Wednesday, 24 April 2024
นักข่าว

‘หน่อง ธนา’ น้ำตาไหล หลังแจ้งเรื่องลาบวช แต่นักข่าวดันโพล่งถาม “นอนๆ คิดอยู่แล้วอยากบวช?”

เมื่อไม่นานนี้ ‘หน่อง ธนา’ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเตรียมอุปสมบทในเดือนหน้า โดยเจ้าตัวกล่าวว่า "เดือนหน้าผมจะบวช แต่อาจจะไม่ได้เชิญสื่อ แม่อยากให้มีแค่คนในครอบครัว ตั้งใจอยากบวชให้แม่ครับ ก็อายุเยอะแล้วด้วย ขออนุญาตไม่แจ้งวัน"

"ตอนนี้ผมค่อนข้างเครียดนิดนึง เพราะว่ามันเป็นการบวชที่ไม่ได้วางแผนเอาไว้มันปุ๊บปั๊บพอสมควร แล้วช่วงนี้ผมรับงานเอาไว้แน่นมาก ฉะนั้นผมเครียด เพราะผมต้องไปวัดด้วยไปท่องบทสวดขออุปสมบทด้วย บางงานผมก็ต้องขอยกเลิกเพราะว่างานมันแน่นจริง ๆ เพราะผมต้องมีวันที่ต้องไปวัดด้วย แม่ก็ดีใจครับ เพราะก่อนหน้านี้ผมผลัดมาตลอด แต่พอตอนนี้มันมีความรู้สึกอยากบวชก็เลยตัดสินใจบวชเลย"

‘บิ๊กตู่’ ตอบนักข่าว หลังถามเรื่องยุบสภาฯ พร้อมย้ำ ขรก. ระวังใช้จ่ายงบฯ ช่วง รบ. รักษาการ

‘บิ๊กตู่’ เตือน ขรก.จากนี้ไปทำอะไรต้องระวังช่วงเป็นรัฐบาลรักษาการ ก่อนตอบนักข่าว “ก็คอยซิจ๊ะ” หลังถามว่าราชกิจจานุเบกษาฯ จะประกาศในวันนี้หรือไม่

(20 มี.ค. 66) ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวตอนหนึ่งเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 1/2566 โดยกำชับในที่ประชุมว่า ช่วงนี้ต้องระมัดระวัง จากนี้ไปต้องระวังในเรื่องการเป็นรัฐบาลรักษาการ ในการใช้จ่ายงบประมาณริเริ่มทำโครงการใหม่ ๆ ก็ตาม วันนี้จะมีการประชุมเพื่อรับทราบแนวนโยบายจากคณะกรรมการการเลือกตั้งซึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีนำทีมหารือในเช้าวันเดียวกันนี้ เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องนี้

‘บก.ผู้จัดการ’ สวนกลับ ‘ชูวิทย์’ ไม่มีสิทธิ์เรียกคนอื่น “ลูกกระจ๊อก”

จากกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แฉ!! ‘เพื่อชาติ ครั้งสำคัญ’ โดยมีเป้าหมายโจมตี นายเศรษฐา ทวีสิน และบริษัทแสนสิริ พร้อมกับฉวยโอกาสแคนนอน แซะ ‘สนธิ ลิ้มทองกุล’ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.66 นั้น…

มีช่วงหนึ่งระหว่างการเตรียม ‘พร็อบ’ ประกอบฉาก แล้วเรียกหา ‘นักข่าวผู้จัดการ’ เป็นระยะ เมื่อนักข่าวผู้จัดการแสดงตน ก็กล่าววาจาดูแคลนว่าเป็นแค่ “ไอ้ลูกกะจ๊อก” พร้อมถามหา ‘สนธิ’ ทำไมไม่มาเอง ส่งลูกกระจ๊อก มาทำไม รวมถึงไล่คุกคามนักข่าวท่านดังกล่าวออกจากเวที ว่า “ไสหัวไป”

ส่วนนักข่าวท่านดังกล่าวก็ได้มีการโต้ตอบ พร้อมมาอธิบายยืนยันการมาทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ที่จะซักถามหาความจริง จนเกิดการปะทะคารมกลางเวทีแฉอย่างที่เป็นคลิปในคอมเมนต์

'นักข่าวรับเงิน' เลือดขุ่นวงการสื่อ ถือไพ่เป็นต่อเหนือแหล่งข่าว เปลี่ยนสถานะจากผู้ตรวจสอบ สู่ปากกระบอกเสียงฟอกขาว

(27 ก.ย.66) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Tossapol Chaisamritpol' ได้โพสต์ข้อความถึงบทบาทสื่อมวลชนบางกลุ่ม ระบุว่า...

“นักข่าวรับเงิน … เรื่องใหญ่ ไม่ใหญ่?”

บิ๊กโจ๊ก บอกว่า “จ่ายเงินนักข่าว ครั้งละ 10,000 บาท” พร้อมระบุชื่อเล่นออกมาชัดเจน นี่เป็นการเปิดเผยเรื่องที่นักข่าวเรา ๆ ซุกไว้ใต้พรมมานานแล้ว

ถามว่า รับเงินแหล่งข่าวผิดไหม ก็ต้องถามว่า ข่าวนั้นเป็น Advertorial หรือ Sponsored Content หรือเปล่าก่อน ถ้าใช่และมีการระบุชัดเจนในคลิป หรือในคอนเทนต์…สำนักข่าวก็ถือเป็นการขายพื้นที่โฆษณาเหมือนโทรทัศน์นั่นแล หรือเป็น Partnership หรือ Press Trip อันนี้ ถือเป็นการจับมือร่วมกันทำคอนเทนต์ ก็พิจารณาตามเหมาะสม

แต่ถ้ารับเงินจาก ‘แหล่งข่าว’ ที่เป็นบุคคลสาธารณะ ที่สื่ออย่างเราควรต้องไปตรวจสอบ ไม่ใช่รับเงินมาเป็นกระบอกเสียงให้เขา…อันนี้ อันตรายอยู่นะครับ ไม่เพียงความน่าเชื่อถือของบุคคลนั้น องค์กรสื่อนั้นๆ ไปจนถึงทั้งวิชาชีพ ที่เดี๋ยวอีกหน่อยทำข่าวไป ประชาชนก็จะครหาได้ว่า “รับเงินเขามาหรือเปล่า”

ไม่ว่าจะเหตุผลส่วนตัวประการใด เข้ามาในวิชาชีพสื่อสารมวลชนแล้ว การรับเงินจากแหล่งข่าวในลักษณะหลังนี้ ถือว่า ‘เลือดขุ่น’ ไปแล้ว เพราะหากคุณรับเงินเขามา มันมีผลด้านจิตวิทยาว่า คุณจะ Bias และ Lean ไปในทางให้ประโยชน์เขา…ถ้าเขาเป็นคนร้าย คนสีดำ-เทา ก็เท่ากับคุณใช้อาชีพสื่อ ไปฟอกสีให้เขาขาวไร้มลทิน

แหล่งข่าว ถือไพ่เหนือกว่าด้วยนะ เพราะคุณถูกจับเป็นตัวประกันทางวิชาชีพ ในวันที่คุณกลายเป็นอริกับเขา เขาเปิดโปงจนคุณจบอาชีพสายนี้ไปได้เลย โดยเฉพาะหากแหล่งข่าวนั้นเป็นระดับ รอง ผบ.ตร. 

เงินหมื่น สะสมเป็นเรือนแสนนั้น จะทำให้คุณกลายเป็นจำเลย ที่แหล่งข่าวอยากใช้อะไรคุณก็ทำได้ เหมือนธนาคารที่คุณกู้สินเชื่อ ก็ต้องไปชำระหนี้เขานั่นแหละ

ปกติแล้ว ถึงจะให้ก็จะบอกไม่รับ ยิ้มบอกไปว่า “เนื้อหานี้เราเห็นประโยชน์เพื่อสังคม ไม่เป็นไรครับ” หรือบอกให้ เอาไปทำบุญดีกว่า…เงินนั้น สีดำสีเทา เราก็ไม่รู้

อย่างไรก็ดี ดีที่มีการพูดเปิดอกกันเรื่องนี้ รอสมาคมสื่อต่างๆ ออกแถลงการณ์ อย่าให้การจ่ายเงินสื่อที่เป็นปัจเจก มาทำให้วงการมีมลทินมัวหมอง

LINE TODAY มอบรางวัล PERSON OF THE YEAR ให้ ‘สุทธิชัย หยุ่น’ ในฐานะ นักข่าวผู้คร่ำหวอด ยืนหยัดในวงการสื่อมาเกือบ 6 ทศวรรษ

เมื่อเร็วๆ นี้  LINE TODAY ได้มอบรางวัล PERSON OF THE YEAR 2024 บุคคลต้นแบบที่แนวคิดและผลงานนั้น มีอิทธิพลเชิงบวกต่อผู้คน สังคม และประเทศ ประเดิมปีแรกมอบให้ “สุทธิชัย หยุ่น” นักข่าวผู้คร่ำหวอดในวงการสื่อสารมวลชนมาเกือบ 6 ทศวรรษ ที่สามารถยืนหยัดและปรับตัวท่ามกลางกระแสคลื่นการเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์สื่อหลายระลอก ทำให้ยังคงเป็นบุคคลข่าวที่ผู้คนทุกวัยติดตามในโลกปัจจุบัน พร้อมดันรางวัลเป็นหมุดหมายใหม่สร้างแรงบันดาลใจคนไทย

สิริกาญจน์ สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ LINE TODAY - LINE ประเทศไทย กล่าวว่า “ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาสำคัญบนหน้าประวัติศาสตร์ในหลายมิติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคมที่กำลังเปลี่ยนผ่านยุคสมัยทั่วโลก ความท้าทายสำคัญคือการก้าวทันและปรับตัวให้สามารถยืนหยัดเป็นต้นแบบ และสร้างสรรค์ผลงานให้เกิดอิทธิพลเชิงบวกต่อผู้คน นั่นคือสิ่งที่ LINE TODAY มองหาบุคคลที่จะเป็น PERSON OF THE YEAR ซึ่งคุณสุทธิชัย หยุ่น เป็นนักสื่อสารมวลชนที่ก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงหลายยุคสมัยของอุตสาหกรรมข่าวในเมืองไทยมาเกือบ 60 ปี  จากหนังสือพิมพ์สู่โลกออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์มอย่างเต็มตัว  ซึ่งยังคงนำเสนอแนวคิด การวิเคราะห์ข่าวเหตุการณ์สำคัญทั่วโลก ด้วยเอกลักษณ์ที่ตรงไปตรงมา ชัดเจน ตั้งคำถามให้ฉุกคิดผ่านทัศนะและประสบการณ์ที่สั่งสมมานาน สามารถเชื่อมโยงผู้ติดตามได้ทุกเพศทุกวัยให้เกาะติดสถานการณ์รอบโลก” 

สุทธิชัย หยุ่น ได้เผยถึงการบทบาทการทำงานว่า “ในฐานะที่ผมทำสื่อออนไลน์มาเกือบ 20 ปี เราต้องทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลที่คนไว้วางใจ สำคัญที่สุดต้องทำการบ้านและตรวจสอบข้อเท็จจริง เคล็ดลับความสำเร็จใหม่ในยุคนี้คือการปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตาม ในยุคที่โซเชียลมีเดียสร้างโอกาสให้สามารถสื่อสารสองทางได้ ซึ่งไม่ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนอย่างไร คุณภาพเนื้อหาจะเป็นตัวตัดสิน โดยเฉพาะความท้าทายในยุคนี้ที่ใครก็สามารถเป็นสื่อได้ เรายิ่งต้องยกระดับการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร (Information)  ให้เป็นองค์ความรู้ (Knowledge) นำไปสู่สร้างภูมิปัญญา (Wisdom) ที่ผู้คนนำไปดำเนินชีวิตในยุคนี้ได้” 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top