้หวัน’ ผู้นำแห่งอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โลก

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 66 เพจเฟซบุ๊ก ‘BOI News’ ได้โพสต์ข้อความ เกี่ยวกับ ‘อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์’ ในไทย ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการลงทุนตั้งฐานการผลิต ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยระบุว่า…

เมื่อพูดถึงผู้นำใน ‘อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์’ ของโลก 🌏

ประเทศไต้หวัน คือคำตอบอย่างไม่ต้องสงสัย แล้วปัจจัยใดที่ผลักดันให้ไต้หวันผงาดขึ้นเป็นผู้นำในตลาดผู้ผลิตชิปของโลก?

ย้อนไปในปี 2516 รัฐบาลไต้หวันได้จัดตั้งสถาบัน ‘Industrial Technology Research Institute’ (ITRI) โดยได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตชิปขั้นสูงจากต่างประเทศ ทำให้ ITRI สามารถพัฒนากระบวนการผลิตชิปได้เป็นของตัวเอง ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ให้กับไต้หวันได้อย่างมั่นคงในระยะต่อมา

🔹 โดยในปี 2530 มีการก่อตั้งบริษัทผู้ผลิตชิป ‘Taiwan Semiconductor Manufacturing Company’ หรือ ‘TSMC’ ขึ้น ซึ่งต่อมากลายมาเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่มีส่วนผลักดันให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างระบบสาธารณูปโภค การสุขาภิบาล ระบบพลังงาน และการคมนาคม ในไต้หวันขึ้นอย่างรวดเร็ว ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานนี้ส่งผลให้การผลิตชิปเช็ตของไต้หวันมีคุณภาพสูง จนทำให้ไต้หวันก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกของอุตสาหกรรมผลิตชิป

ในช่วงเวลาดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2530-2543 ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของไต้หวัน เนื่องจากมีการพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ หรือการผลิตชิปซึ่งเป็นหัวใจของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างก้าวกระโดด 💻

กลยุทธ์ของผู้ผลิตชิปจากไต้หวันนั้นแตกต่างจากที่อื่น ๆ ตรงที่บริษัทของไต้หวันจะเป็นผู้รับจ้างผลิตสินค้าให้กับบริษัทที่จะไปขายในแบรนด์ของตัวเอง หรือเป็นที่รู้จักในรูปแบบที่เรียกว่า ‘OEM’ เนื่องจากการลงทุนในโรงงานผลิตชิปที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงนั้นมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ทำให้หลาย ๆ บริษัทเลือกทำเพียงขั้นตอนการออกแบบชิปแล้วมอบหมายให้กับ TSMC หรือบริษัทอื่นในไต้หวันทำหน้าที่ผลิตแทน

🔹 ปัจจุบัน ไต้หวันเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของโลก โดยครองส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 65% ของการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ของโลก โดยมีบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Corporation (TSMC) เป็นผู้ผลิตรายใหญ่

‘เซมิคอนดักเตอร์’ เป็นส่วนสำคัญของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ อีกทั้งความต้องการใช้งานชิปก็ยังเพิ่มขึ้นในอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่เน้นการผลิตยานพาหนะที่มีความสามารถด้านการเชื่อมต่อ (Connectivity) และความเป็นอัจฉริยะ (Intelligence) ส่งผลให้ความต้องการชิปขั้นสูงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างไม่มีทีท่าว่าจะลดลง

ประเทศไทยขึ้นแท่น ‘คลัสเตอร์ PCB’ รายใหญ่ที่สุดในอาเซียน
ปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ของไทยมาจากการมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี ทั้งระบบไฟฟ้าที่มีความเสถียร พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่พร้อมรองรับการลงทุนได้อีกมาก อีกทั้งบุคลากรยังมีทักษะและความเชี่ยวชาญในด้านอิเล็กทรอนิกส์ หรือการที่ไทยมี Supply Chain ของอุตสาหกรรมนี้อย่างครบวงจร รวมไปถึงการที่ภาครัฐมีมาตรการและนโยบายสนับสนุนให้ธุรกิจสามารถแข่งขันและเติบโตได้ ปัจจัยเหล่านี้เป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก โดยเฉพาะจากไต้หวัน ตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักเพื่อส่งออกไปยังตลาดโลก 

🔹 สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) ซึ่งเป็นหัวใจของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ บริษัทจากไต้หวันยังถือเป็นผู้ผลิตอันดับหนึ่งของโลกอีกด้วย โดยครองส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 35% 

โดยปัจจุบัน ผู้ผลิต PCB ของไต้หวันรายใหญ่ 20 อันดับแรกของโลก ได้ตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยแล้วจำนวน 10 ราย ไม่ว่าจะเป็น WUS PCB, APEX, Dynamic Electronics, Gold Circuit, APCB และถ้ารวมกับผู้ผลิต PCB จากประเทศอื่น ๆ อย่างจีนและญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมนี้เช่นกันด้วยแล้ว ก็จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นคลัสเตอร์ PCB ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน

นี่คือสัญญาณแห่งโอกาสในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทย ที่ไม่เพียงแต่จะกลายเป็นฮับของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในภูมิภาค แต่ยังเป็นการต่อยอดสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมต้นน้ำ ได้แก่ การผลิตเวเฟอร์ และการออกแบบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง รวมไปถึงการพัฒนาสู่การเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ยานยนต์, ดิจิทัล, อุปกรณ์การแพทย์, ระบบอัตโนมัติ และหุ่นยนต์ ซึ่งจะช่วยยกระดับ Supplier ไทยให้ได้เข้าไปอยู่ใน Supply Chain อิเล็กทรอนิกส์ของโลกด้วยเช่นกัน

🎗️ บีโอไอพร้อมสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ต้นน้ำ หรืออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ ด้วยการให้สิทธิประโยชน์พิเศษทางภาษี และสิทธิประโยชน์และบริการด้านอื่น ๆ อีกจำนวนมาก เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย ตลอดจนสร้างแรงจูงใจในการวิจัยและพัฒนาให้สามารถก้าวพร้อมไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลกได้ต่อไป

#บีโอไอส่งเสริมการลงทุนทั้งคนไทยและต่างชาติทุกขนาดการลงทุน
📱 0-2553-8111 
📧 [email protected]
🌐 www.boi.go.th
🔰ไม่มีค่าใช้จ่ายในการติดต่อ

‘ไล่ ชิงเต๋อ’ สร้าง ปวศ.คว้าชัยเลือกตั้ง ปธน.ไต้หวัน 3 สมัยติด พร้อมเดินหน้าแก้ปัญหาชาติโดยสันติ ด้านผู้นำทั่วโลกแห่ยินดี

เมื่อวันที่ 13 ม.ค.67 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ‘นายไล่ ชิงเต๋อ’ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ได้คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน หลังจากที่ ‘นายโหว โหย่วอี๋’ ผู้สมัครจากพรรคก๊กมินตั๋ง (เคเอ็มที) ประกาศความพ่ายแพ้ ทำให้พรรคดีพีพีสร้างประวัติศาสตร์เป็นพรรคการเมืองแรก ที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน 3 สมัยติดต่อกัน

‘ประธานาธิบดีโจ ไบเดน’ ของสหรัฐฯ กล่าวก่อนทราบผลเลือกตั้งเมื่อถูกตามถึงความเห็นของเขาต่อการเลือกตั้งไต้หวัน ที่มีขึ้นในวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า สหรัฐฯ ไม่ได้สนับสนุนเอกราชไต้หวัน แต่ก็บอกด้วยว่า เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้สำหรับประเทศใดๆ ก็ตาม ที่จะเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้ง

ขณะที่ ‘นายเดวิด คาเมรอน’ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ได้แสดงความยินดีกับชัยชนะของนายไล่ และแสดงความคาดหวังว่าจีนและไต้หวันจะพยายาม เพื่อหาทางแก้ไขความแตกต่างด้วยสันติวิธีอีกครั้ง

“การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงประชาธิปไตยที่มีชีวิตชีวาของไต้หวัน ผมหวังว่าทั้งสองฝ่ายของช่องแคบไต้หวันจะพยายามอีกครั้ง เพื่อแก้ไขความแตกต่างอย่างสันติ ผ่านการเจรจาที่สร้างสรรค์ โดยไม่มีการคุกคาม ใช้กำลัง หรือการบีบบังคับ” แถลงการณ์ของคาเมรอนระบุ

ด้าน ‘โยโกะ คามิกาวะ’ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น แสดงความยินดีต่อชัยชนะของนายไล่ และต่อการเลือกตั้งที่เป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมแสดงความคาดหวังว่าปัญหารอบๆ ไต้หวันจะได้รับการแก้ไขอย่างสันติผ่านการพูดคุย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค

“สำหรับญี่ปุ่น ไต้หวันเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งและเป็นเพื่อนคนสำคัญ ไต้หวันมีค่านิยมพื้นฐานร่วมกันและมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิด รวมถึงการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชน” คามิกาวะระบุ พร้อมย้ำถึงแนวปฏิบัติตามปกติของญี่ปุ่นต่อไต้หวันด้วย

‘มาเรีย ซาคาโรวา’ โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย แสดงความเห็นหลังการลงคะแนนเลือกตั้งว่า รัสเซียยังมองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน

เช่นเดียวกับสำนักกิจการไต้หวันของจีนแผ่นดินใหญ่ที่ย้ำว่า ชัยชนะของนายไล่จะไม่เปลี่ยนภูมิทัศน์พื้นฐานของความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบแต่อย่างใด

ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ผ่านสำนักข่าวซินหัว ‘นายเฉิน ปินหัว’ โฆษกสำนักกิจการไต้หวัน ระบุว่า ผลเลือกตั้งแสดงให้เห็นว่า พรรคดีพีพีไม่ใช่ตัวแทนความเห็นกระแสหลักบนเกาะไต้หวันแต่อย่างใด

‘จีน’ ชี้ ผลการเลือกตั้ง ‘ปธน.ไต้หวัน’ เป็นเพียงเสียงส่วนหนึ่ง กร้าว!! ไม่กระทบทิศทางแผนรวมชาติของจีนแผ่นดินใหญ่

เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 67 สำนักข่าวซินหัว, ปักกิ่ง รายงานว่า ‘เฉิน ปินหัว’ โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันแห่งคณะรัฐมนตรีจีน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งผู้นำ และสมาชิกสภานิติบัญญัติของเกาะไต้หวัน โดย เฉิน กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งบ่งชี้ว่า พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) มิสามารถเป็นตัวแทนความคิดเห็นกระแสหลักของสาธารณชนบนเกาะไต้หวัน

เฉิน กล่าวว่า ไต้หวัน คือ ‘ไต้หวันของจีน’ โดยการเลือกตั้งนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์พื้นฐาน และทิศทางการพัฒนาของความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ จะไม่เปลี่ยนแปลงความปรารถนาร่วมของเพื่อนร่วมชาติทั่วช่องแคบไต้หวัน ในการกระชับสายสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น และจะไม่ขัดขวางทิศทางการรวมชาติของจีน

“จุดยืนของเราในการแก้ไขปัญหาไต้หวันและบรรลุการรวมชาติยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยปณิธานของเรานั้นแข็งแกร่งดังหินผา” เฉินกล่าว “เราจะยึดถือฉันทามติ 1992 ที่กำหนดหลักการจีนเดียวและคัดค้านกิจกรรมแบ่งแยกดินแดนอันมุ่งเป้าที่ ‘เอกราชไต้หวัน’ รวมถึงการแทรกแซงจากต่างชาติ”

เฉิน กล่าวว่า แผ่นดินใหญ่จะทำงานร่วมกับพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้อง กลุ่มองค์กร และประชาชนจากภาคส่วนต่างๆ ในไต้หวัน เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือข้ามช่องแคบ ขยับขยายการพัฒนาเชิงบูรณาการข้ามช่องแคบ ร่วมส่งเสริมวัฒนธรรมจีน ตลอดจนเดินหน้าการพัฒนาอย่างสันติของความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบและกิจการรวมชาติ

Taiwan Excellence ยกทัพนวัตกรรมลํ้า โชว์งาน Taiwan Expo 2024 - เปิดตัว FU BEAR

เมื่อวันที่ (1 พ.ย. 67) ร่วมสัมผัสนวัตกรรมอันล้ำสมัยของไต้หวันได้ที่ “พาวิลเลียน Taiwan Excellence” ซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญของงาน Taiwan Expo 2024 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 21 ถึง 23 พฤศจิกายน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (ฮอลล์ 5, บูธหมายเลข 401) โดยภายในงานจะจัดแสดงสินค้าที่ได้รับรางวัลตราสัญลักษณ์ Taiwan Excellence มากถึง 58 รายการ รวมทั้งเปิดโอกาสสุดพิเศษให้เข้าเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ และสัมผัสกับอนาคต ของอุตสาหกรรมสุขภาพ ความยั่งยืน และเทคโนโลยีไปพร้อมกัน

ทั้งนี้ พาวิลเลียน Taiwan Excellence เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างสำนักงานบริหารการค้าระหว่างประเทศ ของไต้หวัน (Taiwan’s International Trade Administration) และสภาส่งเสริมการค้า และการส่งออกไต้หวัน (TAITRA) ซึ่งในงานเป็นเวทีสำหรับจัดแสดงผลิตภัณฑ์ชั้นนำของไต้หวัน ที่ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้น ทั้งในแง่คุณภาพ การออกแบบ และนวัตกรรม การได้รับเกียรติคัดเลือกจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของไต้หวัน ในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งตอกย้ำบทบาทสำคัญในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมระดับโลก    

นอกจากนี้ยังมีแขกรับเชิญสุดพิเศษในพาวิลเลียนนี้ คือ “FU BEAR” มาสคอตหมีดำจากไต้หวัน ซึ่งจะเปิดตัว อย่างเป็นทางการในประเทศไทยภายในงานนี้ โดย Fu Bear จะเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและไต้หวัน สร้าง ความประทับใจให้กับผู้เข้าชมด้วยความน่ารักสดใส พร้อมสื่อถึงนวัตกรรมและความคิด สร้างสรรค์ ที่อยู่เบื้องหลัง ผลิตภัณฑ์ ของไต้หวัน

นวัตกรรมทั้งหมดที่จัดแสดงในพาวิลเลียนจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ร่วมงานทุกท่าน ผ่านการเปิดตัวนวัตกรรม ล้ำสมัยจำนวนมาก ซึ่งครอบคลุมหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นโซลูชั่นเพื่อความยั่งยืน รวมทั้งเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ซึ่งจะถูกจัดแสดงทั้งในรูปแบบสามมิติ  อุปกรณ์สมาร์ตลีฟวิ่ง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ภายในที่อยู่อาศัย ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับชีวิตประจำวันของทุกคน

ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและน่าสนใจภายในพาวิลเลียนนี้ได้แก่ ฟิล์ม “Optiqb Qbarmour” สร้างประสบการณ์ การรับชมแบบสามมิติ ด้วยตาเปล่าจากอุปกรณ์ขนาดพกพา, “YZTEK e+Autoff Compact” อุปกรณ์ควบคุมการทำงาน เตาทำอาหารอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัย และ “ible” เครื่องฟอกอากาศแบบสวมใส่ที่ช่วยฟอกอากาศบริสุทธิ์ได้ทุกที่ทุกเวลา มากไปกว่านั้นภายในงานยังมีนวัตกรรมที่โดดเด่นอีก

มากมายไม่ว่าจะเป็น “mbranfiltra” ตัวกรองน้ำแบบพกพาที่สามารถ ผลิตน้ำดื่มสะอาดได้ทุกที่, “Tokuyo” เก้าอี้นวดสุดหรู, “SAUBER Air FLAT™ Wall-mount Air Purifier” เครื่องฟอกอากาศ ติดผนัง พร้อมดีไซน์กรอบรูป และ “INNOLUX” หน้าต่างกรองแสงอัจฉริยะที่ช่วยประหยัดพลังงาน 

นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดง อุปกรณ์สำหรับนักปั่นจักรยานอย่าง “WiseChip” ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การปั่นจักรยานด้วยการติดตามข้อมูลแบบเรียลไทม์, “Transcend DrivePro Body 70” กล้องสวมตัวสำหรับการบันทึกภาพ คุณภาพสูง และ “BenQ W4000i” โปรเจคเตอร์เพื่อสร้างบรรยากาศคล้ายโรงภาพยนตร์ในบ้าน ที่ให้ภาพคมชัดระดับ 4K ทั้งหมด ที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสินค้าจากไต้หวันที่จัดแสดงในพาวิลเลียนนี้เท่านั้น เพราะภายในงานยังมีนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับ คุณภาพชีวิตประจำวันอีกมากมาย

ท้ายที่สุด พาวิลเลียน Taiwan Excellence ยินดีต้อนรับทุกท่าน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้บริโภคที่ต้องการเดินชมนวัตกรรม สุดล้ำจากไต้หวัน หรือเป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพราะภายในงานนี้มีสินค้าที่น่าสนใจสำหรับทุกท่าน แล้วมาพบปะ กับผู้ประกอบการจากไต้หวัน สัมผัสโปรดักต์ล้ำสมัย และเพลิดเพลินไปกับความน่ารักของมาสคอต FU BEAR โดยงานจัดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 21 ถึง 23 พ.ย. 2567 เวลา 10.00 น. ถึง 18.00 น. งานนี้เข้าชมฟรีและเปิดให้ประชาชนทั่วไป

สำหรับเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพาวิลเลียน Taiwan Excellence และผลิตภัณฑ์ 'Best Made in Taiwan' สามารถเยี่ยมชมได้ที่ https://www.taiwanexcellence.org/en

เปิดงาน TAIWAN EXPO 2024 ยกขบวน 170 บริษัทชั้นนำ ครบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม

(21 พ.ย.67) กรมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน ร่วมกับสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน เปิดตัว TAIWAN EXPO 2024 in Thailand อย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด 'Advancing Smart New Southbound' โดยงานนี้รวมบริษัทชั้นนำจากไต้หวันกว่า 170 บริษัท แบ่งเป็น 10 โซน และ 6 พื้นที่จัดแสดงหลัก ครอบคลุมหลากหลายด้าน เช่น Smart Manufacturing, Smart Medical, Smart Lifestyle, Circular Economy และ Culture & Tourism  

ภายในงานยังมีการประชุมสัมมนาด้านอุตสาหกรรม กิจกรรมจับคู่ธุรกิจ และโซน TAIWAN SELECT ซึ่งนำเสนออาหารเพื่อสุขภาพและกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม เช่น การทำโคมไฟ 12 นักษัตรแบบไต้หวัน และการย้อมสีธรรมชาติจากพืชพื้นเมือง ซึ่งได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากผู้เข้าชมงาน  

นางซินเทีย เจียง อธิบดีกรมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน กล่าวถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะจุดหมายสำคัญของการลงทุนจากต่างประเทศ ด้วยตำแหน่งที่ตั้งเชิงกลยุทธ์ สภาพแวดล้อมการลงทุนที่ดี และคลัสเตอร์อุตสาหกรรมที่แข่งขันได้ เธอเน้นว่าไต้หวันมีความเชี่ยวชาญด้านเซมิคอนดักเตอร์ การผลิตอัจฉริยะ การดูแลสุขภาพอัจฉริยะ และเทคโนโลยีสีเขียว ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมของไทย พร้อมสร้างโอกาสความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม  

นายจาง จวิ้น ฝู ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ความร่วมมือด้านการศึกษาและวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราการแลกเปลี่ยนนักศึกษาไทยในไต้หวันเพิ่มขึ้น 4 เท่าในรอบ 10 ปี ขณะที่นักศึกษาไต้หวันในไทยเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า พร้อมย้ำถึงศักยภาพของทั้งสองประเทศในการเป็นหุ้นส่วนธุรกิจเพื่ออนาคตที่ชาญฉลาดและยั่งยืน  

นายเจมส์ ซี. เฮฟ. ฮวง ประธานสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน (TAITRA) กล่าวว่า TAIWAN EXPO เป็นเวทีสำคัญในการแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยในปีนี้มุ่งเน้นด้าน Smart Manufacturing และ Circular Economy ที่จะช่วยสนับสนุนเป้าหมายของไทยในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ รวมถึงพัฒนาการรีไซเคิลและบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน  

ในด้าน Smart Medical โรงพยาบาลชั้นนำของไต้หวัน เช่น Changhua Christian Hospital และ Taipei Wanfang Hospital ได้นำเสนอโซลูชันการแพทย์อัจฉริยะ พร้อมจำลองห้องผู้ป่วยอัจฉริยะที่สะท้อนถึงอนาคตของการดูแลสุขภาพ  

TAIWAN EXPO 2024 มีกิจกรรมพิเศษ อาทิ การสัมมนาด้าน Smart Healthcare และ Circular Economy รวมถึงกิจกรรมจับคู่ธุรกิจและเวิร์กช็อปพิเศษ เช่น การย้อมสีธรรมชาติ นับเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและไทย  

งาน TAIWAN EXPO 2024 in Thailand จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00-18.00 น. ณ ฮอลล์ 5 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!

ทัพสหรัฐส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน 3 ลำประจำการในเอเชีย เชื่อรอคำสั่งว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

(25 พ.ย.67) นิเคอิเอเชียรายงานใน ภายในสัปดาห์นี้จะมีเรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพสหรัฐฯ 3 ลำเดินทางถึงฝั่งแปซิฟิกตะวันตก หลังจากไม่ได้ประจำการที่นี่มาหลายเดือน เนื่องจากถูกส่งไปตะวันออกกลาง ท่ามกลางความกังวลว่าอาจเป็นการแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อจีน 

ความคืบหน้าดังกล่าวมีขึ้นในช่วง 50 วันก่อนหน้าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง

รายงานระบุว่า เรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอสจอร์จ วอชิงตัน ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ พร้อมลูกเรือ 2,702 คน มาถึงท่าเรือโยโกซุกะ ในอ่าวโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ท่าเรือที่เป็นที่ตั้งของกองเรือที่ 7 ของสหรัฐ และเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีที่เรือยูเอสเอสจอร์จ วอชิงตันกลับมายังท่าเรือนี้ นอกจากนี้ เรือยูเอสเอสคาร์ล วินสัน จะเข้าประจำการที่ท่าเรือนี้ในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้เช่นกัน

อีกลำหนึ่งคือ เรือยูเอสเอสอับราฮัม ลินคอล์น ซึ่งขณะนี้อยู่ในมหาสมุทรอินเดีย กำลังมุ่งหน้าผ่านทะเลจีนใต้ โดยอาจมีกำหนดการแวะที่ฐานทัพบนเกาะโอกินาว่า ก่อนจะเดินทางกลับซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียต่อไป

นาวาตรีเคที โคนิก (Katie Koenig) โฆษกกองเรือประจำภูมิภาคแปซิฟิกของสหรัฐ กล่าวว่า การประจำการของเรือบรรทุกเครื่องบินนี้จะช่วยให้กองกำลังทางทะเลและกองกำลังร่วมสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว และสหรัฐได้นำเรือที่มีขีดความสามารถสูงที่สุดมาปฏิบัติภารกิจ ซึ่งมีกำลังในการโจมตีและปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

นับตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอสโรนัลด์ เรแกนออกจากท่าโยโกซุกะ สหรัฐไม่ได้มีเรือบรรทุกเครื่องบินประจำการในแปซิฟิกตะวันตกอีก โดยสหรัฐหันไปให้ความสำคัญต่อพื้นที่ในตะวันออกกลางแทนเนื่องจากสถานการณ์ความตึงเครียดในอิสราเอล

เบรนต์ แซดเลอร์ (Brent Sadler) นักวิจัยจากมูลนิธิเฮอริเทจ (Heritage Foundation) กล่าวว่าการเพิ่มกำลังทหารในช่วงนี้ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการทดสอบจากจีน ซึ่งสหรัฐมองว่าจีนเป็นภัยคุกคามอันดับหนึ่งอย่างชัดเจน อีกทั้งมองว่าการเพิ่มกำลังของสหรัฐในแปซิฟิกนี้เกิดขึ้นเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากจีนในช่วง 50 วันที่เหลือก่อนการเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ในวันที่ 20 มกราคม 2025 และอาจทำให้การประจำการในตะวันออกกลางลดลง

ด้านจาค็อบ สโตกส์ (Jacob Stokes) รองผู้อำนวยการโครงการความมั่นคงอินโด-แปซิฟิกที่ศูนย์ความมั่นคงอเมริกันใหม่ (Center for a New American Security) หลังจากนี้เราอาจได้เห็นท่าทีอันแข็งกร้าวจากจีน ด้วยการซ้อมรบบริเวณรอบเกาะไต้หวันหรือบริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งถ้ามีการส่งเรือบรรทุกเครื่องบินไปประจำการเพิ่มขึ้น จะมีทางเลือกที่หลากหลายในการตอบโต้จีนได้มากขึ้น

จีนเดินเกมส่งจนท.ดูงานมอสโก ศึกษารับมือตะวันตกคว่ำบาตรปมไต้หวัน

(2 ธ.ค. 67) The Wall Street Journal รายงานว่า รัฐบาลจีนได้ส่งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานพิเศษ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อศึกษาผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก และวิธีการรับมือของธนาคารกลางรัสเซียให้เศรษฐกิจรัสเซียได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยรัฐบาลจีนมองว่ารัสเซียเป็นกรณีศึกษาชั้นเยี่ยมที่จีนสามารถเรียนรู้กลไกการคว่ำบาตรจากพันธมิตรตะวันตกได้

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า จีนได้จัดตั้งหน่วยงานพิเศษนี้หลังจากที่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเมื่อปี 2022 ได้ไม่นาน เพื่อศึกษาผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกโดยเฉพาะ ต่อมาก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูงานจริงในรัสเซีย และนัดพบกับตัวแทนจากธนาคารกลางรัสเซีย, กระทรวงการคลัง และหน่วยงานอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งรายงานตรงถึงรัฐบาลจีนเป็นประจำ  

ซึ่งรัฐบาลจีนแสดงความสนใจในทุกๆ แง่มุมที่เกี่ยวข้องกับการคว่ำบาตร รวมถึงผลดีที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตภายในประเทศ โดยสื่อต่างชาติตั้งข้อสังเกตว่า จีนอาจใช้รัสเซียเป็นกรณีศึกษาสำหรับมือการคว่ำบาตรต่อจีนที่อาจเกิดขึ้นได้ ในกรณีข้อพิพาทไต้หวัน ที่รัฐบาลจีนประกาศที่จะตอบโต้ หลังรัฐบาลสหรัฐฯอนุมัติการขายอาวุธล็อตใหม่ให้แก่ไต้หวัน 

เศรษฐกิจของรัสเซียสามารถยืนเด่นอย่างท้าทาย หลังถูกชาติตะวันตกรวมพลังคว่ำบาตรอย่างหนักจากกรณีสงครามในยูเครน ด้วยตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังทรงตัวอยู่ได้ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสูงขึ้น และ อัตราค่าจ้างแรงก็เพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

แต่ทว่า รัฐเซียก็กำลังเจอปัญหาค่าเงินรูเบิลที่ตกต่ำลงอย่างกะทันหัน จนสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายปี  ที่สร้างความกังวลให้แก่รัฐบาลจีน ที่มีเงินสำรองต่างประเทศมากที่สุดในโลกถึงกว่า 3.3 ล้านล้านดอลลาร์  และหากจีนต้องเจอมาตรการคว่ำบาตรอย่างเช่นที่รัสเซีย อาจทำให้สินทรัพย์ และ ทุนสำรองของจีนในต่างประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงได้ 

การถอดบทเรียนของรัสเซียจะช่วยให้จีนได้เรียนรู้ที่จะกระจายทุนสำรองต่างประเทศ ลดการถือครองพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐ และ เงินดอลลาร์ และรับมือกับนโยบายคว่ำบาตรในรูปแบบต่างๆ ที่อาจถูกหยิบยกมาใช้กับจีนในอนาคต 

แต่ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศจีนย้ำว่า การที่จีนกำลังศึกษาผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรในรัสเซีย ไม่ได้หมายความว่าจีนกำลังวางแผนที่จะรุกรานไต้หวันอย่างที่สื่อตะวันตกพยายามนำเสนอ แต่เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ และความร่วมมือกับรัฐบาลรัสเซียบนพื้นฐานของความเสมอภาค และผลประโยชน์ร่วมกันเท่าน้้นเอง 

ปักกิ่งคว่ำบาตร 13 บริษัทยุทโธปกรณ์สหรัฐ สั่งห้ามส่งออกวัตถุดิบผลิตชิปและอาวุธให้มะกัน

(6 ธ.ค.67) กระทรวงการต่างประเทศจีนได้ประกาศการคว่ำบาตรบริษัททหารของสหรัฐฯ จำนวน 13 แห่ง เพื่อเป็นการตอบโต้การขายอาวุธของสหรัฐฯ ให้กับไต้หวัน ซึ่งจีนมองว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนและทำลายอธิปไตยของตนอย่างรุนแรง โดยการคว่ำบาตรนี้เกิดขึ้นหลังจากที่จีนคัดค้านอย่างหนักต่อการที่สหรัฐฯ อนุมัติการขายชิ้นส่วนอะไหล่และการสนับสนุนเครื่องบิน F-16 และเรดาร์ให้กับไต้หวัน มูลค่ากว่า 385 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

บริษัทที่ถูกคว่ำบาตร ได้แก่ Teledyne Brown Engineering, Brinc Drones, Shield AI การคว่ำบาตรบริษัทดังกล่าวยังส่งผลให้บริษัทอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบในฐานะไม่สามารถจัดหาวัตถุดิบในการผลิตได้ อาทิ Rapid Flight, Red Six Solutions, Synexxus, Firestorm Labs, Kratos Unmanned Aerial Systems, HavocAI, Neros Technologies, Cyberlux Corporation, Domo Tactical Communications และ Group W

นอกจากนี้ จีนยังได้อายัดทรัพย์สินของผู้บริหารระดับสูงจาก 5 บริษัท รวมทั้ง Raytheon, BAE Systems และ United Technologies ที่ดำเนินธุรกิจในจีน และห้ามไม่ให้บุคคลเหล่านี้เข้าประเทศจีน พร้อมทั้งห้ามองค์กรและบุคคลในจีนทำธุรกิจกับพวกเขาด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top