‘นทท.รัสเซีย’ ถูกชายไทยหวังทำอนาจารคาห้องน้ำ บขส.ภูเก็ต โชคดี!! ‘พระสงฆ์’ มาโปรด ได้ยินเสียงร้อง รุดช่วยเหลือไว้ได้

(1 ก.พ. 67) จากกรณีพนักงานเดินรถแห่งหนึ่ง พยายามก่อเหตุหวังข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในห้องน้ำหญิง บขส.ภูเก็ต แห่งที่ 2 โชคดีพระภิกษุได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงวิ่งเข้าไปห้ามปราม ทำให้รอดจากการถูกข่มขืน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 ม.ค.67 เวลา 03.03 น.นั้น

นายนครินทร์ ยอแสงรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา กล่าวว่า “จากกรณี เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 03.03 น. จากกล้องวงจรปิดของสถานีขนส่งจังหวัดภูเก็ต แห่งที่ 2 พบว่ามีผู้หญิงชาวรัสเซียอายุประมาณ 30 ปี เดินจากข้างหน้าชานชาลาเดินเข้าห้องน้ำด้านหลังของสถานีขนส่งฯ เดินเข้าไปเข้าห้องน้ำใช้เวลาประมาณ 8-9 นาที หลังจากนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 26 ปี ใส่ผ้าขาวม้าสีแดง ถือขันใบหนึ่ง ทำทีเหมือนว่าจะเข้าไปอาบน้ำที่ห้องน้ำชาย แต่เขาไม่ได้อาบ มีท่าทางจดๆ จ้องๆ และช่วงนั้นเวลาหัวรุ่งประมาณตี 3 ไม่ค่อยมีคน ซึ่งเขาเข้าไปในพื้นที่ของห้องน้ำผู้หญิง ที่มีชาวต่างชาติเข้าไปทำธุระ เขาได้แอบเข้าไปไม่นานเท่าไหร่ ดูจากกล้อง CCTV สันนิษฐานว่ามีเสียงดังทำให้พระรูปหนึ่งที่อยู่บริเวณนั้น ท่านคงได้ยินจึงเดินเข้าไป และเคาะประตูเรียกใช้เวลาไม่นาน เขาก็ออกมากราบพระที่พื้น จากนั้นต่างคนต่างแยกกันไป

ในฐานะเทศบาลตำบลรัษฎา เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เป็นเจ้าของสถานที่แห่งนั้น เป็นภาพลักษณ์ที่ถ้าออกไปยังต่างชาติแล้วจะทำให้เสียหายมาก เพราะภูเก็ตเริ่มดีขึ้น เราพยายามที่จะหานักท่องเที่ยวเข้ามาแต่ภาพลักษณ์ตรงนี้ทำให้เสียหายเป็นอย่างยิ่ง ทางเทศบาลตำบลรัษฎาจึงคิดหาวิธีการที่จะดำเนินคดีตรงนี้ได้เพราะเทศบาลไม่ได้เป็นผู้ที่มีความผิดในเรื่องการรักษาความปลอดภัย แต่ช่วงเวลาที่เขาดำเนินการกินเวลาประมาณ 10 กว่านาที ซึ่งยามมีจำนวน 2 คนดูไม่ทัน อาจจะต้องหายามมาเพิ่ม หรือให้มาเฝ้าพื้นที่ที่อาจจะก่อเหตุได้ง่าย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ ให้ง่ายขึ้นส่วนทางขนส่งควรมีมาตรการว่ากล่าวตักเตือนหรือดำเนินการตามอำนาจหน้าที่” นายนครินทร์ กล่าว

ทางด้าน พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า “กรณีนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้ประสานกับตำรวจท่องเที่ยวและผู้เสียหาย ซึ่งได้ไปท่องเที่ยวที่เกาะพะงัน ตำรวจท่องเที่ยวได้สอบปากคำและบันทึกปากคำแล้ว ทางผู้เสียหายไม่ได้ติดใจเอาความและได้แจ้งว่าไม่ได้ถูกเนื้อต้องตัว เพียงแต่อาจจะเข้าไปแอบดู หรือส่อง จึงร้องโวยวาย และมีพระเข้าไปให้ความช่วยเหลือ

ในเรื่องของการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุยังไม่มี เพราะนักท่องเที่ยวไม่ได้ติดใจเอาความ นักท่องเที่ยวรายนี้ เป็นชาวรัสเซีย ตอนนี้ทางขนส่งจังหวัดภูเก็ตกำลังดูข้อกฎหมาย เพราะเหตุเกิดในพื้นที่ของ บขส.หรือสถานีขนส่งฯ อาจมีมาตรการลงโทษกับผู้ก่อเหตุ

ในส่วนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตามที่ได้กำหนดพื้นที่จุดเสี่ยงต่างๆ หรือจุดที่ขึ้นบัญชีไว้ จะเพิ่มวงรอบในการตรวจให้ตำรวจเข้าไปดู อย่างเช่น เหตุนี้กล้องวงจรปิดเห็นเหตุการณ์ชัดเจน เชื่อมั่นว่าภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีกล้องวงจรปิดมากที่สุดในประเทศไทย ดังนั้น เหตุที่เกิดขึ้นทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ เหตุที่น่าสนใจ หรือเหตุเล็กน้อยต่างๆ สามารถติดตามจับกุมได้ทุกราย” พล.ต.ต.สินเลิศกล่าว