Sunday, 5 May 2024
บิ๊กป้อม

บิ๊กป้อม ย้ำต้องไม่มีใครมาขัดขวางการประชุม APEC 2022 ขอบทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศ ย้ำ ผบ.ตร.เพิ่มความเข้มการักษาความปลอดภัย และอำนวยการจราจร 

วันนี้ (16 พ.ย. 65) เวลา 09.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการฯ ได้มอบหมาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร./รอง ผอ.กอร. เป็นประธานประชุมขับเคลื่อนกองอำนวยการร่วมฯ ติดตามสถานการณ์ด้านการข่าว สภาพภูมิอากาศ และแผนการปฏิบัติรักษาความปลอดภัยและการจราจรประจำวัน บูรณาการทุกภาคส่วน รวมกว่า 30 หน่วยงาน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ เปิดเผยว่า ภาพรวมการปฏิบัติมีความพร้อมทุกภาคส่วน และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้สถานการณ์ด้านการข่าวทั้งในและนอกพื้นที่ กทม. ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งทุกฝ่ายได้เตรียมแผนการปฏิบัติรองรับไว้แล้ว และ สภาพการจราจรในวันนี้ ปริมาณรถน้อยเคลื่อนตัวได้อย่างคล่องตัว เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการตามที่รัฐบาลกำหนด ทั้งนี้ ได้มีประกาศราชกิจจาลงวันที่ 14 พ.ย. 65 ประกาศข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรในเขต กทม. ว่าด้วยการจัดการจราจรการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค พ.ศ.2565 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 - 19 พ.ย.65 ดังนี้
1. ห้ามรถทุกชนิดเดินรถในถนนตลอดเวลา ถนนรัชดาภิเษก (ตั้งแต่แยกอโศกมนตรี ถึงแยกพระรามที่ 4) และถนนดวงพิทักษ์ (ตลอดสาย)
2. ห้ามรถทุกชนิดเดินรถในถนนเฉพาะเวลา 18.00 น. – 06.00 น.(ของวันรุ่งขึ้น) ถนน 5 สาย
3. ให้เดินรถทางเดียวในถนนเฉพาะเวลา 18.00 น. – 06.00 น.(ของวันรุ่งขึ้น) ถนน 3 สาย

งดการใช้สถานีรถไฟฟ้า MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 16 – 19 พ.ย.65 และกำหนดพื้นที่ควบคุมการเดินเรือเป็นการเฉพาะคราวแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย.65  สำหรับการลงทะเบียนของผู้พักอาศัยบริเวณถนนที่งดการใช้การจราจรขณะนี้มีกว่า 48,000 รายในพื้นที่ สน.ลุมพินี และ สน.ทองหล่อ และได้เปิดให้ลงทะเบียนต่อเนื่องจนถึงวันที่ 19 พ.ย.65 กรณีเจ้าหน้าที่ขนส่งพัสดุ ไปรษณีย์ อาหารหรือเอกสารต่างๆ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณจุดตรวจและแสดงเอกสารหลักฐานเพื่อขอเข้าพื้นที่ได้ตามแต่กรณี

‘บิ๊กป้อม’ ล่าก๊วนป่วนภาพลักษณ์ไทย หลังเหตุระเบิด 2 ปั๊มน้ำมันยะลา

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำ รอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้สั่งการ กอ.รมน.ภาค 4 (ส่วนหน้า) และหน่วยงานความมั่นคงให้ขยายผลสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุระเบิดป่วนปั๊มน้ำมัน 2 จุด ที่ อ.ยะหริ่ง และ อ.เมือง จ.ยะลา เป็นเหตุให้สถานีเชื้อเพลิงได้รับความเสียหายเมื่อคืนที่ผ่านมา 

พร้อมย้ำ ขอให้หน่วยงานข่าวและหน่วยงานความมั่นคง เฝ้าระวังป้องกัน ไม่ประมาทจากการก่อเหตุทั้งในและนอกพื้นที่ที่อาจเกิดขึ้น โดยให้ยกระดับความเข้มข้น ตื่นตัวเฝ้าระวังและตรวจสอบติดตามความเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายทั้งในและนอกพื้นที่ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงข้อมูลกับเทคโนโลยีเฝ้าตรวจ เพื่อปฏิบัติการป้องกันเชิงรุกและสามารถปฏิบัติการแก้ปัญหาต่อเหตุการณ์และเป้าหมายได้รวดเร็วทันต่อสถานการณ์

‘บิ๊กป้อม’ สั่ง ผบ.ทร. จัดทีมนักประดาน้ำกองทัพเรือ ช่วยค้นหาร่างน้องมาวิน หลังเจ้าหน้าที่ค้นพบร่างจมใต้ท้องน้ำลึกกว่า 70 เมตร แต่ไม่สามารถนำขึ้นมาได้ ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์พิเศษ

เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2565 พล.ร.อ. ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์นายมาวิน  เนตร์เดชา อายุ 18 ปี ได้พลัดตกน้ำขณะนั่งซ้อนท้ายเจ็ตสกี กลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ และจมสูญหายตั้งแต่เวลา 15.00 น. ของวันที่ 24 ต.ค. 2565  ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จากหลายฝ่ายได้ระดมสรรพกำลังในการค้นหาทั้งบนผิวน้ำ และใต้น้ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดในช่วงบ่ายของวันที่ 19 พ.ย. โดรนสำรวจใต้น้ำของทีมกู้ภัย ได้พบร่างน้องมาวิน ลอยสูงจากผิวดินประมาณ 1-2 เมตร ที่ระดับความลึกกว่า 70 เมตร  ซึ่งเป็นระดับที่ลึกมาก ยากแก่การกู้ร่างขึ้นมา จำเป็นต้องใช้นักประดาน้ำที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง  

ในการนี้ พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ติดตามข่าวดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ได้ประสานมายัง กองทัพเรือ จัดกำลังพลเข้าร่วมปฏิบัติการ  โดยพล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้สั่งการให้จัดกำลังจากหน่วยของกองทัพเรือ ที่มีขีดความสามารถในการปฏิบัติงานใต้น้ำสนับสนุนการกู้ร่างน้องมาวิน ดังนี้

1. เจ้าหน้าที่ประดาน้ำจากกรมสรรพาวุธทหารเรือ จำนวน 2 ชุดปฏิบัติการ พร้อมอุปกรณ์ในการกู้ร่างผู้เสียชีวิต 

2. นายแพทย์เวชศาสตร์ใต้น้ำพร้อมอุปกรณ์สนับสนุนนักประดาน้ำที่ปฏิบัติงานให้มีความปลอดภัย

และ3. ชุดต่อต้านทุ่นระเบิดเคลื่อนที่พร้อมอุปกรณ์ Side Scan Sonar ของกองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการสำหรับใช้ในการค้นหาตำแหน่งที่แน่นอนของร่างผู้เสียชีวิต  ซึ่งกำลังของกองทัพเรือชุดแรกจะเข้าพื้นที่ตั้งแต่เวลา 09.00 น. โดยจะมีการประสานงานและปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนกว่าการดำเนินการจะบรรลุภารกิจ

‘ก้าวไกล’ ฉะ!! ซื้อสิทธิฉายบอลโลกประเคนนายทุน จับพิรุธผู้บรรยายช่องดังเอาแต่ขอบคุณ ‘บิ๊กป้อม’

ก้าวไกล ฉะ กสทช. อนุมัติเงินรัฐซื้อสิทธิฉายบอลโลกประเคนนายทุน ถาม ประวิตรขายนาฬิกาสมทบด้วยหรือ? ถึงได้ขอบคุณออกอากาศทุกแมทช์

(24 พ.ย. 65) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายตั้งคำถามกับการที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) อนุมัติงบประมาณ 600 ล้านบาท เพื่ออุดหนุนค่าลิขสิทธิ์บอลโลก และได้ตั้งคำถามต่อการกำกับดูแลว่าเมื่อรับเงินไปแล้ว นายทุนหรือประชาชนได้ประโยชน์กว่ากัน

โดยปกรณ์วุฒิ เริ่มต้นถึงความย้อนแย้งในการทำหน้าที่ กสทช. ว่าในฟุตบอลโลก 2014 บริษัท RS ลงทุนซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลโลกมาทั้งหมด โดยเพื่อทำธุรกิจจากการให้ประชาชนซื้อกล่องทีวีดาวเทียม ซึ่ง กสทช. ได้บังคับใช้กฎ Must Have / Must Carry บังคับให้ถ่ายทอดฟุตบอลโลกลงในทุกช่องทางให้ทุกคนชมฟรี

แต่ปี 2022 ระหว่างที่กำลังถึงช่วงใกล้ฟุตบอลโลก ด้วยกฎเกณฑ์ที่ไม่สมเหตุสมผลของ กสทช. ทำให้ไม่มีเอกชนรายใดไปซื้อลิขสิทธิ์มาฉายในประเทศไทย กสทช. จึงต้องใช้งบชจากกองของ กสทช. จำนวน 600 ล้านบาท อุดหนุนให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ไปดำเนินการ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ จนในที่สุด กกท. ก็ต้องไปเจรจากับเอกชนเพื่อลงขันซื้อลิขสิทธิ์ให้คนไทยได้ดูฟุตบอลโลก

แต่แล้วก็เกิดประเด็นจากกรณีที่ บริษัท True จ่ายเงินสนับสนุนค่าลิขสิทธิ์ 300 ล้านบาท แต่กลับทำข้อตกลงลับ ๆ กับ กกท. นำมาซึ่งปัญหาต่าง ๆ มากมาย

ประการแรก คือ การที่ระหว่างการถ่ายทอด ผู้บรรยายได้ขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกอากาศทุกแมตช์ คำถามคือ พล.อ.ประวิตร ช่วยออกเงินด้วยหรือ? มีส่วนที่ พล.อ.ประวิตร ขายนาฬิกาเพื่อเอามาสมทบเงินค่าซื้อลิขสิทธิ์หรือไม่?

บิ๊กป้อม' เข้ม!! บอกรับได้กับสถานการณ์การเมือง ส่ายหัวปฏิเสธ 'ธรรมนัส' หวนคืน ชี้!! ยังมีคดีอยู่

(25 พ.ย. 65) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองขณะนี้จะรับมือได้หรือไม่ว่า “รับได้ดิ”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ภายหลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศได้มีการพูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมบ้างหรือยัง พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว และเดินฝ่าวงสื่อมวลชนด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

‘บิ๊กป้อม’ เปิดงาน ‘Thailand Smart City Expo 2022’ ดันไทยก้าวสู่ ‘เมืองอัจฉริยะ’ ที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน

พล.อ.ประวิตร เปิดงาน ‘Thailand Smart City Expo 2022’ ดันไทยก้าวสู่ ‘เมืองอัจฉริยะ’ พัฒนาเมืองให้น่าอยู่ เติมเต็มคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริม ศก./ท่องเที่ยว ดึงรายได้เข้าประเทศ

เมื่อ (30 พ.ย. 65) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานพิธีเปิดงาน ‘นิทรรศการไทยแลนด์ เมืองอัจฉริยะ’ ประจำปี พ.ศ. 2565 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมได้กล่าวขอบคุณ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, กระทรวงมหาดไทย, กรุงเทพมหานคร และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน ประชาชน สถาบันการศึกษา และพันธมิตรนานาประเทศ ที่มีส่วนสำคัญในการช่วยให้บรรลุเป้าหมาย นอกจากเมืองจะได้รับการพัฒนาให้น่าอยู่อาศัย และยังช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้าประเทศ ได้อีกด้วย พร้อมอวยพรขอให้การจัดงานครั้งนี้ ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ และประชาชน ต่อไป

‘บิ๊กป้อม’ สั่งเพิ่มพื้นที่แก้มลิงแก้ปัญหาน้ำท่วม กำชับรับมือน้ำท่วมภาคใต้ พร้อมเร่งเยียวยา ปชช.

พล.อ.ประวิตร เร่งฟื้นฟู เยียวยา พื้นที่ภาคอีสาน/ภาคกลาง หลังน้ำลดพร้อมถอดบทเรียน  สั่งระบายน้ำออกจากทุ่งเพิ่มแก้มลิง แก้ปัญหาเร่งด่วนลุ่มเจ้าพระยา ย้ำเฝ้าระวัง พื้นที่เสี่ยงฤดูฝนภาคใต้ทุกแห่ง 

(1 ธ.ค. 65) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 4/2565 ณ ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์

ที่ประชุมได้รับทราบ ผลการดำเนินงานตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2565 ซึ่งภาพรวมมีความคืบหน้าตามแผนงานด้วยดี สามารถแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้เป็นพื้นที่บริเวณกว้าง และขณะนี้ทุกภาคของประเทศไทยได้สิ้นสุดฤดูฝน ยกเว้นภาคใต้ฝั่งตะวันออก ครอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัด (สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, พัทลุง, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส) และรับทราบความก้าวหน้า 10 มาตรการ รองรับฤดูแล้ง ปี2565 /2566 ซึ่งยังคงดำเนินการ อย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ตามแผนงานของ สทนช. รวมถึงรับทราบ สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้และแนวทางการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนบางลาง ปี 2565 เพื่อลดผลกระทบที่มักจะเกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าสู่บ้านเรือนประชาชน และพืชสวนการเกษตร 

‘บิ๊กป้อม’ รุกเข้ม ‘แก้แล้ง-ที่ดินทำกิน’ มุกดาหาร สั่งลุย!! ทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเหลือทั่วถึง

(2 ธ.ค. 65) ณ ศาลากลาง จ.มุกดาหาร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการ ติดตามการบริหารจัดการแก้ปัญหาน้ำแล้ง และรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ จ.มุกดาหาร จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

โดยภาพรวมการบริหารจัดการน้ำ ได้พัฒนาระบบป้องกันน้ำท่วม พัฒนาแหล่งน้ำและระบบระบายน้ำ มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ เกือบ 40,000 ไร่ ครอบคลุม 17,873 ครัวเรือน และในปี 66-67 มีแผนพัฒนาลุ่มน้ำห้วยมุก อ่างเก็บน้ำห้วยเปื่อย และระบบป้องกันน้ำท่วม ตามที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 1,063 ล้านบาท 

‘ลุงป้อม’ ปลื้มแรง!! ชาวมุกดาหารแห่รับคึกคัก หลังลงพื้นที่แก้ ‘น้ำท่วม-ภัยแล้ง’ แบบยั่งยืน

(2 ธ.ค. 65) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.กอนช. พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ไปปฏิบัติราชการ ต่อเนื่องจากช่วงเช้า โดยในช่วงบ่ายได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำ ‘ห้วยบังอี่’ ต.โพธิ์ไทร อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร เพื่อติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้าง โดยกรมชลประทานเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก สำหรับโครงการนี้ หากดำเนินการแล้วเสร็จตามแผนงานในปี 66 จะมีพื้นที่ได้รับประโยชน์ มากถึง 3,000 ไร่ ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายเร่งรัดให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็วในช่วงฤดูแล้ง เพื่อช่วยพร่องระบายน้ำช่วงต้นฤดูฝน และเก็บกักน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตร ประมงและอื่น ๆ ในช่วงฤดูแล้ง และใช้ป้องกันน้ำจากแม่น้ำโขงหนุน และไหลย้อนกลับเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรรม จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้พบปะผู้นำท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ ที่มาให้การต้อนรับ อย่างอบอุ่น และเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พร้อมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ทุ่มเทการปฏิบัติงาน ด้วยดีที่ผ่านมา

ต่อจากนั้น พล.อ.ประวิตร และคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการขุดเจาะน้ำบาดาล และสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ของ อบจ. มุกดาหาร ณ บ้านนาดี ต.ดงมอน อ.เมือง จ.มุกดาหาร  ซึ่งเป็นโครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างเร่งด่วน ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้น้ำเพื่อการเกษตร และการเพาะปลูกพืช ได้ตลอดทั้งปี ทำให้เกษตรกรมีรายได้ในช่วงฤดูแล้ง แม้จะเกิดฝนทิ้งช่วงก็ตาม

'บิ๊กป้อม' ปลื้ม 'วราวุธ' ผู้แทนไทยสร้างภาพลักษณ์โดดเด่น หลังไทยมุ่งมั่นลดก๊าซเรือนกระจก บนเวทีโลก

พล.อ.ประวิตร หนุนตั้ง 'กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฯ' รับมือสถานการณ์โลก พร้อมชื่นชม 'รมว.ทส.' ผู้แทนไทยสร้างภาพลักษณ์โดดเด่น ไทยมุ่งมั่นลดก๊าซเรือนกระจก บนเวทีโลก

(7 ธ.ค. 65) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (กนภ.) ครั้งที่ 4/2565 ณ ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

ที่ประชุมได้รับทราบ สรุปผลการประชุม รัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 27 (COP 27) จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 3-18 พ.ย.65 ณ เมืองชาร์ม เอล เชค อียิปต์ โดยมีประมุขของรัฐและหัวหน้ารัฐบาล รวม 102 ประเทศ ซึ่งประเทศไทย มีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เข้าร่วมกล่าวถ้อยแถลงในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย และได้ยืนยันความพยายามของไทยที่ดำเนินการอย่างเต็มที่ร่วมกับประเทศต่างๆ ตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ เพื่อลดก๊าซเรือนกระจก หรือลดภาวะโลกร้อน และรับทราบการปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการภายใน ก.ทรัพย์ โดยขอเปลี่ยนชื่อ จาก 'กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม' เป็น 'กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพพูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม' และปรับปรุงโครงสร้างภายในให้มีความเหมาะสมต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top