อ.เจษฎ์ หวั่น สงครามกลางเมือง คนไทยฆ่ากันเอง เพราะถูก ปลุกปั่น ยุยง ที่จะรุกเร้าไปสู่จุดนั้น

จากรายการ ‘เข้มข่าวใหญ่’ ช่อง PPTV HD 36 ออกอากาศเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 67 รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก อาจารย์คณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยได้ระบุว่า ...

พวกบุกขบวนเสด็จ เนี่ยอาจจะเล่นกับความรู้สึกแบบตรงๆกับประชาชนนะ แต่คุณทักษิณเล่นกับความรู้สึกเชิงลึก ชั้นได้รับสิทธิพิเศษจะทําไมอ่ะ ถ้าฉันจะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาพรรคหนึ่งเป็นส่วนแยกไปจากพรรคเพื่อไทย คือพรรคไทยรักษาชาติ แล้วฉันจะให้พรรคการเมืองนี้เสนอทูลกระหม่อมเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้วันหนึ่งบอกว่า ทูลกระหม่อมฯ เป็นที่มาจากการเลือกตั้งเป็นพระบรมวงที่มาจากการเลือกตั้ง แล้วพระมหากษัตริย์พระองค์ท่านมาจากการเลือกตั้งยังไงเหรอ นี่ไม่ใช่การทําลายเหรอครับ

คุณทักษิณไม่จบไม่จบสิ่งที่ทําทั้งหมดเหล่านี้ และ มันจะยิ่งซึมลึกเข้าไปใหญ่ เพราะไม่ยอม เข้าไปอยู่ในคุก ไม่รับผิดไม่รับโทษมันทําให้พระบรมราชโองการที่โปรดเกล้ามาเนี่ย ความศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ไหนมันยังเหลืออีกหนึ่งปีถูกไหมครับ และอย่าลืมว่าคุณทักษิณบอกว่าจะไม่ยอมติดคุกแม้กระทั่งนาทีเดียว

แล้วมันก็เป็นเช่นนั้นแต่ในพระบรมราชโองการจะต้องไปติดคุกหนึ่งปีนะแต่ พลพรรคทั้งหลายมาใช้กฎหมายไม่ต่างกันกับที่พรรคก้าวไกล ทำนะ ความชั่วร้ายทั้งหลายมันอยู่ในรายละเอียดครับ บาง เทวดาอาจจะอยู่ในหลักการนะเออ แต่นางมารและพญามารเนี่ยมันอยู่ในรายละเอียด อาจารย์คิดว่าคุณทักษิณเป็นภัยคุกคามสถาบันมากกว่า ก้าวไกล ผมว่าใช่ คุณทักษิณไม่ใช่แต่แค่ว่าทําให้คนรู้สึกว่าเอ๊ะ ตกลงสถาบันพระมหากษัตริย์นี่เป็นยังไง คนรู้สึกไปถึงสถาบันชาติด้วย ตกลงชาติบ้านเมืองอยู่กันยังไง เชื่อมั้ยผมไปทานก๋วยเตี๋ยวผมไปซ่อมรถคนบรรดาที่อยู่ในพื้นที่เหล่านั้นบอกผมว่า อาจารย์ผมมานั่งนึกคิดกันละ หนูมานั่งลองดูแล้วนะ เนี่ยหนูก็รวยอย่างเดียวพอจบเออแล้วทํายังไงรู้มั้ย เอาเงินไปซื้อเสียงสิคะ แล้วก็กลายเป็นส.ส.ค่ะ แล้วก็เป็นรัฐมนตรีค่ะแล้วก็ ไต่เต้าไปเป็นนายกฯค่ะ แล้วทุกอย่างนะ ก็จะได้หมดเลย  

ความมั่นคง มีความมั่นคงของชาตินะ แล้วศาสนาด้วย คนคิดกันว่า ยังไง ทําดีได้ดีมีที่ไหน ทําชั่วได้ดีมี ถมไปตกลงทําดี จะไปได้ดีเมื่อไหร่ตกลงทําชั่วแล้วจะไม่ได้ชั่วเลยหรือ หนูก็ว่าหนูก็ทําดีมาตลอดชีวิตทําไมถูกกลั่นแกล้งตลอด

แล้วอย่างนั้นเนี่ยล่ะ มันก็เซาะกร่อน บ่อนทําลายสถาบันชาติ  ถ้าปล่อยได้พักโทษ รอบนี้มาเนี่ย โอ้โห มันก็จะทําให้การเมืองไม่ได้เงียบนะ ไม่ได้นิ่ง แล้วบ้านเมืองเนี่ยลองคิดดูนะครับ ว่าเป็นภัยคุกคาม สังคมมันมีภัยคุกคามอยู่ทั้งหมดเลยผมถึงได้บอกว่า

ณ จุดนี้ มันไม่ใช่เรื่องทหาร ไม่ใช่เรื่องกองกําลังกับประชาชนนะ มันจะกลายเป็นเรื่องประชาชนกับประชาชน ประชาชนแต่ละหมู่เหล่า และท้ายที่สุด ผมคิดอย่างนี้ ถ้ามันมีเรื่องบางประการ มีสิ่งบางอย่างที่ประชาชนหวงแหนร่วมกัน แล้วมีใครคิดจะทําลายผมว่าต้องลุกมาฆ่ากันตาย ก็ต้องลุกมาฆ่ากันตาย เมื่อไม่รู้จะทํายังไงไม่รู้จะแก้ด้วยอะไร ถ้าใช้เสรีภาพเนี่ย ฆ่ากันตายก็เป็นเสรีภาพนะ แล้วกฎหมายจะอยู่ตรงไหน

นั่นจึงเป็นเหตุ ถ้าถามผมนะ ว่าเอาล่ะ ด้วยน้ำพระราชหฤทัย ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ได้ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯไม่ต้องปิดถนนอะไรกันแล้วเนี่ยครับ มันอาจจะไม่ได้แล้วล่ะ เพราะอะไร ไม่ใช่เพราะว่าอยากให้พระองค์ท่านเสด็จสัญจรไปมาได้สะดวก อะไรแบบนั้นนะ แต่ไม่อยากให้คนไทยลุกขึ้นมาฆ่าแกงกัน 

การถวายความอารักขา การถวายความปลอดภัยสูงสุด แด่พระบรมวงษ์ชั้นสูงเนี่ย ไม่ได้เป็นไปเพื่อพระองค์ท่านนะ แต่เป็นไปเพื่อไม่ให้บ้านเมืองมันลุกร้อนลุกขึ้นมาฆ่ากัน แม้กระทั่งในประเทศที่เป็นประธานาธิบดีเนี่ย การที่เค้ารักษาประธานาธิบดีเค้า ก็เพราะเค้าไม่อยากให้บ้านเมืองลุกร้อนเป็นไฟลุกขึ้นมาฆ่ากันไม่ใช่แต่เพียงแค่ คนคนนั้นที่ได้รับความคุ้มครอง มันต้องมองให้ลึก มันต้องมองให้ซึ้ง