Thursday, 2 May 2024
สุขภาพ

หาหมอออนไลน์!! ‘รัชดา’ เผย สิทธิบัตรทองหาหมอ ‘ฟรี’ ผ่านแอปฯ Clicknic ยัน!! ครอบคลุมถึง 42 โรค ขอนำร่องแค่ กทม. ก่อน

(13 มี.ค. 66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้เปิดบริการทางเลือกให้แก่ผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สิทธิบัตรทอง 30 บาท) ที่ป่วยด้วยโรคทั่วไปที่ไม่ซับซ้อน 42 กลุ่มอาการโรค สามารถพบแพทย์เพื่อรักษาทางไกลหรือเทเลเมดิซีน (telemedicine) โดยแอปพลิเคชัน  Clicknic โดยคลิกนิกเฮลท์ คลินิกเวชกรรม 42 โรค เช่น ตาแดง ท้องร่วง ไข้ หวัด อาหารเป็นพิษ กระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ กล้ามเนื้อ ข้ออักเสบ ลมพิษ ผื่น รวมถึงโรคโควิด 19 กลุ่มสีเขียวหรือกลุ่มที่มีอาการเล็กน้อย ฯลฯ

สาระสำคัญคือเป็นโรคที่ไม่มีความซับซ้อนมากและพบได้บ่อย โดยนำร่องใน กทม. ก่อน รวมทั้งคนที่มีสิทธิอยู่ในต่างจังหวัดแต่ตัวอยู่ที่ กทม. ก็ใช้บริการได้เช่นกัน บริการนี้เป็นทางเลือกที่มุ่งอำนวยความสะดวก สำหรับขั้นตอนการรับบริการนั้น ก่อนอื่นต้องดาวน์โหลดแอปฯ Clicknic มาติดตั้งในมือถือก่อน เมื่อเข้าไปในแอปฯ แล้วจะมีแบนเนอร์ "ผู้ป่วยกลุ่มโรคทั่วไป (สปสช.)" เมื่อคลิกเข้าไปจะมีช่องบันทึกข้อความสำหรับระบุที่อยู่และสถานที่จัดส่งยา พร้อมระบุอาการ รวมทั้งระบุข้อมูลสุขภาพ เช่น ส่วนสูง น้ำหนัก และยังสามารถใช้เทคโนโลยีตรวจสัญญาณสุขภาพผ่านกล้องมือถือ เพื่อให้แพทย์มีข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการรักษาได้ด้วย

'ระบบสาธารณสุข' ยุคลุงตู่ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

#จดหมายเหตุลุงตู่ #8ปีที่เปลี่ยนไป #ยุบสภา

รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้มุ่งเน้นด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังใส่ใจด้านคุณภาพชีวิตประชาชนอีกด้วย นับเป็นความมุ่งมั่นของรัฐบาล ที่จะดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างดีที่สุด รวมทั้งยกระดับมาตรฐานด้านสาธารณสุขที่ได้รับการชื่นชมจากทั่วโลก รวมถึงองค์การอนามัยโลก นำไปสู่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และดูแลรักษาสุขภาพโลก และยังพัฒนาต่อไปตามนโยบายยุทธศาสตร์ชาติ โดยมีหลักยึดที่สำคัญ คือ เราจะเดินหน้าไปพร้อมกัน และ ‘ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง’ ภายใต้คำขวัญ ‘ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ร่างกายแข็งแรง เศรษฐกิจประเทศแข็งแรง’ เพื่อให้เห็นภาพรวมในการพัฒนาด้านสาธารณสุข ขอสรุปให้เห็นเป็นรูปธรรมดังนี้

- ยกระดับและต่อยอดบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค ไปเป็น ‘บัตรทองพรีเมี่ยม’ เพิ่มสิทธิประโยชน์ เพิ่มคุณภาพบริการ

- บัตรทองพรีเมี่ยม รักษาโควิดฟรี

- ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565 ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองสามารถเข้ารักษาในหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ทั่วประเทศโดยที่หน่วยบริการจะไม่มีการเรียกให้กลับไปรับใบส่งตัวมาเหมือนในอดีตที่เคยเป็นปัญหา

- บัตรทองทำให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งไปรับบริการที่ไหนก็ได้

- บัตรทองให้สิทธิ์การย้ายหน่วยบริการ ได้สิทธิทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน

- ผู้ถือบัตรทองได้สิทธิฟอกไตฟรี 

- มาตรการลดการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 มีการรณรงค์เพื่อการเพิ่มระยะห่างทางสังคม (และส่งเสริมการทำงานที่บ้าน รวมถึงกลไกในการทำงานที่ขันแข็งของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กว่าหนึ่งล้านคนทั่วประเทศ

- ระบบประกันสุขภาพครอบคลุมประชาชนเท่าเทียม

- พัฒนาระบบบริการสาธารณสุข แพทย์สมัยใหม่ และแพทย์แผนไทย

- พัฒนาและยกระดับความรู้อาสาสมัครสาธารณสุขประจาหมู่บ้าน (อสม.)

- ลดภาระการเดินทางไปสถานพยาบาลของประชาชน

- ลดความแออัดในโรงพยาบาลขนาดใหญ่

- รับยาที่ร้านขายยาแผนปัจจุบันใกล้บ้านสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หืด จิตเวช และโรคเรื้อรังอื่นๆ 

- ส่งยา/เวชภัณฑ์ถึงบ้านทางไปรษณีย์ การบริการสาธารณสุขระบบทางไกล (Telehealth/Telemedicine) และการตรวจทางห้องปฏิบัติการนอกโรงพยาบาล

- เพิ่มบริการสำหรับแม่และเด็ก 

- การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก การเพิ่มวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก 

- คัดกรองภาวะ Down Syndrome ในหญิงตั้งครรภ์ (อายุไม่เกิน 35 ปี)

- ผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมสำหรับเด็กหูหนวก

‘ดร.กมล’ ชี้!! 'ภท.' ขอยกระดับ 'กัญชาศึกษา' เดินหน้าใช้เพื่อ 'การแพทย์-สุขภาพ-เศรษฐกิจ'

ไม่นานมานี้ ดร.กมล รอดคล้าย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อและคณะทำงานยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา พรรคภูมิใจไทย ได้อธิบายเรื่อง กัญชาศึกษา เพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด ว่า....

“ในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ โดยเฉพาะการศึกษาที่มีคณะแพทยศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ ได้มีการนำกัญชาไปจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอน ตั้งแต่ระดับปริญญาตรี ถึงระดับปริญญาเอก”

ดร.กมล ยังได้เสริมอีกว่า “นโยบายกัญชาเพื่อการแพทย์ของพรรคภูมิใจไทยที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และเตรียมจะขับเคลื่อนต่อไปในอนาคต เรามุ่งเน้นไปที่ กัญชาเพื่อการแพทย์ เพื่อการรักษาโรค ซึ่งกัญชามีการใช้มาตั้งแต่โบราณ แล้วยังมีงานวิจัย มีหน่วยงานรับรองว่าถ้าเราใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ เราจะลดการสูญเสียการซื้อยาจากต่างประเทศ โดยใช้กัญชาเป็นสารตั้งต้น ในการแก้ปัญหาโรคภัยไข้เจ็บของพี่น้องประชาชน”

“ในขณะเดียวกันนั้นกัญชาสามารถใช้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ เพราะกัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ ที่นอกจากใช้เพื่อการแพทย์แล้วยังใช้ในการประกอบอาหาร ประกอบเครื่องดื่ม ประกอบกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพอนามัย”

ดร.กมล ได้ยกนโยบายของพรรคขึ้นมาพูดเสริมอีกว่า “ระบบการจัดการของเราในวันนี้คือพรรคภูมิใจไทย ได้มีการขับเคลื่อนเรื่องนี้ ผ่านโรงพยาบาลต่าง ๆ ในการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ แต่เรายังมีการขับเคลื่อนผ่านระบบการศึกษาอีกด้วย

“โดยวันนี้พรรคภูมิใจไทยสามารถขับเคลื่อนการเรียนรู้กัญชาเพื่อการแพทย์ไปยังสถานศึกษาของ กศน. ทั่วประเทศใน 77 จังหวัด และอีกประมาณ 800-900 อำเภอ นอกจากในการจัดการเรียนการสอนผ่าน กศน. แล้ว ในสภาบันการศึกษาทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่มีคณะแพทยศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ ได้มีการนำกัญชาไปจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอน ตั้งแต่ระดับปริญญาตรี ถึงระดับปริญญา

นักวิชาการ ชี้!! PM2.5 ภาคเหนือ ถือเป็นภัยพิบัติ แนะ 4 แนวทางที่ควรทำอย่างเร่งด่วน เพื่อสุขภาพปชช.

นักวิชาการ เสนอวิธีแก้ปัญหา PM2.5 ภาคเหนือ ถือเป็นภัยพิบัติ ต้องสั่งอพยพด่วน เพื่อป้องกันสุขภาพ แนะกำหนดช่วงเวลาวันเผา พร้อมลงโทษไม่รับซื้อผลิตผลทางการเกษตร

เมื่อวันที่ (27 มี.ค.66) เฟซบุ๊ก ‘Sonthi Kotchawat’ หรือ สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์ข้อเสนอแนะป้องกันและแก้ไขฝุ่นPM2.5 โดยระบุข้อความว่า "มุมมองในการป้องกันและแก้ไขฝุ่นPM2.5ในภาคเหนือ

‘บิ๊กตู่’ หนุน ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมชีววิทยาศาสตร์ ต่อยอด ศก.ดันไทยสู่ศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพ

(24 เม.ย. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่งเสริมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมชีววิทยาศาสตร์ ด้วยความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง สร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมชีววิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

นายอนุชา กล่าวว่า ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ Thailand Center of Excellence for Life Sciences (TCELS) ภายใต้การกำกับดูแลของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้บูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมชีววิทยาศาสตร์ติดอันดับ 1 ใน 10 อุตสาหกรรมหลักของประเทศ

โดยจะผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง สร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมชีววิทยาศาสตร์ ที่นำองค์ความรู้ทางด้านชีววิทยาศาสตร์มาใช้ประโยชน์ในการผลิตเป็นสินค้าหรือบริการที่ตอบสนองและความต้องการ เพื่อให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น จึงเป็นโอกาสของ SMEs มากกว่า 6,000 ราย โดยในช่วงต้นเดือนเมษายน 2566

ที่ผ่านมา ได้มีการจัดงาน TCELS Life Sciences Beyond Aspiration ซึ่ง TCELS ได้ระบุข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในปี 2565 ผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์ของไทย มีมูลค่าตลาดประมาณ 2.4 แสนล้านบาท และมีอัตราการเติบโต 3-5% แบ่งเป็น การผลิตในประเทศ 30% และนำเข้า 70% ซึ่งมีมูลค่าการตลาดที่สูง  จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะขยายศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSME) บูรณาการทำงานร่วมกับภาครัฐ และเอกชน เพื่อให้เติบโตและแข่งขันได้ในระดับสากล

ซึ่งปัจจุบันมีการดำเนินการจากหลายภาคส่วน เช่น

31 พฤษภาคม ของทุกปี องค์การอนามัยโลก ยกให้เป็น ‘วันงดสูบบุหรี่โลก’ หลังเล็งเห็นอันตรายจากพิษของบุหรี่ที่กระทบต่อสุขภาพ

ตั้งแต่ปี 2531 องค์กรอนามัยโลก ได้กำหนดให้วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้ทุกประเทศ ตระหนักถึงอันตราย และความสูญเสียทั้งทางสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมที่เกิดจากการสูบบุหรี่ โดยได้ประกาศให้มีการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ โดยใช้ชื่อว่า World Spidemic หรือการสูบบุหรี่เป็นโรคระบาดยู่ทั่วโลก 

ดังนั้นรัฐบาลไทย ได้ตระหนักถึงความสูญเสียในชีวิตของประชากร ที่เกิดจากการสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปี ให้รับทราบถึงอันตราย โทษของการสูบบุหรี่ซึ่งก็เป็นที่รู้กัน แต่จะให้เลิกสูบเลย เป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับผู้ที่ติดบุหรี่แล้ว

จึงได้มีการรณรงค์ให้เลิกสูบบุหรี่ และกำหนดมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลนำมาใช้ โดยการดูแลของกระทรวงสาธารณสุขผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และบุคลากรสาธารณสุข ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผู้สูบบุหรี่ พยายามเลิกสูบบุหรี่ไม่ว่าจะเลิกได้สำเร็จหรือไม่ก็ตาม ดังเช่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ กระทรวงสาธารณสุขประกาศบังคับใช้ มาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2535 ให้มีการพิมพ์คำเตือนโทษของการสูบบุหรี่ที่ข้างซอง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา

‘อัญยา เมดิเทค’ ประกาศเดินหน้าธุรกิจ - ขยายตลาด พร้อมขึ้นแท่นผู้นำศูนย์บริการด้านสุขภาพเพื่อการนอนหลับ

อัญยา เมดิเทค มั่นใจพร้อมขึ้นแท่นผู้นำศูนย์บริการด้านสุขภาพ เพื่อการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ หลังดึงวรวุฒิ อุ่นใจ นักธุรกิจมือฉมัง ระดับแถวหน้าของประเทศร่วมลงทุน และให้คำปรึกษาในการบริหารจัดการ พร้อมผุดกลยุทธ์ขยายตลาด Healthcare เพิ่ม Co-Investors ทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกภูมิภาค ปรับโครงสร้างราคาเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้ารับการบริการได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ปักธงขยายบริการให้ครอบคลุมทั้งในส่วนเรื่องการนอนและการป้องกันโรคโดยเน้น เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ 

(11 ก.ค. 66) คุณทักษอร (อุ้ม) คงคาประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัญยา เมดิเทค จำกัด เปิดเผยว่า “ปัญหาการนอนไม่มีคุณภาพ เป็นภัยเงียบใกล้ตัว และคือหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคเรื้อรังไม่ติดต่อ เช่น เบาหวานความดัน หัวใจ อัลไซเมอร์ และโรคภัยต่างๆ อีกมากมาย การนอนไม่มีคุณภาพเป็นปัญหาที่ทุกคนไม่ควรนิ่งนอนใจและไม่สามารถเพิกเฉยได้ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (OBSTRUCTIVE SLEEP APNEA: OSA) มีการกล่าวถึงกันมากในปัจจุบัน เนื่องจากพบสถิติตัวเลขอุบัติการณ์ที่เป็นกันมากขึ้น คือ มีตัวเลขประชากรเกือบ 20% ที่อาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นนี้ รวมทั้งข้อมูลจากต่างประเทศพบว่า ประชากรทั้งโลกป่วยเป็นภาวะนี้ประมาณ 1 พันล้านคน หรือประมาณ 14% ของประชากรทั้งโลก ซึ่งจำนวนผู้ป่วยที่เป็นมากขึ้นในปัจจุบันทำให้เราต้องให้เกิดการ screening และ monitoring มากขึ้น

อัญยา เมดิเทค เรามุ่งเน้นการรักษาเชิง Preventive care ซึ่งเป็นศาสตร์ป้องกันโรค ตั้งแต่เรื่องการนอน จนถึงการดูแลรักษาที่เน้นความร่วมมือกับทีมบริษัทที่มีนวัตกรรมทางการแพทย์ ซึ่งในวันนี้เรามีความพร้อมที่จะที่จะขยายตลาด และฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้น โดยเราได้เริ่มดำเนินการมีแผนการขยายสาขาเปิดรับ Co-Investors ทั้งในประเทศ ครอบคลุมทุกภูมิภาคและต่างประเทศ ภายในสิ้นปีนี้เราตั้งใจว่าจะขยายไปยังเมืองใหญ่ต่าง ๆ ทั่วภูมิภาค โดยประเดิม Co investor ที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลาเป็นแห่งแรก ซึ่งกลุ่มลูกค้าจะเป็นคนในพื้นที่ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย ประกอบกับกลยุทธ์ในการปรับโครงสร้างราคา ยิ่งทำให้เรามั่นใจว่าทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น 

โดยในช่วงที่ผ่านมาอัตราการเติบโตของยอดจำหน่าย และการเข้ารับรักษานั้นเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 30% และคาดว่าจะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องอีกแน่นอนค่ะ”

นายวรวุฒิ อุ่นใจ หนึ่งในผู้ถือหุ้น กุนซือใหญ่ บริษัท อัญยา เมดิเทค ได้กล่าวถึงการเข้ามาร่วมลงทุนในธุรกิจนี้ว่า “หลังวิกฤติโควิด-19 คลี่คลาย จนนำมาซึ่งการเปิดประเทศ ทำให้ผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพกันมากขึ้นจนกลายเป็นเทรนด์สุขภาพ ในปี 2566 ดังนั้น จึงเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทยที่จะเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาประเทศไทยแลนด์ 4.0 ที่ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร เป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายกลุ่ม New S-curve ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต โดยการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนาเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ตามความก้าวหน้าทางการแพทย์ ระบบสาธารณสุข และเทคโนโลยีของโลกที่มีการเติบโตขึ้น ซึ่งความก้าวหน้าของบริการทางการแพทย์เหล่านี้จะสร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมการแพทย์ นั่นจึงเป็นที่มาของการมาร่วมลงทุนดำเนินธุรกิจกับ อัญยา เมดิเทค ในครั้งนี้จะเพื่อเปิดประตูสู่การขยายธุรกิจ และเพื่อปูทางสู่การผลักดันการแพทย์ใหม่ๆ และนั่นทำให้ผมมั่นใจครับว่า การเข้ามาถือหุ้น และ ทำธุรกิจ อัญยา เมดิเทค นั้นมีโอกาสการเติบโตทางธุรกิจที่สูงมาก และเชื่อว่า เราจะทำให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาได้ง่ายมากยิ่งขึ้นจากการปรับโครงสร้างราคาและการรุกตลาดตามแผนที่บริษัทฯ ได้วางไว้”

กองทัพเรือจัดกิจกรรมเสริมสร้างสุขภาพที่ดีและเพิ่มทักษะการปฐมพยาบาลฟื้นคืนชีพพื้นฐาน ในพื้นที่ทัพเรือภาคที่ 3 เพื่อให้กำลังพลมีสุขภาพที่ดี เป็นกำลังรบที่พร้อมปฏิบัติงานในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันทุกภารกิจ

วันที่ 12 ก.ค.66 พลเรือเอก สุวิน  แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานพิจารณาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการปฏิบัติงานและการพัฒนาคุณภาพชีวิตกำลังพลกองทัพเรือ ตรวจโครงสร้างพื้นฐาน และร่วมกิจกรรมเสริมสร้างสุขภาพที่ดีและเพิ่มทักษะการปฐมพยาบาลฟื้นคืนชีพพื้นฐาน รวมทั้งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือได้ตรวจโครงสร้างพื้นฐานในส่วนของโรงพยาบาลฐานทัพเรือพังงา และอาคารกองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3 ณ ฐานทัพเรือพังงา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องต่อไป

การจัดกิจกรรมครั้งนี้นอกจากเป็นการกระตุ้นให้กำลังพลใส่ใจในการดูแลสุขภาพแล้ว ยังให้ความรู้แก่กำลังพลในการดูแลสุขภาพ และการช่วยฟื้นคืนชีพอย่างถูกต้อง จากบุคคลากรจากกรมแพทย์ทหารเรือ  โดยกรมแพทย์ทหารเรือจะนำผลการตรวจสุขภาพกำลังพลกองทัพเรือมาจัดทำเป็นฐานข้อมูลในโปรแกรม NMD+ เพื่อติดตามและกำหนดแนวทางในการดูแลสุขภาพของกำลังพลได้อย่างเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้การที่กำลังพลมีสุขภาพที่ดีนั้นย่อมส่งผลถึงความพร้อมของกำลังรบ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความพร้อมของทัพเรือภาคที่ 3 ต่อทุกภารกิจในพื้นที่รับผิดชอบฝั่งทะเลอันดามัน และจะส่งผลดีต่อการปฏิบัติงานในภาพรวมของกองทัพเรือ

กำลังพลของหน่วยในทัพเรือภาคที่ 3 ที่เข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย กองบังคับการฐานทัพเรือพังงา , กองเรือปฏิบัติการฯ , หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (กองพันรักษาฝั่งที่ 11 และกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22) จำนวน 409 นาย เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 7 กิจกรรม ประกอบด้วย 
- การตรวจวัดและประเมินสภาพร่างกาย
- การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
- การอบรมความรู้เรื่องการออกกำลังกายและลดน้ำหนัก
- การให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารที่ควรบริโภค
- การสาธิตและการฝึกการช่วยฟื้นชีพขั้นพื้นฐาน (CPR) 
- การให้ความรู้เรื่้องการป้องกันและปฐมพยาบาลเบื้องต้นโรคลมร้อน (Heat Stroke) 
- การเดินวิ่งเพื่อสุขภาพ

ซึ่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพ รวมถึงทักษะการปฐมพยาบาลช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน ซึ่งการมีสุขภาพที่ดีส่งผลถึงความพร้อมขององค์บุคคล ถือได้ว่าเป็นองค์ประกอบของความพร้อมรบที่สำคัญยิ่ง เปรียบเสมือนการสร้างเหล็กในคนที่สำคัญกว่าเหล็กในเรือ นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อการปฏิบัติงานในภาพรวมของกองทัพเรือ และเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชากับกำลังพลอีกด้วย โดยจะให้มีการจัดกิจกรรมนี้ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือทั่วประเทศ

เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือด้านกำลังพลในการส่งเสริมสุขภาพให้กำลังพลของกองทัพเรือมีสุขภาพที่ดี มีร่างกายแข็งแรง พร้อมปฏิบัติงานเพื่อขับเคลื่อนกองทัพเรือได้อย่างมีพลังด้วยความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

‘หมอตุลย์’ แนะ!! ราชทัณฑ์เชิญแพทย์ตรวจย้ำอีกครั้ง หลังโซเชียลแชร์ภาพ ‘ทักษิณ’ ยังสุขภาพอยู่ในเกณฑ์ดี

(22 ส.ค. 66) นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี เรียนถึง ผู้อำนวยการโรงพยาบาล กรมราชทัณฑ์ โดยมีสาระสำคัญ ระบุว่า…

ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่ากรมราชทัณฑ์แถลงข่าวว่า นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ที่ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 10 ปี มีโรคต่าง ๆ รุมเร้า เช่น โรคหัวใจขาดเลือด เป็นต้น ต้องรับการรักษาที่ รพ.ภายนอก 

เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานและจริยธรรมทางการแพทย์ ผมขอเสนอให้ทางกรมราชทัณฑ์เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากราชวิทยาลัยอายุรแพทย์มาตรวจร่างกายนักโทษชายทักษิณ ชินวัตรโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ว่ามีความจำเป็นต้องรับการรักษาโดยโรงพยาบาลภายนอกหรือไม่ และจำเป็นต้อง Admit หรือไม่ 

เพราะจากที่ปรากฏทางสื่อโซเชียลของตัวนักโทษเอง พบว่าสุขภาพอยู่ในเกณฑ์ดี แม้จะมีหลายโรคก็ตาม ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เป็นที่ครหาโดยสังคมทั่วไป และป้องกันมิให้มีการฟ้องร้องแพทย์กรมราชทัณฑ์ในข้อหาช่วยผู้ต้องหาให้ได้รับความสะดวกสบายผิดจากข้อเท็จจริงทางการแพทย์

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการต่อไป
ขอแสดงความนับถือ 
นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์

'อ.โต' เผย ความสามารถในการทำนายโรค เมื่ออายุ 40+ กินแบบไหนได้แบบนั้น ต้องหมั่นปรับสมดุลเพื่อความอยู่รอด

(22 ก.ย.66) นายศาสตรา โตอ่อน อดีตอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต นิติศาสตรมหาบัณฑิต (กฎหมายมหาชน) ม.ธรรมศาสตร์ เจ้าของช่องยูทูบ 'อ.โต วิเคราะห์' โพสต์ข้อคิดผ่านเฟซบุ๊ก 'Sattra Toaon' ว่า...

พออายุ 40 + เราสามารถทำนายโรคที่เราจะเป็นได้

1.ถ้ายังรับประทานน้ำมันพืช ของทอด ไก่ทอดดีปฟราย ก็เตรียมเป็นโรคหลอดเลือด โรคหัวใจได้เลย

2.ถ้ายังรับประทานแป้งแบบไม่ยั้ง ก็เตรียมเป็นโรคเบาหวานไขมันความดัน ไขมันพอกตับได้เลย 

3.ถ้ายังทานน้ำตาลของหวานแบบไม่ยั้ง ก็เตรียมเป็นมะเร็งได้เลย แก่ก่อนวัยด้วยเพราะน้ำตาลนั้นจะลงไปทำลายระดับเซลล์ 

4.ถ้ายังทานอาหารเค็มก็เตรียมเป็นโรคหลอดเลือดแตกได้เลย 

5.ที่นี้ถ้าเป็นทุกโรคแล้วยังทานยาจำนวนมากก็เตรียมไปฟอกไตได้เลย 

6.ถ้ายังสูบบุหรี่อยู่ ก็เป็นมะเร็งปอดถุงลมโป่งพอง 

ผมเคยเขียนเรื่องการจัดชั้นวางชีวิต พออายุ 40 + ต้องมีชั้นวางอันใหม่ ไม่งั้นไม่รอด

ผมมีแล้วค่อยๆ ปรับสมดุลไปเพื่อความอยู่รอด


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top