Tuesday, 30 April 2024
Sports

สเปอร์ vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ศึกแห่งศักดิ์ศรีผู้จัดการทีม

สำหรับแฟนบอลตัวยงแล้ว หนึ่งในสีสันจัดจ้าน ที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจ นั่นก็คือ การโคจรมาปะทะกันข้างสนามของ 2 โคตรกุนซือ ‘โชเซ่ มูรินโญ่ vs เป๊ป กวาร์ดิโอล่า’

 

อดีตที่ผ่านมา คู่นี้เคยคุมทีมมาเจอกันหลายครั้งหลายหน ส่วนใหญ่จะเป็น ‘จ่ามู’ ที่มักจะเสียท่าพ่ายแพ้ให้กับทีมของเป๊ปประจำ และคืนนี้ ทั้งคู่มีอันต้องโคจรมาดวลกันอีกครั้ง

 

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

วัดกันตามสถานภาพตำแหน่งในลีกตอนนี้ สเปอร์จากที่ลุ่มๆ ดอนๆ ช่วงเปิดลีกใหม่ๆ แต่ ณ ขณะนี้ทรงดี ขนาดขึ้นไปรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูง เป็นทีมหนึ่งที่เริ่มลงตัว มูรินโญ่มีผู้เล่น 11 ตัวจริงในแต่ละเกมเป็นที่เรียบร้อย ต่างจากแมนฯ ซิตี้ของเป๊ป ที่เล่นไป ปรับจูนไป ฤดูกาลนี้ยังไม่เจอทีมที่เสถียรสักที เป็นผลให้ตอนนี้ยังอยู่ที่ 10 ของตาราง

 

มหากาพย์ของเป๊ปและมูจะออกผลยังไงไม่รู้ แต่ล่าสุด เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพิ่งประกาศต่อสัญญาอยู่กับทีมยาวๆ ไปถึงปี 2023 ก็เชื่อแน่ว่า บรรยากาศภายในทีมคงดูคึกคักขึ้น ดังนั้น จะประมาทลูกทีมของเป๊ปไม่ได้ ส่วนคีย์แมนของซิตี้ คงหนีไม่พ้น เควิน เดอ บรอยน์ รวมไปถึง ไอ้หนูฟิล โฟเด้น ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มแจ่มในทีมชาติอังกฤษมาหมาดๆ ด้านสเปอร์ก็คงพึ่งพากัปตันทีม แฮร์รี่ เคน และ SHM7 ซงฮึงมิน

 

น่าสนใจว่า ในความเป็นเจ้าบ้าน มูรินโญ่จะพาลูกทีมเปิดหน้าซัดกับแมนฯ ซิตี้ แบบแลกหมัดเลยหรือไม่ แต่เราเชื่อว่าไม่! (อ้าว?) เพราะขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ตัวพ่อทฤษฎีรถบัส’ งานนี้เฮียเครียดมาเล่นเกมล่อตะเข้ลงบ่อ แล้วจัดการทุบๆๆๆๆ ตะเข้แน่นอน แต่กลับกัน, ถ้าทุบตะเข้ไม่ได้ ก็อาจโดนตะเข้งาบได้ อันนี้ก็ต้องติดตาม

 

พบกับมหากาพย์ภาคล่าสุดของ มูและเป๊ป ได้คืนนี้ 00.30 น. หรือเที่ยงคืนครึ่ง (ดึกจุง) แต่บอลมันส์อย่างนี้ ดึกยังไงก็ต้องดู! ปู๊นๆ!

 

ชำแหละ VAR ส่งผลดีหรือผลเสียต่อโลกฟุตบอล?

เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคู่ระหว่าง ไบรท์ตัน กับ ลิเวอร์พูล ที่จบลงไปด้วยการเสมอกัน 0-0 ดูจะทำให้เหล่าบรรดาสาวกหงส์แดงคันตามง่ามนิ้วมือนิ้วเท้า หลายคนมีอาการอยากกระโดดโอเวอร์เฮดคิกเข้าใส่ที่หน้าจอทีวีตอนถ่ายทอดสด เนื่องด้วยลิเวอร์พูลถูกริบประตูไป 2 ประตู ด้วยฝีมือของ ‘พี่ VAR’ แถมที่เดือดขั้นสุดยิ่งไปกว่านั้น คือช่วงท้ายของเกม ลิเวอร์พูลมาโดนจับเช็ก VAR จนเสียลูกจุดโทษ ส่งผลให้ไบรท์ตันมาตามตีเสมอได้สำเร็จ

 

เจออิทธิฤทธิ์ ‘พี่ VAR’ เข้าไปแบบนี้ ด้านผู้จัดการทีมหงส์แดง เจอร์เก้น คล็อปป์ ถึงกับออกอาการหงุดหงิด ทำไม VAR ถึงได้ส่งผลต่อเกมฟุตบอลมากมายขนาดนี้ แล้วตกลง VAR มันส่งผลดีหรือผลเสียต่อฟุตบอลกันแน่ มาหาคำตอบกัน!


VAR หรือ Video Assistant Referees หรือในความหมายภาษาไทยให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ‘กรรมการที่ตัดสินจากภาพ’ เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้การตัดสินของ ‘จารย์’ หรือ ‘ผู้ตัดสิน’ ให้มีความแม่นยำยิ่งขึ้น

ถึงตอนนี้ เริ่มนำมาใช้กันได้สัก 2-3 ปี ถ้าเอาผลลัพธ์ในมุมบวก แน่นอน การตัดสินในกรณีลูกน่ากังขา ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบรวดเร็วก็ดี หรือเหตุการณ์ที่กรรมการ คนดู หรือแม้แต่นักฟุตบอลด้วยกันเอง ดูไม่ทันก็ดี เหล่านี้ ช่วยได้ด้วย VAR

อีกอย่างหนึ่งคือ ทำให้นักฟุตบอลต้องยอมรับในคำตัดสิน เพราะภาพหลายมุมที่ถูกจับด้วยกล้องนับสิบๆ ตัว ยังไงก็ละเอียดมากพอที่จะทำให้นักฟุตบอลไม่กล้าเถียง แต่เมื่อพูดถึงมุมบวก มันก็มีมุมคู่ขนานกัน จะเรียกว่ามุมลบก็พูดไม่ได้เต็มปากนัก เรียกว่าเป็นมุมอับของ VAR ก็แล้วกัน

ที่เห็นกันชัดๆ คือ เกมฟุตบอลในวันนี้ มีสกอร์ที่ได้จากลูกจุดโทษมากขึ้น เพราะค่าเฉลี่ยส่วนใหญ่ของผลที่ออกมาจาก VAR มักจะลงท้ายด้วยการให้จุดโทษ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า หลายๆ เกมในวันนี้ คนดูมุ่งเป้าโฟกัสไปที่ ‘จุดโทษจาก VAR’ มากกว่าเกมในสนามเสียอีก แถมที่เป็นตลกร้ายกว่านั้น บางนัดที่เกมตื้อๆ ทำอะไรกันไม่ได้ แฟนบอล(บางราย) ร้องหา ‘เมื่อไรจะมีลูกโทษจาก VAR วะ!’

ตลกร้ายเข้าไปอีก หากมีช็อตที่ผู้เล่นกระทบกระทั่งกันเพียงเล็กน้อย หรือเอาเท้าแหย่กันให้หกล้มในเขตโทษ ประโยคที่ดังก้องสนามก็คือ VAR!!

อันนี้เป็นมิติของคนดูนะครับ ส่วนมิติของผู้เล่นในสนาม เอามุมที่แย่ที่สุดก่อน จากเมื่อก่อนที่จะมีผู้เล่นที่เป็นสายพุ่ง สายดีดตัว ที่เป็นจอมเรียกจุดโทษ โชคดีฟาวล์จริงก็แล้วไป แต่โชคร้ายตั้งใจเป็นนักแสดง พอแสดงไม่เข้าตากรรมการ ก็อาจะถูกใบเหลืองจากจารย์ไปได้ ทว่าเมื่อวันนี้มีพี่ VAR เข้ามาเป็นตาวิเศษเห็นนะ กลับกลายเป็นว่า เราจะได้เห็นสายดีด สายพุ่ง สายล้ม มากขึ้นอย่างเสียไม่ได้

ลองสังเกตช่วงท้ายของเกมที่เสมอกันกันดูสิครับ เกิดกรณีดราม่ากันมาแล้วกี่คู่?

เล่ามาถึงตรงนี้ ไม่ได้บอกว่า เทคโนโลยี VAR ไม่ใช่ของดี หรือกลายเป็นตัวทำให้เกมฟุตบอลผิดเพี้ยนไป แต่ชื่อของมันก็บอกอยู่แล้วว่า มาเป็นผู้ช่วย (assistant) ไม่ใช่คนตัดสินใจ ชี้ถูก ชี้ผิด เป็นตัวช่วยให้เห็นว่า ผลลัพธ์ควรเป็นอย่างไรต่างหาก

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวใดๆ บนโลกนี้ ที่เหนือกว่าเทคโนโลยี ก็คือ ‘คน’ นี่ล่ะ เทคโนโลยีมันออกมาเพื่อรองรับคน ดังนั้น คนอย่างเราๆ นี่แหละ ที่จะต้องนำพาเทคโนโลยีไปเกิดผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์มากที่สุด

ปิดท้ายด้วยการย้อนเวลาไปยังยุคฟุตบอลโบราณ สมัยนั้นไม่มีหรอกรองเท้าสตั๊ด หรือปุ่มสตั๊ดที่เป็นเหล็ก หรือสนับแข้ง หรือแม้แต่ถุงมือโกล์ แต่เมื่อเวลาผ่านไป อะไรๆ เหล่านี้ก็ได้เข้ามาเพื่อ ‘ช่วย’ ให้นักเตะและเกมฟุตบอลมีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น หันกลับมาที่เทคโนโลยี VAR ในวันนี้ ก็เชื่อว่ามันเกิดขึ้นมาด้วยความประสงค์ที่จะทำให้เกมฟุตบอลสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทีนี้ก็อยู่ที่เราแล้วล่ะว่า จะใช้มันให้ตอบโจทย์กับคำว่า ‘สมบูรณ์แบบ’ ได้มากน้อยเพียงใด

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ vs อาร์เซน่อล ดาร์บี้แมทซ์เดือดๆ แห่งกรุงลอนดอน

โหมโรง!!!

 

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สัปดาห์นี้ ต้อนรับลมหนาวของเมืองไทย (แต่ที่อังกฤษนั้นหนาวมานานแล้วล่ะ) ด้วยศึกนอร์ทลอนดอน ดาร์บี้แมทซ์ พูดชื่อดูทางก๊านทางการ เรียกตามภาษาแฟนฟุตบอลไทยดีกว่าว่า ‘ศึกไก่ปะทะปืน’

 

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ VS อาร์เซน่อล

 

อย่างที่บอกไป ว่าเป็นศึกดาร์บี้แห่งกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งถ้าจะท้าวความกลับไป สองทีมนี้เป็นทีมร่วมเมืองกันมายาวนาน เคยแข่งขันกันครั้งแรกตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 1887 โดยความดราม่าระหว่างสองทีมนั้นมีกันมาอยู่เรื่อยๆ เช่นครั้งหนึ่ง สเปอร์และอาร์เซน่อล ต้องตกชั้นไปเล่นในดิวิชั่น 2 แต่กลายเป็นว่า ทางผู้จัดการแข่งขันเห็นว่า หากให้ตกไปทั้งคู่ อาจทำให้ไม่เหลือทีมใหญ่มีชื่อในดิวิชั่น 1 เลย ก็เลยให้อาร์เซน่อลอยู่รอดต่อไป ส่วนสเปอร์นั้นตกชั้น (ไปซะอย่างนั้น)

 

ยังมีเรื่องแสบสันต์ดราม่าทิ่มแทงใจแฟนบอลของสองทีมนี้อีกเยอะ แต่กลับมาปัจจุบันกันต่อเถอะ คู่นี้เวลาเจอกันทีไร นอกจากคนดูจะเข้าสนามแตกแล้ว ผลลัพธ์ยังยิงกันระเบิดระเบ้อเป็นประจำ ศัพท์ของนักลงทุนเขาเรียก สกอร์สู๊งงงง!

 

แต่ก็ว่าไมได้ เนื่องจากสเปอร์ในวันนี้ มีคุณน้าโชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาคุมทีม แกขึ้นชื่อเรื่องแนวรถบัสรับแน่น แล้วโต้เร็ว ก็ดูจะน่าสนใจว่า เกมศักดิ์ศรีแบบนี้ มูรินโญ่จะวางหมากอย่างไร จะป้องกันท่าเดียว แล้วค่อยสวน อันนี้แฟนไก่อาจมีหงุดหงิดเอาได้ (นี่มันศึกแห่งศักดิ์ศรีนะว้อยยย!)

 

ด้านอาร์เซน่อล ทีมคู่รักคู่แค้นที่เดินทางมาเยือน สภาพผลงานโดยรวม ก็ยังไม่ร้อนแรงเท่าไรนัก ทีมยังไม่เสถียรลงตัวแบบเป๊ะๆ บทจะชนะก็ฟอร์มหรู แต่บทจะหมู เอ้ย! บทจะแพ้ก็แพ้ง่ายเกิ๊น! แถมล่าสุด โธมัส ปาเตย์ มิดฟิลด์ห้องเครื่องตัวใหม่ที่กำลังทำผลงานได้ไฉไล ก็ดันมีอาการบาดเจ็บ ชวดลงสนามไปเรียบร้อย แต่ถึงยังไง มิเกล อาร์เตต้า เฮดโค้ช คงมีนักเตะใช้งานกับเกมนี้อยู่ในใจแล้วล่ะ แถมก็คงรู้ว่าจะต้องเล่นกับสเปอร์ในนัดนี้อย่างไร ตามประสบการณ์ลูกพี่นักเตะเก่าที่เคยเจอสเปอร์มาหลายดอกในอดีต

 

สรุปว่า นอร์ทลอนดอนดาร์บี้นัดนี้ ยังคงเดือดเหมือนเดิม ส่วนผลจะออกทางไหนน่ะเหรอ เอาเป็นว่า สเปอร์ช่วงเวลานี้ เจอทีมใหญ่ด้วยกัน ‘ตบ’ มาแล้วแทบทุกทีม แถมภาพรวมยังดูดีกว่าอาร์เซน่อลนิดๆ แต่ด้วยศักดิ์ศรี เชื่อว่าทีมปืนใหญ่ไม่ยอมให้ตบง่ายๆ แน่นอน

 

คืนวันอาทิตย์นี้ 23.30 น. เจอกันหน้าจอ ทั้งแฟนไก่! แฟนปืน! ปู๊นๆ!!

วิเคราะห์ฟุตบอล ‘เลสเตอร์ ซิตี้ vs แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด’ ศึกชิงรองจ่าฝูง

#เก็งก่อนเกม

ถูกที่ถูกเวลาจริงๆ สำหรับมวย เอ้ย! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคู่นี้ เป็นการเจอกันของ เลสเตอร์ ซิตี้ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมที่อยู่อันดับ 2 และ 3 ในตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษตอนนี้ แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือ แต้มห่างกันแค่แต้มเดียว ใครชนะนัดนี้ขึ้นที่ 2 รองจ่าฝูงแน่นอน

 

เลสเตอร์ ซิตี้ ไมได้อยู่ในฟอร์มที่กระฉูดอะไรมากมายนัก แต่เป็นเพราะว่าปีนี้พรีเมียร์ลีกเขาเล่น ‘งูกินหาง’ กล่าวคือ คะแนนเกาะติดกันเป็นหางงูยาวเฟื้อย ดังนั้น เมื่อไรที่ใครสะดุด หรือพูดง่ายๆ ว่า เกิดแพ้ในสัปดาห์นั้นๆ จะมีผลต่ออันดับในตารางทันที ซึ่งช่วงสัปดาห์ก่อน ทีมอย่างท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เกิดพลาดท่าแพ้แก่เลสเตอร์ฯ เลยทำให้เลสเตอร์ฯ กระโดดขึ้นมาที่ 2 ทันที

 

เลสเตอร์ฯ ในเกมนี้ยังคงมีชื่อของขุนพลตัวหลักไม่ขาดหายไปไหน ทั้ง เจมี่ วาร์ดี้ ลงเป็นกองหน้าตัวเป้า และมี เจมส์ แมดดิสัน กับ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ รวมทั้ง มาร์ค อัลไบรท์ตัน เป็นตัวทำเกมรุกอยู่ด้านหลัง จากผลงานนัดที่แล้วที่บุกไปอัดสเปอร์ได้คาถิ่น 0-2 จึงยิ่งทำให้ทีมมีความมั่นใจมากขึ้น

 

ด้านแมนฯ ยูฯ ของน้าโอเล่ ทำผลงานไต่ระดับขึ้นมาได้เรื่อยๆ 5 นัดหลังสุดเสมอไปนัดเดียว ที่เหลือชนะรวด เกมนี้น่าจะจัดชุดใหญ่ ส่ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ลงหน้าเป้า มีสามประสานแดนหน้า มาร์คัส แรซฟอร์ด เมสัน กรีนวู้ด ประจำพื้นที่ด้านข้าง และพี่บรูโน่ แฟร์นันด์ส เป็นผู้กำกับเกมทั้งหมดเหมือนเดิม แต่ก็เชื่อว่า ครึ่งหลังน้าโอเล่คงปล่อย เอดิสัน คาวานี่ ลงป่วนเลสเตอร์ฯ อย่างแน่อนอน เพราะฟอร์มเริ่มกลับมาเต่งตึงอีกครั้ง ของกำลังมา ไม่ปล่อยให้นั่งข้างสนามนาน ๆ แน่นอน

 

คู่นี้ตามสถิติพบกันมา 93 นัด จุดที่น่าสนใจมาก ๆ คือ แมน ฯ ยูฯ เอาชนะไปได้แค่ 22 นัด เลสเตอร์ฯ ชนะไป 48 ที่เหลือเสมอกันที่ 23 นัด แถมเลสเตอร์ฯ ยังเอาชนะในบ้านได้ถึง 31 ครั้ง แมนฯ ยูฯ ออกไปเอาชนะเลสเตอร์นอกบ้านได้แค่ 3 ครั้งเท่านั้น

 

แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ที่สำคัญ แมนฯ ยูฯ มีแรงจูงใจสูงกว่า เพราะชนะนัดนี้ ไม่ใช่แค่ขึ้นรองจ่าฝูง แต่ตัวเองยังเหลือนัดเก็บตกอีก 1 นัด หากเก็บ 3 แต้มได้ นั่นหมายความว่า จะไล่ตามจ่าฝูงลิเวอร์พูลแค่เพียง 2 แต้มเท่านั้น

 

อย่างที่บอกไป พรีเมียร์ลีกปีนี้ อันดับติด ๆ กันเป็นงูกินหาง งานนี้ได้ลุ้นกันยาว ๆ แน่นอน แต่สำหรับนัดนี้ หากจะให้ฟันผลที่ออกมาว่าจะไปทางฝั่งไหน เลสเตอร์ฯ น่าจะหยุดสถิติการเก่งนอกบ้านของแมนฯ ยูฯ ได้เสียที ผลที่คาดว่าน่าจะเป็น เลสเตอร์ฯ สามารถเอาชนะไปได้ 3-1 ฟันธง!

 

อย่าพลาดพรีเมียร์ลีกคู่เปิดหัวของสัปดาห์นี้ เริ่มเตะ 19.30 น. เวลาประเทศไทย ใครเป็นแฟนผีโชคดีมากสัปดาห์นี้ ไม่ต้องทนถ่างตารอรอบดึกอีกแล้ว แต่จะเซ็งกันตั้งแต่หัววันเลยหรือไม่ อันนี้ต้องติดตาม ปู๊นๆ  

 

โควิด-19 ป่วนลีกบอลไทย งดเตะยาวทั้งเดือนมกราคม

โควิด-19 พ่นพิษไปทั่ว ไม่เว้นวงการฟุตบอลไทย ล่าสุดสมาคมฟุตบอลไทยประกาศเลื่อนโปรแกรมเตะตลอดเดือนมกราคมทั้งหมด โดยจะมีผลทั้งไทยลีก 1 ไทยลีก 2 และไทยลีก 3 ทั้งนี้โปรแกรมที่ถูกเลื่อนออกไป เบื้องต้นทางสมาคมจะย้ายให้ไปเตะในช่วงสัปดาห์ฟีฟ่าเดย์ (สัปดาห์ที่ลีกหยุด และเปิดให้ทีมชาติได้เตะอุ่นเครื่อง หรือกระชับมิตร) รวมถึงนำไปไว้ในช่วงกลางสัปดาห์แทน

ก่อนหน้านี้ ฟุตบอลลีกไทยถูกเปลี่ยนแปลงโปรแกรมการเตะใหม่ทั้งหมดมาแล้วในช่วงโควิด-19 ระบาดเมื่อช่วงต้นปีก่อน และล่าสุดนี้ ก็เพิ่งมีการเลื่อนออกไปอีก ย่อมส่งผลกระทบต่อโปรแกรมฟุตบอลทีมชาติอย่างหลีกเลี่ยงไมได้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top