'หมอชลน่าน' เห็นร่วม!! 'ภท.' ปิดช่องกัญชาสันทนาการ เล็งออกประกาศ สธ. คืนบางส่วนกลับไปเป็นยาเสพติด

(21 ก.ย.66) ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการผลักดันร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ซึ่งล่าสุดพรรคภูมิใจไทยประกาศผลักดันร่างเดิม 94 มาตรา ว่า การเสนอกฎหมายเป็นสิทธิของ สส. ที่สามารถเข้าชื่อ 20 คนก็สามารถเสนอได้ ส่วนเสนอแล้ว สภาจะพิจารณาอย่างไรก็เป็นไปตามเสียงข้างมาก สอดรับกับนโยบายรัฐบาลหรือไม่ เพราะเสียงข้างมากเป็นนโยบายของรัฐบาล ถ้าสอดรับกัน ส่วนใหญ่กฎหมายก็ถูกขับเคลื่อนตามกลไกรัฐสภา ไปยังวุฒิสภา ตามขั้นตอน ดังนั้น พรรคภูมิใจไทยในฐานะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็สามารถให้สมาชิกเสนอกฎหมายได้ เราในฐานะพรรคแกนนำก็จะเข้าไปดู เพราะมันมีความจำเป็นที่ต้องมีกฎหมายออกมารับ กำกับ ควบคุมการใช้กัญชาในขณะนี้ ส่วนใช้อย่างไรก็จะยึดตามนโยบายของรัฐบาลเป็นหลักว่า เพื่อการแพทย์และสุขภาพ ส่วนอย่างอื่นที่นอกเหนือจากนี้ คือ นอกเหนือจากนโยบาย การเอาไปใช้สันทนาการ หรือใช้ผิดประเภทถือว่านอกเหนือจากนโยบายรัฐบาล ต้องมีกฎหมายมารองรับว่า มันไม่ชอบอย่างไร

ถามว่า พรรคเพื่อไทยจะร่างกฎหมายของพรรคเข้าไปเสนอหรือไม่ หรือร่างในนามของรัฐบาล นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราจะดูในรายละเอียดอีกครั้ง หากเป็นไปได้ก็จะเสนอเป็นร่างของ ครม.ซึ่งจะถือเป็นความร่วมมือในเชิงนโยบายที่เราพูดคุยกันจบแล้ว

ถามต่อว่า มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะไม่ยืนยันร่างเดิมที่เคยมีการเสนอเข้าสภา แต่ตกไปแล้ว หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คงไม่เป็นการยืนยัน แต่จะหยิบเอาร่างนั้นมาดูว่าอะไรเป็นส่วนที่ดี อะไรที่จะเติมเต็ม แทนที่จะเขียนร่างใหม่ ก็เอาร่างนั้นมาปรับแก้ ส่วนที่ภูมิใจไทยเสนอ 94 มาตราเลยนั้นเป็นสิทธิของเขาที่ทำได้ ส่วนเสนอเข้าสภาแล้วจะเอาทั้ง 94 หรือมาตราหรือไม่ หรือเอามาบางส่วนก็แล้วแต่สภา อย่างไรก็ตาม ในรัฐบาลมีการพูดคุยกันอยู่แล้ว ซึ่งภูมิใจไทยเองก็ยืนยันว่า ไม่เคยให้กัญชาเป็นสันทนาการ

ถามว่าสมัยอยู่ในสภาชุดที่แล้ว และเห็นร่างกัญชามาก่อน ยังมีช่องโหว่ในเรื่องสันทนาการอยู่ จะมีการเพิ่มตรงนี้เข้าไปในร่างใหม่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องมีวิธีการใช้ว่าจะใช้ทางการแพทย์และสุขภาพ ใช้อย่างไรมีกระบวนการควบคุมกำกับอย่างไร หากใช้ประเภทอื่นถือว่าผิดวัตถุประสงค์ของกฎหมาย จะดูว่ามีข้อห้ามอย่างไร รวมทั้งการกำหนดว่า กัญชาจะเป็นยาเสพติดได้เมื่อไร ความหมายคือ ประมวลกฎหมายยา

เสพติด เอาชื่อกัญชาออกจากยาเสพติดประเภท 5 แต่ไม่ได้บอกว่ากัญชาไม่ใช่ยาเสพติด เพียงแต่บอกว่า ถ้าจะกำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติดให้ไปกำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ดังนั้นกัญชายังเป็นยาเสพติดอยู่ในความหมาย ยังมีสารเสพติดอยู่ ขณะนี้ประกาศนี้เขียนเฉพาะสารสกัด THC มากกว่า 0.2% ถือเป็นยาเสพติด นอกนั้นไม่เป็น พอไม่เป็น ทุกคนก็เอาไปใช้ลักษณะผิดประเภท เช่น เอาช่อดอกไปเสพ เอาใบไปพี้ พันลำ เป็นการใช้ที่มีผลต่อจิตประสาท ถือว่าเป็นการใช้ไม่ถูกต้อง ก็ต้องดูว่าปรับอย่างไร

เมื่อถามย้ำว่า ในร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข จะมีการเพิ่มเติมข้อกำหนดให้บางส่วนของกัญชาให้เป็นยาเสพติดหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็จะพิจารณากันอยู่ว่าอันไหนเหมาะสม หรือไม่เหมาะสม แต่ไม่น่าจะกลับไปเป็นยาเสพติดทั้งหมด เพราะกัญชาเพื่อสุขภาพนั้น หากไปยึดแบบเดิมจะแข็งเกินไป แค่มีกัญชา 1 ต้นอยู่ในบ้านก็ถูกจับแล้ว กลายเป็นเรื่องมือของผู้มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ประชาชนเดือดร้อน ดังนั้นเราต้องออกกฎหมายมาในลักษณะที่ทุกฝ่ายไม่เสียประโยชน์ และเป็นโทษต่อเพื่อนมนุษย์ ทุกฝ่ายต้องได้ประโยชน์จากการใช้กัญชาเพื่อสุขภาพและการแพทย์เพื่อสุขภาพ เช่น อาหารที่ผสม CBD ซึ่งได้ประโยชน์ แต่ถ้าออกกฎหมายที่เข้มเกินไปโดยไม่ดูบริบทของการใช้ก็จะส่งผลกระทบ ขณะนี้มีการริเริ่มปลูกกัญชาไปใช้ในเชิงพาณิชย์จำนวนมาก ซึ่งพาณิชย์ที่ไม่เกี่ยวกับสุขภาพก็ถือว่านอกเหนือจากเรา

เมื่อถามว่าการผลักดันกฎหมายยุคนี้จะมาปิดจุดอ่อนหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ใช่ เพราะการที่สมาชิกสภาฯ อภิปรายและไม่ให้กฎหมายนี้ผ่าน เนื่องจากยังมีช่องว่าง ถ้าปล่อยออกไปจะเหมือนไปส่งเสริม เช่นปลูกมากขึ้น ปลูก 15 ต้น การเข้าถึงมากขึ้น ถ้าไม่มีกฎหมายควบคุมที่ดีก็จะเกิดโทษ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เป็นหน้าที่ของเราจะมีการฟอร์มทีม และแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเข้ามาดูแล ซึ่งเป็นไปตามโครงสร้าง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการวางตัวใครมาดูแลเป็นพิเศษ

เมื่อถามต่อว่าในแนวคิดที่จะดำเนินการนี้จะไม่ขัดกับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่ขัดเพราะภูมิใจไทยก็พูดชัดอยู่แล้วว่านโยบายเขาไม่สนับสนุนการใช้สันทนาการ กัญชาเสรีไม่มี เป็นเพียงวาทกรรมที่เขาถูกโจมตี