Saturday, 18 May 2024
ประวิตร

'สามารถ' ฉะกลับ 'พิธา' ย้อนดูลูกพรรคตัวเอง ยัน!! 'ประวิตร' ประวัติใสสะอาด เหมาะสมเป็นนายกฯ

วานนี้ (30 เม.ย.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล​ กล่าวพาดพิง พล.อ.ประวิตร วงษ์​สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่า ให้ชี้แจงเรื่องฉาวให้เสร็จก่อนจะมาเป็นผู้นำประเทศ ส่วนตัวรู้สึกผิดหวังกับ นายพิธา ซึ่งถือเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ การที่นายพิธาพูดแบบนั้นไม่ใช่เรื่องจริง และ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ถูกศาลตัดสินโทษอย่างที่นายพิธาพูดแม้แต่เรื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมูลนิธิป่าร้อยต่อ 5 จังหวัดนั้น ตนเคยชี้แจงไปแล้วว่า คนที่ก่อตั้งมูลนิธิเป็นคนที่ใหญ่กว่า พล.อ.ประวิตร มาก โดยส่วนตัวเชื่อว่า คนทั้งประเทศรู้ และมองว่า การที่ นายพิธา พยายามโจมตีนั้นหวังอะไรเชื่อว่าชาวบ้านรู้ดี อย่าลืมว่าประเทศไทยมีกฎหมายอาญา ซึ่งหน้าแปลกใจที่นายพิธา กลับเพิกเฉยต่อ ส.ส.ในพรรคของตัวเองที่กระทำผิด จึงเหมือนเป็นการให้ท้าย ส.ส. คนดังกล่าว

ส่วนเรื่องการค้ามนุษย์ พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง จึงไม่จำเป็นต้องชี้แจงใดๆ ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร มีแต่ถูกใส่ร้ายป้ายสี และประเด็นที่นายพิธา บอกว่า นายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส. นั้นไม่ทราบว่านายพิธา ไปแก้รัฐธรรมนูญมาตรา​ 158 วรรค 3 แล้วหรืออย่างไร​ ถ้ายังไม่แก้ ขอเตือน นายพิธา ให้ทำตามกฎหมายบ้านเมือง อย่าทำตามใจตัวเองเพราะมันจะทำให้เกิดความแตกแยกในสังคม​

'ประวิตร' ออกใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พร้อมเชิญชวนประชาชนมาใช้สิทธิ์ออกเสียง

“บิ๊กป้อม” ใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เช้านี้เรียบร้อย ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 11 เต็นท์สวนวังทอง 1 ลาดพร้าว 71 พร้อมขอประชาชนทุกคนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพื่อเป็นประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ 

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 22 พ.ค. ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 11 เต็นท์สวนวังทอง 1 ปากซอยลาดพร้าว 71 แขวงสะพาน 2 เขตวังทองหลาง กทม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) โดยพล.อ.ประวิตรมีชื่ออยู่ในลำดับที่ 474 

ทั้งนี้บรรยากาศที่หน่วยเลือกตั้งดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประชาชนในพื้นที่ทยอยเดินทางออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งตั้งแต่ช่วงเช้า โดยมีกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งคอยดูแลความเรียบร้อยและเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่เดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้ง

ในวันที่ ‘อดีตบิ๊กสีกากี’ จ่อผงาด ลือ พปชร.เล็งส่งแคนดิเดตชิงเก้าอี้นายกฯ

วันนี้ (วันที่ 2 กันยายน 2565) เหมือนช่วยกระพือข่าว “ป.ที่4” อีกเสียง หลังจากที่ โทนี วูดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาจ้อผ่านคลับเฮาส์ถึงกระแสข่าวว่ารอบหน้า หากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ได้ไปต่อเพราะศาลรัฐธรรมนูญ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็อาจจะเตรียมดัน ป.ที่4 ขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกฯ แทนที่ พล.อ.ประยุทธ์ ที่พรรคพลังประชารัฐเคยเสนอชื่อเมื่อตอนเลือกตั้งใหญ่ปี 2562 

หากมองถึงกระแสการดัน “ป.ที่4” ขึ้นมาก็ต้องยอมรับว่ามีมานานพอสมควร ไม่ใช่เพิ่งมามีเมื่อวันสองวัน “คงไม่ใช่ประยุทธ์แน่ อาจเปลี่ยนจากทหารเป็นตำรวจ” ซึ่งหากจับเฉพาะประเด็นที่นายทักษิณได้พูดถึง ป.ที่4 ตรงนี้ว่าอาจเปลี่ยนจาก “ทหารเป็นตำรวจ” แล้วลองมาไล่ชื่อดูว่ามีบิ๊กสีกากีท่านใดพอจะมีความเป็นไปได้ถึงการเป็น ป.ที่4 ? ชื่อหนึ่งที่พอนึกออกก็คงจะไม่พ้นชื่อของ “ป.แป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ตอนนี้แว่วมาว่ากำลังซุ่มทำพื้นที่อยู่ในภาคอีสาน 

ในแง่ประวัติการรับราชการตำรวจของ “ป.แป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ บอกตรง ๆ ว่า “ครบเครื่อง” มีผลงานให้เห็นมาตั้งแต่ รับหน้าที่เป็นผู้เจรจากับนักโทษในเหตุการณ์จลาจลเรือนจำสมุทรสาคร การแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ จนภายหลังมีสถิติการก่อเหตุลดลง ไปจนถึงผลงานด้านสืบสวนสอบสวนที่สามารถปิดคดีสะเทือนขวัญต่าง ๆ ได้ หลายผลงานก็เป็นของ พล.ต.อ.จักรทิพย์

3 ป. 3 สไตล์ ชายชาติทหารแห่งบูรพาพยัคฆ์ ปักหมุดหมายเดียวกัน ช่วยชาติไทยให้พ้นทุกภัย

จากคนที่ไม่ใช่แฟนคลับ ยอมรับเลยว่า 3 ป. ล่อให้แตก แยกให้ขาด ก็คงชาติหน้า เพียงแต่ในบรรดา ‘พี่น้อง 3 ป.’ แห่งนักรบบูรพา ‘ป้อม-ป๊อก-ประยุทธ์’ ต่างมีบุคลิกแตกต่างกันไป 

พี่ใหญ่อย่าง ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นคนอารมณ์ดี พูดจาหยอกเอินตามประสาพี่ใหญ่ใจดี

ส่วนที่รองอย่าง ‘บิ๊กป๊อก’ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา แกเป็นคนพูดน้อย มาดขรึม สมกับชายชาติทหาร 

และแน่นอนว่าขาดไม่ได้กับ น้องคนเล็กอย่าง ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ออกจะมีบุคลิกตรงข้ามกับพี่ ๆ เพราะแม้จะชอบพกพามาดเข้ม ๆ ดุดันบ้างเป็นพิธี แต่แกก็เป็นคนที่ค่อนข้างพูดเยอะ พูดยาว และชอบปล่อยมุขให้ขำบ้าง เจื่อนบ้างเป็นระยะ ๆ

แน่นอนว่าตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หน้าฉากพรรคพลังประชารัฐ ดูจะมีรอยปริให้เห็นเป็นระยะ ๆ แต่หากย้อนไปฟังเสียงน้องเล็กอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ แล้วฟังด้วยความตั้งใจ น้องคนนี้มักร่ายยาวถึงความสัมพันธ์ของ ทั้ง 3 ป.ว่า .เหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน ร่วมเป็นร่วมตายกันมา ใครก็ทำลายไม่ได้ แม้มีคนเสี้ยมให้แตกกัน”

'ชลน่าน' ชี้ 2 ป. แข่งกันลงพื้นที่แสดงความเป็นผู้นำ เชื่อ!! 'บิ๊กป้อม' ดีกว่า 'บิ๊กตู่' ในแง่การทำงาน-เข้าถึงปชช.

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ (6 ต.ค. 65) ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และพล.อประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่าในแง่ดีถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบในฐานะผู้นำจะต้องลงไปรับทราบปัญหาอย่างแท้จริง แต่ต้องระมัดระวังไม่ใช้อำนาจหน้าที่ และภาษีประชาชนไปหาแสวงหาผลประโยชน์หรือหาเสียงแอบแฝง แต่หากมองในมุมการเมืองจะพบว่าการลงพื้นที่ของทั้งสองคน เป็นการลงพื้นที่ที่พล.อ.ประยุทธ์ไปซ้ำรอย พล.อ.ประวิตร ถ้าเปรียบเป็นหรือภาษาวัยรุ่น อาจจะใช้คำว่าขิงกันหรือเป็นการแข่งขันกันทางการเมือง เพราะขณะนี้นายกฯ ตัวจริงกลับมาแล้ว

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตนเชียร์ให้ทั้งสองคนทำแบบนี้ตลอด แม้จะเป็นเรื่องความขัดแย้งภายใน แต่ประชาชนได้ประโยชน์กับเรื่องนี้ และในอนาคต จะทำให้ภาพการเมืองชัดเจนขึ้นว่าใครเหมาะที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งส่วนตัวมองว่าพล.อ.ประวิตรถือเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าพล.อประยุทธ์ ทั้งวิธีการทำงานและการเข้าถึงประชาชน 

ดังนั้น ใครที่อยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ ก็ยากที่จะชนะการเลือกตั้ง ส่วนพรรคพลังประชารัฐจะพิจารณาส่งใครเป็นแคนดิเดตไม่ขอวิจารณ์ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพรรคนั้น ๆ

‘ชัชชาติ’ ปลื้ม!! 'บิ๊กป้อม' รับเรื่องเร่งรัดทุกหน่วยเกี่ยวข้อง ฟาก ‘กรมชลฯ’ เคาะแผนทางด่วนน้ำ ช่วยระบายให้ได้ตามเป้า

‘ชัชชาติ’ ปลื้ม บิ๊กป้อมรีบรับเรื่อง ไม่เกี่ยง ‘กรมชลฯ’ เคาะแผนทางด่วนน้ำ ขอแค่ช่วยระบายตะวันออก กทม. ให้ได้ตามเป้า 50 ลบ.ม./วินาที ไม่จำกัดเวลา

เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 8 ตุลาคม ที่สำนักงานเขตดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ในกิจกรรม “ผู้ว่าฯ กทม. สัญจร เขตดินแดง” โดยเปิดเผยถึงการประชุมกับ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 2/2565 ร่วมกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (7 ต.ค.)

นายชัชชาติกล่าวว่า กทม.มีความกังวลเรื่องการระบายน้ำกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก จึงมีการเสนอแผนทำทางด่วนระบายน้ำ โดยการสร้างอุโมงค์จากเขตลาดกระบัง ลงไปยังคลองร้อยคิว ซึ่งระบายน้ำออกได้ 50 ลบ.ม./วินาที และอยู่พื้นนอกที่ของ กทม. แต่ทางกรมชลประทาน เสนอแผนให้ระบายน้ำในปริมาตรเท่ากัน จากคลองประเวศบุรีรมย์ ไปยังคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต โดยจะเป็นการสร้างคันกั้นน้ำแทน

“ทางกรมชลประทานยืนยันให้เราได้ในปริมาตรที่เท่ากัน และเขารู้สึกว่าทางนี้ดีกว่า ก็คงต้องฟังเขา เพราะเขาเป็นเจ้าของพื้นที่ อย่างไรก็ตาม เรายืนยันว่าต้องมีการระบายน้ำออกจากพื้นที่ลาดกระบังได้เร็วจากทางอื่น ที่นอกเหนือจากการเข้ามาที่คลองพระโขนง” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ส่วนโครงการเพิ่มเติมเร่งด่วนที่ กทม.เสนอไป ได้แก่การปรับปรุงสถานีสูบน้ำพระโขนง เพิ่มประสิทธิภาพการสูบน้ำให้ดีขึ้น ต่อมา คือการสร้างเขื่อนตามแนวคลองประเวศบุรีรมย์ตอนปลาย ด้านพระโขนง ให้ครบถ้วน  เพราะปัจจุบันมีเขื่อนไม่ครบทุกแนว ทำให้น้ำท่วมย่านพัฒนาการ โดยแผนที่เสนอไปจะอยู่ในปีงบประมาณ พ.ศ.2567-2568 ซึ่งก่อนถึงปีงบประมาณนั้น ทาง กทม.จะทำการขุดลอกคลองเพิ่มเติม

รอลุ้น ‘พปชร.’ ปรับบัตรประชารัฐเป็น 700 หากผลเลือกตั้ง ดันเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

หลังพรรคพลังประชารัฐได้ออกมาประกาศนโยบายสำหรับบัตรประชารัฐ ว่าจะเดินหน้าการจัดทำนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาทต่อเดือน ก็เรียกเสียงฮือฮาให้กับประชาชนที่มีบัตรประชารัฐอย่างมาก ซึ่งบางคนอาจจะบอกว่า 700 บาทต่อเดือนมันไม่พอ บางคนก็อาจจะบอกว่าพอ

วันนี้ทีมข่าว THE STATES TIMES จึงลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ตลาดประชานิเวศน์ 3 เพื่อสอบถามประชาชนถึงประเด็นดังกล่าว ว่าการเพิ่มเงินเป็น 700 บาทต่อเดือน จะเพียงพอสำหรับประชาชนหรือไม่?

โดยแม่ค้าขายหมูปิ้งตลาดประชานิเวศน์ 3 นนทบุรี ที่มีบัตรประชารัฐอยู่ กล่าวว่า ในเดือนนี้มีการเพิ่มเงินในบัตรให้ 200 บาท จากเดิมที่ได้ 200 บาท ก็ได้เพิ่มเป็น 400 บาท ตนเองมองว่าการเพิ่มเงินในเดือนนี้เป็นสิ่งที่ดี เพราะทุกวันนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี แล้วค่าครองชีพก็ขึ้นสูงมาก ของแพงทุกอย่างการใช้จ่ายก็เลยไม่พอ แล้วที่ได้เงินเพิ่มมาเป็น 400 บาท ตนเองคิดว่าก็ยังไม่พออยู่ดี หากพรรคพลังประชารัฐให้เพิ่มเป็น 700 บาท ก็คงจะดีขึ้นกว่านี้

‘บิ๊กป้อม’ นำทีมประชุม ขับเคลื่อน ‘เมืองอัจฉริยะ’ ทุ่มงบฯ ส่งเสริมคนรุ่นใหม่ กลับพัฒนาบ้านเกิด

(3 มี.ค. 66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ ผ่านระบบ VTC ณ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ เพื่อเร่งขับเคลื่อนกลไกส่งเสริมการพัฒนาเมืองด้วยเทคโนโลยี

โดยที่ประชุม เห็นชอบ กรอบคำของบประมาณปี 67 ตามหมุดหมายที่ 8 ให้ไทย มีพื้นที่และเมืองอัจฉริยะ ( Smart City ) ที่น่าอยู่ปลอดภัย และเติบโตอย่างยั่งยืนจำนวน 53 โครงการจาก 30 จว.และ 11 กลุ่ม จว. โดยให้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สภาพัฒน์ฯ และสำนักงบประมาณ ร่วมพิจารณากลั่นกรองโครงการโดยมุ่งเป้าหมาย พร้อมทั้งเห็นชอบ โครงการทูตเยาวชนพัฒนาเมือง เพื่อส่งเสริมสายอาชีพใหม่ในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในภูมิภาค โดยเป็นการสร้างโอกาสและความต่อเนื่องให้เกิดสายอาชีพ 'นักดิจิทัลพัฒนาเมือง' ในหน่วยงานตัวแทนเมือง 200 คน และ นศ.จบใหม่ 200 คน เพื่อกลับไปพัฒนาพื้นที่เป้าหมายที่เป็นบ้านเกิด

สมุทรปราการ-“บิ๊กป้อม” เปิดงาน  “ชนม์สวัสดิ์” ยิ้ม กองเชียร์กระหึ่ม!! รักลุงป้อมพร้อมโบกมือทักทาย 

ท่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเดินทางมาเป็นประธานกล่าวเปิดงาน “ตลาดเชิงท่องเที่ยว” ศูนย์กลางจำหน่ายผลผลิตทางการประมง และศูนย์ส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดสมุทรปราการ 

ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 30 ไร่เศษ บริเวณถนนท้ายบ้าน ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวให้การต้อนรับ นางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวแสดงความยินดี พร้อมทั้ง รับชมวีดีทัศน์โครงการพัฒนาของจังหวัดสมุทรปราการ 

โดยมี นางสาวประภาพร อัศวเหม นายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการ เป็นผู้กล่าวรายงาน และวัตถุประสงค์ในการก่อสร้าง “ตลาดเชิงท่องเที่ยว” ภายในงานประกอบไปด้วยนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย นายสุนทร ปานแสงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการ นายวิมล มงคลเจริญ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ คณะผู้บริหารหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ สมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรปราการ ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รวมถึงพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสมุทรปราการ เข้าร่วมในพิธีและร่วมให้การต้อนรับ

ร่วมด้วยช่วยกัน!! ‘บิ๊กป้อม’ ร่วมประชุม คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ดึง ‘เยาวชน-เอกชน-ภาคีเครือข่าย’ ร่วมพัฒนาประเทศไทย

พล.อ.ประวิตร มองการณ์ไกล ประชุม กพย. ให้ความสำคัญ พลัง ‘เยาวชน-เอกชน-ภาคีเครือข่าย’ ควบคู่หลัก ศก.พอเพียง ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน รองรับความท้าทายใหม่  ตั้งเป้าบรรลุ กรอบ UN ปี 2030

(8 มี.ค. 66) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์  ผช.โฆษก รอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (กพย.) ครั้งที่ 1/2566 ณ ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

ที่ประชุมได้รับทราบ สรุปผลการดำเนินงานตามแผนการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน สำหรับประเทศไทย (Thailand's  SDG  Roadmap)  โดยมีผลการดำเนินการใน 6 ด้านหลักได้แก่ 1) การสร้างการตระหนักรู้ 2) ความเชื่อมโยงระหว่างเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนกับแผน 3 ระดับของประเทศ 3) กลไกการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน 4) การดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 5) ภาคีการพัฒนา และ 6) การติดตาม/ประเมินผล


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top