‘นายกฯ’ ปาฐกถา ‘Next Chapter’ ปลุกคนไทยพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง แนะทุกฝ่ายหันหน้าเจรจาลดความขัดแย้ง ย้ำ การกระทำสำคัญกว่าคำพูด

(29 ก.ย. 66) ที่โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมงานเสวนา “ถอดรหัสลงทุน ก้าวข้ามวิกฤต” ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ โดยมี น.ส.ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน), นายปราปต์ บุนปาน รองกรรมการผู้จัดการสายเทคโนโลยีและดิจิทัลมีเดีย, นางสาวดิษณีย์ นาคเจริญ บรรณาธิการประชาชาติธุรกิจ, นายพัฒนพันธุ์ วงษ์พันธุ์ กรรมการบริษัท และที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการ, นายวรศักดิ์ ประยูรศุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท งานดี จำกัด, นายสุริวงค์ เอื้อปฏิภาน รองกรรมการผู้จัดการ ระบบสื่อออนไลน์และบรรณาธิการข่าวสด, นายจำลอง ดอกปิก บรรณาธิการมติชน และนายสมปรารถนา คล้ายวิเชียร ผู้อำนวยการ Digital Media พร้อมคณะผู้บริหารเครือมติชน และผู้บริหารกองบรรณาธิการประชาชาติธุรกิจ รวมทั้งวิทยากร นักธุรกิจที่เข้าร่วมงานเสวนา ให้การต้อนรับ

จากนั้น คณะผู้บริหารเครือมติชนเชิญนายเศรษฐา นายกฯ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมวิทยากร และผู้บริหารภาคธุรกิจร่วมรับประทานอาหารเช้า พร้อมพูดคุยหารือร่วมกัน

ต่อมา ที่ห้องแกรนด์ฮอลล์ ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก (เพลินจิต) นายเศรษฐากล่าวปาฐกถาพิเศษ “Next Chapter ประเทศไทย” ตอนหนึ่งว่า เป็นคนที่ชัดเจนมาโดยตลอด ถ้าคนที่รู้จักตนจะรู้ว่าเป็นคนที่พูดน้อยและให้ได้ใจความ เมื่อมายืนอยู่ตรงนี้ตนก็เป็นส่วนหนึ่งของการที่อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งเกิดขึ้น แต่เราเองต้องมีการปรับปรุงตัวเพื่อให้ลดความขัดแย้งลงไปจากการพูดจา ที่พูดอาจจะพูดเป็นเหมือนเป็นคอนเซปต์ หลายท่านอาจจะไม่เข้าใจ ก็จะขอยกตัวอย่างโดยที่ไม่ได้ต้องการจะไปว่า หรือตอบโต้กับใครทั้งสิ้น ในเรื่องของการที่เราใช้คำว่าปฏิรูป สังคายนา ล้างบาง ขอยกตัวอย่างเป็นคำพูดอย่างนี้แล้วกัน

นายเศรษฐากล่าวว่า คิดว่าทุกๆ คนก็มีความภาคภูมิใจและความหวังดีต่อองค์กรของตัวเอง เข้าใจว่าทุกองค์กรมีคนดี คนไม่ดี แต่การที่เราใช้คำพูดที่รุนแรง วิธีการที่ก่อให้เกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวกที่ชัดเจนมันเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาหรือเปล่า หรือการแก้ปัญหามันอยู่ที่การกระทำ ไม่ได้อยู่ที่การพูด ซึ่งตนเชื่อว่าอยู่ที่ส่วนหลัง มันอยู่ที่การกระทำและวิธีการในการทำ

“การเอาสถาบันต่างๆ มาพูดในที่สว่าง มีคำพูดที่รุนแรง ผมเชื่อว่าไม่เป็นการแก้ไขปัญหา การแก้ไขปัญหาคือการที่พูดคุยกันในภาษาที่ทุกคนยอมรับได้ แต่ไปเน้นหนักเรื่องการกระทำ เรื่องกระบวนการในการแก้ไขปัญหาที่จะทำให้สังคมดีขึ้น ผมเชื่อว่าผมไม่ต้องพูดเยอะในเรื่องนี้ ผมเชื่อว่าทุกคนตระหนักดีอยู่แล้ว” นายเศรษฐากล่าว

นายเศรษฐากล่าวต่อว่า การกระทำตัวของทุกๆ คนในสังคมมีส่วนช่วยทำให้สังคมลดความเหลื่อมล้ำ คนที่มีเยอะเรื่องของการใช้โซเชียลมีเดียในการอวด ในการแสดงตนว่าเหนือชั้น หลายๆ เรื่องพวกนี้ถ้าเกิดลดลงไปได้บ้างคนที่อยู่ชายขอบของสังคมเขาก็จะมีความสบายใจขึ้น

“ผมเชื่อว่าทุกท่านในที่นี้อาจจะรวมถึงตัวผมเองก็อาจจะเป็นส่วนที่ต้องรับผิดชอบไปเหมือนกัน แต่มันไม่สายเกินไปหรอกครับ เราลองมาช่วยเยียวยาสังคมให้มันดีขึ้นจากการกระทำของพวกเราเองทุกคน” นายเศรษฐา กล่าว พร้อมทิ้งท้ายว่า อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ยอมเปลี่ยนแปลงก็ยากจะอยู่รอด สำหรับแนวทางการบริหารที่รวดเร็ว Speed To Market ให้ความสำคัญกับเป้าหมาย ซึ่งก็คือชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน น่าจะทำให้การปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ Next Chapter ประเทศไทย มองเห็นความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับประเทศได้อย่างชัดเจน