เปิดฉาก!! 'แก้นิรโทษกรรม-ประชามติ-รธน.' ปฏิบัติการ 'กึ่งยิงกึ่งผ่าน' ของ 'เพื่อไทย'

ครับ!! เป็นไปตามที่ 'เล็ก เลียบด่วน' รายงานไว้เมื่อต้นสัปดาห์ว่า พรรคเพื่อไทยเขาจะ 'หักเหลี่ยมโหด' เสนอญัตติด่วนเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม และขอลัดคิวพิจารณา...ซึ่งวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ทุกอย่างก็จบลงด้วยความเรียบร้อยโรงเรียนเพื่อไทย...มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ขึ้นมา 35 คน เวลาศึกษา 2 เดือน...

ทำใจเป็นกลางก็พอจะพูดได้ว่า...เพื่อไทยต้องการให้รอบคอบ และคงมีความตั้งใจที่จะออกกฎหมายนี้อยู่พอประมาณ...สังเกตจากชื่อญัตติด่วนชื่อ ‘ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม’

แบ่บว่า...มีการยกระดับขึ้นมานิดหนึ่ง ไม่ใช่ศึกษาแนวทางปรองดอง แต่ศึกษา 'การตรากฎหมาย'

พูดก็พูดเหอะ 'เล็ก เลียบด่วน' เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับผู้สันทัดกรณีที่มองว่า...ลีลาฝ่ายกฎหมายและการเมืองของพรรคเพื่อไทยที่มี 'ชูศักดิ์ ศิรินิล' เป็นเสนาธิการใหญ่...เป็นลีลาเกมฟุตบอลช็อตที่เรียกว่า 'กึ่งยิงกึ่งผ่าน' มีแต่ได้กับได้ เป็นการเช็กกระแสพรรคการเมืองและกระแสสังคมไปในตัว...และได้ยืดเวลาไปตั้งสติได้อีกเล็กน้อย

ไม่เพียงกึ่งยิงกึ่งผ่านเรื่องนิรโทษกรรมเท่านั้น วันเดียวกันพรรคเพื่อไทยนำโดย อ.ชูศักดิ์ แอบไปจัดดีลเล็ก ๆ กับพรรคก้าวไกล ยื่นขอแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ประชามติ พ.ศ. 2558 เป้าหมายลึกเป็นที่รู้ ๆ กันมานานว่าต้องการแก้มาตรา 13 ที่บัญญัติการใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้นหรือ Double Majority ว่า...

“การออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติในเรื่องที่จัดทำประชามติ ต้องมีผู้ใช้สิทธิออกเสียงเป็นจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงและมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้น”

แปลไทยเป็นไทยสมมุติผู้มีสิทธิออกเสียง 50 ล้าน ด่านแรก ต้องมาออกมาใช้สิทธิ์อย่างน้อย 25 ล้านคน ด่านสอง ใน 25 ล้านคนนั้นต้องเห็นชอบไม่น้อยกว่าครึ่งหรือ 12.5 ล้าน...

ซึ่งทั้งเพื่อไทยและก้าวไกลเกิดอาการป๊อดว่า...ถ้าไม่แก้กฎหมายประชามติ อาจจะตกม้าตายตั้งแต่ด่านแรก...การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเดินต่อไม่ได้ เสียหายหลายแสน เพราะไปหาเสียงเอาไว้ใหญ่โต...!!

การยื่นแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติหนนี้จึงเป็นหนึ่งในปฏิบัติการ...กึ่งยิงกึ่งผ่าน...เช่นเดียวกัน

แต่จะว่าไป...กึ่งยิงกึ่งผ่านของพรรคเพื่อไทยก่อนหน้านี้ก็ค่อนข้างชัดเจน นั่นคือการที่ อ.ชูศักดิ์ นำทีม 122 สส.ย่องไปยืนแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ว่าด้วยการแก้ไขจัดทำรัฐธรรมนูญซึ่งต้องถามประชามติ...เป้าหมายส่วนลึก อ.ชูศักดิ์ยอมรับว่า ประธานรัฐสภาคงไม่กล้าบรรจุเป็นวาระประชุม เพื่อไทยจะได้ใช้เป็นข้ออ้างในการยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่าใครถูกใครผิด และจะได้ถามในคราวเดียวกันไปเลยว่าการจัดทำประชามติต้องทำกี่ครั้งกันแน่ แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยเห็นว่าสองครั้งเท่านั้น ประหยัดงบประมาณได้ 3-4 พันล้านบาท...

ก็ได้แต่ภาวนาว่า...ขอให้ปฏิบัติการกึ่งยิงกึ่งผ่าน 3 ลูกของพรรคเพื่อไทยประสบความสำเร็จหรือเข้าประตูได้สักลูก...โดยเฉพาะกรณีนิรโทษกรรมที่ชายชั้น 14 สามารถไถ่บาปให้ตัวเองได้ด้วยการส่งสัญญาณให้พลพรรคเพื่อไทยเดินหน้า ปลดล็อกความขัดแย้งให้ได้ แม้ปลดได้ไม่ทั้งหมดแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย..

ฝากคุณหนูอุ๊งอิ๊งไปกระซิบข้างหูคุณพ่อด้วยนะจ๊ะ!!


เรื่อง: เล็กเลียบด่วน