Saturday, 11 May 2024
บุหรี่ไฟฟ้า

กวาดล้างเรียบ!! ‘ตำรวจไซเบอร์’ บุกทลายโกดัง ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ พร้อมอายัดของกลาง รวมมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท

ตำรวจไซเบอร์บุกทลายโกดัง ยึดบุหรี่ไฟฟ้า มูลค่าของกลางกว่า 80 ล้านบาท

(11 มี.ค. 66) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทอง พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รองผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 ร่วมกันแถลงข่าวผลปฏิบัติการทลายแหล่งซุกซ่อน-จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ 2 ราย ที่จำหน่ายให้กับผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ต่าง ๆ

พล.ต.ต.ไพโรจน์ เปิดเผยว่า รายแรก เป็นแหล่งซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม เข้าตรวจค้น 3 จุด คือ อาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง บนถนนจันทราคามพิทักษ์ ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมืองนครปฐม , บ้านหลังหนึ่งที่หมู่ 5 ตำบลถนนขาด อำเภอเมืองนครปฐม และโกดังแห่งหนึ่งบนถนนเทศา ตำบลพระประโทน อำเภอเมืองนครปฐม จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน น.ส.วีรวรรณ ลี่ผาสุข อายุ 33 ปี น.ส.นาริน หุ้มแพร อายุ 25 ปี 

พร้อมยึดของกลาง และตรวจยึดของกลาง น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า คละแบบ จำนวน 88,214 ชิ้น หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า คละแบบ จำนวน 70,589 ชิ้น บุหรี่ไฟฟ้าแบบดูดแล้วทิ้ง จำนวน 17,631 เครื่อง เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า คละแบบ จำนวน 10,350 เครื่อง คอยน์บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 1,000 ชิ้น อะไหล่หัวบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 2,705 ชิ้น รวมมูลค่าของกกลางที่ตรวจยึดได้กว่า 50 ล้านบาท

พล.ต.ต.ไพโรจน์ เปิดเผยอีกว่า รายที่ 2 เป็นแหล่งซุกซ่อนในกรุงเทพมหานคร โดยเข้าตรวจค้นคอนโดมีเนียม บนถนนพญาไท แขวงพญาไท เขตราชเทวี จับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน นายยุทธภูมิ ทองย้อย หรือโอม  อายุ 47 ปี และตรวจยึดของกลาง

บุหรี่ไฟฟ้า iqos ตัวแท่งดูด+เครื่องชาร์ต จำนวน 537 เครื่อง บุหรี่ไฟฟ้า IQOS ตัวแท่งดูด จำนวน 189 ตัว มวนบุหรี่สำหรับบุหรี่ไฟฟ้า ยี่ห้อ TEREA จำนวน 6,529 คอตตอน มวนบุหรี่สำหรับบุหรี่ไฟฟ้า ยี่ห้อmarlboro จำนวน 6,017 คอตตอน รวมมูลค่าของกกลางที่ตรวจยึดได้กว่า 30 ล้านบาท 

รวมผลการตรวจค้นทั้ง 2 ราย ยึดของกลางรวมมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท จึงดำเนินคดีผู้ต้องหาในความผิด พ.ร.บ.ศุลกากร นำสินค้าห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร , พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค , พ.ร.บ. การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นสินค้าต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร และอยู่ระหว่างขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง

‘ไผ่ ลิกค์’ ชงญัตติเข้าสภาฯ ตั้ง กมธ.พิจารณาบุหรี่ไฟฟ้า ชี้!! ต้องมีกฎหมายรองรับ หลังเยาวชนเริ่มใช้อย่างแพร่หลาย

(1 ส.ค. 66) นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ในขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรได้บรรจุญัตติด่วนที่ตนเสนอไป เพื่อขอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาผลประโยชน์ของการมีกฎหมายควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว โดยตนเห็นว่า ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น แต่ยังไม่มีกฎหมายรองรับและวิธีรับมือกับการบริโภค และการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า แต่สภาพความเป็นจริงเราสามารถพบเห็นการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย มีการนำเสนอเพื่อผลกำไรผ่านทางช่องทางสื่ออินเทอร์เน็ต โดยไม่มีการเสียภาษีทำให้รัฐเสียประโยชน์ 

นายไผ่ กล่าวต่อว่า ในส่วนเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างได้รับผลกระทบจากปริมาณการรับซื้อลดลงอย่างมาก ทั้งจากมาตรการด้านสุขภาพและการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า จนทำให้ราคาใบยาสูบตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งข้อมูลข้อดีข้อเสียของบุหรี่ไฟฟ้า โทษต่อสุขภาพของบุหรี่ไฟฟ้า ยังเป็นที่สงสัยว่าเป็นโทษต่อร่างกายมากน้อยเพียงใด 

"ผมจึงขอเสนอให้สภาฯ มาศึกษา และวางแนวทางเพื่อออกกฎหมายในการกำกับดูแลบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเร่งด่วน เพราะขณะนี้เด็กและเยาวชนมีการใช้การอย่างแพร่หลาย ทั้งที่แนวทางบุหรี่ไฟฟ้าของประเทศไทย ยังไม่มีงานวิจัยที่สามารถยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนหรือไม่ มีแต่การกล่าวอ้างว่า ไอของบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็ง ซึ่งถือเป็นประเด็นที่น่าเป็นห่วงถึงผลกระทบต่อสุขภาพจากบุหรี่ไฟฟ้า จึงต้องมีการออกมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น" นายไผ่ กล่าว

‘อายุรแพทย์ฯ’ แชร์เคสเด็ก 16 สูบบุหรี่ไฟฟ้าหนัก พบ ‘เจ็บหน้าอก-ปอดแฟบและรั่ว’ เตือน!! เลิกได้เลิกเถอะ

(28 ส.ค. 66) เฟซบุ๊ก ‘นายแพทย์เทวินทร์ ชาคริยานุโยค’ อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด โพสต์เตือนภัยบุหรี่ไฟฟ้า ระบุข้อความว่า

"วันนี้มีเรื่องมาเล่าอีกแล้ว เด็กอายุ 16 ปี เจ็บหน้าอก เสียงคุณพยาบาลเสียงใส เดินมาแจ้ง OMG เป็นไปได้ไง ซักประวัติ น้องรูปร่างผอม สูบบุหรี่ไฟฟ้าจัด บอกว่าเจ็บหน้าอกเวลาหายใจ ไม่ได้ยกของหนัก เอกซเรย์ดังรูป วินิจฉัยเป็นอะไรดี

สรุปเป็นลมรั่วในช่องปอดขวา ทำให้ปอดขวาแฟบ ปลายลูกศรคือ ขอบปอดที่แฟบไปรวมกันเป็นก้อนตรงกลาง โดยปอดขวามี 3 พู เลยยู่ไม่เท่ากัน เห็นเป็นก้อนขรุขระ คนไข้จะมาด้วยเหนื่อยหรือเจ็บหน้าอกหายใจไม่สุด ซึ่งเคสนี้มาจากการใช้ Vape หรือพอด หรือ E cigarett บุหรี่ไฟฟ้า

โดยองค์ประกอบ บุหรี่ไฟฟ้าจะมี นิโคตินปริมาณสูง (มากกว่าบุหรี่ปกติ) โพรพิลีนไกลคอล และสารแต่งกลิ่น ที่เป็นเอสเทอร์ไฮโดรคาร์บอน (ทำให้เกิดการอักเสบในระยะสั้น และส่งเสริมการเกิดมะเร็งในระยะยาว) ที่ส่งเสริมการอักเสบในปอดในระดับเซลล์ อีกทั้งการสูบแบบอัดก็มีผลด้วยครับ บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายไม่ยิ่งหย่อนกว่าบุหรี่ธรรมดานะครับ เลิกได้เลิกเถอะ

เพิ่มเติม: ในไทยและต่างประเทศมีรายงานเรื่อย ๆ ครับ เนื่องจากว่าเป็นของใหม่ งานวิจัยระยะยาวแบบ prospective น่าจะมีแต่ค่อนข้างทำยาก เพราะองค์ประกอบของสาร ไม่เหมือนกัน แต่องค์ประกอบหลัก ๆ มีดังกล่าวขั้นต้น เปรียบเทียบ เหมือน การขับรถเร็วครับ ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดอุบัติเหตุ แต่ถ้าเกิดก็โทษเพราะขับรถเร็วไงครับ การสัมผัสสารต่าง ๆ พวกนี้ ไม่ได้มีงานวิจัยมารองรับว่าปลอดภัยเหมือนยา แต่มันคุ้มมั้ยที่จะเอาปอดเรา ร่างกายเราไปแลก ร่างกายเรามีค่าประเมินค่าไม่ได้นะครับ เลิกได้เลิก เลิกไม่ได้ไปต่อ หมอพร้อมดูแลรักทุกคน”

‘สหรัฐฯ’ ชี้ เยาวชนในประเทศ 2.8 ล้านคน ใช้ ‘ยาสูบ’ เกลื่อน พบ ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ หนักสุด เตรียมใช้มาตรการควบคุมมากขึ้น

เมื่อวานนี้ (4 พ.ย.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ รายงานจำนวนนักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายในประเทศที่ใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบรวมอยู่ที่ราว 2.8 ล้านคนในปี 2023 โดยบุหรี่ไฟฟ้ายังคงเป็นผลิตภัณฑ์ยาสูบที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายมากที่สุดในหมู่เยาวชนอเมริกัน

รายงานระบุว่า ร้อยละ 25.2 ของนักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายในสหรัฐฯ ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบันสูบบุหรี่ไฟฟ้าทุกวัน และร้อยละ 89.4 สูบบุหรี่ไฟฟ้าแบบปรุงแต่งรสชาติ โดยศูนย์ฯ เตือนว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบในรูปแบบต่างๆ ของเยาวชนนั้นไม่ปลอดภัย

ศูนย์ฯ ระบุว่า การเฝ้าติดตามทางสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับดำเนินยุทธศาสตร์ควบคุมยาสูบแบบอ้างอิงหลักฐาน เช่น การเข้าช่วยเหลือเยาวชนอย่างมีประสิทธิภาพ การรณรงค์ผ่านสื่อมวลชน ระเบียบข้อบังคับของสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ และนโยบายป้องกันยาสูบที่ผ่านการพิสูจน์แล้วอื่นๆ อาจลดการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบของเยาวชนได้

ชาวเน็ต ห่วง!! หลังเด็ก 9 ขวบ สูบบุหรี่ไฟฟ้าอวดลงไอจี ลั่น!! ‘ฟันน้ำนมยังไม่หมดปากเลย’ จี้ พ่อ-แม่ ดูแลใกล้ชิด

เมื่อวานนี้ (9 พ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ ‘Drama-addict’ โพสต์ข้อความระบุว่า

“เจอเด็กไทยอายุ 9 ขวบ เล่นไอจี สูบบุหรี่ไฟฟ้า โพสต์อวดลงไอจีรัวๆ แย่แล้วเด็กไทย”

หลังจากโพสต์ไปไม่นาน ก็มีเพจดังเพจหนึ่ง โพสต์คลิป เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง อายุประมาณ 9 ปี กำลังสูบบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมกับโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์ ระบุว่า

“ฟันน้ำนมยังไม่หมดปากเลย พ่อแม่ไปไหน ไม่ใช่ลงคลิปเดียวด้วย ดูดบุหรี่ไฟฟ้าอัปคลิปลงไอจีไม่รู้กี่คลิปแล้ว”

หลังจากโพสต์ไปไม่นาน มีเข้ามาแสดงความคิดเห็น และเป็นห่วงเด็กหญิงคนนี้ และเด็กคนอื่นๆ ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าด้วย เช่น

โทษครอบครัวอันดับแรกค่ะ พ่อแม่ต้องเป็นเพื่อนที่ใกล้ชิด เป็นครูที่ดี เป็นคนที่ลูกเข้าถึงได้ บอกสอน แนะนำในสิ่งดีงามให้เค้า

คนมีลูกเล็กคือวิตกจริงๆ นะ กับสภาพแวดล้อม กับสังคม แบบนี้

กัญชา บุหรี่ พนันออนไลน์ เข้าถึงทุกวัย น่าสงสารเด็กๆ ค่ะ

ผู้ปกครอง คือ แบบอย่างแรกของลูกๆ เราเชื่อแบบนั้น

เด็กหญิง- ป.5 พกบุหรี่ไฟฟ้า 3 อัน ผู้ปกครองรับรู้ว่าน้องดูด เรานี่ตกใจ เป็นห่วงสุขภาพของเด็กในอนาคต

อย่างไรก็ตามทาง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกมาเตือนผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลาน และได้บอกถึงโทษของบุหรี่ไฟฟ้าว่า มีการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีผลต่อสมอง พบว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารนิโคตินในปริมาณสูง สารเสพติดจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทและสมอง รวมทั้งส่งผลโดยตรงต่อพัฒนาการของสมองในเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะในส่วนของสมองที่รับผิดชอบด้านความสนใจ การเรียนรู้ และความจำ ทำให้เกิดภาวะนอนไม่หลับ ความจำลดลง เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง รวมถึงเสี่ยงต่อการเกิดภาวะวิตกกังวล หงุดหงิด และมีความหุนหันพลันแล่น อารมณ์รุนแรงมากขึ้น

นักศึกษารัสเซีย ผุดไอเดียขอรับบริจาคบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อนำชิ้นส่วนภายในไปผลิตเป็นโดรนรบกับยูเครน

โดยทั่วไปแล้ว หลายประเทศมักมีแคมเปญรณรงค์ให้นักศึกษาเลิกสูบบุหรี่ไฟฟ้า ด้วยการยกเหตุผลด้านสุขภาพ ซึ่งหาก ‘ลด-ละ-เลิก’ ได้ ก็จะส่งผลดีต่อร่างกายในระยะยาว 

แต่ทว่า ที่ ‘รัสเซีย’ กลับมีแคมเปญที่แปลกกว่านั้น คือ ขอบริจาคบุหรี่ไฟฟ้า...เพื่อชาติ!!

แคมเปญดังกล่าวนี้ ถูกจัดขึ้นโดยนักศึกษาจากชมรม Falcon Patriotic Military Club ของ University of Samara ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย ที่ผุดแคมเปญสุดพิสดาร ด้วยการผสมผสานไอเดียที่ใช้รณรงค์ลดการสูบบุหรี่ไฟฟ้า เข้ากับแนวคิดชาตินิยม 

โดยจะมีการจัดกลุ่มอาสาสมัคร ถือกล่องตระเวนรับบริจาคบุหรี่ไฟฟ้าจากเพื่อนๆ นักศึกษาในสถาบัน ด้วยเหตุผลจูงใจอย่างการสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน

นอกจากนี้ ยังมีการออกใบปลิว และ โปสเตอร์ประกอบแคมเปญด้วยการดัดแปลงภาพสไตล์ย้อนยุคสมัยสหภาพโซเวียต ที่เคยใช้จริงตอนที่รัฐบาลกำลังรณรงค์ให้ชาวรัสเซียลดการดื่มเหล้าวอดก้า เพียงแต่คราวนี้ เปลี่ยนจากวอดก้า เป็นบุหรี่ไฟฟ้าแทน  พร้อมสโลแกนเท่ๆ ว่า…

“1 e-cigarette = 1 drone attack on the enemy!” หรือ “บุหรี่ไฟฟ้า 1 มวน = โดรนพิฆาต 1 ลำ สำหรับโจมตีข้าศึกของเรา”

หลายท่านอาจจะงงว่า เป้าหมายสำคัญของการขอรับบริจาคบุหรี่ไฟฟ้าของนักศึกษากลุ่มนี้ จะมีส่วนให้กองทัพรัสเซีย นำไปใช้ผลิตโดรนพิฆาตในการสู้รบในสงครามรัสเซีย-ยูเครน จริงๆ ได้อย่างไร? ซึ่งเรื่องนี้ทางกลุ่มนักศึกษาเจ้าของแคมเปญ ก็อธิบายว่า... 

“อันที่จริงแล้ว ตัวบุหรี่ไฟฟ้าไม่สามารถนำมาใช้เป็นอาวุธได้ แต่ชิ้นส่วนภายใน เช่น แผงวงจรไมโครและแบตเตอรี สามารถนำไปดัดแปลงใช้ใหม่ในระบบปล่อยกระสุนของโดรนพิฆาตได้”

สำหรับชมรม Falcon Patriotic Military Club ก่อตั้งในปี 2008 มีวัตถุประสงค์ในการปลุกจิตสำนึกรักชาติแก่เยาวชน และ นักศึกษาของรัสเซีย  ซึ่งที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับหน้าที่ของทหารในโรงเรียน หรือ รับบริจาคสิ่งของ และจัดส่งของจำเป็นให้กับทหารแนวหน้าในสงครามยูเครน อาทิ โทรศัพท์มือถือ, เตาภาคสนาม, เสื้อผ้า อาหาร ฯลฯ และล่าสุดทำแคมเปญบริจาคบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อนำไปผลิตโดรนพิฆาตให้กับกองทัพรัสเซีย 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องนี้เล็ดลอดถึงหูสื่อยูเครน ก็ได้มีการรายงานบลัฟอย่างรวดเร็วว่า “ไอเดียการดัดแปลงบุหรี่ไฟฟ้ามาเป็นโดรนโจมตีนั้น ได้มาจากนักศึกษาของยูเครนต่างหาก โดยสถาบัน Chernivtsi Polytechnic College ทางตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครนเคยทำมาก่อนแล้ว  นอกจากนี้ยังมีโปรเจกต์สนับสนุนกองทัพที่ล้ำหน้านั้นอีก ด้วยการพัฒนาโครนโจมตีขนาดจิ๋ว Powerbank สุดอึดที่สามารถชาร์ตโทรศัพท์มือถือได้นานถึง 10 วันอีกด้วย” 

ก็ไม่น่าเชื่อว่าจากแคมเปญเลิกบุหรี่ไฟฟ้า จะกลายมาเป็นไอเดียสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ที่เข้าไปช่วยเสริมศักยภาพในสงครามได้ ภายใต้แนวคิดปลุก ‘จิตสำนึกในความรักชาติ’ 

เพียงแต่มันก็ยังไม่รู้สึกถึงแง่มุมดีๆ ที่จะมีต่อโลกใบนี้ยังไงก็ไม่รู้!! 

เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์

ควันหลงเคาท์ดาวน์ปีใหม่! เพจ “มนุษย์ควัน” ชี้ โลกออนไลน์แห่ถกประเด็น “บุหรี่ไฟฟ้า” หนัก จี้ต้องควบคุมด่วน!

เพจ “มนุษย์ควัน” ยกกระแสข้อพิพาทบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับประเด็น “บุหรี่ไฟฟ้า” ที่เพิ่งกลับมาเป็นที่ถกเถียงอีกครั้งในวงกว้างหลังเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่่ โดยมีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นเกือบ 1 พันราย ตั้งแต่ประเด็นการใช้บุหรี่ไฟฟ้าของคนดัง รัฐมนตรี นักการเมือง ส.ส. การใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กวัยรุ่น รวมถึงการตั้งคำถามว่าเหตุใดผลิตภัณฑ์ที่ถูก “แบน” จึงถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย พร้อมจี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำบุหรี่ไฟฟ้ามาควบคุมให้ถูกกฎหมายรับปี 2024

นายสาริษฏ์ สิทธิเสรีชน แอดมินเพจเฟซบุ๊กและ X (ทวิตเตอร์) “มนุษย์ควัน” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 26,000 ราย ระบุในโพสต์อ้างอิงจากกรณีที่มีบัญชีผู้ใช้รายหนึ่ง กล่าวถึงประเด็นการใช้บุหรี่ไฟฟ้าว่า ‘เรื่องดูดพอตนี่มีคนพูดยัง’ ไปเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567 ซึ่งข้อความดังกล่าวมีการเข้าชมกว่า 7.8 ล้านครั้ง และได้รับการแชร์ต่อกว่า 5,000 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีผู้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นนับ 800 ราย โดยประเด็นที่เป็นที่กล่าวถึงมีตั้งแต่ประเด็นมารยาททางสังคม การใช้บุหรี่ไฟฟ้าในที่สาธารณะ การใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กวัยรุ่น รวมถึงมีผู้ใช้จำนวนมากตั้งคำถามไปในทำนองเดียวกันว่า การที่บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่กลับมีผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย สรุปแล้วบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายจริงหรือไม่

“มาฟังเสียงชาว X (หรือทวิตเตอร์) ถกกันเรื่องบุหรี่ไฟฟ้ารับปีมังกรกันครับ คาดว่าน่าจะฟิวส์ขาดหลังงานปีใหม่ เพราะเท่าที่ผมเจอมา ไม่ว่าจะงานเคาท์ดาวน์ไหนๆก็เจอคนสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันเกลื่อนแบบไม่เลือกเวลาและสถานที่ ไม่แปลกที่จะโดนสาป (เพราะงั้นถึงได้บอกให้ควบคุมให้ชัดเจนสักที จะได้พูดได้เต็มปากว่าตรงไหนห้ามสูบ ตรงไหนสูบได้ ไม่งั้นก็ตีมึนกันไปเรื่อยแบบนี้นั่นแหละ)”
พร้อมกันนี้ นายสาริษฏ์ยังได้แนบข้อความของผู้ใช้ทวิตเตอร์รายอื่น ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าวในเรื่องการใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าที่แพร่หลายในไทยว่า “มันผิดกฎหมาย แต่คนไทยถ้ามี 60 ล้านคนก็คือดูดไปละ 50 ล้านคน ไม่แบ่งแยกอะไรดูดหมดทุกอาชีพ ทุกวัย ทุกเพศ ไม่เลือกดารา นักร้อง คนธรรมดา สรุปแล้วมันผิดกฎหมายจริงมั้ย งง”

นอกจากนี้ผู้ใช้ที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกฎหมายการแบนบุหรี่ไฟฟ้าระบุว่า “เป็นเรื่องปกติช่วง?? คนไทยมองเรื่องแบบนี้ปกติกันละหรอ เพราะกฎหมายมันไม่แข็งแรงรึเปล่า ละเลยกันจนคิดว่าไม่ผิดทั้งที่มันผิดละมั้ง จะบอกว่านี่โทษกฎหมายก็ได้นะ ก็กฎหมายมันง่อยจริง เคสตัวอย่างก็มีให้เห็นเรื่อยๆ แล้วก็ไม่ต้องภูมิใจหรือทำเป็นเรื่องปกตินะถ้าคนรอบข้างสูบอะ มันอุ” โดยข้อความนี้มีการเข้าชมกว่า 266,000 ครั้ง และได้ถูกแชร์ต่อไปกว่า 8,300 ครั้ง

ทั้งนี้ นายสาริษฏ์ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า การใช้บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นความปกติใหม่ของสังคมไทย ที่แม้ทุกคนทราบดีแก่ใจว่ายังผิดกฎหมายอยู่ และไม่ควรมีการใช้อย่างแพร่หลายเช่นนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นพฤติกรรมผู้บริโภคใหม่ที่กลายเป็นเรื่องปกติของสังคมแล้ว และการไม่มีกฎหมายควบคุมอย่างในปัจจุบัน ทำให้เกิดแต่ปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของมารยาทการใช้งานในที่สาธารณะ จนทำให้เกิดการตั้งคำถามและวิพากวิจารณ์ถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกันอย่างแพร่หลาย จึงควรเป็นการบ้านสำหรับคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ บุหรี่ไฟฟ้า ในสภาผู้แทนราษฎร ที่ ส.ส. ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลจะต้องหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนทั่วไปอย่างเร่งด่วน โดยทางเพจ จะยื่นหนังสือเพื่อขอเข้าไปร่วมให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ภายในสัปดาห์นี้

“พวงเพ็ชร” ลุยกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า วันเดียว ยึดของกลางกว่า 5 ล้าน หลังพ่อแม่แห่ร้อง สคบ. เด็ก-เยาวชน เข้าถึงง่ายเหตุราคาถูก

15 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 22.00 น.  นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายกฤช เอื้อวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) พร้อมด้วยผู้แทนจากกรุงเทพมหานคร และกรมควบคุมโรค ลงพื้นที่ย่านคลองถม ถ.วรจักร แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เพื่อติดตามและตรวจสอบการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า หลังประชาชนร้องเรียนผ่าน สคบ. ว่ามีการเปิดร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าราคาถูก ทำให้มีเด็กและเยาวชนไปซื้อมาใช้เป็นจำนวนมาก

การลงพื้นที่วันนี้เป็นไปตามภารกิจหลักของชุดปฏิบัติการ สคบ. ที่บูรณาการความร่วมมือกับหลายหน่วยงาน ในการปราบปรามและกวาดล้างการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค โดยในช่วงบ่ายชุดปฏิบัติการ สคบ. ได้ลงพื้นที่ย่านนวลจันทร์และเสนานิคม สามารถตรวจยึดและจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าได้ 2 แห่ง มูลค่า 2 ล้านบาท และในช่วงค่ำ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ย่านคลองถม พร้อมชุดปฏิบัติการ สคบ. กรุงเทพมหานครและกรมควบคุมโรค สามารถตรวจยึดของกลางจากร้านที่ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าได้ 7 แห่ง มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท ขณะที่ผู้ค้าทำการหลบหนีระหว่างการลงพื้นที่ โดยรวมตลอดทั้งวันสามารถยึดของกลาง รวมมูลค่าทั้งสิ้น กว่า 5 ล้านบาท 

“นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ที่ นอกจากเป็นอันตรายต่อสุขภาพแล้ว อาจส่งผลกระทบและมอมเมาเด็กและเยาวชน ในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแล สคบ. ได้สั่งการให้เร่งตรวจสอบ ติดตาม และกวาดล้างอย่างจริงจัง ประกอบกับมีผู้ปกครองเป็นห่วงต่อสถานการณ์ดังกล่าว จากการลงพื้นที่วันนี้ พบว่าการหาซื้อบุหรี่ไฟฟ้าทำได้ง่าย และราคาไม่แพง เด็กและเยาวชนสามารถหาซื้อได้จากตลาดใจกลางเมือง ซึ่งน่าเป็นห่วงมาก เราจะเร่งติดตามและขยายผลการลงพื้นที่อีกหลายจุด เพื่อกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าให้หมดไป ขณะเดียวกันจะพูดคุยกับทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อหาแนวทางสกัดกั้นการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านระบบออนไลน์ หากผู้ใดพบเห็นการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งได้หลายช่องทาง เช่น สายด่วน สคบ. 1166 เว็บไซต์ www.ocpb.go.th แอปพลิเคชัน OCPB Connect  ศูนย์ดำรงธรรมในทุกจังหวัด รวมถึง Traffy Fondue ของ กทม.” นางพวงเพ็ชร กล่าว 

ปัจจุบันการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

ผลการศึกษาชี้ มีผู้สูบบุหรี่จำนวนมากขึ้นที่ประเมินความเสี่ยงจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าสูงเกินไป

ข้อมูลชี้ว่า ผู้สูบบุหรี่ในอังกฤษที่มองว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่มวนมีจำนวนลดลง แม้ว่าจะมีหลักฐานว่าการสูบบุหรี่มวนนั้นส่งผลกระทบทางลบต่อสุขภาพมากกว่า และบุหรี่ไฟฟ้าสามารถช่วยให้ผู้สูบบุหรี่เลิกได้

ผลการสำรวจในผู้สูบบุหรี่กว่า 28,000 รายในช่วงปี 2557 ถึง 2566 ชี้ว่า การรับรู้กําลังเปลี่ยนไป โดยผลการสำรวจรอบล่าสุดพบว่า 57% ของผู้สูบบุหรี่คิดว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายพอๆ กับการสูบบุหรี่หรือมากกว่านั้น

บริการสุขภาพแห่งชาติแห่งสหราชอาณาจักร หรือ National Health Service (NHS) กล่าวว่า ตามหลักการแล้ว ผู้คนไม่ควรสูบบุหรี่หรือใช้บุหรี่ไฟฟ้า

การใช้บุหรี่ไฟฟ้าทําให้ผู้ใช้ได้รับสารพิษในระดับที่ต่ำกว่าสารพิษที่ได้รับจากการสูบบุหรี่มวนมาก บุหรี่มวนปล่อยสารเคมีต่างๆ หลายพันชนิดเมื่อเผาไหม้ หลายชนิดมีพิษและกว่า 70 ชนิดเป็นสารก่อมะเร็ง นอกจากนี้ บุหรี่ยังทําให้เกิดโรคร้ายแรงอื่น ๆ รวมถึงโรคปอด โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง

สารเคมีที่เป็นอันตรายส่วนใหญ่ในควันบุหรี่ รวมถึงน้ํามันดินและคาร์บอนมอนอกไซด์ ไม่ได้อยู่ในละอองลอยจากบุหรี่ไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม บุหรี่ไฟฟ้านั้นไม่ได้ปราศจากความเสี่ยงโดยสิ้นเชิง และ NHS ไม่แนะนําให้ผู้ไม่สูบบุหรี่รวมถึงคนหนุ่มสาวที่มีอายุต่ํากว่า 18 ปีเริ่มใช้บุหรี่ไฟฟ้า

ผลข้างเคียงที่พบบ่อยจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า ได้แก่:
• ไอ ปากและลําคอแห้ง
• การระคายเคืองที่ปากและลําคอ
• หายใจถี่
• ปวดหัว

ข้อมูลที่ตีพิมพ์ในวารสาร JAMA Network Open มาจากการสํารวจรายสัปดาห์ของ Cancer Research สนับสนุนโดยสหราชอาณาจักร ซึ่งดําเนินการตั้งแต่ปี 2549 เพื่อติดตามรูปแบบการสูบบุหรี่ในระดับประเทศและแจ้งนโยบายเลิกสูบบุหรี่ พบว่า

ในเดือนพฤศจิกายน 2014:
• 44% ของผู้สูบบุหรี่คิดว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่
• 11% คิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายกว่าการสูบบุหรี่
• 30% คิดว่าเป็นอันตรายเท่าเทียมกัน
• 15% ไม่ทราบ

แต่ภายในเดือนมิถุนายน 2023:
• มีเพียง 27% เท่านั้นที่คิดว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายน้อยกว่า
• 23% คิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายกว่าการสูบบุหรี่
• 34% คิดว่าเป็นอันตรายเท่าเทียมกัน
• 16% ไม่ทราบ

ยังไม่ชัดเจนว่าอะไรอยู่เบื้องหลังแนวโน้มดังกล่าว เนื่องจากการศึกษาไม่ได้มุ่งเน้นไปถึงเหตุผล แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการหยุดสูบบุหรี่มีความกังวล หนึ่งในนักวิจัย ดร.ซาร่าห์ แจ็คสัน จากมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน (UCL) กล่าวว่า “การค้นพบเหล่านี้มีความหมายที่สําคัญทางสาธารณสุข”

"ความเสี่ยงจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้านั้นต่ํากว่าความเสี่ยงจากการสูบบุหรี่มาก – แต่ข้อมูลนี้กลับไม่ถูกสื่อสารออกไปสู่ผู้คนอย่างชัดเจน”

"ความเข้าใจผิดนี้เป็นความเสี่ยงต่อสุขภาพในตัวของมันเอง เนื่องจากความเข้าใจผิดนี้อาจกีดกันผู้สูบบุหรี่จากการลดอันตรายลงอย่างมหาศาลผ่านการเปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้า”

"มันอาจสนับสนุนให้คนหนุ่มสาวบางคนที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าหันมาสูบบุหรี่เป็นครั้งแรก หากพวกเขาเข้าใจว่าอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่มวนนั้นนั้นไม่ต่างกัน”

"จําเป็นต้องมีการสื่อสารที่ดีขึ้นเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อสุขภาพเพื่อให้ผู้ใหญ่ที่สูบบุหรี่สามารถพิจารณาเลือกผลิตภัณฑ์นิโคตินที่พวกเขาจะใช้ได้"

ศาสตราจารย์เจมี่ บราวน์ จาก UCL กล่าวว่า "บุหรี่ไฟฟ้านั้นเป็นสิ่งใหม่และได้รับความสนใจอย่างมากในสื่อ โดยบทความข่าวมักจะพูดเกินจริงถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพเมื่อเทียบกับการสูบบุหรี่”
"มีรายงานค่อนข้างน้อยเกี่ยวกับการเสียชีวิตที่เกิดจากการสูบบุหรี่ แม้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตในอังกฤษจากการสูบบุหรี่ถึงปีละ 75,000 คน”

"รัฐบาลวางแผนที่จะเสนอชุดอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าเริ่มต้นให้กับผู้สูบบุหรี่หนึ่งล้านคนควบคู่ไปกับการสนับสนุนด้านพฤติกรรมเพื่อช่วยให้พวกเขาเลิกบุหรี่”

"ความคิดริเริ่มนี้อาจไม่สำเร็จหากผู้สูบบุหรี่จํานวนมากไม่เต็มใจที่จะลองบุหรี่ไฟฟ้าเพราะพวกเขาเชื่ออย่างผิด ๆ ว่าบุหรี่ไฟฟ้านั้นเป็นอันตรายเท่ากับหรือมากกว่าบุหรี่ทวน"
ไซมอน คลาร์ก ผู้อํานวยการกลุ่มผู้สูบบุหรี่ Forest เห็นด้วยว่าต้องมีการสื่อสารที่ดีขึ้นเกี่ยวกับความเสี่ยงสัมพัทธ์ของผลิตภัณฑ์นิโคตินต่างๆ รวมถึงบุหรี่แบบเผาไหม้และบุหรี่ไฟฟ้า เขาเสริมว่า "รัฐบาลเป็นหนึ่งในตัวการที่ก่อให้เกิดความสับสน เพราะการแบนบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งและขู่อย่างรุนแรงว่าจะจํากัดการแสดงสินค้ารวมถึงบรรจุภัณฑ์ของบุหรี่ไฟฟ้านั้นไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ลดความเสี่ยงที่ช่วยให้ผู้สูบบุหรี่หลายล้านคนเลิกบุหรี่”

"ยิ่งไปกว่านั้น เป็นเรื่องน่าแปลกใจที่ผู้สูบบุหรี่สับสนเกี่ยวกับระดับความเสี่ยงจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า ข้อความที่มาจากรัฐบาลและหน่วยงานสาธารณสุขกล่าวว่าผู้ที่ควรใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีเพียงผู้ใหญ่ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่เท่านั้น และไม่มีใครควรใช้บุหรี่ไฟฟ้าในระยะยาวหรือใช้เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ"
เดโบราห์ อาร์นอตต์ ผู้บริหารระดับสูงของ Action on Smoking and Health (Ash) กล่าวว่า "เรื่องน่ากลัว" เกี่ยวกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในคนหนุ่มสาวอาจทําให้เกิดความเข้าใจผิดที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้สูบบุหรี่ที่เป็นผู้ใหญ่ว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีความเสี่ยงอย่างน้อยเท่ากับการสูบบุหรี่

“ดังนั้น อาจมีผู้สูบบุหรี่หลายล้านคนที่ไม่เคยใช้วิธีช่วยเลิกบุหรี่ที่มีประสิทธิภาพและเข้าถึงง่ายที่สุดอย่างบุหรี่ไฟฟ้า” เธอกล่าว

“โศกนาฏกรรมที่ตามมาคือผู้สูบบุหรี่จํานวนมากอาจสูบบุหรี่ต่อไปแม้ที่จริงแล้วพวกเขาจะสามารถเลิกบุหรี่ได้ ทําให้ตัวเองมีความเสี่ยงร้ายแรงต่อโรคมะเร็ง ระบบทางเดินหายใจ และโรคหัวใจ ตามด้วยการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร”

เครือข่ายผู้ใช้ฯ เข้าให้ข้อมูลคณะกรรมาธิการวิสามัญบุหรี่ไฟฟ้า เผยบทลงโทษรุนแรงกว่าเสพยาบ้า

หนุนรัฐมนตรี 'พวงเพ็ชร' ปกป้องเด็กและเยาวชน เสนอแนวทางบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย เพจผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “มนุษย์ควัน” เข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมยกกรณี อย.สหรัฐฯอนุญาตให้ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบใช้ความร้อนและบุหรี่ไฟฟ้าขายได้อย่างถูกกฎหมาย เผยบทลงโทษจากการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบใช้ความร้อนรุนแรงกว่าการเสพยาบ้า ทั้งที่ในกว่า 87 ประเทศทั่วโลกให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย

นายสาริษฏ์ สิทธิเสรีชน เจ้าของเฟซบุ๊กเพจ 'มนุษย์ควัน' ที่มีผู้ติดตามกว่า 20,000 ราย รวมทั้งเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าได้เข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญบุหรี่ไฟฟ้า สภาผู้แทนราษฎร พร้อมเสนอข้อมูลผลวิจัยและการศึกษาจากหน่วยงานสาธารณสุขชั้นนำ เช่น องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ กระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์อังกฤษ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา “หน่วยงานสาธารณสุขของหลายประเทศทั่วโลกต่างชี้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบใช้ความร้อนมีระดับสารพิษที่เป็นอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกายังได้ระบุว่า บุหรี่ไฟฟ้านั้นมีศักยภาพที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้สูบบุหรี่หากนำมาทดแทนบุหรี่มวน ข้อมูลเหล่านี้คนไทยไม่เคยได้ทราบเลย แถมมีโทษรุนแรงกว่าเสพยาบ้า” นายสาริษฏ์กล่าว

“องค์การอนามัยโลกไม่ได้บังคับให้ทุกประเทศแบนบุหรี่ไฟฟ้า แต่ให้แต่ละประเทศเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศนั้นๆ ขณะนี้กว่า 87 ประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และนิวซีแลนด์ ล้วนอนุญาตให้บุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบใช้ความร้อนถูกกฎหมาย ส่งผลให้ปัญหาในเรื่องของตลาดใต้ดินลดลง และตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือกรณีอัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนที่ลดลงในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากอย.สหรัฐนั้นเข้มงวดเรื่องการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ได้แบนเบ็ดเสร็จ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใหญ่ได้เข้าถึงและสามารถปกป้องเด็กและเยาวชนไปพร้อมๆ กัน ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบใช้ความร้อน ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากเด็กและเยาวชนเท่าใดนัก”

“ผมเห็นด้วยกับท่านรัฐมนตรีพวงเพ็ชรฯ ที่ประสานกับกระทรวงดีอีเอสเพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนให้ห่างไกลจากบุหรี่ไฟฟ้า แต่การแบนนั้นไม่สามารถทำได้จริง หากจะปิดร้านออนไลน์ 1,300 ร้านค้า วันรุ่งขึ้นก็จะมีการเปิดเพจออนไลน์ใหม่วนไปไม่รู้จบ ผมจึงขอเสนอให้ศึกษาแนวทางของอีก 87 ประเทศทั่วโลกที่บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย ขณะที่ 30 กว่าประเทศ เช่น สิงคโปร์ อินเดีย ออสเตรเลีย รวมถึงไทยที่แบนบุหรี่ไฟฟ้ามายาวนานกว่า 10 ปีนั้นล้วนเจอกับประเด็นปัญหามากมาย เช่นการลักลอบซื้อขายและนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า การเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือการสูญเสียรายได้ภาษีของรัฐบาล หากจะแบนต่อไปก็คงไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไรให้ดีขึ้นอีกแล้วเพราะมีผู้ใช้เกือบ 1 ล้านคนในปัจจุบัน”

นายสาริษฏ์ได้ให้ความเห็นทิ้งท้ายว่า “ผู้สูบบุหรี่ไทยกว่า 10 ล้านคนกำลังคาดหวังกับคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ที่กำลังดำเนินการศึกษาเรื่องการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบใช้ความร้อน เราหวังว่าจะได้เห็นกฎหมายการควบคุมยาสูบของไทยที่ใช้ผลวิทยาศาสตร์เป็นตัวตั้ง มีความเป็นสากล และหาจุดสมดุลให้ได้บนความเป็นจริงในสังคมปัจจุบัน”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top