'นักข่าวรับเงิน' เลือดขุ่นวงการสื่อ ถือไพ่เป็นต่อเหนือแหล่งข่าว เปลี่ยนสถานะจากผู้ตรวจสอบ สู่ปากกระบอกเสียงฟอกขาว

(27 ก.ย.66) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Tossapol Chaisamritpol' ได้โพสต์ข้อความถึงบทบาทสื่อมวลชนบางกลุ่ม ระบุว่า...

“นักข่าวรับเงิน … เรื่องใหญ่ ไม่ใหญ่?”

บิ๊กโจ๊ก บอกว่า “จ่ายเงินนักข่าว ครั้งละ 10,000 บาท” พร้อมระบุชื่อเล่นออกมาชัดเจน นี่เป็นการเปิดเผยเรื่องที่นักข่าวเรา ๆ ซุกไว้ใต้พรมมานานแล้ว

ถามว่า รับเงินแหล่งข่าวผิดไหม ก็ต้องถามว่า ข่าวนั้นเป็น Advertorial หรือ Sponsored Content หรือเปล่าก่อน ถ้าใช่และมีการระบุชัดเจนในคลิป หรือในคอนเทนต์…สำนักข่าวก็ถือเป็นการขายพื้นที่โฆษณาเหมือนโทรทัศน์นั่นแล หรือเป็น Partnership หรือ Press Trip อันนี้ ถือเป็นการจับมือร่วมกันทำคอนเทนต์ ก็พิจารณาตามเหมาะสม

แต่ถ้ารับเงินจาก ‘แหล่งข่าว’ ที่เป็นบุคคลสาธารณะ ที่สื่ออย่างเราควรต้องไปตรวจสอบ ไม่ใช่รับเงินมาเป็นกระบอกเสียงให้เขา…อันนี้ อันตรายอยู่นะครับ ไม่เพียงความน่าเชื่อถือของบุคคลนั้น องค์กรสื่อนั้นๆ ไปจนถึงทั้งวิชาชีพ ที่เดี๋ยวอีกหน่อยทำข่าวไป ประชาชนก็จะครหาได้ว่า “รับเงินเขามาหรือเปล่า”

ไม่ว่าจะเหตุผลส่วนตัวประการใด เข้ามาในวิชาชีพสื่อสารมวลชนแล้ว การรับเงินจากแหล่งข่าวในลักษณะหลังนี้ ถือว่า ‘เลือดขุ่น’ ไปแล้ว เพราะหากคุณรับเงินเขามา มันมีผลด้านจิตวิทยาว่า คุณจะ Bias และ Lean ไปในทางให้ประโยชน์เขา…ถ้าเขาเป็นคนร้าย คนสีดำ-เทา ก็เท่ากับคุณใช้อาชีพสื่อ ไปฟอกสีให้เขาขาวไร้มลทิน

แหล่งข่าว ถือไพ่เหนือกว่าด้วยนะ เพราะคุณถูกจับเป็นตัวประกันทางวิชาชีพ ในวันที่คุณกลายเป็นอริกับเขา เขาเปิดโปงจนคุณจบอาชีพสายนี้ไปได้เลย โดยเฉพาะหากแหล่งข่าวนั้นเป็นระดับ รอง ผบ.ตร. 

เงินหมื่น สะสมเป็นเรือนแสนนั้น จะทำให้คุณกลายเป็นจำเลย ที่แหล่งข่าวอยากใช้อะไรคุณก็ทำได้ เหมือนธนาคารที่คุณกู้สินเชื่อ ก็ต้องไปชำระหนี้เขานั่นแหละ

ปกติแล้ว ถึงจะให้ก็จะบอกไม่รับ ยิ้มบอกไปว่า “เนื้อหานี้เราเห็นประโยชน์เพื่อสังคม ไม่เป็นไรครับ” หรือบอกให้ เอาไปทำบุญดีกว่า…เงินนั้น สีดำสีเทา เราก็ไม่รู้

อย่างไรก็ดี ดีที่มีการพูดเปิดอกกันเรื่องนี้ รอสมาคมสื่อต่างๆ ออกแถลงการณ์ อย่าให้การจ่ายเงินสื่อที่เป็นปัจเจก มาทำให้วงการมีมลทินมัวหมอง