‘ไล่ ชิงเต๋อ’ สร้าง ปวศ.คว้าชัยเลือกตั้ง ปธน.ไต้หวัน 3 สมัยติด พร้อมเดินหน้าแก้ปัญหาชาติโดยสันติ ด้านผู้นำทั่วโลกแห่ยินดี

เมื่อวันที่ 13 ม.ค.67 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ‘นายไล่ ชิงเต๋อ’ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ได้คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน หลังจากที่ ‘นายโหว โหย่วอี๋’ ผู้สมัครจากพรรคก๊กมินตั๋ง (เคเอ็มที) ประกาศความพ่ายแพ้ ทำให้พรรคดีพีพีสร้างประวัติศาสตร์เป็นพรรคการเมืองแรก ที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน 3 สมัยติดต่อกัน

‘ประธานาธิบดีโจ ไบเดน’ ของสหรัฐฯ กล่าวก่อนทราบผลเลือกตั้งเมื่อถูกตามถึงความเห็นของเขาต่อการเลือกตั้งไต้หวัน ที่มีขึ้นในวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า สหรัฐฯ ไม่ได้สนับสนุนเอกราชไต้หวัน แต่ก็บอกด้วยว่า เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้สำหรับประเทศใดๆ ก็ตาม ที่จะเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้ง

ขณะที่ ‘นายเดวิด คาเมรอน’ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ได้แสดงความยินดีกับชัยชนะของนายไล่ และแสดงความคาดหวังว่าจีนและไต้หวันจะพยายาม เพื่อหาทางแก้ไขความแตกต่างด้วยสันติวิธีอีกครั้ง

“การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงประชาธิปไตยที่มีชีวิตชีวาของไต้หวัน ผมหวังว่าทั้งสองฝ่ายของช่องแคบไต้หวันจะพยายามอีกครั้ง เพื่อแก้ไขความแตกต่างอย่างสันติ ผ่านการเจรจาที่สร้างสรรค์ โดยไม่มีการคุกคาม ใช้กำลัง หรือการบีบบังคับ” แถลงการณ์ของคาเมรอนระบุ

ด้าน ‘โยโกะ คามิกาวะ’ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น แสดงความยินดีต่อชัยชนะของนายไล่ และต่อการเลือกตั้งที่เป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมแสดงความคาดหวังว่าปัญหารอบๆ ไต้หวันจะได้รับการแก้ไขอย่างสันติผ่านการพูดคุย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค

“สำหรับญี่ปุ่น ไต้หวันเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งและเป็นเพื่อนคนสำคัญ ไต้หวันมีค่านิยมพื้นฐานร่วมกันและมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิด รวมถึงการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชน” คามิกาวะระบุ พร้อมย้ำถึงแนวปฏิบัติตามปกติของญี่ปุ่นต่อไต้หวันด้วย

‘มาเรีย ซาคาโรวา’ โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย แสดงความเห็นหลังการลงคะแนนเลือกตั้งว่า รัสเซียยังมองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน

เช่นเดียวกับสำนักกิจการไต้หวันของจีนแผ่นดินใหญ่ที่ย้ำว่า ชัยชนะของนายไล่จะไม่เปลี่ยนภูมิทัศน์พื้นฐานของความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบแต่อย่างใด

ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ผ่านสำนักข่าวซินหัว ‘นายเฉิน ปินหัว’ โฆษกสำนักกิจการไต้หวัน ระบุว่า ผลเลือกตั้งแสดงให้เห็นว่า พรรคดีพีพีไม่ใช่ตัวแทนความเห็นกระแสหลักบนเกาะไต้หวันแต่อย่างใด