'อินโดนีเซีย' ได้ฤกษ์ เปิดตัว 'Whoosh' รถไฟหัวกระสุนสายแรกในอาเซียน

อินโดนีเซีย ตัดริบบิ้น เปิดตัว Whoosh รถไฟความเร็วสูงหัวกระสุนสายแรกของภูมิภาคอาเซียน เส้นทางจาการ์ตา - บันดุง ด้วยความเร็วเต็มสปีด 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขึ้นแท่นรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งเร็วที่สุดในอาเซียน 

Whoosh ถือเป็นโครงการพัฒนาเส้นทางรถไฟ ระดับเมกาโปรเจกต์ ที่ใช้งบประมาณสูงถึง 7.3 พันล้านดอลลาร์ ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลจีน และเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Belt and Road Initiative ด้วยเช่นกัน

โดยเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายแรก เชื่อมต่อกรุงจาการ์ตา กับ บันดุง เมืองเศรษฐกิจสำคัญทางเกาะชวาตะวันตก ที่ได้รับฉายาว่าเป็น ซิลิคอน วัลลีย์ แห่งอินโดนีเซีย รวมระยะทางกว่า 150 กิโลเมตร ที่สามารถย่นเวลาเดินทางจากเดิม 3-3.5 ชั่วโมง เหลือเพียง 40 นาทีเท่านั้น

และนับเป็นโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระดับเรือธงของประธานาธิบดี โจโค วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย ที่เคยตั้งเป้าว่าจะเร่งให้แล้วเสร็จภายในปี 2019 แต่เนื่องด้วยปัญหาการจัดสรร เวนคืนที่ดิน วิกฤติ Covid-19 และ ค่าเงินที่ทำให้งบประมาณบานปลาย ทำให้โครงการล่าช้ากว่าเป้าหมายมาก 

กลูฮุท บินซาร์ ปันด์จัยตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประสานงานกิจการทางทะเลอินโดนีเซีย กล่าวว่า เส้นทางรถไฟหัวกระสุน จาการ์ตา - บันดุง ได้เปิดให้บริการแบบทดลองฟรีแล้วตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายน จนถึงกลางเดือนตุลาคมปีนี้ ก่อนจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเดือนหน้า

เส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายนี้ ถือเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างอินโดนีเซีย และจีน ซึ่ง นายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เฉียง และ โจโค วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย เคยได้มาร่วมทดลองนั่งรถไฟหัวกระสุนรุ่นล่าสุดในช่วงงานประชุมอาเซียน ที่อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพมาแล้ว ด้านผู้นำอินโดนีเซียเปรยว่า อาจใช้ขบวนรถไฟหัวกระสุนนี้ต้อนรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่จะมีกำหนดการมาเยือนอินโดนีเซียในไม่ช้านี้ 

ส่วนค่าโดยสารรถไฟสายนี้ ยังไม่ยืนยันตัวเลขแน่ชัด แต่คาดว่าราคาตั๋วเที่ยวเดียว น่าจะอยู่ที่ราคา  2.5 - 3.5 แสนรูปียะฮ์ (590 - 830 บาท) เมื่อเทียบกับค่ารถโดยสารในเส้นทางปกติ ต่อเที่ยว ราคา 46,600 รูเปียะห์  (110 บาท) นับว่าค่าโดยสารรถไฟหัวกระสุนยังมีราคาแพงอยู่มากสำหรับชาวอินโดนีเซียทั่วไป 

แต่ทั้งนี้ รัฐบาลอินโดนีเซียคาดหวังว่า เส้นทางรถไฟความเร็วสูงนี้จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของประชาชน ที่ช่วยประหยัดเวลา ปลอดภัย เชื่อถือได้ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเชื่อม 2 เมืองเศรษฐกิจหลักของอินโดนีเซียเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ 


เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์

อ้างอิง: The Jakarta Post / BBC / Wion News