Wednesday, 8 May 2024
มาตรา112

คิดให้ดีก่อนพูด!! ‘พล.ท.นันทเดช’ ท้า!! ‘อุ๊งอิ๊ง’ เปิดชื่อผู้ต้องหา ‘ม.112’ ลั่น!! เป็นนักการเมือง อย่าพูดให้ตนเองเดือดร้อน

ท้า‘อุ๊งอิ๊ง’ เปิดชื่อผู้ต้องหา‘ม.112’โดนกลั่นแกล้ง สอนมวย ‘คิดก่อนพูด’

(10 มี.ค.66) พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) แชร์โพสต์ของ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยสถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ตำหนิ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พูดส่งเดชเกี่ยวกับมาตรา 112

เช็กจุดยืน 10 พรรคการเมืองในเรื่อง มาตรา 112 ใครกั๊ก-ใครชัด มาดูกัน!!

“มาตรา 112 ไม่ใช่คดีการเมือง ไม่มีปัญหา คนในประเทศส่วนใหญ่ไม่เดือดร้อน” 
ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ 

“ผมมองมาตรา 112 ว่าไม่มีปัญหา”
พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ตัวแทนพรรคภูมิใจไทย 

“มาตรา 112 ไม่มีปัญหา ที่มีปัญหา เพราะคนเข้าไปมีปัญหาเอง”
จุติ ไกรฤกษ์ ตัวแทนพรรครวมไทยสร้างชาติ 

‘อภิสิทธิ์’ ปะทะคารมเดือด ‘ธนาธร’ ถกประเด็นม.112 ชี้!! ‘ก้าวไกล’ ทำสับสน บางวันแก้ไข บางวันยกเลิก

เมื่อวานนี้ (1 พ.ค. 66) ในรายการยืนหนึ่งชิงนายก ที่มีพิธีกรนำโดย ‘พุทธ อภิวรรณ’ และ ‘ธีระ ธัญญอนันต์ผล’ ซึ่งมีตัวแทนจาก 2 พรรค อย่าง ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’  ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ที่ได้ถกถึงประเด็นการแก้หรือยกเลิก ม.112

นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวว่า “เอาตรงๆ ที่คนมองว่าเป็นเรื่องสุดโต่งมันเป็นประเด็นเรื่องเงื่อนไข ม.112 ซึ่ง ม.112 ก็มีความสับสนอีก เพราะว่าคุณพิธา บางวันก็บอกว่ายกเลิก บางวันก็บอกว่าแก้ 3 ประเด็น ถ้าเป็นแค่เรื่องแก้ไขบางผมว่าบางคนก็มองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสุดโต่ง แต่ถ้าบอกว่ายกถูกก็ถูกมองว่าสุดโต่ง”

ซึ่งนายธนาธร ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “อันนี้ผมว่าคุณอภิสิทธิ์ เข้าใจผิดแน่ๆ เลยนะครับ ไม่เคยมีใครบอกว่ายกเลิก”

นายอภิสิทธิ์ ได้สวนกลับว่า “คุณพิธา ได้ไปติกสติกเกอร์บนเวทีว่ายกเลิกหรือแก้ไข” 

นายธนาธร ได้แก้ต่างว่า “อันนั้นบังคับ Yes or No แต่นโยบายพรรคไม่ใช่แค่พูด ทำไปแล้ว เสนอกฎหมายเข้าสู่สภาฯ ”

นายอภิสิทธิ์ ได้ถามกลับว่า “แล้วทำไมถึงไปติดสติ๊กเกอร์ตรงยกเลิก แทนที่จะติดว่าแก้ไข”

นายธนาธร ได้ให้คำตอบว่า “อันนั้นคุณพิธา อาจจะคิดได้ในนามส่วนตัว”

นายอภิสิทธิ์ ได้สวนกลับว่า “แต่คุณพิธา เป็นหัวหน้าพรรค”

นายธนาธร ได้ย้อนไปว่า “คุณอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรคหรือเปล่าครับ ในการเลือกตังครั้งที่แล้ว แล้วคุณพูดว่าอะไรครับ”

นายอภิสิทธิ์ จึงได้ตอกกลับไปว่า “ผมพูดแล้วผมลาออกครับ แล้วคุณพิธาจะลาออกไหมครับถ้าไม่ยกเลิก”

นายธนาธร ยังได้แก้ต่างอีกว่า “เขาไม่ได้พูดในเวทีสาธารณะเลยว่าจะยกเลิก ส่วนการติดสติกเกอร์เป็นความเห็นส่วนตัว”

ซึ่งพิธีกรฝีปากกล้าอย่าง พุทธ อภิวรรณ ได้ตั้งคำถามว่า “มันแยกได้เหรอครับ เขาเป็นหัวหน้าพรรค กับส่วนตัว เขาคือแคนดิเดตนายกฯ เลยนะ”

นายธนาธร ตอบกลับว่า “ลองกลับไปอ่านสิ่งที่คุณพิธาพูดนะครับ ว่าคุณพิธาพูดถึงเรื่องนี้ว่ายังไง การเสนอแก้ไขเป็นวิธีที่ดีที่สุด ถ้าเสนอแก้ไขเพื่อให้พูดจากันได้ยังทำไม่ได้ ก็ต้องอาจเสนอยกเลิก นี่คือสิ่งที่เขาพูด ไปลองฟังดูสิครับ”

พุทธ ได้ถามย้ำอีกว่า “เริ่มจากแก้ แต่การที่ไปติดสติกเกอร์ยกเลิกนี่กำลังจะหมายความว่าอย่างไร”

นายธนาธร ตอบกลับว่า “มันเรื่องส่วนตัวของเขา เขาจะไปติดอะไรก็ค่อยว่ากัน”

นายอภิสิทธิ์ ได้ตั้งคำถามอีกว่า “บังเอิญอันนี้ไม่ใช่ว่าคุณพิธาไปเดินอยู่แล้วมีคนมาให้ติดสติ๊กเกอร์โดยที่เป็นเรื่องส่วนตัว แต่มันอยู่บนเวทีเลย และเขาเองก็พูดด้วย ซึ่งผมเองไม่ได้ติดใจอะไรนะถ้าคุณพิธามาบอกว่าเปลี่ยนแปลงแล้วนี่คือนโยบาย”

'เสี่ยเฮ้ง' กร้าว!! ถึงม็อบ 'ปฏิรูปกษัตริย์ สร้างรัฐสวัสดิการ' 'แรงงานต่างชาติ' ทำผิด 112 ถูกเพิกถอนใบอนุญาตทำงาน

(3 พ.ค. 66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ถึงประเด็น ม็อบแรงงานต่างชาติเคลื่อนไหวเรียกร้อง ‘ปฏิรูปกษัตริย์ สร้างรัฐสวัสดิการ’ โดยระบุว่า

ย้ำและ #เตือน อีกทีนะครับ... 
ถึง ม็อบ “ปฏิรูปกษัตริย์ สร้างรัฐสวัสดิการ”

'แรงงานต่างชาติ' ทำผิด เข้าข่าย ม.112 
ถูกเพิกถอนใบอนุญาตทำงาน นะครับ 

ม็อบแรงงานต่างชาติเคลื่อนไหวเรียกร้อง “ปฏิรูปกษัตริย์ สร้างรัฐสวัสดิการ” เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา ทางกรมการจัดหางาน ได้เตือน ไปยังแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยทุกเชื้อชาติแล้ว

‘สว.คำนูณ’ กางแผน ‘พรรคก้าวไกล’ แก้ไขมาตรา 112 ลดระดับการคุ้มครองสถาบันฯ ครั้งแรกในรอบกว่า 90 ปี

24 มิ.ย. 2566 - นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา(สว.) โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับประเด็น "ประเด็นแก้ไข 112" โดยมีเนื้อหาดังนี้

กำลังจะเปิดรัฐสภาแล้ว จะมีรัฐพิธีไม่เกินวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 พรรคก้าวไกลหาเสียงไว้ว่าจะเสนอร่างกฎหมาย 45 ฉบับภายใน 100 วันแรก หรือทันทีที่เปิดรัฐสภา โดยจะเสนอในนามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หนึ่งในนั้นคือร่างกฎหมายแก้ไขมาตรา 112

มาดูภาพรวมกันสั้น ๆ โดยสังเขปสักนิด
อาจจะทำให้พอเข้าใจเหตุผลของผู้คนในฟากฝั่งที่เห็นต่างและคัดค้าน
ตามหลักการที่พรรคก้าวไกลนำเสนอในการหาเสียง ปรากฎทั้งข้อความและแผ่นภาพ ประกอบกับร่างกฎหมายที่เคยยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อปี 2562 แต่ไม่ได้รับการบรรจุ จะพบว่าไม่ใช่การแก้ไขกฎหมายทั่วไปมาตราหนึ่งเท่านั้น หากแต่เป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่จะกระทบทั้งระบอบและระบบ

เฉพาะเรื่องหลักคือการคุ้มครององค์พระมหากษัตริย์ ก็ยกเลิก 1 มาตราเพิ่มเติม 4 มาตรา
ยกเลิกมาตรา 112 เพิ่มมาตรา 135/5 - 135/9

สรุปโดยภาพรวมได้ว่าเป็นการลดระดับการคุ้มครองสถานะอันเป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้ขององค์พระมหากษัตริย์ลงมาเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 90 ปีนับตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2475 จากการคุ้มครองเด็ดขาด เป็นการคุ้มครองอย่างมีเงื่อนไข มีทั้งบทยกเว้นความผิด บทยกเว้นโทษ และบทจำกัดผู้ร้องทุกข์

ซึ่งอาจขัดรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 6 อันเป็นบทหลักมาตราแรกของหมวดพระมหากษัตริย์
หรือเสมือนเป็นการแก้รัฐธรรมนูญหมวดพระมหากษัตริย์ทางประตูหลัง นี่คือประเด็นหลักที่จะกระทบระบอบ

นอกจากนั้น ยังมีประเด็นแวดล้อมตามมาเป็นการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตราอื่นที่เกี่ยวกับการหมิ่นประมาทและดูหมิ่นบุคคลประเภทอื่นตามมาอีก 2 กลุ่ม 11 มาตราด้วยกัน ยกเลิก 2 เพิ่มเติม 4 แก้ไขเพิ่มเติม 5

ดูหมิ่นเจ้าพนักงานเซึ่งกระทำการตามหน้าที่หลือแค่โทษปรับ
ดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี เหลือแค่โทษปรับ ขัดขวางการพิจารณาคดีหรือพิพากษาของศาล เหลือแค่โทษปรับ หมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา เหลือแค่โทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เหลือแค่โทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาท ดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณา เหลือแค่โทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ฯลฯ

เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบการคุ้มครองบุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยเฉพาะศาลหรือผู้พิพากษาขณะพิจารณาหรือพิพากษาคดี รวมทั้งบุคคลธรรมดา โดยเป็นการลดระดับการคุ้มครองบุคคลทุกประเภทลงจากเดิมด้วยการกำหนดโทษใหม่ที่ต่ำลงมาก ส่วนใหญ่จะเหลือแค่โทษปรับ ยิ่งถ้าในอนาคตนำระบบการคิดโทษปรับตามฐานะทางเศรษฐกิจ (Day-fine) มาใช้ในระบบกฎหมายไทย ผู้กระทำความผิดทีีมีรายได้นัอยหรือไม่มีรายได้จะยิ่งมีข้อต่อสู้ให้ได้รับโทษน้อยลงไปอีก
สังคมไทยจะไม่เหมือนเดิม

พรรคก้าวไกลจัดร่างกฎหมายแก้ไขมาตรา 112 อยู่ในกลุ่มคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ
แน่ละว่าด้านหนึ่ง สิทธิเสรีภาพของคนที่วิพากษ์วิจารณ์บุคคลทุกระดับได้รับการคุ้มครองเพิ่มขึ้น
แต่ในด้านตรงข้าม สิทธิเสรีภาพบุคคลทุกระดับที่ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายรวมทั้งบุคคลธรรมดาที่จะไม่ถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่เป็นธรรมกลับได้รับการคุ้มครองลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
จึงมีผู้เห็นต่างในหลักการ คัดค้าน และจะเป็นประเด็นสำคัญในแต่ละเหตุการณ์ทางการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่นี้

‘โด่ง อรรถชัย’ ชี้!! แก้ ม.112 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ม.6 ชัดเจน แนะ ‘ก้าวไกล’ หยุดฝืน เพราะไม่มีใครหนุนหลังแน่นอน

(16 ก.ค. 66) นายอรรถชัย อนันตเมฆ นักแสดง พิธีกร นักการเมือง และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวไทย อดีตข้าราชการทางการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับประเด็นการแก้มาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ซึ่งมีความขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 6 ที่พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะสูงสุด ผู้ใดจะละเมิดมิได้ โดยนายอรรถชัย ได้กล่าวว่า…

“เรื่องการแก้ไขมาตรา 112 หากจะพูดให้เข้าใจโดยทั่วกัน ความจริงคือ มันไม่มีอยู่จริงในรัฐบาลนี้ คุณจะดื้อรั้นดันทุรังสร้างภาพแก้ไขมาตรา 112 ไปเพื่ออะไร? มันไม่มีจริง เพราะถึงแม้วันนี้คุณจะยื่นเข้าไปในสภาฯ ผมขอถามว่ามันขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 6 ไหม?” 

นายอรรถชัย ยังกล่าวต่อว่า “หากถามว่าแล้วมันขัดกับมาตรา 6 อย่างไร? มาตรา 6 ถ้าหากจะพูดให้ชัดเจน คือ พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะสูงสุด ผู้ใดจะละเมิดมิได้ หากดูฉบับที่พรรคก้าวไกลจะแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ซึ่งจะเปลี่ยนสถานะของพระมหากษัตริย์จากเดิมที่เคยอยู่ ‘หมวดความมั่นคง’ มาอยู่ในหมวดของ ‘คนธรรมดา’ อย่าว่าแต่มาตรา 6 เลยครับ จะโดนมาตรา 112 หรือเปล่า? เพราะว่าคุณลดสถานะของพระมหากษัตริย์ ในทางกฎหมายเหมือนเป็นการหมิ่นพระมหากษัตริย์ก็เหมือนกับโทษคนธรรมดา สิ่งนี้เขาตีความได้นะครับ เพราะฉะนั้น ถึงสามารถพูดได้ว่าเรื่องนี้ขัดกับมาตรา 6 อย่างไร อันนี้ผมไม่ได้พูดเข้าข้างใคร แต่ผมพูดตามเนื้อหาของตัวกฎหมาย ไม่ได้พูดตามใจใคร เพียงแค่กลไกทางกฎหมายมันเป็นเช่นนี้”

“เพราะฉะนั้น คุณคิดว่าการแก้ไขมาตรา 112 มันเหมือนกับการแก้ พรบ.เมาแล้วขับหรือครับ? ไม่ใช่นะ เพราะมาตรา 112 เป็นกฎหมายความมั่นคง และเชื่อมโยงรัฐธรรมนูญ ซึ่งถึงแม้จะมีไม่กี่บรรทัดก็จริง แต่คุณคิดว่าการแก้ไขมีแค่การยกมือแล้วก็ผ่าน และถือว่าจบหรือครับ มันต้องแก้กันไปจนถึงมาตรา 6 แล้วมาตรา 6 อยู่ในไหนล่ะ? ก็หมวดพระมหากษัตริย์ไง คุณจะแก้มาตรา 6 แค่ในรัฐบาลนี้ได้ไหม? ผมรับรองว่าไม่มีใครยอมให้คุณแก้ไขหรอกครับ เพราะการที่คุณจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะต้องใช้เสียงของ ส.ว. ถึงแม้ปีหน้าพวกเขาจะหมดวาระ แต่อย่างไรก็ตาม ส.ส.ในสภาฯ วันนี้ถ้าคุณไปแตะหมวดพระมหากษัตริย์ พรรคภูมิใจไทยเขาว่าอย่างไร หรือแม้แต่ 8 พรรคร่วมรัฐบาล หรือพรรคคุณหญิงหน่อยเขาจะว่าอย่างไร ไม่ต้องพูดถึงพรรคเพื่อไทยนะ พรรคเพื่อไทยเฉย ๆ อยู่แล้ว คุณลองคิดดูนะว่า ถ้าคุณไปแก้หมวดพระมหากษัตริย์ คุณจะได้แนวร่วมสักแค่ไหน มันยิ่งใหญ่จริง ๆ เพราะฉะนั้น คุณแก้ไขมาตรา 6 ไม่ได้ และที่ยื่นมาตรา 112 ไปแก้ในสภาฯ แล้วไม่ผ่านครั้งที่แล้วก็ไม่พูดข้อมูลให้หมด ไปโทษคุณชวน หลีกภัยกันบ้าง และยังรวมไปถึงคุณสุชาติ ตันเจริญ พ่อของคุณมดดำอีก แต่จริง ๆ คือมันมาจากคณะกรรมการที่พิจารณากฎหมายของสภาฯ ซึ่งมีหลายคนที่ชี้ลงมาว่าสิ่งนี้ขัดต่อมาตรา 6 ไม่สามารถยื่นเข้าสภาฯ ได้ ไม่เช่นนั้นประธานต้องรับผิดชอบ” นายอรรถชัย กล่าวทิ้งท้าย

ศาลไม่ให้ประกันตัว ‘ไบรท์ ชินวัตร’ จากคดี ‘มาตรา112-มั่วสุม’ กรณีปราศรัยในการชุมนุม 25 พ.ย. 63 ที่หน้าธ.ไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่

(3 มี.ค.67) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว ไบรท์ ชินวัตร จันทร์กระจ่าง ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จากข้อหาความผิดตามมาตรา 112 และข้อหามั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ตามมาตรา 215 และมาตรา 216 กรณีปราศรัยในการชุมนุม ที่บริเวณหน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2563

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา ศาลอาญามีคำพิพากษาให้จำคุกรวม 6 ปี ลดเหลือ 3 ปี ไม่รอลงอาญา ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ลงโทษจำคุก 4 ปี, ข้อหา “มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป” และ “เจ้าพนักงานสั่งให้เลิกมั่วสุมแต่ไม่เลิก” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และมาตรา 216 ลงโทษจำคุก 2 ปี

ข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ลงโทษปรับ 10,000 บาท, ข้อหา “กีดขวางทางสาธารณะ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 385 และข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ลงโทษปรับ 2,000 บาท และข้อหา “ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ ลงโทษปรับ 200 บาท

รวมจำคุก 6 ปี ปรับ 12,200 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษลงกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 ปี ปรับ 6,100 บาท ไม่รอลงอาญา

ต่อมาทนายความแจ้งว่าได้ยื่นขอประกันตัวนายชินวัตรระหว่างอุทธรณ์แล้ว โดยนายประกันของนายชินวัตรวางหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 150,000 บาท ตามที่เจ้าหน้าที่ศาลประเมินมูลค่าให้ ศาลอาญามีคำสั่งส่งคำร้องขอประกันตัวให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา กระทั่งวันที่ 3 มี.ค. มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว ขณะนี้ ไบรท์ ชินวัตร ถูกคุมขังมาแล้ว 4 วัน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top