Tuesday, 21 May 2024
ดารา

‘เบลล่า’ เผยสถานะหัวใจ ยังไม่มีใครจับจอง บอก “ตอนนี้เปิดใจ แต่ยังไม่มีใครเข้ามา”


ใช้คำว่า ‘โสด’ มาได้สักพักใหญ่แล้ว สำหรับนางเอกสาว ‘เบลล่า-ราณี แคมเปน’ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีใครมาจับจองหัวใจของเธอบ้าง 

โดยก่อนหน้านี้ สาวเบล ก็ได้อัปเดตหัวใจว่าอยากทุ่มเทเวลาให้กับครอบครัว ตัวเอง และการทำงานก่อน ท่ามกลางกำลังใจมากมายจากครอบครัว คนสนิท คนรอบ และแฟนคลับของเธอที่คอยมาเติมเต็มความรักให้เสมอ

ล่าสุด (19 ก.ค.66) เบลล่า ออกมาอัปเดตหัวใจอีกครั้งในงานอีเวนต์แห่งหนึ่ง ว่าตอนนี้ไม่มีใครเข้ามาเลย เพราะก่อนหน้านี้ถ่ายละคร ทำงานเยอะไม่มีเวลาจริง ๆ แต่ตอนนี้ละครก็ปิดแล้ว ถามว่าพร้อมไหมก็อาจจะ ไม่มีใครมาแนะนำแล้วเพราะเว้นช่วงนานเกินไป เหมือนเขาขี้เกียจจะมาถามแล้ว

ตอนนี้ก็เปิดใจแต่ยังไม่มีใครเข้ามา คนที่จะเข้ามาต้องเป็นยังไงก็คงต้องให้เข้ามาก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยว่ากัน ยังไม่ได้คุยกับใครจริงจังก่อนหน้านี้ ปิดกองปุ๊บเหงาทันทีเลย เหตุผลหลักเลยก่อนหน้านี้เพราะไม่มีเวลา จังหวะเวลาที่ใช่
 

‘เจเจ’ ชมแฟนสาว ‘ต้าเหนิง’ สวยมาก ยัน!! สวยธรรมชาติ ไม่ผ่านมีดหมอ

เป็นคู่รักวัยรุ่นที่ใครๆ ต่างก็อิจฉาสำหรับนักแสดงหนุ่ม ‘เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม’ ที่มีหวานใจที่ทั้งสวยและเก่งอย่างสาว ‘ต้าเหนิง กัญญาวีร์ สองเมือง’ ที่ทางด้านของหนุ่มเจเจนั้นดูเหมือนจะคลั่งรัก มักชมสาวต้าเหนิงออกสื่ออยู่บ่อย ๆ

ซึ่งก่อนหน้านี้สาวต้าเหนิงได้เปิดเผยว่าเจเจนั้นชอบทำผิดเรื่องเดิม ๆ ในเรื่องนี้เจเจก็ได้เผยว่า "ผมรู้สึกว่าพอเราอยู่ด้วยกันนาน ๆ มันจะมีสิ่งที่เราปรับเข้าหากันได้แล้วก็สิ่งที่มันเป็นนิสัยเราแล้วมันจะปรับค่อนข้างยาก ผมว่าสิ่งเหล่านั้นมันทำให้ผมผิดพลาดเรื่องเดิม ๆ แต่ตัวเราเองก็พยายามทำให้มันดีที่สุดแหละ แต่ผมว่าพี่ก็รู้ว่ามันไม่มีใครเพอร์เฟกต์อะเนอะเราก็ค่อย ๆ พยายามปรับไป ในเรื่องที่เราทำผิดก็ยังมีเฉี่ยว ๆ อยู่บ้าง เรื่องสะสมผมไม่แน่ใจนะครับแต่เรื่องการปรับตัว เราก็พยายามปรับเข้าหากันเรื่อย ๆ อยู่แล้ว เรื่องอักษรย่ออะไรแบบนี้มันไม่มีครับถ้ามีผมจะบอกพี่ๆ เองละกัน"

และเมื่อถามถึงเรื่องความสวยของแฟนสาวต้าเหนิง เจเจได้ตอบเรื่องนี้ว่า “ดีใจแล้วก็ขอบคุณทุกคนที่ชมว่าต้าเหนิงสวย ผมว่าเขาก็คงงงๆ ว่าได้ฉายาสวยเกินคนได้ยังไง เพราะว่าตัวเขาเองก็ไม่ได้มองว่าตัวเองสวยขนาดนั้น แต่เขาก็สวยครับสวยอยู่แล้ว ในเรื่องของฉายาผมไม่ขอพูดดีกว่าให้คนอื่นเขาพูดถ้าผมพูดเองมันจากลายเป็นว่าผมอวยเขา ก็ถ้าพี่ถามผมก็ต้องตอบว่าสวยเพราะถ้าบอกว่าไม่สวยผมก็จะโดน เวลาเราไปเกาหลีเขาก็จะไปคุยเรื่องงาน ไปหาเพื่อนๆ มากกว่าครับ เรื่องทำหน้าเขาไม่ได้ทำครับ เรื่องจิ้มผมไม่แน่ใจ แต่อาจจะเหมือนทุกคนแหละครับก็มีทรีตเมนต์บ้างไปหาหมอหน้าบ้างเพราะเราก็ต้องใช้หน้าในการทำงาน ในส่วนของผมยังไม่ได้ทำหน้า กลัวเจ็บ ฉีดฟิลเลอร์ยังไม่เคยแต่โบท็อกซ์ก็มีบ้าง ถ้ามีโอกาสได้ทำก็คงต้องคิดดูก่อน”

นอกจากนี้ หนุ่มเจเจยังเล่าว่าตนนั้นเพิ่งไปไหว้พระที่ฮองกงมาโดยเผยว่า "เพิ่งจะไปทำงานที่ฮองกง ไป 2 วัน 1 คืน ไปทำงานอย่างเดียวไม่ได้ไปเที่ยว ก็มีช่วงว่างอยู่นิดนึงก็เลยไปไหว้พระมาครับ มีโอกาสก็เลยขอมูนิดนึงเพราะไม่ได้ไปฮองกงนานแล้วตั้งแต่ก่อนโควิด"

‘ดีเจเพชรจ้า’ เปิดใจเล่าชีวิตหลัง ‘โสด’ พร้อมเผยความในใจต่อ ‘นิวเคลียร์ - น้องไทก้า’

ตั้งแต่ขึ้นสถานะโสด ก็เข้าสู้โหมดหนุ่มฮอตทันที สำหรับ ‘ดีเจเพชรจ้า’ เมื่อได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ ‘Club Friday Show’ ผลิตโดย ‘CHANGE2561’ ดีเจเพชรจ้า ได้มาเปิดเรื่องราวในชีวิตและเผยความรักแบบทุกซอกทุกมุม

>>แต่ถึงวันที่ นิวเคลียร์ ถึงขั้นโพสต์ในโซเชียลว่า อย่าให้ถึงวันที่ไม่รู้สึก มันคืออะไร ??
ดีเจเพชรจ้า : ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน 

>>ถามตรงๆ เราไม่ค่อยได้คุยกัน 
ดีเจเพชรจ้า : ผมก็คิดว่า น่าจะเป็นที่ผมแหละ!! ผมก็มานั่งคิดว่าผมก็เป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดที่ผมจะมีปัญญาเป็นแล้วอีกนิดนึงก็พระแล้ว ก็ยื้อลองแก้กันดูเราซ่อมอยู่ ซ่อมมั่วไปหมดเพราะเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราทำอะไรผิด

>>จะมีวันหนึ่งที่น้องบอกว่าจะเลิก ??
ดีเจเพชรจ้า :  ใช่ครับ เขาบอกว่าพอเถอะพี่เราซ่อมกันมาเป็นพันครั้งแล้ว

>>เคยคิดไหมว่าชีวิตจะเดินมาถึงจุดนี้ในวันหนึ่ง ??
ดีเจเพชรจ้า : ไม่เคยเลยครับ ผมเคยให้คำจำกัดความเลยนะว่า ผู้หญิงคนนี้เหมือนกับผมถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ผู้หญิงคนนี้แม่พระมากเลยแบบแสนดีหาที่ไหนไม่ได้แล้ว

>>ซึ่งตอนที่มานั่งคุยกันตอนนั้นก็ไม่ได้มีสัญญาณแห่งการที่เราเดินไปข้างหน้าไม่ไหว ??? 
ดีเจเพชรจ้า : มีความสุขทุกวันกราฟของผมพุ่งทะยานขึ้นไปเรื่อย ๆ แล้วก็เป็นพลุแตกระเบิดตรงนั้นเลย

>>ช่วงเวลา ดีเจเพชรจ้า หัวใจแตกสลายเป็นอย่างไร ?? 
ดีเจเพชรจ้า : ใจแตกสลาย ไม่มีเวลานอนหลับเลยผมมันคิดแต่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราทำอะไรผิด เราเหมือนมีความโกรธเราเหมือนแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้เลย เราไม่อยากคุยกับเขาเราก็เหมือนกับเป็นธาตุอากาศอยู่ในบ้านก็ผ่านไปสัก 1-2 ปี

>>อยู่บ้านเดียวกันโดยไม่คุยกันเลย ?? 
ดีเจเพชรจ้า : ใช่ครับ!! แรก ๆ ผมหนักกว่านั้นอีก เป็นช่วงที่ผมเป็นตัวของตัวเองที่สุดเลยเลวยังไงก็เลวอย่างนั้น

>>เรามีความร้ายอารมณ์แรง ???
ดีเจเพชรจ้า : ทุ่มทีวี !!! 

>>เห็นว่าในชีวิตช่วงหนึ่งเคยส่องกระจกแล้วงง !! ตัวเองว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร 
ดีเจเพชรจ้า : ใช่ครับ ชีวิตผมตั้งแต่เกิดจนบัดนี้ไม่เคยมีวันไหนที่เครียดไม่มีเรื่องไหนในโลกที่ทำให้ผมเครียดได้ แต่ตอนนั้น คือ ผมไปไม่ถูกแล้วนอนก็นอนไม่หลับสุดท้ายผมมาจบที่นอนฟังธรรมะครับ ผมนอนฟังธรรมะอยู่เป็นปี ทุกอย่างการคิด การไม่ยึดติด การหลุดพ้น การไม่มีอะไรเป็นของตัวเรา 

>>แล้วตอนนี้สถานะโสดชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง
ดีเจเพชรจ้า : ตอนนี้ชีวิตของผมคือ มัน !! มากเลย ชีวิตของผมคือ สุดเหวี่ยง

>>เรากลับมาเป็นนักล่าแต้มเหมือนเดิมหรือยัง ?? 
ดีเจเพชรจ้า : วันนี้ผมย้อนกลับไปเป็นเด็กมหาวิทยาลัยที่มีทุกอย่าง มีเงิน มีรถ มีบ้าน

>>เรามองหาความรักอยู่ไหม ?? 
ดีเจเพชรจ้า : ไม่มองครับ

>>แล้วความสัมพันธ์ระหว่าง เรากับน้องนิวเคลียร์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง 
ดีเจเพชรจ้า : แฮปปี้มาก !! ก็เรื่องที่ยังไม่เคยได้บอกก็คือ … 

>>มีอะไรอยากพูดถึงลูกชายบ้าง ?? 
ดีเจเพชรจ้า : อยากจะฝากถึงลูกไทก้า ว่ายังไงก็ อย่าให้คำต่าง ๆ ในอนาคตที่จะมีคนมาถาม มาเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตของไทก้าแล้วกัน เพราะว่าพ่อรักหนูที่สุด และแม่ก็รักหนูที่สุด และเราก็ทำกันเต็มที่มาก ๆ พ่อกับแม่จะสร้างความรักที่สมบูรณ์แบบให้ลูกได้ โดยที่ไม่ขาดตกบกพร่องแน่นอน

เปิดหมดทุกช่วงเวลาชีวิต ‘ดีเจเพชรจ้า’ ในสถานะชีวิตโสด พร้อมเปิดทุกมุมเรื่องความสัมพันธ์กับ ‘นิวเคลียร์’ ในรายการ Club Friday Show รับชมพร้อมกันวัน เสาร์ ที่ 22 กรกฎาคม นี้ เวลา 11.00 น. ทางช่องวัน31

‘นิโคล’ ไม่หวงหาก ‘ทิกเกอร์’ มีแฟน ชี้ เป็นเรื่องปกติของวัยรุ่น รับอาจจะเหงาบ้าง เพราะมีกันอยู่แค่สองคน แต่เข้าใจลูกดี

(23 ก.ค. 66) เรียกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ สำหรับหนุ่ม ‘ทิกเกอร์ อชิระ เทริโอ’ ทายาทนักร้องดังยุค 90 ‘นิโคล เทริโอ’ และ ‘แมว จิรศักดิ์ ปานพุ่ม’ ที่นอกจากจะเป็นนักร้องมากความสามารถแล้ว ความหล่อยังขึ้นแท่นลูกรักพระเจ้าด้วย

งานนี้มีโอกาสได้เจอ ‘ทิกเกอร์’ พร้อมคุณแม่ ‘นิโคล’ ก็ขอจิ้มไมค์ถามเลยว่า หล่อและเก่งรอบด้านขนาดนี้คุณแม่หวงไหม งานนี้นิโคล ตอบทันทีเลยว่า…

“หวงไหมเหรอ ไม่หวงค่ะ (หัวเราะ) แต่มีความเป็นห่วงทั่วไป เขาโตแล้ว ถ้าวันนึงเขามีแฟนแล้วไม่มีเวลาให้ เราว่ามันเป็นปกตินะคะ ไม่ว่าจะมีแฟน หรือไม่มีแฟน หรือทำงาน หรือการที่เราจะใช้เวลาที่ห่างออกจากกัน มันเป็นธรรมชาติค่ะ ก็ต้องเหงาอยู่แล้วค่ะในฐานะที่เราเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หมายถึงว่ามีกันสองคน แต่ถ้าเรารู้ว่าลูกรักเรา ลูกไปทำงานนะ ก็โอเคค่ะ แต่มันก็ต้องมีอารมณ์เหงาอยู่แล้ว นี่ขนาดอยู่ด้วยกันยังคิดถึงเลย”

ด้านทิกเกอร์ เผยว่า “ถามว่าแม่ชอบผู้หญิงแบบไหน จริงๆ ก็น่าจะเป็นคนที่คบกันแล้วส่งเสริมกัน ไปด้วยกันได้ คุณแม่ไม่น่าจะคิดอะไรลึกขนาดนั้น แต่ถ้าผมคบกับใครแล้วดี แม่ก็น่าจะโอเค คือส่งเสริมกัน”

เมื่อถามถึงเรื่องทิกเกอร์ ถูกจับจิ้น กับ ‘อ๊ะอาย’ คุณแม่ก็หัวเราะ พร้อมบอกว่า “กับน้องอ๊ะอายเหรอคะ อ๊ะอายน่ารักค่ะ ทิกเกอร์ว่าไง หม่ามี๊ก็ว่างั้น เขาเป็นเพื่อนกันค่ะ แต่อ๊ะอายน่ารักนะคะ เจอกันบ่อยเลยค่ะ เจอกันในงานนะคะ”

ถามว่าทิกเกอร์รู้สึกยังไงที่ถูกจับจิ้น เจ้าตัวเผยว่า “ผมอธิบายความรู้สึกไม่ได้ครับ แต่ขอบคุณที่ติดตามงาน และเห็นถึงความตั้งใจของผมกับอ๊ะอาย เพราะเราตั้งใจในการทำงานมากๆ ขอบคุณที่ทุกคนติดตามกันและเห็นถึงความตั้งใจครับ”

นอกจากนี้ นิโคลยังเผยว่า “ก็ขอบคุณมากๆ นะคะที่ให้การต้อนรับและรักทิกเกอร์ ก็ในฐานะที่เป็นแม่นะคะ ก็ไม่มีอะไรที่จะดีใจและภูมิใจมากไปกว่านี้แล้วค่ะ การที่เราได้เห็นลูกเราได้ก้าวมาทำงานในสิ่งที่เขารัก และได้การยอมรับ อันนี้คือที่สุดแล้วค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ก็ยินดีกับลูกมากๆ ค่ะ”

‘รถเมล์ คะนึงนิจ’ อวดลุคใหม่สุดเซ็กซี่ สวมเดรสยาว - โชว์แผ่นหลังขาวเนียน

เชื่อว่าหลายท่านก็คงจะรู้จักเธอคนนี้กันเป็นอย่างดี สำหรับนางเอกและพิธีกรสาวมากฝีมือ ‘รถเมล์ คะนึงนิจ’ ที่ในปัจจุบันขึ้นแท่นคุณแม่ลูกหนึ่งเต็มตัวแล้ว แต่ออร่าความสวยก็ไม่ได้แผ่วลงเลย

ล่าสุดเธอก็ได้ออกมาอัปเดตภาพตัวเองในลุคใหม่สุดเซ็กซี่ ชุดเดรสโนบรา โชว์หลังอันขาวเนียน บอกเลยว่าช็อตนี้ สวยออร่ากระจาย ให้ 11 เต็ม 10 ไปเลยจ้า

หนุ่มอารมณ์ดี ‘แน็ก ชาลี’ สลัดลุคหนุ่มมาดเซอร์ แปลงโฉมเป็นบาร์บี้ หวานเจี๊ยบจนแฟนคลับต้องขยี้ตา!!

(28 ก.ค. 66) พูดได้เลยว่าตายหลุด ตาแตกมากๆสำหรับหนุ่ม ‘แน็ก ชาลี’ ไม่เคยหยุดทำให้แฟนๆ ฮือฮาทุกการเคลื่อนไหวของเขา ล่าสุดขอพลิกลุคเป็นสาวสวย หวานเจี๊ยบทรงบาร์บี้ ชนิดที่ว่าต้องขยี้ตา ว่าใช่ ‘แน็ก ชาลี’ ตัวจริงหรือไม่ เรียกว่าสวยหวานทุกมุม ตั้งแต่หัวจรดเท้าในงานถ่ายโฆษาชิ้นใหม่ จนแฟนๆ ถึงกับต้องยอมให้กับลุคนี้ อีกทั้งยังแคปชันภาพว่า “อย่าพยายามกันเลยนะ พวกเธอไม่เหมือนหรอก” สวยขนาดนี้ขออนุญาตยอมแพ้ค่ะคุณ

หรือว่าช่วงนี้ร้อนเงินจนต้องหาค่าทรายแมวหรอกนะเนี่ย ถึงได้เห็นลุคแบบนี้ของหนุ่มแน็ก แฟนๆ เตรียมลุ้นลุคใหม่ของเขาคนนี้ได้เลย

‘โบว์ เบญจวรรณ’ เปิดใจ ผิดหวังกับความรักบ่อยครั้ง หนักสุด!! เจอผู้หญิงอื่นนอนในห้องพักของแฟน

หลังจากเป็นโสด ล่าสุดนักแสดงสาว ‘โบว์ เบญจวรรณ’ ก็มาเปิดใจในรายการ ‘โดนเทเซมาที่แพท’ ทางช่องยูทูบอมรินทร์ทีวี ย้อนเล่าถึงเรื่องราวความรักที่เคยผ่านมา โดยรักแรกของเธอเกิดขึ้นเมื่อตอนอายุ 17-18 ปี ตอนอยู่ที่เยอรมัน ซึ่งจบกันไม่ดีสาเหตุมาจากการนอกใจ โบว์เล่าว่า

“ไปเจอผู้หญิงที่เตียงของแฟน วันนั้นเราอยากไปกินอาหารเช้ากับเขา เวลาที่เราคบใครเราเลือกที่จะเชื่อใจ ซึ่งประหลาดตัวเองมากเพราะไม่ใช่ธรรมชาติของเรา ก็เปิดประตูเข้าไปก็เจอเลย แล้วเขาก็หันมาบอกเราว่า มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ ที่ปังกว่านั้นผู้หญิงก็ตื่น หันมามองเรา ยิ้มให้ แล้วก็นอนต่อ และด้วยเป็นความรักครั้งแรก เราไม่รู้ต้องทำตัวยังไง เราก็บอกเขาว่า แขกคุณกลับเราค่อยคุยกันนะ จากนั้นก็ขับรถออกไป”

ความรักครั้งถัดมา โบว์เล่าว่าย้ายมาอยู่ไทย มีรุ่นพี่แนะนำให้รู้จักคนหนึ่ง เจอกันที่โมเดลลิ่งแคสติ้ง กับคนนี้เป็นข่าว คุยกันเกือบปีกว่าจะเป็นแฟนตอนนั้นตั้งใจจะอยู่ไทยแค่ปีเดียว ก็มีเขาคอยเป็นเพื่อนพาไปไหน ไม่มีสถานะ จนคบกันเกือบ 4 ปี ส่วนสาเหตุที่ต้องจบความสัมพันธ์โบว์เผยว่า ไม่ได้จับได้แต่คนพูดเยอะ

“เราก็เอาไปถามเขา แต่เขาบอกว่า ไม่มี เราก็เชื่อ ประเด็นคือ เขาพาผู้หญิงอื่นมาเจอกลุ่มเพื่อนเขาในช่วงที่เราไปทำงาน ถ่ายละครต่างจังหวัด เขาก็พามาแนะนำในกลุ่มเพื่อน ๆ เขา แล้วเพื่อน ๆ เขาก็พยายามส่งสัญญาณ แต่เราโลกสวยมาก ไม่รู้ พูดมาตรง ๆ อย่าอ้อมค้อม กระทั่งมีรุ่นพี่คนหนึ่งที่ไม่รู้จักก็ให้ข้อมูล”

“เราก็ลองถามอีกครั้ง ก็ให้โอกาสเขา ก็โยนหินถามไป ถ้าพูดความจริงเราจะพยายามไปต่อ แต่ถ้าโกหกจะเลิกเลย เขาก็ยอมรับมาหมดเลย เราก็ยอมเริ่มใหม่ แต่สุดท้ายก็จบแบบเดิม เราอาจจะไม่ตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์เราอาจไม่เข้ากัน หรือเราอาจไม่ใช่ความสุขของเขาแล้วก็ได้ เขาอาจจะสนุกกับเรื่องอื่นมากกว่า ก็ต้องปล่อยเขาไป”

คนที่ 3 โบว์บอกว่า คบ 2 ปีกว่า ๆ รุ่นพี่แนะนำ เป็นเพื่อนแต่พอคุยไปคุยมาก็แตกต่างกว่าคนแรกและคนที่สอง คนที่สามดีหมดทุกอย่างแต่สุดท้ายก็ต้องจบ โบว์ ยอมรับว่า โชคดีที่เป็นช่วงหนึ่งที่ได้เจอเขา ครอบครัวเขาน่ารักมาก ถึงขั้นวางแผนแต่งงานแต่ด้วยอาชีพและยังอยากทำงาน ไลฟ์สไตล์เลยไม่ตรงกัน

“เราอาจจะมีเป้าหมาย สิ่งที่เราจะไปถึง ระหว่างทางเอ็นจอยมันไป อะไรจะเกิดขึ้นก็ยอมรับมันไป บางอย่างเราไม่สามารถไปควบคุมหรือจัดการมันได้ ความรักมันคือ ความพยายามปรับจูนเข้าหากัน เวลารักกันก็พยายามประคองให้มันดีตลอดเวลา เรารักพ่อแม่เรายังต้องพยายามเข้าใจเขาเลย นับประสาอะไรกับคนที่ต่างพ่อแม่มาจะไม่ต้องทำอะไร โฟลว์มาก ถ้าเป็นอย่างนั้นได้โคตรดี ถือว่าเป็นโบนัส”

‘มิว นิษฐา’ แจ้งข่าวดีกำลังตั้งท้องลูกคนที่ 2 พร้อมโชว์ภาพน่ารัก ‘น้องมาริน’ เดินจุ๊บท้อง

(31 ส.ค. 66) ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวดีที่ทำให้หลายคนอดอมยิ้มและดีใจตาม สำหรับสาว ‘มิว นิษฐา คูหาเปรมกิจ’ ที่ล่าสุดเจ้าตัวออกมาประกาศข่าวดีว่ากำลังตั้งท้องลูกคนที่ 2 แล้ว

โดย ‘มิว นิษฐา’ ได้โพสต์คลิปลูกสาว ‘น้องมาริน’ เดินไปจุ๊บท้องน้อย ๆ พร้อมแคปชันอิโมจิภาพครอบครัวพ่อแม่ลูกแล้วเครื่องหมายบวกเด็กน้อยเพิ่มอีกคน

งานนี้ก็มีเหล่าบรรดาเพื่อน ๆ ในวงการบันเทิงและแฟนคลับแห่เข้ามาร่วมแสดงความยินดีกับว่าที่คุณแม่ลูกสองกันเป็นจำนวนมาก

‘แต้ว ณฐพร’ เปิดใจ!! กำลังฝึกใช้ชีวิตแบบ ‘คนชิล’ เผย!! ที่ผ่านมาจริงจังกับทุกเรื่องจนกดดันตัวเอง

นางเอกสาว แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ เปิดใจในรายการ WOODY FM อัปเดตชีวิตการเป็นนางเอกที่ต้องเป็นเพอร์เฟ็กชันนิสต์ จนกลายเป็นคนที่จริงจังกับทุกเรื่อง และเรื่องความรัก 3 ปี มีแพลนแต่งงานหรือไม่? พร้อมเผยคิดอยากมีทายาทเป็นลูกชาย

>> พี่เห็นคุณในหลากหลายเวอร์ชันมาก รู้สึกว่าแต้วชอบหาอะไรก็ตามที่จะได้พัฒนาตัวเอง ถ้าตัดเรื่องการแสดงออกไปตอนนี้จริงจังเรื่องอะไร?

แต้ว : อินมาก ๆ ก็เรื่องออกกำลังกายค่ะ เมื่อก่อนก็ออกเรื่อย ๆ แต่ตอนนี้ก็จะเซ็ตเป้าหมายไว้นิดหนึ่งว่าเราอยากปั้นก้น (หัวเราะ) แล้วก็กำลังจริงจังกับการที่จะไม่เป็นคนจริงจัง รู้สึกว่าทุกอย่างมันไม่ต้องจริงจังไปซะทุกเรื่องก็ได้ แบบใช้ชีวิตมาตลอดเป็นคนชิลล์ไม่เป็นเท่าไหร่ ก็เลยอยากจะสัมผัสตัวเองในเวอร์ชันนั้นบ้าง

>>เวลาเรามองแต้วด้วยบทบาทของการเป็นนางเอก แล้วบางทีคนก็ยังตีกรอบ รู้สึกยังไงกับเรื่องนี้บ้าง ?

แต้ว : เอาจริง ๆ ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกอะไรอย่างงั้นเลย แต่เพราะว่าความคิดที่ทำให้แต้วรู้สึกว่ามันยังเป็นอุปสรรค คือมันเป็นชุดความคิดที่รู้สึกว่าเราต้องดีในทุก ๆ อย่าง แล้วมันเหมือนมีความแอบกดดันตัวเองอยู่ ก็เลยน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกอยากเป็นเพอร์เฟ็กชันนิสต์ด้วยเหมือนกันประมาณหนึ่ง แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นทางออกแต้วก็คือเวลาที่เป็นไลฟ์สไตล์ของแต้วเองก็เลยทำให้รู้สึกว่าอยากตามใจตัวเอง อยากแต่งตัวแบบนี้ อยากทำอะไร เป็นทางออกที่อยากจะโชว์ว่านางเอกก็ทำได้นะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นปัญหากับเรามาก ก็แค่เรียนรู้ไปตามแต่ละช่วงเวลา

>> รู้จักกับ ประณัย มากี่ปีแล้ว?

แต้ว : 3 ปีค่ะ

>> 3 ปีที่ผ่านมาได้เรียนรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับความสัมพันธ์?

แต้ว : คิดว่าพอเข้าปีที่ 3 จะมีช่วงที่เหมือนเรากันเรียนรู้กันอยู่ ตั้งความหวังว่าเราอยากทำความเข้าใจเขา เพราะว่าเราไม่ได้เหมือนกันทุกอย่าง พยายามวิเคราะห์หรือว่าต้องอย่างงั้นอย่างงี้ แล้วบางทีเราก็เป็นทุกข์เอง ซึ่งแต้วก็เลยคิดว่าบางอย่างอาจจะเป็นสเตจที่ปล่อยให้เราได้เรียนรู้ธรรมชาติของกันและกัน โดยที่บางทีไม่ต้องไปพยายามทำความเข้าใจวิเคราะห์อะไรมากมาย ให้เขาเป็นธรรมชาติของเขาและให้เขาเห็นธรรมชาติของเรา ในช่วงแรก ๆ มันอาจจะมีแต่ด้านดี ๆ เห็นแต่ด้านดี ๆ กันหมด พอระยะเวลาผ่านไปก็เป็นปกติที่มันจะเห็นในหลาย ๆ ด้าน

>> เรื่องของการแต่งงานคุยกันบ้างหรือยัง?

แต้ว : ยังไม่ได้คุยกันจริงจังค่ะ

>> คุณพร้อมไหม ?

แต้ว : ก็น่าจะดีนะ หมายถึงว่าถ้าเราแบบ..

>> ถ้าเขาขอคุณวันนี้ คุณจะตอบตกลงไหม ?

แต้ว : อุ๊ย! ไม่ดีมั้งเดี๋ยวแม่ตี (หัวเราะ)

>> แต้วอยากมีลูกไหม ?

แต้ว : อยากค่ะ รู้สึกว่าเรา Respect กับคนเป็นแม่มาก รู้สึกว่ามันเป็นความเสียสละที่เราคิดว่าอยากจะสัมผัสตรงนั้น นั่นคือจุดที่รู้สึกว่าอยากเห็นตัวเองเป็นแบบนั้น กรูมมิ่งคนหนึ่งให้เขาเข้าใจโลกได้ดีกว่าที่เราเจอมา

>> อยากได้ลูกสาวหรือลูกชาย ?
แต้ว : ถ้าอยากได้ก็คงลูกชายมั้ง เพราะรู้สึกว่าห่วงผู้หญิง แต่ก็ไม่มายด์ ยังไงก็ได้ค่ะ

‘ช่อง 8’ ผุดโปรเจกต์รายการเรียลลิตี้ ‘นางร้าย Thailand’ ปั้นนางร้ายหน้าใหม่สู่วงการบันเทิง ชิงเงินรางวัล 5 แสนบาท

(13 ก.ย. 66) เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับโปรเจกต์ ‘นางร้าย Thailand (Devil Angel Thailand)’ รายการเรียลลิตี้แรกในประเทศไทยที่มีการประกวดนางร้าย พร้อมค้นหาสุดยอดนางร้ายคนแรกของประเทศ เพื่อชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท ภายใต้แนวคิดของผู้บริหารหญิงแกร่ง คุณนงลักษณ์ งามโรจน์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 พร้อมดึงตัวพ่อพิธีกรมากความสามารถ อั๋น ภูวนาท คุนผลิน กับ เหล่า 3 Queen Master ตัวแม่นางร้าย เบนซ์ ปุณยาพร พูลพิพัฒน์, โม อมีนา พินิจ และ แก้มบุ๋ม ปรียาดา สิทธาไชย เสริมความเข้มข้นขึ้นด้วยนักแสดงมากฝีมือ พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ และผู้กำกับคนดัง มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล มาเป็นคณะกรรมการรอบตัดสิน ร่วมพิสูจน์ว่าใครจะสามารถสร้างพลังอินเนอร์ของนางร้าย เพื่อประดับวงการบันเทิงของไทย ต่อยอดเล่นละคร ซีรีส์สู่ระดับสายตาในอีกหลายประเทศ

คุณนงลักษณ์ งามโรจน์ กล่าวว่า “ช่อง 8 ภายใต้บริษัท RS Group ได้ต่อยอดแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ Unlock Value โดยปรับแผนตามความแข็งแรงของคอนเทนต์ทางการเติบโตของโซเชียลมีเดีย และความชำนาญของบุคลากร อาทิ ละคร, ซีรีส์, รายการมวย, รายการบันเทิงและวาไรตี้ โดยมีเป้าหมายรายได้ที่คาดหวังรวม 1,600 ล้านในปีนี้ และต่อยอดเป็น Annual Content และ Event ในปีต่อๆ ไป โดยนางร้าย Thailand (Devil Angel Thailand) เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่ทางช่อง 8 มุ่งหวังจะสร้างรายได้ให้เติบโต ปีนี้เป็นจังหวะที่เหมาะสมในการพัฒนาโปรเจกต์ การที่จะปั้นนางร้าย ไม่เคยมีที่ไหนทำมาก่อน ถือเป็นการเปิดโอกาสให้นางร้ายได้มีจุดโดดเด่นกว่าที่เคยเป็นมา สังเกตได้ว่าการรับชมละครหรือภาพยนตร์ จะขาดนางร้ายไม่ได้เลย ซึ่งนางร้ายก็มีคุณค่าไม่น้อยไปกว่านางเอก เพียงแต่ไม่มีใครกล้าจัดการประกวดและเปิดโอกาสให้นางร้ายเท่านั้นเอง”

“ในส่วนของรายการ น่าจะถูกใจผู้ชมทางด้านโซเชียลที่ชื่นชอบความเรียล และเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเหล่านางร้ายอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่มีกรอบจำกัด ทั้งทักษะการแสดง การสื่ออารมณ์ การใช้ภาษากาย และการโชว์ความเซ็กซี่ของนางร้ายผ่านมิชชั่นที่เข้มข้น และท้ายที่สุดเราจะปั้นให้เกิดนางร้ายไทยแลนด์คนใหม่ของวงการบันเทิง และอีกหนึ่งความพิเศษทางช่อง 8 ได้เปิดโอกาสให้กับทุกคนที่มีความหลากหลายทางเพศได้ยื่นใบสมัคร เรามั่นใจว่าผู้ชมจะให้การตอบรับแน่นอน เพราะประเทศไทย ถือว่าเป็นประเทศที่เปิดรับความหลากหลายทางเพศในทุกระดับต้นๆ ของโลก จึงไม่แปลกที่ช่อง 8 จะสนับสนุนเรื่องความเท่าเทียม”

Queen Master เบนซ์ ปุณยาพร กล่าวว่า “ในความเป็นมืออาชีพจากประสบการณ์ 20 กว่าปี ที่เคยเป็นทั้งนางเอก และนางร้าย ถือเป็นประสบการณ์ที่เบนซ์สะสมมานานและนานกว่าคนอื่นๆ ทำให้เบนซ์เชื่อว่าตัวเองมีศักยภาพมากพอที่เป็นตัวท็อป Queen Master ที่ทีมอื่นจะสู้ไม่ได้ อย่าลืมว่าเบนซ์มีประสบการณ์ทั้ง 2 ด้าน แสดงว่าประสบการณ์การเป็นควีนเหนือคนอื่น 2 เท่า ที่จะมาสอนแก่นแท้การแสดงให้น้องๆ เบนซ์สามารถนำเทคนิคอินเนอร์ของนางเอก และเทคนิคที่นางร้ายจะต้องมี มาเป็นซูเปอร์นางร้ายไทยแลนด์ให้เข้มข้นกว่า Queen master อีก 2 คน เพื่อศักดิ์ศรี และน้องในทีม เบนซ์จะต้องเป็นผู้ชนะในรายการนี้เท่านั้น หากมาสอนแค่ผิวเผิน ถ้าไม่เด่นจริงก็ต้องออกจากรายการนี้ไป”

Queen Master โม อมีนา กล่าวว่า “ตอนแรกไม่มั่นใจ แต่ก็มานั่งคิดว่า เล่นละครมา 21 ปี ได้รับบทร้ายมาตลอด นี่แหละเข้ากับเราที่สุด คือโอกาสสำคัญที่เราจะได้ปั้นคนจากประสบการณ์ตรงของเรา ความเข้มข้นของรายการจะอยู่ที่การฟาดฟัน งัดกลยุทธ์ ปกปิดกลเม็ดออกมาแข่งกัน ทุกอย่างคือเกมที่เราจะต้องแข่งขันกัน รายการนี้เรียลมากๆ ไม่มีรู้เขารู้เรานะ เราก็ไม่รู้ว่าฝั่งตรงข้ามจะเล่น และพลิกเกมอะไร เพราะฉะนั้นแต่ละทีมก็จะมีเกณฑ์มาตรฐานของตัวเอง สิ่งที่เราเน้นและโดดเด่นก็คือ ทีมโมร้ายตั้งแต่อินเนอร์ ส่งพลังจากดวงตา อยากเล่นร้ายแต่ตาเป็นนางเอกก็ไม่ได้ เราเน้นร้ายแบบธรรมชาติ อย่าร้ายแบบประดิษฐ์ เพราะเมื่อไหร่ที่เราร้ายแบบประดิษฐ์ไปเล่นละครเวทีได้เลย”

Queen Master แก้มบุ๋ม ปรียาดา กล่าวว่า “สำหรับการมาเป็น Queen Master เราจริงจังมาก ทุ่มเทมากไปเรียนการแสดงเพิ่มเอง เพราะประสบการณ์เรา ถ้าเราหยิบเอาตรงนั้นมาสอน บางคนอาจจะไม่เข้าใจ ประสบการณ์กับการบอกเล่ามันต่างกัน อย่างเราเองมองว่า เป็นนางร้ายที่มีคาแรคเตอร์ คนสามารถจดจำในตัวของเราได้ การเลือกเด็กเข้ามาในทีม เราจะมองหาคนที่มีความพยายามหรือเป็นน้ำที่ไม่เต็มแก้ว สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ การเป็นตัวเองสำคัญที่สุด เพราะจะสร้างการจดจำได้ดีที่สุด และไม่เหมือนใคร เพราะหากเราไปเหมือนคนอื่นมาก เราจะดูไม่น่าจดจำ ถือว่าเวทีนี้ได้เปิดโอกาสแบบไม่จำกัดจะต้องเป็นหญิงแท้เท่านั้น เพราะ LGBTQ+ ก็สามารถประกวดได้ ดีใจที่รายการเปิดโอกาสให้กับคนมากมาย ได้มาทำตามความฝัน”

คุณนงลักษณ์ งามโรจน์ กล่าวปิดท้าย “การแข่งขันพร้อมความสนุกในรายการ นางร้าย Thailand (Devil Angel Thailand) จะเริ่มต้นคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันจากใบสมัคร 500 กว่าคน ผ่านการคัดเลือก 150 คนให้เหลือ 30 คน เพื่อที่จะไปคัดเลือกในรอบ 20 คน จากนั้น Queen Master ทั้ง 3 เป็นผู้คัดเลือกเด็กเข้าทีมละ 4 คน โดย Queen Master เบนซ์ จะยกหน้ากากสีแดง Queen Master โม จะยกหน้ากากสีดำ และ Queen Master แก้มบุ๋ม จะยกหน้ากากสีทอง ซึ่งแต่ละคนจะมีโอกาสเลือกผู้เข้าแข่งขันเข้าสู่ทีมตัวเองได้ทีมละ 4 คนเท่านั้น หากว่าควีนมาสเตอร์ ยกหน้ากากมากกว่า 1 ท่าน สิทธิ์ในการเลือกจะไปอยู่ที่ผู้เข้าแข่งขันทันที”

“และผู้เข้าแข่งขันจะเดินไปหยิบหน้ากากสีประจำตัวของควีนมาสเตอร์ที่ตัวเองอยากอยู่ด้วย แต่เพื่อให้การคัดเลือกเข้มข้นขึ้นไปอีก ควีนทั้ง 3 ท่านของเราจะได้สิทธิ์ในการขอเปลี่ยนลูกทีมได้ 1 ครั้ง โดยตัดใจนําลูกทีมที่เลือกไว้แล้ว มาแลกกันได้ และหลังจากนั้นจะเข้าสู่การแข่งขันแบบเต็มรูปแบบ จากการผ่านภารกิจสุดเข้มข้น และผู้ชนะในรายการ นางร้าย Thailand (Devil Angel Thailand) จะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 พร้อมทั้งเป็นนักแสดงในสังกัดของทางช่องทันที”

รายการนางร้าย Thailand (Devil Angel Thailand) มีจำนวนทั้งหมด 12 อีพี เริ่มออกอากาศตอนแรกวันศุกร์ที่ 15 กันยายน 2566 เวลา 22.15 น. เป็นต้นไป และจะออกอากาศทุกวันศุกร์ โดยรอบ Final ถ่ายทอดสดจะจัดขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 สุดท้ายใครจะได้เป็น 1 เดียว นางร้ายไทยแลนด์ คนแรกของประเทศไทย พร้อมชิงเงินรางวัลมูลค่ากว่า 5 แสนบาท ติดตามได้ทางช่อง 8 กดเลข 27 และสามารถรับชมผ่านเพจเฟซบุ๊ก นางร้ายไทยแลนด์ https://www.facebook.com/devilangelthailand และทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ของช่อง 8


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top