Wednesday, 4 December 2024
Easthern

ชลบุรี - ประชุมใหญ่! เตรียมการน้อมเกล้าฯ ถวายปลากะตักแห้งฯ เสด็จตามพระราชกุศล โครงการตามพระราชดำริต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีน ปีที่ 26

ณ ห้องประชุมชั้น 3 กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกับสมาคมประมงในพื้นที่อ่าวไทยตอนบน และองค์การสะพานปลา จัดประชุมเตรียมการน้อมเกล้าฯ ถวายปลากะตักแห้ง ปลาทูเค็ม และอาหารทะเลที่มีสารไอโอดีน “จากทะเลสู่เด็กดอย” โดยเสด็จตามพระราชกุศล โครงการตามพระราชดำริให้แก่ นักเรียนในโครงการส่วนพระองค์ ในถิ่นทุรกันดารให้มีโอกาสได้รับประทานอาหารทะเล เพื่อต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีน โดยก่อนการประชุมฯ พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้กล่าวให้การต้อนรับ และพูดคุยกับผู้แทนสมาคมประมง และหน่วยงานต่าง ๆ อย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง

หลังจากนั้น ได้มอบหมายให้ พลเรือตรี ขวัญชัย อินกว่าง รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นประธานการประชุม เพื่อเตรียมการน้อมเกล้าฯ ถวายปลากะตักแห้ง ปลาทูเค็ม และอาหารทะเลที่มีสารไอโอดีน โดยเสด็จตามพระราชกุศล สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการตามพระราชดำริต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีนประจำปี งบประมาณ 2565 โดยในปีนี้นับเป็นปีที่ 26 โดยมีสมาคมประมง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม โดยได้เรียนเชิญผู้แทนสมาคมประมง ในพื้นที่อ่าวไทยตอนบน และองค์การสะพานปลา รวม 12 จังหวัด จำนวน 26 หน่วยงาน

ประกอบด้วย กลุ่มไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล เขตทัพเรือภาคที่ 1 สมาคมการประมงจังหวัดตราด สมาคมชาวประมงร่วมใจ อ.คลองใหญ่ สมาคมอวนครอบปลากะตัก(แห่งประเทศไทย) สมาคมการประมง อ.ท่าใหม่ จว.จันทบุรี สมาคมประมงระยอง สมาคมอวนล้อมปลากะตัก สมาคมประมงชลบุรี สมาคมการประมงแสมสาร กลุ่มเกษตรกรประมง ต.บางเสร่ สมาคมการประมงสมุทรปราการ สมาคมการประมงคลองด่าน สมาคมการประมงสมุทรสาคร ชมรมเรืออวนลากจังหวัดสมุทรสาคร สมาคมประมงสมุทรสงคราม สมาคมประมงเรืออวนลากคู่สมุทรสงคราม สหกรณ์ประมงแม่กลอง จำกัด สมาคมชาวประมง อ.บ้านแหลม สหกรณ์การประมงบ้านแหลม จำกัด สมาคมประมงประจวบคีรีขันธ์ สมาคมประมงปราณบุรี สมาคมประมงบางสะพาน สมาคมชาวประมงร่วมใจปากน้ำชุมพร สมาคมชาวประมงปากน้ำหลังสวน สมาคมชาวประมเรืออวนซั้งและเรือร่วมปากน้ำชุมพร และ องค์การสะพานปลา รวมถึงกลุ่มบริษัทภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุนโครงการฯ ได้แก่ บริษัท โกลบอล พาวเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) บริษัท โกลบอลกรีนเคมีคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลี่ยม (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยแท้งค์ เทอร์มินัล จำกัด ร่วมหารือและเตรียมความพร้อมในการจัดกิจกรรมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 

ประจวบคีรีขันธ์ - จัดพิธีน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวงประจำปี 64

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 11 พ.ย.64 ที่บริเวณห้องประชุมชั้น 1 อาคารองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานนำหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมประกอบพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ประจำปี พ.ศ.2564 โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด รอง ผอ.รมน.จังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และ ผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตร เข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียง

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากด้วยเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2498 เป็นวันที่พระองค์ทรงมีพระราชดำริที่จะนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการบังคับเมฆให้เกิดเป็นฝนจนเกิดเป็นโครงการพระราชดำริฝนหลวง เพื่อขจัดปัดเป่าความทุกข์ยากให้แก่พสกนิกรที่ประสบภัยแล้ง และเป็นองค์ประกอบในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศจนถึงปัจจุบัน

ชลบุรี - กองเรือยุทธการ ทอดกฐินสามัคคีสมทบทุนสร้างลานปฏิบัติธรรม และบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะ วัดเขาน้อย

วันนี้ 12 พ.ย. 64 ที่ วัดเขาน้อย อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กองเรือยุทธการ นำโดย พลเรือเอก สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ มาเป็นประธานในพิธี ทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2564 โดยมี คณะผู้บังคับบัญชาหน่วยขึ้นตรง ชมรมภริยากองเรือยุทธการ ข้าราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ใหญ่บ้าน พุทธศาสนิกชน ประชาชน ผู้มีจิตศรัทธามหากุศล ร่วมบริจาคจตุปัจจัย ในงานมหากุศล ทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2564 วัดเขาน้อย

โดยถวายแด่ พระปลัดวิชาญ อภินันโท เจ้าอาวาสวัดเขาน้อย วัตถุประสงค์ เพื่อนำไปสมทบทุนสร้างลานปฏิบัติธรรมสวนป่าประดู่และบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายในวัดเขาน้อย ซึ่งงานมหากุศล ทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2564 ได้รวบรวมจตุปัจจัยเป็นเงิน 1,184,769 บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนแปดหมื่นสี่พันเจ็ดร้อยหกสิบบาท) อย่างไม่เป็นทางการยอดยังไม่คงที่ ยังคงมีผู้เข้าร่วมบริจาคจตุปัจจัย อีกอย่างต่อเนื่อง

 

ชลบุรี - กายพร้อม ใจพร้อม!! กำลังพล หมู่เรือลาดตระเวนร่วม ระหว่าง ทร.ไทย - ทร.เวียดนาม

จากทัพเรือภาคที่ 1 วิ่งขึ้นเขากรมหลวงชุมพร เพื่อสักการะ “เสด็จเตี่ย” กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตามประเพณี ทหารเรือไทย ก่อน ออกเดินทาง ลาดตระเวนร่วม ระหว่าง ทร.ไทย - ทร.เวียดนาม ตามแนวเส้นแบ่งเขตเศรษฐกิจจำเพาะไทย-เวียดนาม ( KC Line ) ในวันที่ 15 - 20 พ.ย. 64 โดยมี นาวาเอก อโศก ศรีสวัสดิ์ เสนาธิการ กองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 1 เป็น ผบ.หมู่เรือฯ ฝ่ายไทย

สำหรับ การลาดตระเวนร่วม ระหว่าง ทร.ไทย - ทร.เวียดนาม ในครั้งนี้ กองทัพเรือ ได้อนุมัติให้ทัพเรือภาคที่ 1 จัด เรือหลวงมกุฎราชกุมาร เข้าร่วมและทำหน้าที่หัวหน้าเรือฝ่ายไทย โดยเรือฝ่ายไทยนั้น ประกอบไปด้วย  เรือหลวงมกุฎราชกุมาร จากทัพเรือภาคที่ 1 และ เรือหลวงแกลง จากทัพเรือภาคที่ 2 ในส่วนของ ทร.เวียดนาม นั้น จัดกำลังเข้าร่วม จำนวน 2 ลำ ประกอบด้วย เรือ HQ 264 และ เรือ HQ 265

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อร่วมมือกันจัดระเบียบทางทะเล ในเขตทางทะเลติดต่อกัน ของทั้งสองประเทศ จัดตั้งช่องการสื่อสารระหว่างกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือเวียดนาม และเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี และความเข้าใจในฐานะมิตรประเทศ ระหว่างกองทัพเรือไทย และกองทัพเรือเวียดนาม ให้แนบแน่นยิ่งขึ้น

 

ชลบุรี - ‘ผู้บัญชาการทหารเรือ’ ตรวจเยี่ยมหน่วยกองทัพเรือในพื้นที่สัตหีบ ‘พลเรือเอก สุวิน แจ้งยอดสุข’ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ – นายทหารระดับ และกำลังพลกองทัพเรือให้การต้อนรับ

พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยกองทัพเรือในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยในเวลา 10.00 น ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เดินทางถึงยังเรือหลวงจักรีนฤเบศร ซึ่งจอดเทียบท่า ภายในท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเรือเอก สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการรวมถึง นายทหารระดับสูงตลอดจนกำลังพลกองทัพเรือในพื้นที่ภาคตะวันออก ให้การต้อนรับ

จากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือได้ขึ้นแท่นรับการยิงสลุตคำนับ โดยกองเรือยุทธการ ได้จัดเรือหลวงคีรีรัฐ ทำการยิงสลุตเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้บัญชาการทหารเรือจำนวน 19 นัด โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ให้โอวาทแก่กำลังพล โดยกล่าวว่าพื้นที่สัตหีบเป็นที่ตั้งของหน่วยกำลังหลักที่สำคัญของกองทัพเรือ ทั้งส่วนกำลังรบ และส่วนสนับสนุน ซึ่งมีความสำคัญยิ่งในการรักษาอธิปไตย ปกป้องผลประโยชน์ของชาติและช่วยเหลือประชาชนยามเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุตามนโยบายของกองทัพเรือ รวมทั้งภารกิจตามที่รัฐบาลมอบหมาย จากผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา ทุกหน่วยได้ดำเนินการสำเร็จลุล่วงไปด้วยความเรียบร้อย แสดงให้เห็นถึงความสามารถของหน่วยที่มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่อย่างดีเยี่ยม  พร้อมทั้งเน้นย้ำกำลังพลทุกนายว่า

"ขอให้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ดังเช่นที่ผ่านมา ด้วยความจงรักภักดี ความรัก ความสามัคคี มีความวิริยะอุตสาหะ ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต สมัครสมานสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ ยึดถือประโยชน์ของส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น ประสานงานซึ่งกันและกัน เพื่อพัฒนาขีดความสามารถให้สูงขึ้น ถือประโยชน์ของกองทัพเรือเป็นที่ตั้ง โดยยึดนโยบายกองทัพเรือ และนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปีงบประมาณ 2565 เป็นกรอบทิศทางหลักและแนวทางปฏิบัติงานที่สำคัญที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ 2565 เพื่อร่วมกันเสริมสร้างและพัฒนากองทัพเรืออันเป็นที่รักยิ่งของเราให้มีความเจริญก้าวหน้าและมั่นคงสืบไป"

 

ชลบุรี - ‘นายกปลื้ม’ ห่วง! อสม .ปฏิบัติงานด่านหน้าป้องกันโควิด-19 เปิดโครงการตรวจสุขภาพฟรีกว่า 400 คน

นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยนโยบายของเมืองพัทยาที่มีความห่วงใยสุขภาพและคุณภาพชีวิตของอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) บุคลากรด่านหน้า และทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ที่เสียสละปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือชาวชุมชนเมืองพัทยาอย่างใกล้ชิดตลอดช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้เมืองพัทยาเข้มแข็งและมีสุขภาวะที่ดีมาจนถึงขณะนี้

จึงได้มอบให้สำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับโรงพยาบาลเมืองพัทยา จัดโปรแกรมตรวจสุขภาพประจำปี 2564 เป็นพิเศษให้แก่ อสม. เจ้าหน้าที่ด่านหน้า และทีม SRRT เมืองพัทยากว่า 400 คน ในวันที่ 2-3 ธันวาคม 2564 นี้ ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี

นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า การตรวจสุขภาพประจำปีครั้งนี้เป็นการดูแลสุขภาพทางร่างกายและส่งกำลังใจในการปฏิบัติงานแก่บุคลากรด่านหน้าทางด้านสาธารณสุข ทั้งเครือข่าย อสม. และ SRRT ทุกคน โดยทางโรงพยาบาลเมืองพัทยา ได้เตรียมความพร้อม ทีมแพทย์ พยาบาล และรถโมบายเคลื่อนที่ มาให้บริการตรวจสุขภาพในวันดังกล่าวโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

หลังจากนี้ เมืองพัทยามีแนวคิดส่งเสริมบริการตรวจสุขภาพอย่างทั่วถึง โดยมุ่งเน้นกลุ่มประชาชนผู้สูงวัย ซึ่งส่วนใหญ่จะมีโรคประจำตัว สามารถเข้ารับการตรวจสุขภาพได้เช่นเดียวกัน รวมถึงบริการตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ เพราะผู้ป่วยบางคนอาจอยู่ติดบ้านติดเตียง ไม่สะดวกในการเดินทางไปยังจุดบริการ หรือไปโรงพยาบาลเมืองพัทยาได้ จคงต้องมีทีมสาธารณสุขเคลื่อนที่แบบเพื่อเข้าถึงพี่น้องประชาชน

ด้าน นางมาลี รักษาราษฎร์ ประธาน อสม. หางใหญ่ 1 เมืองพัทยา กล่าวว่า โครงการตรวจสุขภาพ อสม.เมืองพัทยา นับเป็นนโยบายที่ดี เนื่องจาก อสม.ส่วนใหญ่ จะมีอายุเฉลี่ยตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ไม่มีสวัสดิการ ไม่มีรายได้มากนัก แต่ต้องทำงานลงพื้นที่ ช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยตามชุมชนตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องตรวจร่างกายให้แข็งแรงก่อนจะไปดูแลผู้ป่วยคนอื่น

 

ชลบุรี - ‘ผอ.เจ้าท่าพัทยา’ เผยโครงการเดินเรือเฟอร์รี่ชลบุรี-สงขลา กระแสตอบรับดี!! เสริมระบบโลจิสติกส์การขนส่งท่องเที่ยวทางทะเล

นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา เปิดเผยถึงโครงการเดินเรือเฟอร์รี่ระหว่างจ.ชลบุรี-จ.สงขลา ว่า กระทรวงคมนาคม โดยกรมเจ้าท่าได้มีการผลักดันในส่วนของการเดินเรือคอสอ่าวไทย จากท่าต้นทางท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ (ท่าเรือจุกเสม็ด) ไป ท่าเรือเซ้าท์เธิร์น โลจิสติกส์ 2009 จ.สงขลา โดยเรือเฟอร์รี่ ซีฮอร์ส นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เดิมชื่อ Blue Dolphin มีขนาด 7,003 ตันกรอสส์  ความยาว 136.6 เมตร รองรับรถบรรทุกได้ประมาณ 80 คัน รถยนต์ส่วนตัว 20 คัน ผู้โดยสารประมาณ 586 คน ด้วยความเร็ว 17 น๊อต ใช้เวลาเดินทาง 18-20 ชม. เร็วกว่าทางบกที่ระยะทาง 1,130 กม. ช่วยร่นระยะทาง 519 กม. ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบโลจิสติกส์ในภาพรวมการขนส่งภายในประเทศ ส่งเสริมการพัฒนาระบบการขนส่งทางน้ำ อีกทั้งเพื่อลดปัญหา ความแออัดของการจราจร ลดการเกิดอุบัติเหตุท้องถนน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5)

ซึ่งในส่วนพื้นที่ทางทะเลนั้นกรมเจ้าท่ามีความพร้อมในการควบคุมการจราจร ความปลอดภัยในการเดินเรือในเส้นทางดังกล่าวตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง อีกทั้งทางเทียบเรือต้นทางที่สัตหีบก็มีความพร้อมในการนำเรือเข้าเทียบท่าได้อย่างปลอดภัย ซึ่งตลอดระยะเวลาที่มีการเปิดให้บริการที่ผ่านมาบริษัทที่รับผิดชอบในการบริการเรือเฟอร์รี่ ซีฮอร์ส เส้นทางชลบุรี (สัตหีบ) - สงขลา พบว่าได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการ ประชาชนที่มีการเดินทางมาท่องเที่ยวจากสงขลาและพัทยามีจำนวนผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่มีผู้มาใช้บริการแบบเต็มลำเรือที่สามารถให้บริการได้ แต่แนวโน้มในภาพรวมเป็นไปในทางที่ดีขึ้นอีกทั้งยอดของจำนวนรถที่เดินทางมาจากสงขลามาพัทยาก็มีจำนวนมากขึ้นจาก 10 คัน เพิ่มาเป็น 20 คัน และเพิ่มมาถึง 30 คัน ซึ่งเป็นรถบรรทุกเทเลอร์ขนาดใหญ่

 

ชลบุรี - ปลื้มใจ!! สวนนงนุชพัทยา เผย “พังฟ้าใส” ลูกช้างป่าถูกบ่วง - ยิงบาดเจ็บ อาการดีขึ้นมาก

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.64 นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ได้เปิดเผยถึง ความคืบหน้าอาการ "พังฟ้าใส" ลูกช้างป่า ที่ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าหน้าขวา ถูกบ่วงพรานป่าหนีบจนขาด และบาดแผลถูกยิงบริเวณหน้าขาซ้าย หัวกระสุนฝังใน 10 นัด จากในพื้นที่ป่าอุทยานแห่งออ ชาติเขาสิบห้าชั้น อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ส่งมอบให้อยู่ในความดูแลรักษาของ ปางช้างสวนนงนุชพัทยา ตั้งแต่ 1 ธ.ค.64 รวมระยะเวลาแล้ว 21 วัน

คืบหน้าเรื่องนี้ โดย ทีมสัตวแพทย์ ปางช้างสวนนงนุชพัทยา ร่วมกับ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีการผ่าตัดชิ้นส่วนข้อเท้า ทำการใส่เฝือก เพื่อรักษาบาดแผล และผ่าตัดเอาหัวกระสุนออกทั้งหมดแล้ว ขณะนี้ อยู่ในการรักษาบาดแผล ด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ และทำความสะอาดบาดแผลทุกวัน เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อ พบว่า หลังการรักษา เริ่มมีผิวหนังงอกใหม่เพิ่มขึ้น ไม่พบเศษเนื้อตาย แต่พบหนองเล็กน้อย และขอบแผลด้านในเป็นเนื้อสดสีชมพู

นอกจากนี้ ได้ทำการเลเซอร์อาการอักเสบ และเร่งการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ อาจต้องใช้เวลา 2-3 เดือน ในการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ และหากหายจากอาการบาดเจ็บ ก็จะทำการธาราบำบัด (ด้วยน้ำ) เพื่อให้ช้างสามารถใช้ชีวิต เดินได้อย่างเป็นปกติ เต็มกำลังความสามารถ

ส่วนด้านสภาพจิตใจ และการตอบสนองโดยรวม “พังฟ้าใส” ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ดิ้น ไม่ร้อง ไม่งอแง และยังมีอารมณ์ร่าเริง ดื่มนมเก่งวันละ 14 - 17 ลิตร อีกทั้ง ได้มีการเปลี่ยนเฝือกรองเท้าตามสีประจำวัน จนทำให้น้องช้างดูสดใส อีกด้วย

ตราด - ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกิจกรรมพัฒนาอาชีพ ประยุต์สู่ “โคกหนองนา โมเดล” เพื่อเสริมสร้างรายได้ ภายใต้เศรษฐกิจพอเพียง

ในวันที่ 21 ธ.ค.64 พลเรือตรี สุระศักดิ์ สิงขรวัฒน์ เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 /หัวหน้าสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในระดับพื้นที่ในเขตทัพเรือภาคที่ 1 เป็นประธานในการจัดกิจกรรมพัฒนาอาชีพเพื่อเสริมสร้างรายได้ภายใต้เศรษฐกิจพอเพียง ณ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ อ.เมืองตราด จว.ตราด โดยมี นายกิตติพงษ์ ละชั่ว ผู้บังคับการเรือนจำชั่วคราวเขาระกำ และคณะให้การต้อนรับ

การจัดกิจกรรมพัฒนาอาชีพเพื่อเสริมสร้างรายได้ภายใต้เศรษฐกิจพอเพียง ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาคนให้พออยู่พอกินและพึ่งพาตนเองได้ ยึดหลักการดำเนินงานบนทางสายกลางเป็นขั้นเป็นตอน บนพื้นฐานของความสมดุลพอดีในทุกภาคส่วน มีความสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมตามวิถีแห่งธรรมชาติด้วยวิธีที่เรียบง่าย สามารถนำความรู้ที่ได้รับ ไปใช้ในการดำเนินชีวิตและพัฒนาคุณภาพชีวิตต่อไป

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการอบรมให้ความรู้โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” และแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง “เกษตรกรปลอดภัย ก้าวไกลสู่เกษตรอินทรีย์” อีกทั้งยังได้มีกิจกรรมที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วม โดยการให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ทำการทดลองทำปุ๋ยหมักและอาหารปลา ที่ทำจากวัสดุอุปกรณ์ที่มาจากธรรมชาติ ซึ่งสามารถนำความรู้ที่ได้รับ ไปใช้ในชีวิตประจำวันและสามารถนำไปใช้ในการลดต้นทุนในการประกอบอาชีพ เพื่อให้มีเงินเหลือเก็บ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป

ชลบุรี - ‘สวนนงนุชพัทยา’ ร่วมกับ ‘วัดคีรีวงก์(วัดน้ำตก)’ จัดอบรม กินอาหารสมุนไพร - อย่างไรให้ปลอดภัย - ปลอดโรค

ที่ สวนนงนุชพัทยา นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ร่วมกับพระมหาขวัญชัย อคฺคชโย เจ้าอาวาสวัดคีรีวงก์ จัดอบรม หัวข้อ "กินอาหารสมุนไพร อย่างไรให้ปลอดภัย ปลอดโรค รุ่นที่ 4" โดยมี พนักงานสวนนงนุช ประชาชนทั่วไปที่ชื่นชมสมุนไพร และเจ้าหน้าที่แพทย์แผนไทย เข้าร่วมอบรมอย่างพร้อมเพรียง

พระมหาขวัญชัย อคฺคชโย เจ้าอาวาสวัดคีรีวงก์กล่าวว่า สำหรับการจัดอบรมกินอาหารสมุนไพร อย่างไรให้ปลอดภัย ปลอดโรค ในครั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักในเรื่องของการรับประทานอาหารให้เกิดประโยชน์ ปลอดภัย ปลอดโรค ด้วยสมุนไพรที่มีอยู่เดิมมาต่อยอดในการนำมาประกอบอาหาร โดยจะเห็นได้จากในสมัยอดีตคนไทยไม่ค่อยเป็นโรค ซึ่งเป็นผลมาจากการทานอาหารที่มีส่วนผสมของสมุนไพรเป็นยารักษาโรค เช่น เมนูผัดกะเพราที่จะช่วยในเรื่องไขมันเกาะตับ ขับลมในลำไส้, เมนูผัดขิง ช่วยในเรื่องลดอาการไข้ ขับลม,เมนูแกงป่าช่วยในการหมุนเวียนเลือดลม,เมนูผัดผักบุ้งช่วยในเรื่องบำรุงสายตา,เมนูส้มตำช่วยในการขับถ่าย,เมนูเครื่องดื่มน้ำมะพร้าวช่วยบำรุงหัวใจ และเมนูชาขิงน้ำผึ้ง ช่วยในเรื่องเจ็บคอ ขับลม คลื่นไส้

สำหรับการอบรมในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้ผู้เข้าร่วมได้ตระหนักรู้ในเรื่องของคุณประโยชน์ของพืชสมุนไพรไทย ที่สามารถนำมาปรุงอาหารให้มีรสชาติและคุณค่าที่ดีต่อสุขภาพโดยเน้นการทานอาหารที่มีส่วนประกอบของพืชสมุนไพรไทยแทนยา อีกทั้งเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม นำความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง เรื่องการนำสมุนไพรไทยไปใช้ในชีวิตประจำวันของตัวเองและครอบครัวเน้นถึงวิธีการปรุงอาหารหลากหลายเมนูให้ถูกต้องด้วยสมุนไพรไทย เพื่อให้เกิดประโยชน์และคุณค่าสูงสุด รวมถึงการเพิ่มรสชาติและประโยชน์ของอาหารไทยชนิดต่าง ๆ ด้วยการเติมสมุนไพรไทยเข้าไปให้เหมาะสม โดยกำหนดจัดอบรมระหว่างวันที่ 21-23 ธันวาคม 2564 โดยการจัดอบรมครั้งนี้ได้ดำเนินการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยตามมาตรฐาน SHA+ และ Safe travels ที่ได้รับการรับรองจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top