Sunday, 19 May 2024
วราวุธศิลปอาชา

‘วราวุธ’ เปิดงานวันเด็ก ปี 67 หนุนลูกหลานใช้ชีวิตในวัยเด็กให้เต็มที่ พร้อมย้ำ!! หน้าที่ผู้ใหญ่คือการสร้างสังคมที่ดีให้กับอนาคตของชาติ

(13 ม.ค.67) ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวเปิดงานวันเด็ก ที่จัดโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และมีการจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ 2567 ภายใต้หัวข้อ ‘ให้ทุกวันเป็นวันของเด็ก’ ว่า…

“ความจริงทุกวันเป็นวันเด็กไม่เฉพาะเพียงวันนี้ และไม่เพียงแค่เป็นวันที่ผู้ใหญ่ทุกคนทำอะไรเพื่อเด็กๆ ในวันนี้ ผู้ใหญ่ทุกคนได้เปิดโอกาสและเปิดพื้นที่ให้เด็กๆ แสดงศักยภาพ

และนอกจากเราคิดถึงอนาคตของประเทศไทยแล้ว บทบาทของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อยากให้ผู้ใหญ่ทุกคนคิดถึงตัวเองในสมัยที่เป็นเด็กๆ หลาย 10 ปีก่อนมาจนถึงวันนี้อะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง และการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น เราจะนำมาดูแลลูกหลานอนาคตของประเทศไทยจากนี้ไปอย่างไร เพื่อให้เขาเหล่านั้นได้เตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทั้งสภาพสังคมและเศรษฐกิจอย่างไร”

นายวราวุธ กล่าวว่า อนาคตประเทศไทยจากนี้ไปมีความท้าทายมาก และเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ทุกคนที่จะจะต้องเตรียมอนาคตของชาติให้เด็กทุกคน ให้พร้อมสิ่งที่ที่จะเปลี่ยนแปลงซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคต ความท้าทายมีมากมาย แต่ขณะเดียวกันการพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจ ความสนุกสนานในวัยเด็กของทุกคนนั้น เป็นสิ่งมีค่าที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐีแสนล้าน สิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถทำได้คือดึงเวลากลับไปแล้วเอาเวลาของเด็กๆ กลับคืนมา ดังนั้น วันนี้ขอให้ลูกหลานทุกคนใช้ชีวิตในวัยเด็กอย่างสนุกสนาน ไม่ต้องกังวล ภาระหน้าที่ทั้งหลายผู้ใหญ่อย่างพวกเราจะมีหน้าที่แบกรับเอาไว้เพื่อที่จะสร้างสังคมให้ดีขึ้นให้กับลูกหลานและอนาคตของประเทศไทย

นายวราวุธ กล่าวว่า “คำขวัญวันเด็กปีนี้ “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง และร่วมกันสร้างประชาธิปไตย” ซึ่งสมัยพ่อบรรหารเป็นนายกรัฐมนตรีก็มีคำขวัญวันเด็กเช่นกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลาย 10 ปี ไม่รู้ว่าได้ถูกนำไปใช้มากน้อยแค่ไหน แต่สิ่งที่สำคัญคืออยากให้เด็กทุกคนได้เป็นตัวของตัวเองของตัวเอง เพราะคำขวัญที่ดีที่สุดคือคำขวัญที่มาจากพ่อและแม่ แต่ในขณะเดียวกันเด็กบางคนไม่มีความสุขสบาย ดังนั้น คำว่า ‘ครอบครัว’ ในวันนี้ ไม่ได้แปลว่า มีพ่อแม่ลูก เพราะสำหรับบางคนครอบครัวคือการที่มีคนที่รักเราอยู่ การมีเพื่อนเปรียบเสมือนพี่น้องนั่นก็คือครอบครัว อย่าได้คิดน้อยใจว่าพ่อแม่เราคือใคร แต่สถาบันครอบครัวไม่ได้จำเป็นจะต้องประกอบด้วยพ่อแม่ลูกเสมอไป แต่ประกอบไปด้วยคนที่รักและห่วงใยเรา อยากเห็นเราเติบโตขึ้นมาเป็นคนที่ดีมีคุณค่าต่อสังคม นั่นคือความหมายของคำว่าครอบครัวในมิติของกระทรวงพม.”

นายวราวุธ กล่าวว่า อยากขอเป็นกำลังใจให้กับลูกหลานทุกคน เป็นกำลังใจให้อนาคตของประเทศไทย เพราะจากนี้ไปในเวลาไม่กี่ 10 ปี ประเทศไทยจะเป็นของลูกหลานทุกคน ดังนั้น ในวันเด็กทุกปี เป็นวันที่เราจะมาคำนึงถึงอนาคตของประเทศไทย และเลี้ยงดูพวกเขาเหล่านั้นให้เติบโตขึ้นมาเป็นต้นกล้า ต้นไม้ที่สามารถแผ่ขยายกิ่งก้านสาขา และดูแลประเทศไทยต่อจากพวกเรา 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศในช่วงเช้า ของานวันเด็กที่กระทรวงพม. เป็นไปด้วยความคึกคัก ทุกหน่วยงานในสังกัด พม. พร้อมด้วยภาคเอกชนได้จัดบูทกิจกรรมการละเล่น พร้อมแจกของรางวัลให้กับเด็กๆ ในสถานรองรับและสถานสงเคราะห์สังกัด พม.

อย่างไรก็ตามที่สะดุดตา คือ มีการแต่งกายเลียนแบบ ‘ไอ้ไข่’ มาร่วมในงาน ซึ่งเรียกความสนใจจากเด็กๆและผู้ปกครองมาขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก รวมทั้งนายวราวุธเองก็ได้รวมทั้งถ่ายภาพด้วย ขณะที่เด็กๆ ผู้ปกครอง ต่างทยอยกันมาร่วมงานกันอย่างสนุกสนาน

โดยก่อนพิธีอย่างเป็นทางการจะเริ่มในเวลา 08.30 น.ได้มีเยาวชนนักกิจกรรม ‘กลุ่มนักเรียนเลว’ ประกอบด้วย น.ส.อันนา อันนานนท์ และนายชาญชัย น้อยวงศ์ มาเฝ้ารอพร้อมยื่นหนังสือต่อนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พม.เพื่อทวงถามความคืบหน้า กรณีที่เคยยื่นร้องขอเยียวยาในฐานะผู้เสียหายจากการถูกเจ้าหน้าที่ พม.คุกคาม เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2565 โดย น.ส.อันนา กล่าวว่า ได้แจ้งเรื่องไปหลายรอบได้ติดตามเรื่องจากกระทรวงมา 2 ปี แล้ว กรณีที่ถูกเจ้าหน้าที่ พม.คุกคาม แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทางด้าน นายวราวุธ ก็ได้รับหนังสือจากนายชาญชัยด้วยตัวเอง และได้กล่าวกับน.ส.อันนา ว่า รับทราบและยินดีรับหนังสือมาพิจารณาให้

‘วราวุธ’ ลุยนำร่อง 5 มหาวิทยาลัย หนุนจ้างงาน ‘คนพิการ’ เพิ่ม ชี้!! หากสำเร็จเตรียมเจรจาร่วมกับ อว. แย้ม!! ผู้สูงวัยคือคิวต่อไป

(16 ม.ค.67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความร่วมมือกัน ระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กับกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ว่า 5 มหาวิทยาลัยเบื้องต้นที่ได้แจ้งไว้ในพื้นที่ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน ซึ่งไม่ได้เป็นการลงนามร่วมกันระหว่างทั้งสองกระทรวง เพราะตนได้ขอให้ปลัดกระทรวง พม. ไปติดต่อ 5 มหาวิทยาลัยเพื่อนำร่อง หากว่าเกิดผลสัมฤทธิ์ ใช้เงินจากกองทุนพัฒนาคนพิการได้แล้ว จากนั้นก็จะไปเจรจากับกระทรวง อว. เพื่อทำงานระดับกระทรวง ถ้าหากสำเร็จ คนพิการนับแสนคนก็จะมีการสร้างงานมากขึ้นในแต่ละปี สร้างศักยภาพให้กับคนพิการ ตลอดจนสร้างรายได้ให้กับคนในประเทศชาติ โดยเบื้องต้นจะเจาะกลุ่มเป้าหมายไปที่กลุ่มคนพิการก่อน เพราะเงินที่ใช้ในการสนับสนุน เป็นเงินจากกองทุนพัฒนาคนพิการ ดังนั้น หากในอนาคต สามารถหาเงินมาสนับสนุนผู้สูงอายุได้ ก็จะขยายเป้าหมายไปยังผู้สูงอายุด้วย เพราะปัจจุบันผู้สูงอายุมีมากกว่าจำนวนวัยทำงาน

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า สำหรับการขยายพื้นที่จอดรถให้ผู้พิการ ผู้สูงอายุในพื้นที่ต่างๆ นั้น เมื่อ 2 วันที่แล้ว ได้มีการพูดคุยกับภาคเอกชน ว่าจะนำเทคโนโลยีแอปพลิเคชันมาให้คนพิการใช้ลงทะเบียน เพื่ออำนวยความสะดวกในการจองที่จอดรถในสถานที่ต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้คนปกติไปใช้อภิสิทธิ์ของคนพิการ โดยจะให้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ไปพูดคุยเพื่อหาพื้นที่ทำนำร่องก่อน เนื่องจากต้องใช้ทั้งพื้นที่ภาครัฐ และภาคเอกชน 

‘วราวุธ’ เดินหน้าช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต เหตุ ‘โรงงานพลุระเบิด’ ห่วงสุดเด็ก 8 ขวบ สูญเสียทั้งพ่อแม่ กำชับ!! จนท.ประกบ 24 ชม.

เมื่อวานนี้ (18 ม.ค. 67) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ว่า จากรายงานล่าสุดของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยืนยันผู้เสียชีวิต 23 ราย และครอบครัวที่เสียชีวิตทั้งบิดามารดา จำนวน 3 ครอบครัว ซึ่งทางกระทรวง พม. ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนลำดับต้น เด็กเล็กสุดที่เสียทั้งคุณพ่อคุณแม่อายุเพียง 8 ขวบ เรียนป.2 และยังมีเยาวชนอายุ 16 ปี-ม.4 และ อายุ 18 ปี-ม.6 ซึ่งตนได้คุยกับ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานมูลนิธิบรรหาร-แจ่มใส ศิลปอาชา แล้วว่าทางมูลนิธิ จะดูแลเรื่องการศึกษาของน้อง 3 ครอบครัวที่ที่อยู่ในวัยเรียนให้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องห่วง และที่สำคัญตน ขอขอบพระคุณ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย และ นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ที่ได้ให้เกียรติลงพื้นที่ช่วยเป็นกำลังใจและดูแลพี่น้องประชาชนที่สุพรรณบุรี รวมไปถึงขอขอบคุณทุกหน่วยงานราชการ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย ที่ได้ระดมสรรพช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่

นายวราวุธ กล่าวว่า ยืนยันว่าทางกระทรวง พม. จะมีการทำบุญครบ 7 วันให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต ณ ที่เกิดเหตุ และระดมให้ความช่วยเหลือในส่วนของการซ่อมแซมบ้าน ซึ่งทางกระทรวง พม. กำลังเร่งสำรวจ และเร่งดำเนินการให้ นอกจากนี้ได้จัดให้มีนักสหวิชาชีพ และนักจิตวิทยา ประกบญาติทั้ง 23 ราย ซึ่งตัวเลขคือ 17 ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ โดยให้มีเจ้าหน้าที่ประกบตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วง 10 วันแรก และเจ้าหน้าที่พม.ระดม กำลังจากทุกจังหวัด ภายใต้โครงการ พม.หนึ่งเดียว อาทิ กาญจนบุรี นครปฐม ชัยนาท อยุธยา ระดมสรรพกำลังทั้งหมดเข้ามาช่วยดูแลพี่น้องประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง เพราะความสำคัญนอกจากเรื่องเงินชดเชยแล้วคือเรื่องการเยียวยาจิตใจ ฃ

“นักสหวิชาชีพและนักจิตวิทยารายงานเคสที่หนักหน่อยคือกรณีน้องเด็กเล็ก 8 ขวบ ที่ยังสั่นอยู่ ซึ่งขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เห็นใจอย่างยิ่ง เพราะจู่ ๆ ก็ต้องสูญเสียทั้งคุณพ่อและคุณแม่ ดังนั้นจึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวง พม. ประกบตลอด 24 ชั่วโมง” นายวราวุธ กล่าว

‘วราวุธ’ ย้ำ!! เร่งช่วยเหลือครอบครัว 23 เหยื่อโรงงานพลุระเบิด พร้อมดูแลด้าน ‘กาย-จิตใจ-การศึกษา-รายได้และความเป็นอยู่’

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 67 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์กรณีได้รับรายงานความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุโรงงานพลุระเบิด ที่ตำบลศาลาขาว อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ว่า ถือเป็นพระมหากรุณาที่คุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ประชาชนผู้ประสบอัคคีภัย องคมนตรีได้เยี่ยมเยียน สอบถามความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย ซึ่งถือเป็นขวัญและกำลังใจ นอกจากผู้ได้รับผลกระทบแล้ว ยังเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้วย

นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้สำหรับผู้เสียชีวิต 23 ราย เราได้รายละเอียดครบทุกคนแล้ว โดยทราบว่ามีใครเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องบ้าง เกี่ยวข้องอย่างไร เพราะบางคนผู้ได้รับผลกระทบที่สุดคือหลาน โดยมีลูกมีอาชีพรับจ้างรายได้ไม่แน่นอน ฉะนั้น คนที่เสียชีวิตจะเป็นเสาหลัก แต่บางบ้านผู้เสียชีวิตไม่ใช่เสาหลัก ดังนั้นจึงจะพิจารณาเป็นรายๆ ไป

นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า รายละเอียดทั้งหมด แบ่งเป็น 4 มิติ ได้แก่ สุขภาพกาย, สุขภาพจิต, เรื่องการศึกษา, รายได้และความเป็นอยู่ โดยในแต่ละมิติจะมีหลายหน่วยงานเข้ามา อาทิ เรื่องสุขภาพกายและสุขภาพจิต จะเป็นเรื่องของกระทรวงพม. กับกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการศึกษาก็จะมีทั้งเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ เข้ามา ด้านรายได้ก็จะมีเงินประกันสังคม จากกระทรวงแรงงาน ส่วนเรื่องความเป็นอยู่ก็จะมีกระทรวงมหาดไทย และภาคเอกชนเข้ามาช่วย

อย่างไรก็ตาม ตนย้ำกับทีม พม.หนึ่งเดียวแล้วว่า ขณะที่ พม.มีวอร์รูมแล้ว ขอให้มีการประสานงานที่ดีกับหน่วยงานอื่น เพราะจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่สับสน

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ตอนนี้เคสที่หนัก คือ 3 ครอบครัว เด็กเยาวชนที่สูญเสียทั้งพ่อและแม่พร้อมกัน เนื่องจากเป็นเด็กเล็ก ยังเรียนหนังสือ ซึ่งขณะนี้มีหลายฝ่ายเข้าช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษา ทุกคนจะต้องได้เรียนต่ออย่างแน่นอน และต้องขอขอบคุณ ทุกหน่วยงาน ภาคเอกชนทุกราย และอีกหลายฝ่ายที่ยื่นมือเข้ามาช่วยสนับสนุน

“นักสหวิชาชีพ และนักจิตวิทยา รายงานกรณีเข้าประกบดูแลเคส ระบุว่า ตอนนี้ทุกคนอยู่ในภาวะเครียด เศร้าและซึม จิตใจย่ำแย่ ซึ่งในช่วง 7-10 วันแรกนี้ นักสหวิชาชีพ และนักจิตวิทยาจะประกบอยู่ทุกวันตลอดเวลา มีการประเมินสภาพจิตใจกันทุกวัน สถานการณ์หลังพูดคุยแล้วจิตใจเป็นอย่างไร และมีทีมแพทย์ ทีมนักจิตวิทยาจากโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี กระทรวงสาธารณสุข เข้ามาร่วมงานกันด้วย เราต้องตามติดกันทุกวัน เพราะในเบื้องต้น สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การดูแลสภาพจิตใจกันก่อน” นายวราวุธ กล่าว

‘วราวุธ’ เผย ได้มอบเงินเยียวยาเหตุ รง.พลุระเบิดแล้ว 7 ลบ. พร้อมส่งจิตวิทยาตามประกบครอบครัวเหยื่อตลอด 24 ชั่วโมง

(30 ม.ค. 67) ที่ทําเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีโรงงานพลุระเบิดที่ จ.สุพรรณบุรี ว่า เรื่องนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.การเยียวยาด้านปัจจัย ซึ่งในเรื่องงบประมาณนั้น ทาง พม.ร่วมกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน มอบเงินไปทั้งสิ้นเกือบ 7 ล้านบาท ให้กับทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ โดยในส่วนของ พม.นั้นได้มอบเงินเกือบ 6 แสนบาทสำหรับการเยียวยาให้ผู้สูญเสียและซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการฌาปนกิจชิ้นส่วนของผู้เสียชีวิต และมอบเงินช่วยเหลืองวดสุดท้าย

2.การเยียวยาด้านจิตใจ ซึ่งทาง พม.ได้ส่งทีมนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยา ไปพูดคุยกับทุกครอบครัวอยู่ตลอด โดยตอนนี้มี 3 ครอบครัวที่ยังน่าเป็นห่วง เช่นครอบครัวของลูกชายเจ้าของโรงงาน ซึ่งประสบเหตุการณ์มาตั้งแต่ครั้งที่แล้ว และมีความคิดต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่นักจิตวิทยาต้องประกบตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้น แต่อีกครอบครัวหนึ่ง ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสีย นักจิตวิทยาก็ติดตามอย่างใกล้ชิด เชื่อว่าสภาพจิตใจจะดีขึ้นตามลำดับ โดยจะดูแลไปอีกพักใหญ่

‘วราวุธ’ เผย พบชายพิการโยกสามล้อจากสุโขทัยแล้ว ส่งเจ้าหน้าที่ประกบ พูดคุยหาสาเหตุ - ช่วยเหลือ

(5 ก.พ. 67) ที่กระทรวง พม. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หนุ่มพิการโยกรถสามล้อจากจังหวัดสุโขทัย ไปที่กรมบัญชีกลาง กรุงเทพมหานคร เพื่อยืนยันตัวตนขอสิทธิรับเบี้ยความพิการ ว่า ตนขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ได้ส่งข่าวดังกล่าวเข้ามาให้ ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ได้เร่งตรวจสอบและขณะนี้พบตัวบุคคลดังกล่าวแล้ว และเชิญไปอยู่ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อพูดคุยและตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าปัญหาหรือสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยในเบื้องต้นทราบว่าชายคนดังกล่าว ไม่ได้อยู่ในภูมิลำเนาจังหวัดสุโขทัยมานานกว่า 2 ปีแล้วทำให้ถูกถอดออกจากบัญชีคนพิการของจังหวัดสุโขทัย ซึ่งทางกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ได้เข้าไปตรวจสอบและดูว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาให้กับบุคคลดังกล่าวได้อย่างไรบ้าง 

นายวราวุธ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ตนขอฝากถึงคนพิการทั่วประเทศว่า หากมีปัญหา หรือข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องการลงทะเบียน การรักษาสิทธิ หรือเงินสนับสนุนของตนเองนั้นยังไม่ต้องรีบเดินทางเข้ามาที่กรุงเทพมหานคร ขอให้โทรศัพท์มาที่ศูนย์เร่งรัด จัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) สายด่วน 1300 ของกระทรวงพม. และทางศรส.จะ ดำเนินการช่วยประสานงานและหาข้อมูลให้เพื่อที่จะได้ประหยัดเวลา และประหยัดแรงของพี่น้องคนพิการทุกคน

'วราวุธ' ย้ำ!! ปมชายพิการโยกสามล้อ สิทธิ์ไม่ถูกจำกัด เผย!! 'อนุทิน' เห็นด้วยบัตร ‘ประชาชน-พิการ’ เป็นใบเดียว

(6 ก.พ.67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือชายพิการที่เดินทางมายังกรุงเทพมหานคร เพื่อขอให้สิทธิ์คนพิการ ว่า กรณีนี้สืบเนื่องมาจาก การที่เราไม่แน่ใจ ว่าเขาหายไปไหนเป็นเวลาประมาณ 2 ปี ทำให้ที่บ้านของชายพิการหาตัวเขาไม่เจอ ซึ่งชื่อในทะเบียนบ้านของชายพิการคนดังกล่าว ก็ถูกย้ายออกจากทะเบียนบ้านเดิม ไปอยู่ทะเบียนบ้านกลาง 

เนื่องจากการที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลางทำให้เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ไม่สามารถนำไปทำกิจกรรมใดๆ ของภาครัฐได้ และสิทธิ์ของคนพิการก็เป็นหนึ่งในสิทธิประโยชน์เหล่านั้น ซึ่งเวลา 2 ปีที่ผ่านมา การสิทธิประโยชน์หยุดไปโดยปริยาย 

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้ คือต้องย้ายเจ้าตัวออกจากทะเบียนบ้านกลาง ไปอยู่ยังภูมิลำเนา ซึ่งทราบว่าเป็นที่ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ถ้าทำเช่นนั้นแล้ว สิทธิ์ต่างๆ ก็จะกลับมาอย่างอัตโนมัติ 

ส่วนชายพิการคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับการยาเสพติดหรือไม่นั้น นายวราวุธ กล่าวว่า ในทุกกรณีสิทธิของคนพิการยังอยู่ แม้แต่ผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำ ก็ยังสามารถรักษาสิทธิ์ของคนพิการได้ หากพี่น้องคนพิการถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำ ก็ขอให้ไปแจ้งการรักษาสิทธิ์คนพิการกับผู้คุมเรือนจำหรือผู้อำนวยการบ้านพักต่างๆ ย้ำว่า สิทธิ์ของคนพิการไม่ได้ถูกจำกัด เพียงแค่ได้รับการคุมขังหรือรับโทษ ทั้งนี้ ต้องขอบคุณผู้ว่าราชการ จ.อยุธยา และเจ้าหน้าที่ พม.จังหวัด ที่เร่งหาตัว และมีความพยายามที่จะทำบัตรประจำตัวประชาชนให้ใหม่ และย้ายทะเบียนบ้านใหม่ ซึ่งเมื่อทำแล้ว สิทธิ์ก็จะกลับมา และสามารถดำเนินการต่อได้

ส่วนการต่ออายุบัตรคนพิการทุก 8 ปี ซึ่งอาจมีบางคนไม่สะดวกนั้น ทำไมจึงไม่เปลี่ยนให้ถูกบันทึกไว้ในบัตรประจำตัวประชาชน นายวราวุธ กล่าวว่า หากบัตรคนพิการหมดอายุแล้ว ไม่สามารถเดินทางมาต่อด้วยตัวเอง ก็สามารถมอบอำนาจให้กับผู้ดูแลมาทำแทนได้ 

ส่วนเหตุผลที่ต้องมีการต่ออายุนั้น เนื่องจากคนพิการมีหลายแบบ หากพิการแบบถาวร ก็ควรจะทำให้เป็นบัตรคนพิการตลอดชีพ แต่การพิการ ในส่วนที่เป็นการเรียนรู้หรือจิตใจ ซึ่งสามารถเยียวยาบำบัดได้ ในช่วง 5-7 ปีนั้น เมื่อผ่านเวลาดังกล่าวไป ก็จะสามารถออกจากสถานะดังกล่าวได้

ส่วนทำไมบัตรประจำตัวประชาชนและบัตรคนพิการไม่สามารถรวมไว้ให้เป็นบัตรใบเดียวกันได้นั้น ตนได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีแนวคิดเดียวกัน ว่าควรผนวกบัตรประชาชนและบัตรคนพิการให้เป็นบัตรใบเดียวกัน เพราะบัตรประจำตัวประชาชนที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ มีชิปการ์ดที่สามารถเก็บข้อมูลได้มากมาย ดังนั้น ตนได้ขอให้กระทรวง พม. มอบหมายให้กรมส่งเสริมสุขภาพชีวิตคนพิการ และกรมการปกครองหาแนวทางในการทำแล้ว

จากกรณีของชายพิการคนดังกล่าว เท่าที่ทราบในตอนนี้ยังอยู่ที่วัด และไม่ยอมรับการต่อบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ หรือทำบัตรคนพิการใหม่ ซึ่งก็ไม่แน่ใจ ว่ามีความตั้งใจหรือมีความประสงค์อย่างไร แต่ทราบจากทางกระทรวงมหาดไทย ว่าได้เสนอการจัดทำบัตรประชาชนใบใหม่ให้แล้ว 

ส่วนความจำเป็นจะต้องย้ายไปทะเบียนบ้านกลาง เมื่อเกิดเหตุมีบุคคลหายไปในระยะเวลาหนึ่งนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีการสวมสิทธิ์ หรือใช้สิทธิ์ซับซ้อนของบุคคลที่หาย ซึ่งต้องมีการยืนยัน ว่าอยู่เป็นหลักเป็นแหล่งจริง ต้องมีคนมายืนยันตัวให้ โดยสามารถทำภายในจังหวัดหรือท้องถิ่นได้ 

ส่วนคนที่มีลักษณะเช่นเดียวกันนี้ มีจำนวนเท่าไหร่นั้นตอนนี้ตนยังไม่มีข้อมูลอยู่กับตัว

'วราวุธ' ปลื้ม!! มดชนิดใหม่ของโลกชื่อ 'มดท็อป' เปรียบเหมือนชาติไทยพัฒนา ขยัน-ทำงานเป็นทีม

(9 ก.พ. 67) ที่กระทรวงพม. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้ามอบป้ายข้อมูลอนุกรมวิธาน ‘มดท็อป’ โดยนายวราวุธ เปิดเผยว่า เมื่อต้นปี 2567 วารสาร Far Eastern Entomologist ค.ศ. 2024 ตีพิมพ์การค้นพบมดชนิดใหม่ของโลก ซึ่งต้องขอบคุณทางกรมอุทยานและผู้เชี่ยวชาญทุกคน เพราะมดชนิดใหม่ที่เจอนี้เขาเรียกกันว่า ‘มดท็อป’ หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า ‘Plagiolepis silpaarchai sp. n.’ ซึ่งต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่และทีมงานทุกๆ คนที่ให้เกียรติกับครอบครัวศิลปอาชา ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของตระกูล และทุ่มเทการทำงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาภายใต้กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องขอขอบคุณกรมอุทยานฯ เพราะมดชนิดใหม่นี้ได้มีการค้นพบในช่วงตอนปลายที่ตนดำรงตำแหน่งอยู่พอดี

“และที่สำคัญผมดีใจมากที่มีมด ชื่อมดท็อป เพราะมดเป็นตัวแทนของความเป็นทีมเวิร์ก พวกเราคงไม่มีใครเคยเห็นมดอยู่ตัวเดียว เวลามดทำงาน จะทำงานกันเป็นทีม และมดเป็นงานก็จะขยันทำงาน มีการสร้างโครงข่าย สร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์มากภายในป่า ดังนั้น การได้มีชื่อมดท็อปนั้น จะสะท้อนให้เห็นว่าการทำงานของผมเอง และทีมงานเราทำงานคนเดียวไม่ได้ เราทำงานกันเป็นทีม เป็นท็อปทีม แล้วสะท้อนถึงการทำงานของพรรคชาติไทยพัฒนาที่เราเป็นมดงาน เพราะหัวหน้าพรรคในตอนนี้เป็นมดท็อปแล้ว” นายวราวุธ กล่าว

‘วราวุธ' นำทัพข้าราชการ พม.กว่า 700 คน สวมเสื้อม่วง ร่วมแสดงพลังความจงรักภักดีต่อ ‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’

(15 ก.พ.67) ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวแถลงการณ์กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เรื่องขอพระราชทานน้อมแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมี นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. นายนิกร จำนง ประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. คณะที่ปรึกษารมว.พม. นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวง พม. พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. จำนวนกว่า 700 คน เข้าร่วมพิธี

นายวราวุธ อ่านแถลงการณ์ฯ ว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ถือเป็นสถาบันหลักของชาติ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนชาวไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน การรักษาความมั่นคงสถาบันหลักของชาติ ถือเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ ให้ดำรงอยู่คู่ประเทศชาติอย่างมั่นคงตลอดไป ทั้งนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงสละความสุขส่วนพระองค์ และทรงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านการศึกษา ด้านการอนุรักษ์-ศิลปวัฒนธรรมไทย ด้านการพัฒนาสังคม ด้านการต่างประเทศ ด้านการสาธารณสุข ด้านการศาสนา รวมถึงโครงการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

นอกจากนี้ยังทรงพระกรุณารับสมาคม สถาบัน และองค์กรต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามแนวพระราชดำริ หรือองค์กรต่างๆ ที่ช่วยเหลือและพัฒนาประชาชนไว้ในพระราชูปถัมภ์จำนวนมาก โดยทรงให้การสนับสนุนสมทบทุนจัดตั้งเป็น ‘กองทุนการกุศลสมเด็จพระเทพฯ’ เพื่อให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือประชาชนผู้ทุกข์ยากเดือดร้อน ผู้ด้อยโอกาส ผู้ขาดแคลน และสาธารณประโยชน์ต่างๆ แก่ประชาชนคนไทยและประเทศเพื่อนบ้านจนเป็นที่ประจักษ์

นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวง พม. ได้น้อมนำพระราชจริยาวัตรของพระองค์ คือ พระเมตตาและความเอาพระทัยใส่ในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และพระราชปณิธานที่มุ่งมั่นในการช่วยเหลือประชาชนและผู้ที่เดือดร้อนทุกคน นำมาขับเคลื่อนการทำงานของกระทรวงร่วมกับภาคีเครือข่ายในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในโอกาสนี้ จึงขอพระราชทานน้อมแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศรวมพลังแสดงความจงรักภักดี ถวายแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย

นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้จัดพิธีถวายความเคารพและการแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเป็นการแสดงความระลึกถึงและถือเป็นพระมหากรุณาที่คุณที่พระองค์ท่านมีต่อกระทรวง พม. สำคัญที่สุดเป็นสิ่งที่ปวงชนชาวไทยทุกคนพึงตระหนักและพึงหวงแหน ปกป้อง และรักษาเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันที่อยู่เคียงข้างกับพี่น้องประชาชนคนไทยและอยู่คู่กับประเทศชาติมาอย่างยาวนาน การแสดงพลังในเช้าวันนี้ เป็นการแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าจะตราบใด เวลาจะเปลี่ยนไป จะอย่างไรก็แล้วแต่ พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนส่วนใหญ่พวกเราให้ความเคารพให้ความนับถือและพร้อมที่จะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย และพวกเราจะไม่ยอมให้ใครไม่ว่าจะเป็นบุคคลใด กลุ่มบุคคลใด หรือใครก็แล้วแต่ จะมาลบหลู่ดูหมิ่นหรือพูดในสิ่งที่ไม่ดีถึงสถาบันพระมหากษัตริย์

"วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะเพียงแค่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แต่ทราบว่ามีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้ร่วมแสดงพลังกันในวันนี้ และเป็นการส่งสัญญาณไปถึงทุกคน ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่อยู่คู่กับประเทศชาติ อยู่คู่กับคนไทย และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพวกเราจะปกป้องและเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของพวกเราตลอดไป" นายวราวุธ กล่าว

‘วราวุธ’ เชื่อ ไม่เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมือง แม้ ‘ทักษิณ’ กลับบ้าน ชี้!! ไม่ว่าอยู่ที่บ้านหรือโรงพยาบาล รัฐบาลก็ยังทำงานกันตามปกติ

(17 ก.พ. 67) ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษ ถูกมองว่าอาจส่งผลต่อสถานการณ์การเมือง ว่า เบื้องต้นตนต้องขอแสดงความยินดีกับครอบครัวชินวัตร ที่ได้บุคคลอันเป็นที่รักกลับมาสู่อ้อมกอด ถือเป็นเรื่องปกติที่ตนเชื่อว่า ครอบครัวใดเมื่อได้บุคคลอันเป็นที่รัก กลับมาสู่ครอบครัวและอ้อมกอดของทุกคน ได้คงมีความดีใจจึงต้องขอแสดงความดีใจในเบื้องต้น

นายวราวุธ กล่าวว่า ส่วนประเด็นที่กันว่าจะมีแรงกระเพื่อมทางการเมืองนั้น ตนคิดว่า คงไม่ได้ต่างอะไรกันมาก อยู่ที่บ้านหรืออยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งที่ผ่านมาทุกคนได้เห็นแล้วว่าทางรัฐบาลก็ทำงานไปตามปกติ และเท่าที่ตนเห็นก็ไม่ได้มีการเข้ามายุ่งเกี่ยวแต่อย่างใดในการที่รัฐบาลทำงานอยู่ ดังนั้นเมื่อนายทักษิณย้ายจากโรงพยาบาลกลับไปอยู่ที่บ้านคงไม่มีเหตุการณ์อะไรมาก รัฐบาลก็ยังคงทำงานเช่นเดิม ยังมีปัญหาของประเทศชาติก็ยังมีเหมือนเดิม ปัญหายังอยู่เราก็ต้องแก้ปัญหากันต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามถึงทิศทางทางการเมือง ที่อาจมีการเขย่าและปรับ ครม. ตามที่ยังมีกระแสข่าว นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ ที่รัฐบาลอยู่กันมา 5-6 เดือนแล้ว แต่คงต้องดูพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลว่าจะมีนโยบายอย่างไร เพราะพรรคชาติไทยพัฒนาเรามีเพียง 10 คน เราก็ติดตามสถานการณ์ไป แต่จะทำอะไรอย่างไรตนเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยคงส่งข่าวกันมาก่อน แต่ขณะนี้ยังไม่มีวี่แวว ยังไม่มีการส่งสัญญาณมาว่าจะปรับ ครม.


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top