‘สกอตแลนด์’ พัฒนารถออฟโรด EV สำหรับกู้ภัยบนภูเขา มูลค่า 2.6 ล้านบาท คาด!! เปิดให้สั่งซื้อครั้งแรกปี 2024

(23 ก.ย.66) บริษัทสตาร์ตอัปในประเทศสกอตแลนด์พัฒนารถกู้ภัยขับเคลื่อน 4x4 ออฟโรดพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด Munro MK_1 รองรับภารกิจกู้ภัยบนภูเขาและหน่วยดับเพลิงในพื้นที่เมืองของสกอตแลนด์ อังกฤษและเวลส์ โดยรถรุ่นนี้เป็นการสานต่อความสำเร็จจากรถรุ่น MK-1 e-4WD ที่เปิดตัวในปี 2022 ที่ผ่านมา

แนวคิดการออกแบบรถกู้ภัย Munro MK_1 เน้นความสามารถในการบรรทุกสัมภาระที่มากขึ้นด้วยการถอดเบาะแถวที่นั่งด้านหลังออก เปลี่ยนพื้นที่เป็นขนเครื่องมือช่วยชีวิตในพื้นที่ห่างไกล โครงสร้างภายนอกของตัวรถมีความแข็งแกร่งรองรับการขับขี่ในเส้นทางที่ยากลำบาก

ระบบขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ฟลักซ์ไฟฟ้าแบบแกนเดียวให้กำลังสูงสุด 375 แรงม้า และแรงบิด 516 ปอนด์-ฟุต ผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมกล่องเกียร์ 2 สปีดและเฟืองท้ายกลาง ทำให้ล้อทั้ง 4 ทำงานร่วมกัน และผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนล้อบนแต่ละเพลาให้เป็นขั้นล็อกได้โดยใช้ระบบล็อกเฟืองท้ายด้านหน้าและด้านหลัง 

รถกู้ภัย Munro MK_1 รองรับการขับขี่ได้ทั้งพื้นที่ลาดเอียงมีความลื่นของพื้นถนน พร้อมขับเคลื่อนผ่านพื้นที่ป่าทึบ ลุยน้ำความลึก 80 เซนติเมตร พร้อมอุปกรณ์ค้นหาและกู้ภัยเต็มรูปแบบ พร้อมกับพื้นที่ด้านหลังที่บรรทุกสินค้าอย่างอื่นเพิ่มเติมได้ ความยาวพอดีกับเปลหามผู้บาดเจ็บและอุปกรณ์ช่วยชีวิตเบื้องต้น รองรับผู้โดยสาร 3 คน 

จุดเด่นของตัวรถกู้ภัย Munro MK_1 อยู่ตรงที่การติดตั้งชุดไฟส่องสว่างภายนอกเพื่อเพิ่มมุมมองในการขับขี่ตอนกลางคืน รวมไปถึงไฟส่องสว่างด้านหลังของตัวรถ เพื่อเพิ่มความสามารถในการกู้ภัยในเวลากลางคืนให้สะดวกมากขึ้น เช่น การขนส่งผู้บาดเจ็บเข้าทางด้านประตูหลังของรถ 

รถกู้ภัย Munro MK_1 แบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อยด้วยกันประกอบด้วย

1. รุ่นมอเตอร์กำลัง 295 แรงม้า ชุดแบตเตอรี่ขนาด 82.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางสูงสุด 306 กิโลเมตร และชาร์จเร็วจาก 15-80% ในเวลาประมาณ 36 นาที 
2. รุ่นอรรถประโยชน์ระดับเริ่มต้น มอเตอร์กำลัง 295 แรงม้าเท่ากัน แต่ใช้ชุดแบตเตอรี่ขนาดเล็ก 61.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง  ระยะทางสูงสุด 227 กิโลเมตร 
3. รุ่นสมรรถนะที่เน้นความสนุกสนาน มอเตอร์ทรงพลังกว่า 375 แรงม้า แบตเตอรี่ขนาด 82.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง เพื่อการวิ่ง 4.9 วินาทีที่ 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง เพิ่มความสามารถในการลากจูงได้ 3,500 กิโลกรัม และระยะทางไกลถึง 305 กิโลเมตร

สำหรับราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 74,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.6 ล้านบาท บริษัทเปิดให้สั่งซื้อครั้งแรกในปี 2024