เชียงใหม่-การประชุมกลไกความร่วมมือชายแดนไทย-ลาว เพื่อบูรณาการการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน”

วันที่ ๒๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ พลโท ณัฐพงษ์  เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย  พร้อมด้วย พ.อ. ดาวไก  เลิดลิวัน รองหัวหน้ากรมทหารชายแดน กรมใหญ่เสนาธิการ กองทัพประชาชนลาว ร่วมเป็นประธานเปิด การประชุมกลไกความร่วมมือชายแดนไทย-ลาว เพื่อบูรณาการการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน” ระหว่างวันที่ ๒๖-๒๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ณ โรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ จังหวัดเชียงใหม่

ระหว่างวันที่ ๒๖-๒๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระทรวงกลาโหม โดย กรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมกับกรมทหารชายแดน กรมใหญ่เสนาธิการ  กองทัพประชาชนลาว ในการจัดการประชุมกลไกความร่วมมือชายแดนไทย-ลาว เพื่อบูรณาการการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน ณ โรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ จังหวัดเชียงใหม่
 
คณะที่ประชุมฝ่ายไทยประกอบด้วยผู้แทนทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และ ภาคประชาสังคม อาทิ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ส่วน คณะที่ประชุมฝ่ายลาว ประกอบด้วย ผู้แทนจาก กระทรวงป้องกันประเทศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ เจ้าหน้าที่จากแขวงบ่อแก้ว แขวงไชยะบุรี และ สถานเอกอัครราชทูต สปป.ลาว ประจำประเทศไทย  นอกจากนี้ยังมีผู้แทนจาก ประเทศกัมพูชาและประเทศ เมียนมา เข้าร่วมสังเกตการณ์ประชุมอีกด้วย

​ปัญหาหมอกควัน เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญมากเนื่องจาก มีผลกระทบโดยตรงกับสุขภาพของประชาชน และนับวันยิ่งจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งทุกภาคส่วนได้ตระหนักและร่วมมือกันในแก้ไขปัญหานี้ อย่างจริงจังอยู่แล้ว  แต่อย่างไรก็ตามปัญหาหมอกควัน ไม่ได้เกิดขึ้นแต่เพียงในประเทศไทยเท่านั้น ยังเกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านเช่นเดียวกัน กลายเป็นปัญหาหมอกควันข้ามแดน  ซึ่งเป็นปัญหาในระดับภูมิภาคที่ทุกประเทศ ต้องร่วมมือกัน

​สำหรับภูมิภาคASEAN มีความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหานี้ภายใต้กรอบความร่วมมือข้อตกลง ASEAN ว่าด้วยเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน (ASEAN AGREEMENT ON TRANBOUNDARY HAZE POLLUTION) โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย ลาว และเมียนมา ได้เห็นชอบร่วมกันในบันทึกความตกลงสามฝ่ายเรื่องยุทธศาสตร์ฟ้าใส (CLEAR SKY STRATEGY) โดยมีเป้าหมายให้ปัญหาหมอกควันข้ามแดนลดลง และหมดไปโดยเร็ว 

นอกจากนี้ ยังมีกลไกทวิภาคี ได้แก่ กลไกความร่วมมือคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไปไทย-ลาว คณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา และ กลไกความร่วมมือคณะกรรมการระดับสูงไทย-เมียนมา ซึ่งบันทึกความร่วมมือของคณะกรรมการทุกคณะที่กล่าวมานั้น ได้กำหนดให้ปัญหาหมอกควันข้ามแดนเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการให้เป็นรูปธรรม
 
​ผลการประชุมกลไกความร่วมมือชายแดนไทย-ลาวเพื่อบูรณาการการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน ในวันนี้ ทั้งสองฝ่าย ได้กำหนดแนวทางดังนี้

​๑. ฝ่ายไทยยินดีสนับสนุนจัดการฝึกอบรมด้านการควบคุมไฟป่า ให้แก่เจ้าหน้าที่ของฝ่ายลาว จำนวนไม่เกิน ๓๐ คน ณ ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาการควบคุมไฟป่าภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ราชอาณาจักรไทย ในปีงบประมาณ ๒๕๖๗ โดยฝ่ายลาวจะพิจารณาและแจ้งให้ฝ่ายไทยทราบ ผ่านช่องทางการทูต

​๒. ฝ่ายไทยยินดีให้การสนับสนุนการจัดตั้งห้องปฏิบัติการ เพื่อการบริหารจัดการไฟป่าและหมอกควันข้ามแดน ณ แขวงบ่อแก้ว และแขวงไซยะบุรี โดยฝ่ายลาวจะพิจารณาและแจ้งให้ ฝ่ายไทยทราบผ่านช่องทางการทูต

​๓. ทั้งสองฝ่ายมีความยินดีแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์ องค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนระหว่างกัน

​๔. ทั้งสองฝ่ายจะรายงานตามลำดับชั้นในฝ่ายตน เพื่อพิจารณาให้กลไกคณะกรรมการชายแดนไทย - ลาว , ลาว - ไทย ประสานงานเพื่อขับเคลื่อนการปฏิบัติให้เกิดความเรียบร้อย  และมีประสิทธิภาพ

ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้จัดการประชุมหารือร่วมกัน เพื่อพิจารณากิจกรรมความร่วมมือ  ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติม ในโอกาสต่อไป

นภาพร/เชียงใหม่