'ดร.อานนท์' แฉ!! เหตุ 'กัมพูชา' กล้าลากเส้นพาดเกาะกูด รู้ดีว่าขัดสัญญาหลัก แต่เพราะมีนักการเมืองปั้น MOU ยืนยันให้

(6 มี.ค.67) ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล สาขาวิชาสถิติศาสตร์สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุเนื้อหาดังนี้...

ผมยังยืนยันตามคุณลุง ศาสตราจารย์ ดร. สมปอง สุจริตกุล ว่าสัญญาประธานคือ สนธิสัญญาระหว่างสยาม-อินโดจีนฝรั่งเศส ค.ศ. 1907 หรือ รัตนโกสินทร์ศก 125 เกาะกูดเป็นของไทยแน่นอนตามสัญญาประธานนี้

หลักคือ สัญญาอุปกรณ์จะขัดแย้งกับสัญญาประธานไม่ได้เลย ไม่ได้ต่างจากรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด กฎหมายใดๆ จะขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญไม่ได้

สัญญาใดๆ ที่ตามหลังมาจาก ‘สัญญาประธาน’ เรียกว่า ‘สัญญาอุปกรณ์’ ไม่ว่าจะ Term of reference (TOR) MOU (Memorandum of Understanding) PA (Provisional Arrangement) หรือ JC (Joint Communique) ต่างก็เป็นสัญญาอุปกรณ์ จะขัดแย้งกับสัญญาประธานไม่ได้โดยเด็ดขาด

นายพลลอนนอล ในปี 2515 ประกาศเส้นเขตแดน ล้ำเข้ามาในไหล่ทวีปของไทย ผ่ากลางเกาะกูดไปอย่างประหลาดเหลือเชื่อ ขัดกับสัญญาประธาน ระหว่างสยามกับอินโดจีนฝรั่งเศส ร.ศ. 125 อย่างแน่นอน และไม่เป็นไปตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 

ที่ประหลาดมากคือ ลากเส้นจากหลักเขตแดนบนบกหลักที่ 73 บ้านหาดเล็กพาดตรงไปบนยอดเขาที่สูงสุดบนเกาะกูด เฉือนเกาะกูดเป็นสองฝั่ง ได้ทะเลในอ่าวไทยไปมากมาย ที่เอาเคลมกันทีหลังว่าพื้นที่ทับซ้อนหรือพื้นที่พัฒนาร่วมกัน (JDA: Joint Development Area) อันไม่มีอยู่จริง

ที่ว่าขัดกฎหมายระหว่างประเทศคือ เอาขีดเส้นโดยใช้ equidistant line ตามหลักสากล ต้องไม่พาดผ่านเกาะกูด แล้วไทยต้องได้พื้นที่ทางทะเลรอบเกาะกูดไปกี่ไมล์ทะเล ก็อาจจะเจรจากันได้

จอมพลถนอม กิตติขจร กับ จอมพลประภาส จารุเสถียร ได้แก้ไขปัญหานี้ โดยพึ่งพระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้ทรงมีประกาศพระบรมราชโองการเกี่ยวกับไหล่ทวีปของไทยในปี 2516 และจอมพลถนอมได้ให้กองทัพเรือไทยเข้าไปดูแลพื้นที่ในทะเลดังกล่าวไม่ให้กัมพูชามารุกรานอธิปไตยทางทะเลของไทย

MOU44 สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ก็เกิดขึ้น กลายเป็นไปยืนยันเส้นเขตแดนที่ผิดในปี 2515 ที่ลอนนอลประกาศ แต่ว่าก็รู้ดีว่า MOU44 เป็นสัญญาอุปกรณ์ ไม่ใช่สัญญาประธานจะขัดแย้งสัญญาประธานไม่ได้

กัมพูชาเลยเจรจาตาม MOU44 ในปี พ.ศ. 2545 ลากเส้นในแนวใกล้เคียงกับแนวเดิมที่นายพลลอนนอลเคยประกาศเอาไว้ในปี 2515 แต่ลากเส้นอ้อมเป็นวงกลมรอบเกาะกูด เพื่อให้เกิดพื้นที่ทับซ้อนมากที่สุด แต่เลี่ยงบาลีไม่ให้ขัดกับสัญญาประธานเพราะเกาะกูดเป็นของไทย

ที่ตลกคือ ลากเส้นปักปันเขตแดนเป็นเส้นโค้งรอบเกาะกูด หลบสัญญาประธาน แต่จะกินที่เข้าไปในอ่าวไทยให้มากที่สุดไม่ได้ยึดถือ equidistant line ระหว่างสองประเทศตามหลักสากลของอนุสัญญาทะเล 1982 หรือกฎหมายสากล

ผมได้แนบภาพแผนที่แสดงผลการเจรจาปักปันเขตแดนทางทะเลของไทยกับกัมพูชาในพ.ศ. 2545 ภาพนี้มาจาก powerpoint ประกอบการบรรยายของ พลเรือโทศิริชัย เนยทอง ซึ่งปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว แต่เคยรับราชการที่กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ซึ่งมีภารกิจในการดูแลเขตแดนทางทะเลของไทยโดยตรงครับ

เห็นภาพแล้วผมก็ได้แต่หัวเราะว่า กัมพูชา พยายามเคลมมาก แต่เลี่ยงบาลีไม่ให้ขัดกับสัญญาประธาน ร.ศ. 125 

ยกเลิก MOU44. และ JC 44. เถิดครับ

อย่าให้ประเทศไทยต้องเสียดินแดนไปแม้แต่ตารางนิ้วเดียว

ถ้าไอ้อีนักการเมืองไหนจะขายชาติทำ MOU67 หรือ JC67 มันจะไม่มีแผ่นดินอยู่และต้องถูกประหารชีวิตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 119

โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง!!!