Sunday, 19 May 2024
แพทองธารชินวัตร

‘เพื่อไทย’ เปิดตัว ‘เศรษฐา’ พรุ่งนี้ นั่งที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย

‘เพื่อไทย’ เปิดตัว ‘เศรษฐา’ พรุ่งนี้ นั่งที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย คาดลงพื้นที่หาเสียงแทน ‘อิ๊งค์’ หลังอายุครรภ์ 7 เดือนกว่าแล้ว

(28 ก.พ. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (1 มี.ค.) เวลา 09.30 น. พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรคเพื่อไทย จะร่วมแถลงข่าวเปิดตัว นายเศรษฐา ทวีสิน สมาชิกพรรค พท.และประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นประธานที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดตัวทางการเมืองอย่างเป็นทางการครั้งแรกในนามพรรค พท.ก่อนหน้าที่นายเศรษฐา เคยร่วมลงพื้นที่เยาวราชหาเสียงร่วมกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เมื่อวันที่ 21 ม.ค.66

‘ชลน่าน-แพทองธาร-เศรษฐา-เพื่อไทย’ เล่นใหญ่!! โพสต์ภาพ-คลิป ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’

(28 ก.พ. 66) พรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์คลิปความยาว 1 นาที รวบรวมนโยบายสำคัญของพรรคเพื่อไทย ที่ได้ทยอยประกาศในวาระต่าง ๆ ไปแล้ว ได้แก่…

1.) คิดใหญ่ : สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง รายได้ 200,000 บาทต่อปี เป็นศูนย์กลางการขนส่งคมนาคมในภูมิภาค เป็นศูนย์กลางงานเทศกาลในภูมิภาคเอเชีย ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ภายในปี 2570 เงินเดือนปริญญาตรี/ข้าราชการ 25,000 บาท ภายในปี 2570 ปฏิรูปกองทัพเป็นทหารมืออาชีพ ปฏิรูประบบราชการทั้งระบบ รายได้เกษตรกรเพิ่มเป็น 3 เท่าภายในปี 2570 ต่อต้านการรัฐประหาร

2.) ทำเป็น : ยกระดับ 30 บาท บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทั่วไทย จองคิวได้เร็ว ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยไปทั่วโลก 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ปราบปรามผู้ผลิต และผู้ขายยาเสพติด GDP เติบโตเฉลี่ยอย่างต่ำปีละ 5% ปราบอาชญากรรมไซเบอร์ รัฐบาลดิจิทัลเพื่อประชาชน เพิ่มความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน

ปักธงแลนด์สไลด์!! ‘อุ๊งอิ๊ง’ บุกเมืองย่าโม อ้อนคนโคราช ขอชนะทั้ง 16 เขต ลั่น!! พร้อมนำโอกาส-อนาคตประเทศกลับคืนมา

(4 มี.ค. 66) ที่อาคารกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เทศบาลเมือง อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชายของน.ส.แพทองธาร และแกนนำพรรค พท. อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัครส.ส.นครราชสีมา ทั้ง 16 เขต โดยมีประชาชนร่วมเวทีปราศรัยจนเต็มพื้นที่

โดย นพ.ชลน่าน ปราศรัยว่า เรามีความตั้งใจยกทัพใหญ่มาโคราช ซึ่งโคราชเป็นเมืองที่มีโอกาสมากที่สุดในประเทศ เพราะมี ส.ส.มาถึง 16 เขตเลือกตั้ง ฉะนั้น ต้องปักธงแลนด์สไลด์เพื่อไทยเท่านั้น เริ่มต้นจากปักธงชัย ปักธงมั่งคงที่ อำเภอคง และปักธงให้ยกจังหวัดที่เมืองย่าโม เสียงสะท้อนประชาชนทุกเวที เมื่อพูดถึงว่าที่แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ทุกเสียงบอกว่า น.ส.แพทองธาร โคราชเพื่อไทยคิดใหญ่ทำเป็น ถ้าเราไม่คิดใหญ่พอ โอกาสของทุกคนที่สูญเสียไป 8 ปีจะสูญหาย เพื่อเอาโอกาสอนาคตประเทศกลับคืนมา ขอสัญญาใจพี่น้องชาวโคราชว่า จะคิดใหญ่ได้ต้องชนะทั้ง 16 เขต ถล่มทลายยกโคราช อย่างน้อยต้องได้ 250 ที่นั่งขึ้นไป

นพ.ชลน่าน ปราศรัยต่อว่า เมื่อเดือนที่แล้วโพลที่ทำโดยหน่วยงานลับออกมาบอกว่า เพื่อไทยทั่วประเทศ จะได้ 270 ที่นั่ง ดังนั้น หากต้องการเพื่อไทยเป็นรัฐบาลต้องกาเพื่อไทยทั้งสองใบทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ เพื่อไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกไป ถ้าเราไม่ได้ 250 เราจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ตั้งแต่นโยบายที่ทำได้ คือเพื่อไทย ซึ่งเป็นประชาธิปไตยกินได้และเราทำเป็น จากผลสำรวจโพลทุกสำนักเพื่อไทยมาเป็นอันดับหนึ่ง เราไม่มีพลังใหม่ ไม่มีพลังเก่า แต่เอาทุกมาผสมผสานเพื่อทำหน้าที่ให้ประชาชน

ต่อมา นายประเสริฐ ปราศรัยว่า ตนเป็นคนโคราชตัวจริงเสียงจริง ไม่เหมือนนักการเมืองบางคน บอกว่าเป็นคนโคราช แต่ไม่มีบ้านอยู่โคราช แอบใช้บ้านหลวงใช้ไฟฟรี ซึ่งโคราชเป็นเมืองหญิงกล้า และวันนี้นางสาวแพทองธาร เป็นอีกหนึ่งหญิงกล้า ที่เปรียบเป็นนารีขี่ม้าขาวมาอาสาทำงานกอบกู้วิกฤติประเทศ วันนี้ถึงเวลาของสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงของโคราชแล้ว 8 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงไม่มีอะไรดีขึ้นเลย บอกว่าจะปฏิรูปหลายอย่าง เอา ส.ว.ที่ตัวเองแต่งตั้งเลือกนายกฯ อย่างหน้าด้าน คนไทยตัวเล็กลงแต่ระบบราชการใหญ่ขึ้น จาก 8 ปีที่ผ่านมา โดย 4 ปี แรกไปพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อสืบทอดอำนาจ และไปพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็สืบทอดอำนาจ ถ้าเลือกอีก 4 ปี ก็เลือกเผด็จการ และ 8 ปีที่ผ่านมาโคราชไม่ได้อะไรเลย

“ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลราคาสินค้าเกษตร ทั้งอ้อย ข้าว ข้าวโพด จะราคาสูงขึ้น ราคาปุ๋ยลดลง รวมทั้งจะฟื้นฟูโครงการสินค้าโอทอปที่เกิดในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ดังนั้นเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์ถ้าไม่แลนด์สไลด์ คนที่เราไม่อยากให้เป็นนายกฯจะกลับคืนมา” นายประเสริฐ กล่าว

ตะเพิด ‘ชิดชอบ’ ‘อุ๊งอิ๊ง’ นำทัพเหยียบถิ่น ‘เนวิน’ พร้อมชูนโยบาย ‘3 ป.’   ฟากลูกพรรคห้าวจัด ประกาศไล่ ‘ตระกูลชิดชอบ’ พ้นเขากระโดง

‘อุ๊งอิ๊ง’ นำทีมเพื่อไทยบุกถิ่นบุรีรัมย์ ชู นโยบาย ‘3 ป.’ ปราบยาเสพติด-กัญชาเสรี ด้าน ‘ชลน่าน’ พ้อ โดนขวางปราศรัยสถานที่ราชการ ฟาก ‘อดิศร’ ไล่ตะเพิดตระกูลชิดชอบพ้นเขากระโดง

(5 มี.ค. 66) ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย (พท.) เขต 10 อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์​ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชาย พร้อมด้วยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค, นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค,  นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี, นายอดิศร เพียงเกษ แกนนำพรรค, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัครส.ส.บุรีรัมย์ทั้ง 10 เขต ร่วมเวทีปราศรัย ท่ามกลางประชาชนที่เดินทางมาร่วมรับฟังปราศรัยจนล้นพื้นที่

โดย นพ.ชลน่าน ปราศรัยว่า เรายกทัพใหญ่มาพบพี่น้อง พร้อมฝากผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ทั้ง 10 เขต ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ วันนี้มีคนมาฟังปราศรัยหนาแน่นคับคั่งเป็นหมื่นคน แม้สถานที่ถูกจำกัดคับแคบก็ตาม ก่อนหน้านี้เราได้ทำหนังสือใช้สถานที่ราชการที่มีพื้นที่กว้างขวางแต่ไม่มีใครอนุญาตจึงต้องมาใช้สถานที่ตรงนี้ ดังนั้นขอขยายพี่น้องออกไปจาก 1 หมื่นคน เป็น 1 แสนคน และขยายออกไปทั้ง 10 เขต ให้พรรค พท. ได้หรือไม่

นพ.ชลน่าน ปราศรัยต่อว่า ที่ผ่านมาบุรีรัมย์ถูกครอบงำมานาน ย้ำว่าถ้าไม่ได้แลนด์สไลด์ 250 ที่นั่งขึ้นไปเราไม่สามารถเปลี่ยนบุรีรัมย์ได้ และต้องปิดสวิตช์ ส.ว. เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมออกไป ส่วนนโยบายของแต่ละพรรคการเมือง ให้เงิน 700 บาท 1,000 บาท หรือ 3,000  บาท ใครก็พูดได้ แต่เรายืนยันว่านโยบายทำได้จริง และทำเป็น อีกทั้งประกาศว่าถ้าพรรค พท. เข้ามา ปัญหายาเสพติดจะต้องหมดไป

ด้านนายอดิศร ปราศรัยประกาศไล่ตระกูลชิดชอบออกจากเขากระโดง และให้เจ้าหน้าที่ไปจับกุมนายเนวิน ชิดชอบ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ​และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรค ภท. ได้แล้ว หลังถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณีให้นอมินีถือหุ้นแทน รวมทั้งขอให้เอากัญชาออกไปจากพื้นที่ เพราะคนขอนแก่นคนอุดรธานี ไม่เลือกพรรคกัญชาอยู่แล้ว คนบุรีรัมย์ยังจะเลือกอยู่หรือไม่ และขอให้ จ.บุรีรัมย์ อย่าเป็นขี้ปากของใคร

สงขลาเทใจ!! ‘อุ๊งอิ๊ง’ ปลื้ม!! ผลโพลสำรวจความนิยมในสงขลาขยับขึ้น เผย ดีใจ ‘เพื่อไทย’ ได้มีโอกาสอยู่ในใจของพี่น้องชาวใต้

(5 มี.ค. 66) ที่จังหวัดบุรีรัมย์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจความนิยมในพื้นที่จังหวัดสงขลา เรื่องตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นรอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ส่วนความนิยมพรรคเป็นรอง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า รู้สึกดีใจมาก ได้มีโอกาสอยู่ในใจของพี่น้องชาวใต้ ย้ำว่าการลงพื้นที่ทุกครั้ง ทุกพื้นที่สำคัญกับพรรค พท. และเมื่อมีโพลผลสำรวจที่ยังไม่เคยเกิดขึ้น และเกิดขึ้นเกี่ยวกับความนิยมของพรรค พท. แน่นอนว่า ทำให้พรรค พท.มีกำลังใจมากขึ้นเยอะ

เมื่อถามว่า จะมีโอกาสไปลงพื้นที่เพื่อย้ำฐานเสียงความนิยมของพรรค พท.ในภาคใต้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวติดตลกว่า ตารางการลงพื้นที่หาเสียงอยู่ไหน

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค พท. กล่าวเสริมว่า มีอยู่ภาคใต้ก็มีกำหนดการที่จะลงพื้นที่อยู่

เรื่องนี้ต้องประกบ ‘ชลน่าน’ ประกบ ‘อิ๊งค์’ อธิบายเรื่องงบประมาณ บรรยากาศเหมือนยุคยิ่งลักษณ์ตอบปมจีทูจี

(8 มี.ค.66) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติการใช้งบประมาณเป็นวงเงินกว่า 6.8 หมื่นล้านบาท ว่า งบประมาณที่มีผลผูกพัน ทุกงบที่มีอยู่ก็ต้องจัดการ ซึ่งเรามีผู้ที่มีความรู้ความสามารถอยู่แล้ว เราก็ต้องประชุมร่วมกันทั้งหมด เพื่อใช้ภาษีของประชาชนให้คุ้มค่ามากที่สุด

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า เรื่องงบประมาณต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1.) งบประมาณผูกพัน ที่ทำให้ก่อหนี้
2.) เป็นงบประมาณผูกพันตามข้อกฎหมาย ซึ่งในส่วนนี้รัฐบาลที่จะเข้ามารับช่วงต่อ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ต้องดำเนินการตามนั้น

คิดการใหญ่!! ‘อุ๊งอิ๊ง’ ตั้งเป้าจัดตั้ง รบ.พรรคเดียว มุ่งแก้ปัญหาปากท้อง ปชช. บอก ยังเร็วเกินไปที่จะประกาศจับมือทางการเมืองกับพรรคอื่น

(9 มี.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท.ให้สัมภาษณ์ถึงความเป็นไปได้ของเป้าหมายแลนด์สไลด์ 310 เสียงของพรรค พท.ว่า เป็นการตั้งเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ที่เราต้องมุ่งมั่น เพราะ 310 เสียงจะเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็ง แข็งแรง สามารถที่จะกำจัดระบอบประยุทธ์ให้ออกไปได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่วางไว้และต้องไปถึงเป้าหมายให้ได้

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรค พท.และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประกาศเป็นรัฐบาลพรรคเดียวของพรรค พท.ว่า จริง ๆ อยากเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็ง เป็นรัฐบาลที่ไม่ถูกล้มด้วย ส.ว. ไม่สามารถถูกแต่งตั้งนายกฯ ได้ด้วย ส.ว. เราอยากเป็นรัฐบาลที่จัดตั้งนายกฯ ได้โดยประชาชน เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอย่างที่เคยพูดไว้ทุกเวที

“จริง ๆ เราต้องช่วยกัน ที่หัวหน้าพรรค พท.ประกาศเรื่อง 310 เสียงเป็นเรื่องใหญ่มาก ต้องมีทุกคน ทั้งหัวหน้า เลขาพรรค นายเศรษฐาและทุกคนที่ต้องช่วยกันทุกจุด เราไม่สามารถทำได้เพียงคนเดียว เพราะนี่คือการใหญ่มาก ๆ เราต้องเดินหน้าเต็มที่” น.ส.แพทองธาร กล่าว

‘อุ๊งอิ๊ง’ ปลุกประชาชน เข้าคูหากาเลือก ‘เพื่อไทย’ ชี้!! ต้องเลือกทั้งคนทั้งพรรค ให้แลนด์สไลด์เกิดขึ้นจริง

(18 เม.ย.66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย แถลงถึงยุทธศาสตร์หาเสียงเลือกตั้งโค้งสุดท้ายพรรคเพื่อไทยว่า ขณะนี้มีกระแสต่าง ๆ มากมายถาโถมใส่พรรค ล่าสุดมีเสียงสะท้อนจากประชาชนถึงกระแสวิจารณ์ผู้สมัครส.ส.เขต พรรคเพื่อไทย ไม่ลงพื้นที่หาเสียง ชาวบ้านหาตัวผู้สมัครพรรคไม่เจอ และไม่ค่อยเห็นป้ายหาเสียงของพรรคนั้น ตนและพรรคเพื่อไทยไม่นิ่งนอนใจ ส่งทีมงานไปตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่ต่างๆ พบว่าส.ส.เขตลงพื้นที่สม่ำเสมอ อาจมีส่วนน้อยลงพื้นที่ไม่มากพอ แต่นโยบายต่างๆ ของพรรคที่ไปสู่ประชาชน อาทิ ค่าแรง 600 บาท กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ก็เป็นผลมาจากการที่ส.ส.ลงพื้นที่พบประชาชน เชื่อว่า ผู้สมัครทุกคนอยากเข้าสภา ก็ต้องพบปะประชาชน ส่วนเรื่องป้ายหาเสียงในบางพื้นที่ที่ไม่ค่อยพบเห็นมากนั้น เนื่องจากต้องทำกฎคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ยอมรับเป็นข้อจำกัด พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ ถูกเพ่งเล็งตลอด จำเป็นต้องทำตามกฎ แต่อีกไม่กี่วันจะมีป้ายหาเสียงชุดใหม่ออกมาอธิบายนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล และการเติมเงินให้ครอบครัวละ 20,000 บาทต่อเดือน 

น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยหนักแน่น เลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์จะเลือกพรรค ไม่เลือกคนไม่ได้ ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลง พรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่ตอบโจทย์ให้ได้ ประชาชนอย่าเพิ่งแผ่ว ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งคน และพรรค ให้แลนด์สไลด์

'เพื่อไทย' ผวา 'แลนด์ไถล' หลัง 'คะแนนนิยมนิ่ง-คู่แข่งจ่อ' ต้องออกใบเตือนผู้สมัคร 'เสาไฟฟ้า' ให้ทำงาน-ลงพื้นที่

อาการของพรรคเพื่อไทยยามนี้ไม่สู้ดีนัก..ประมาณว่า 'พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก' ก็มิปาน

วันที่ 5 เม.ย.2566 จัดบิ๊กแคมเปญ เปิด 3 แคนดิเดทฝตนายกฯ ภายใต้ธีม 'ONE TEAM FOR ALL THAIS' และให้หนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ 'เศรษฐา ทวีสิน'   ประกาศนโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท กะว่าจะเปรี้ยงปร้างระเบิดเถิดเทิงสมราคาคุย...คิดใหญ่ทำเป็น

แต่อนิจจา...ที่ไหนได้ นโยบายนี้กลายเป็นบั้งไฟที่ไปไม่สุด เกิดอาการแป๊ก...เสียฟอร์ม เสียรังวัดไม่น้อย...ว่ากันว่าถ้าเป็นโค้ง 7 วันสุดท้ายคงหวิดตายหมู่...แบบว่าคงแลนด์ไถลเหลืออย่างมากแค่ 170 ที่นั่งเหมือนที่โพลลับฝ่ายความมั่นคงเขาทำไว้เป็นแน่แท้...

ตอนนี้บรรดาเสนาธิการ และนักรบในห้องแอร์ทั้งหลายต้องช่วยกันแก้เกมเรื่องนโยบายหมื่นบาท ทั้งในส่วนคำชี้แจงต่อ กกต.และคำอธิบายต่อสาธารณชน ซึ่งอย่าว่าแต่ชนชั้นกลางเลยที่มีคำถามเลย ระดับรากหญ้าเองก็เริ่มมีคำถาม เพราะผู้บริหารพรรคบางคนพูดชัดเจนว่า...ใครที่มารับบริการเงินดิจิทัลหมื่นบาท ต้องสละสิทธิ์การรับสวัสดิการจากบัตรคนจน...

ร้อนจนวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ทั้ง 'ภูมิธรรม เวชชชัย' รองหัวหน้าพรรค และตัวนายเศรษฐาเอง ต้องรีบออกมาดับไฟเสียแต่ต้นลมว่า...นโยบายนี้จะเดินหน้าโดยไม่ยกเลิกบัตรคนจน...

จะเป็นเพราะนโยบายแจกเงินหมื่นบาทด้วยหรือเปล่าก็มิทราบได้...ผลปรากฏว่าการทำโพลของค่ายต่างๆ ระบุว่า แม้คะแนนของแพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง และพรรคเพิ่อไทยจะยังคงนำ แต่เป็นการนำในลักษณะหยุดนิ่ง ในขณะที่คู่แข่งดีวันดีคืน โดยเฉพาะคู่ต่อสู้อย่างพรรคก้าวไกลเริ่มหายใจรดต้นคอ...

ไม่แต่เท่านั้น โพลของค่ายมติชน-เดลินิวส์ ที่ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 8-14 เม.ย.ระบุชัดว่าคะแนนตำแหน่งว่าที่นายกฯ นั้น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แห่งก้าวไกล แซงอุ๊งอิ๊ง ห่างในระดับ 29 ต่อ 23 เปอร์เซ็นต์กันเลยทีเดียว...

ขณะเดียวกันบรรดา FC ของพรรคได้ร้องเรียนไปยังพรรคว่า มีผู้สมัครจำนวนไม่น้อยที่ไม่ลงพื้นที่ หวังโหนกระแสพรรคเป็นหลัก...ทำให้เมื่อวันที่ 16 เม.ย. กองอำนวยการเลือกตั้งต้อง ทำจดหมายน้อยกระตุกเตือนบรรดาผู้สมัคร ทั้งที่เป็นอดีตส.ส.และผู้สมัครหน้าใหม่ที่ทำตัวเป็นพวก 'เสาไฟฟ้า' แบบประชาธิปัตย์ภาคใต้เมื่อหลายปีก่อนโน้น คือไม่หาเสียง โหนกระแสพรรค อาศัยยี่ห้อพรรคเข้าสภา...

“...ถ้าพวกท่านยังขยันไม่พอและไม่เข้าหาประชาชน..เราคงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการแลนด์สไลด์ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยวดยิ่ง...” ตอนหนึ่งของจดหมายเตือนระบุ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top