Tuesday, 7 May 2024
มาตรา112

4 เหตุผล ที่ยังไม่ควรแก้ ‘มาตรา112’

ไม่นานมานี้ คุณอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ได้เปิดเผยในรายการ Click on Clear THE TOPIC EP.81 เกี่ยวกับเหตุผลที่ ทำไม…ไม่ควรแก้ ‘มาตรา 112’ ว่า...

จุดยืนของผมและพรรคกล้า ชัดเจนว่า ‘มาตรา 112’ ไม่ควรยกเลิก และไม่ควรแก้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์แบบนี้ เพราะว่าถ้าเราไปแก้ไข มันจะทำให้การหมิ่นเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางมากขึ้น บ่อเกิดแห่งความขัดแย้งมันก็ยังอยู่เหมือนเดิม 

ประการแรก คือ หากเกิดการแก้ไขมาตรา 112 แล้วเกิดการหมิ่นมากขึ้น สิ่งที่ตามมาเป็นประการที่สอง คือ จะเกิดการชุมนุม และเกิดการปะทะกันทั้ง 2 ฝั่งมากขึ้น

ทำไมถึงจะการเกิดการปะทะกันทั้ง 2 ฝั่ง เนื่องจากผลการดำเนินคดีของมาตรา 112 ขณะนี้ที่เราเห็นอยู่มีราษฎรเป็นโจทก์ฟ้อง หรือเป็นผู้กล่าวโทษ ร้องทุกข์อยู่ครึ่งหนึ่ง ถ้าเกิดมองว่าเพราะเป็นเรื่องที่รัฐเข้าแกล้ง หรือไปดำเนินการมาตรา 112 โดยตรง แต่ความเป็นจริงแล้วคนที่มาแจ้งความส่วนมากคือราษฎร นี่คือข้อเท็จจริง!!

ส่วนประการที่สามนั้น คือ โอกาสในการนำไปสู่รัฐประหารอีกครั้ง เนื่องจากว่า ‘พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา’ นายกรัฐมนตรี จะอยู่ครบ 8 ปีไม่ได้ตามรัฐธรรมนูญ และวันที่ท่านต้องครบคือ เดือน สิงหาคม ในปีหน้า (2565) เพราะฉะนั้นวันนี้จนถึงสิงหาคมปีหน้า ผมมองว่าถ้าการเมืองไม่เกิดวิกฤตอีกระรอก เชื่อว่าท่านก็คงไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนี้แล้ว และรอติดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในอนาคต

ฉะนั้นถ้าเราเชื่อเรื่องกลไกของประชาธิปไตย ก็อย่าพึ่งไปทำให้เกิดแรงกระเพื่อม เพราะตอนนี้วิกฤตที่เกิดขึ้นคือ วิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตโรคระบาด ไม่ใช่วิกฤตการเมือง แต่ถ้าเรามาทำให้เกิดเป็นวิกฤตการเมืองแล้วล่ะก็ ตอนเลือกตั้งทุกคนก็จะเลือกด้วยความเกลียด และความกลัว 

และนั่นก็แปลว่าเราทุกคนตกอยู่ในเครื่องมือของการแบ่งแยกคนเป็น 2 ฝั่ง ซึ่งโอกาสที่การแบ่งแยกคนอีกครั้งก่อนการเลือกตั้ง มันอาจจะกลายเป็นหัวข้อว่า ใครเห็นด้วยต่อกับปฏิรูปสถาบันไปฝั่งนี้ ใครให้ไม่เห็นด้วยไปฝั่งนี้ อย่าให้ใครมาแบ่งเราแบบนี้เด็ดขาด เพราะมันจะให้เราตัดสินใจด้วยความเกลียด และความกลัว

อรรถวิชช์ กล่าวอีกว่า ผมจะไม่ยอมให้เรื่องสถาบันกลายเป็นประเด็นการแบ่งแยกเด็ดขาด เพราะความเข้มแข็งของสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย จะเป็นองค์กรที่ยุติความขัดแย้งทางการเมืองได้ด้วย เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์มีส่วนอย่างยิ่งในการยุติและหลีกเลี่ยงการปะทะของบุคคลทั้ง 2 ฝ่ายเสมอ ดังนั้นถ้าเกิดว่าเราไปยุ่งเกี่ยวและดึงสถาบันเข้ามาข้องเกี่ยวทางการเมือง บ้านเมืองเราจะไปต่อไม่ได้ เพราะนี่คือความเข้มแข็งของรากฐานหรือรากเหง้าของคนไทย อย่าทำลายความเป็นไทยของเรา 

สำหรับกรณีกลุ่มวัยรุ่น นักเรียนหรือนักศึกษา เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองในมาตรา 112 อรรถวิชช์ ให้ความเห็นว่า...

ผมได้มีการดีเบตกับอาจารย์ ปิยะบุตร ว่าอาจารย์ปิยะบุตรไม่ได้โดนมาตรา 112 แต่ว่าเป็นน้อง ๆ ที่โดนมาตรา 112 จากการพูดบางอย่างลงไปสู่สังคมแล้วบาดใจคนที่เห็นต่าง ขณะที่อาจารย์รู้กรอบกฎหมายในการกล่าวถึงหรือวิพากษ์วิจารณ์สถาบัน จึงไม่เกิดผลอันใด

นอกจากนี้ หลายคนอาจจะมองว่าตัวบทกฎหมายมาตรา 112 มีโทษที่หนัก เพราะจำคุก 3-15 ปี ทำให้มีการหยิบยกมาเปรียบเทียบกับการหมิ่นคนธรรมดา หรือหมิ่นเจ้าหน้าที่

แต่แท้จริงแล้วมาตรา 112 ครอบคลุมโทษอยู่ 3 ประเด็น ได้แก่ 1.) ดูหมิ่น 2.) หมิ่นประมาท และ 3.) อาฆาตมาดร้าย 

'พิธา' ชี้!! ไม่มีทางสร้างชาติที่มั่นคงได้ หากยังพยายามทำลายอนาคตของชาติ หลังศาลรธน. ตัดสิน 3 แกนนำม็อบราษฎรมีความผิดจริง และสั่งยุติการกระทำ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความ หลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย ชี้ว่า 3 แกนนำม็อบราษฎร ล้มล้างการปกครอง และสั่งห้ามเครือข่ายให้เลิกกระทำอีก  ว่า... 

สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ จะขีดเส้นทางที่สุ่มเสี่ยงและคับแคบให้แก่สังคมไทย

ในขณะที่การประชุม Universal Periodic Review หรือ UPR ของสหประชาชาติเพื่อทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศต่าง ๆ หลายประเทศตั้งคำถามอย่างหนักหน่วงถึงท่าทีของประเทศไทยต่อเสรีภาพในการแสดงออก รวมถึงการแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสากล โดยตัวแทนของประเทศไทยพยายามแก้ต่างกับนานาชาติว่าเรื่องกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นประเด็นที่คนไทยสามารถถกเถียงและแก้ไขกฎหมายได้ผ่านกลไกรัฐสภา 

ตัดภาพกลับมาที่ศาลรัฐธรรมนูญในเวลาไล่เลี่ยกัน ศาลได้วินิจฉัยให้การกระทำรวมถึงข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมเพื่อขอให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ รวมถึงให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เข้าข่ายเป็นการกระทำเพื่อล้มล้างการปกครอง ซึ่งคำวินิจฉัยที่น่ากังขานี้ขัดแย้งโดยสิ้นเชิงกับสิ่งที่ตัวแทนประเทศไทยได้ชี้แจงกับนานาประเทศ

'ฮาร์ท สุทธิพงศ์' เข้ารับทราบข้อหา ม.112 ตามหมายเรียก ปอท.

11 พ.ย. 64 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นาย ฮาร์ท สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล อายุ 57 ปี อดีตนักร้อง พิธีกร เดินทางมาบก.ปอท. ซึ่งในวันนี้เมื่อเวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท.ได้มีออกหมายเรียกมาพบเพื่อรับทราบข้อหาความผิดเกี่ยวกับสถาบันฯ และ พ.ร.บ.คอมพ์ฯ

โดยในช่วงเวลา 09.50 น. นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้พานายฮาร์ท สุทธิพงศ์ เข้าพบพนักงานสอบสวนและไม่ตอบคำถามสื่อฯ ว่าพาใครมา ขณะที่ฮาร์ท เลี่ยงตอบคำถาม แต่ไม่มีอาการวิตก แถมยังยกมือโบกให้กล้องด้วย

‘ก้าวไกล’ โวยกลุ่มเซาะกร่อนบ่อนทำลายพรรค ยันชงแก้ ม.112 ไม่ล้มล้างการปกครอง

อย่าหวั่นเสียงขู่ของพวกตกยุค ‘ก้าวไกล’ ยืนยัน ข้อเสนอแก้มาตรา 112 ของพรรคไม่ล้มล้างการปกครอง ‘โรม’ จี้ ‘ประธานชวน’ เร่งบรรจุวาระเพื่อใช้สภาเป็นทางออก

รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยประเด็นว่า ข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ของประชาชนผู้ชุมนุมถือเป็นการล้มล้างการปกครองฯ เป็นต้นมา เห็นได้ว่าเริ่มมีบางคนบางกลุ่มพยายามนำมาเป็นข้ออ้างในการเซาะกร่อนบ่อนทำลายพรรคก้าวไกล ราวกับเป็นขั้นตอนต่อไปของแผนการที่ได้ตระเตรียมมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นบางคนบางกลุ่มจากนอกสภาที่อ้างเหตุที่ ส.ส. ของพรรคไปประกันตัวให้ผู้ชุมนุมบ้าง หรือที่พรรคพยายามยื่นเสนอแก้มาตรา 112 ต่อสภา ซึ่งเรื่องเหล่านี้ เราก็ได้ยืนยันแล้วว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตในฐานะผู้แทนประชาชน ที่จะต้องช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน และผลักดันสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องให้เกิดผล

รู้ไว้!! ความผิดอาญาบนโลกออนไลน์ แจ้งความได้ทั่วราชอาณาจักร

เพจ 'ฤๅ - Lue History' ได้โพสต์ข้อความไขข้อข้องใจ เหตุใดความผิดบนโลกออนไลน์ จึงแจ้งความได้ทั่วราชอาณาจักร ระบุว่า... 

เร็ว ๆ นี้มีข่าวว่า มีคนได้รับหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาคดี ม.112 ที่ จ.นราธิวาส ทั้ง ๆ ที่ตัวเองพักอยู่ที่นนทบุรี ทำให้ต้องเสียทั้งเวลา เสียทั้งค่าเดินทาง สุดท้ายลงเอยที่ว่า ม.112 ไม่มีความเป็นธรรมและสมควรยกเลิก

เราต้องทราบก่อนว่า ตามหลักการทางกฎหมาย หากมีการกระทำผิดในคดีอาญา การฟ้องร้องหรือรับทราบข้อกล่าวหา จะต้องดำเนินการในท้องที่ที่พบการกระทำผิด ซึ่งการโพสต์หมิ่นประมาทในโลกออนไลน์ ข้อความนั้นมันสามารถไปโผล่ได้ทุกที่ กรณีแบบนี้ กฎหมายถือว่าทำให้เกิดความเสียหายได้ “ทั่วราชอาณาจักร” ดังนั้น ผู้พบเห็นข้อความหมิ่นประมาท สามารถเข้าแจ้งความในท้องที่ที่ตนเองเปิดข้อความอ่านได้ทันที

iLaw เปิดสถิติผู้ถูกดำเนินคดี ม.112 'เพนกวิน' มากสุด 22 คดี 

iLaw เผย สถิติผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ปลายปี 2563 - 2564 อย่างน้อย 156 คน ใน 162 คดี 'เพนกวิน' มากสุด 22 คดี 'อานนท์' 14 คดี 'ไมค์ - รุ้ง' คนละ 9 คดี ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างการพิจารณาคดี 6 คน

iLaw โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน เผยแพร่ สถิติผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 มีรายละเอียดดังนี้…

ครบหนึ่งปี ของการนำมาตรา 112 กลับมาใช้อีกระลอกหนึ่ง นับตั้งแต่พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกแถลงการณ์นายกรัฐมนตรีว่าจะบังคับใช้กฎหมาย “ทุกฉบับ ทุกมาตราที่มีอยู่” ต่อผู้ชุมนุม

จากนั้นมาจำนวนคดี #ม112 ฐานหมิ่นกษัตริย์ฯ ที่เคยหายเงียบไปสองปีกว่า ก็พุ่งทะยานสูงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน https://freedom.ilaw.or.th/node/994

ปลายปี 2563 ต่อปี 2564 สถิติจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพบว่า มีผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 อย่างน้อย 156 คน ใน 162 คดี เป็นข้อมูลที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่ทราบและอ้างอิงได้ https://tlhr2014.com/archives/23983

จากจำนวนคดีทั้งหมดนี้ ผู้ต้องหาส่วนใหญ่ได้ประกันตัว หรือได้ปล่อยตัวชั่วคราว แต่ก็มีบางส่วนที่ถูกคุมขังระหว่างการดำเนินคดี นับถึงวันครบรอบหนึ่งปีของการนำมาตรา 112 กลับมาใช้ครั้งใหญ่ มีคนที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างการพิจารณาคดีอย่างน้อย 6 คน คือ อานนท์ นำภา, ไผ่ จตุภัทร์, เพนกวิ้น พริษฐ์, รุ้ง ปนัสยา, ไมค์ ภาณุพงษ์ และเบนจา อะปัญ

‘โรม-ก้าวไกล’ ยกคดี ‘ตะวัน’ เหยื่อ ม.112 รายล่าสุด สะท้อนรูปธรรมการอ้างกม. เพื่อทำร้ายคนเห็นต่าง

‘โรม’ รำลึก ครบรอบ 2 ปี ‘ผู้พิพากษาคณากร’ ยิงตัวตาย หวัง ‘เจ้าหน้าที่’ ยังเหลือ ‘สัมปชัญญะเยี่ยงวิญญูชน’ เพื่อกระบวนการยุติธรรมไทยดีขึ้น ยกคดี ‘ตะวัน’ เหยื่อ ม.112 รายล่าสุด สะท้อน รูปธรรมการอ้างกฎหมายเพื่อทำร้ายคนเห็นต่าง

7 มี.ค. 65 รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ทั้งมาตรา 112, มาตรา 116 (ยุยงปลุกปั่น), พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แก่ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ‘ตะวัน’ นักกิจกรรมรณรงค์ยกเลิก 112 ในกรณีถ่ายไลฟ์สดและวิพากษ์วิจารณ์ขบวนเสด็จที่ถนนราชดำเนินเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา และการทำโพลสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับขบวนเสด็จที่ลานสยามพารากอนก่อนหน้านี้ (ล่าสุดศาลให้ประกันตัวในวงเงิน 100,000 บาท พร้อมวางเงื่อนไขห้ามทำในลักษณะเดียวกันอีก หรือร่วมกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย และหรือทำการใดที่จะทำให้เสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และให้ติดกำไลข้อเท้า EM)

“วันเดียวกันนี้เอง เป็นวันครบรอบ 2 ปี การตัดสินใจจบชีวิตตัวเองของคุณคณากร เพียรชนะ อดีตผู้พิพากษาผู้ซึ่งเคยออกมาเปิดโปงการถูกกดดันจากอธิบดีผู้พิพากษาให้เปลี่ยนคำตัดสินคดี และเรียกร้องให้ ‘คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา คืนความยุติธรรมให้ประชาชน’

'สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา' ส.ส. พรรคก้าวไกล ชี้ ม.112 ใช้เล่นงานผู้เห็นต่างโดยไม่สนหลักความยุติธรรม หลังศาลสั่งถอนประกัน 'ใบปอ-เนติพร'

ต่อกรณีที่ เมื่อวานนี้ ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งเพิกถอนประกัน ใบปอ และ เนติพร นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง ผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับความมั่นคง ในคดีทำโพลเรื่องขบวนเสด็จที่บริเวณห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 โดยให้เหตุผลว่ากระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวด้วยการเข้าร่วมการชุมนุมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย หรือเสื่อมเสียต่อสถาบันฯ เกี่ยวกับการไปทำโพลเหตุการณ์ชาวบ้านถูกสำนักงานทรัพย์สินฯไล่ที่นั้น

สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.จังหวัดนครปฐม พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การเพิกถอนประกันตัวด้วยเหตุผลเช่นนี้ ยิ่งตอกย้ำว่า คดีตามมาตรา 112 เป็นคดีนโยบายเพื่อเอาไว้เล่นงานผู้เห็นต่างทางการเมือง โดยไม่สนใจหลักความยุติธรรม ซึ่งจะเห็นว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมา มีการนำคดี ม. 112 ไปใช้จับกุมคุมตัวนักกิจกรรมการเมืองอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เหล่านั้น เป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่การไปปล้นชิงฆ่าฟันใคร กระทั่งไม่ใช่คดีล่วงละเมิดคุกคามทางเพศที่ยังได้รับสิทธิประกันตัวเพื่อไปต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมอย่างครบถ้วน

"แต่พอเป็น คดี 112 กลับอ้างว่าเป็นคดีร้ายแรง จึงไม่ต้องสนใจหลักการยุติธรรมที่ต้องสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำตัดสินว่ามีความผิด ไม่ต้องสนใจสิทธิประกันตัว ทั้งที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่เคยหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน แต่กลับพยายามหาเหตุในการเอาพวกเขาเข้าไปอยู่ในเรือนจำอยู่ร่ำไป"

สุทธวรรณ กล่าวว่า กฎหมายใดก็ตามที่เป็นเหมือนใบเบิกทางให้เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจอย่างไรก็ได้เพื่อยึดเอาสิทธิเสรีภาพของประชาชนไปอย่างไม่มีเหตุผลและหลักการองรับ กฎหมายนั้นย่อมสมควรถูกแก้ไขหรือยกเลิก เพราะการใช้กฎหมายเพื่อเป็นเครื่องมือเล่นงานกันเช่นนี้ นอกจากไม่เป็นผลดีต่อกระบวนการยุติธรรม ยิ่งเป็นเหตุให้เสื่อมศรัทธาลงไปเรื่อยๆแล้ว ยังไม่เป็นผลดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อประชาชนอีกด้วย

"ประเทศที่มีอารยธรรมไม่มีประเทศใดกักขังคนหนุ่มสาวไว้ในคุกเพียงเพราะพวกเขาคิดและตั้งคำถาม เพราะหมายถึงการกักขังอนาคตของตัวเองไว้ด้วยความมืดบอด การเพิกถอนประกันในครั้งนี้ แม้ด้วยอำนาจศาลอาจปิดปากผู้คนไว้ด้วยความกลัว แต่คงไม่อาจห้ามความกังขาสงสัยถึงความสมเหตุสมผลของคำสั่งได้"

'ปิยบุตร' เปิด 8 ข้อเสนอปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ หลังถูกแจ้งความดำเนินคดีผิด ม.112

(21 มิ.ย.2565) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul – ปิยบุตร แสงกนกกุล หัวข้อ เปิด 8 โพสต์ปิยบุตร ข้อเสนอปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ถูกแจ้งความดำเนินคดีผิด ม.112

ในช่วงปี 2564 สถานการณ์การเมืองเข้มข้น การแสดงออกของม็อบเยาวชนและข้อเสนอปฏิรูปสถาบันกษัตริย์กำลังเป็นไปอย่างดุเดือดแหลมคม มีการสลายการชุมนุมอย่างรุนแรง มีผู้ถูกจับกุมดำเนินคดีจำนวนมากจากการแสดงออกถึงสถาบันกษัตริย์

ผมเองอยากให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ ต้องเปิดพื้นที่พูดคุยกันได้อย่างปลอดภัย เอาใจเขามาใส่ใจเรา พูดคุยกันด้วยเหตุผลและวุฒิภาวะ ผมจึงประมวลข้อเสนอปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เพื่อให้อยู่คู่กับสังคมไทยได้ในยุคปัจจุบัน แต่การกระทำของผมเช่นนี้กลับถูกกล่าวหา นำไปสู่การดำเนินคดีตามมาตรา 112

โดยข้อเท็จจริงทั้งหมด ตามนี้:

“เปิดร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม หมวด 2 พระมหากษัตริย์ เดินหน้าปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ พร้อมแนบเอกสารร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พุทธศักราช….” โพสต์เมื่อ (10 ส.ค.64) https://www.facebook.com/PiyabutrOfficial/posts/3076450455972150

2.“ข้อเรียกร้องแห่งยุคสมัย ทำไมต้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” โพสต์เมื่อ (17 ส.ค. 64) https://www.facebook.com/PiyabutrOfficial/photos/a.2260389780911559/3081844162099446/ 

3.“กษัตริย์กับนายกรัฐมนตรี ใครมีอำนาจแต่งตั้งบุคคลดำรงตำแหน่งกันแน่?” โพสต์เมื่อ (17 ก.ย. 64) https://www.facebook.com/PiyabutrOfficial/photos/a.2260389780911559/3105582616392267/

4.ข้อความทวิตเตอร์กล่าวว่า “ในสังคมหนึ่ง ความคิดคนแต่ละคนแตกต่างกันมากมาย มีคนรัก คนเฉย ๆ คนไม่ชอบ ถึงบังคับยังไงก็ไม่เปลี่ยนความคิดเลย แต่ทำอย่างไรที่เราจะอยู่ในสังคมเดียวกันได้ เหลือทางเดียวคือเปิดให้มีเสรีภาพในการแสดงออก แล้วอดทนอดกลั้นซึ่งกันและกันต่อความเห็นที่แตกต่าง” https://twitter.com/Piyabutr_FWP/status/1457578245369393154

5.ข้อความทวิตเตอร์กล่าวว่า “ประยุทธ์ตบหัวลูกน้องอ้างว่าทำด้วยความเอ็นดู ดังนั้น ประยุทธ์ก็ยอมให้ลูกพี่ตนเองตบหัวด้วยความเอ็นดูเช่นกัน ปัญหามีอยู่ว่าในสายตาของประยุทธ์ ประชาชนไม่ใช่ลูกพี่ของเขา แล้ว “ลูกพี่” ของเขาคือใคร? ต้องไปดูว่า “ใคร” ที่ตบหัวสั่งประยุทธ์ แล้วเขาไม่หือ ยิ้มรับ และยอมทำตามสั่ง” https://twitter.com/Piyabutr_FWP/status/1443897877030334465

*6.ข้อความทวิตเตอร์กล่าวว่า “สภาพสังคมปัจจุบันนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะอยู่ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราย์จำแลงได้อย่างสันติ แต่การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ กองทัพ ศาล เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่รักษาสถาบันกษัตริย์ไว้อยู่ใต้รัฐธรรมนูญต่างหากที่เป็นไปได้และทำให้ทุกคนอยู่อย่างสันติ #ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” https://twitter.com/Piyabutr_FWP/status/1452124952828678144

'อุ๊งอิ๊ง' ถูกต้้งคำถาม 'พรรคเพื่อไทย' มีจุดยืนที่ชัดเจนอย่างไรต่อ 'ม.112'

(28 ต.ค. 65) ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ 'ดร.นิว' นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึง น.ส. แพทองธาร ชินวัตร เป็นประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ว่า

ในฐานะของประชาชน ขออนุญาตสอบถามไปยังหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยอย่างคุณอุ๊งอิ๊งหน่อยครับ พรรคเพื่อไทยมีจุดยืนที่ชัดเจนอย่างไรต่อ ม.112 ครับ ขอบคุณครับ Ing Shinawatra


ที่มา : https://www.thaipost.net/x-cite-news/251220/


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top