รู้จัก ‘ศิวพันธุ์ มานิตย์กุล’ มือพิฆาตหมิ่น 112 ยืนหยัดซัดสายหมิ่นด้วยกติกาที่เรียกว่า ‘กฎหมาย’

จากรายการ ‘ถลกข่าว ถลกปัญหา’ เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 66 โดยสำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES เผยแพร่ผ่านช่องทางรับชมในเครือ THE STATES TIMES, MAYA Channel ช่อง 44, NAVY AM RADIO AM 720 kHz และวิทยุ KCS RADIO ดำเนินรายการโดย คุณสถาพร บุญนาจเสวี ได้เชิญ คุณบูม ศิวพันธุ์ มานิตย์กุล นักออกแบบ ผลิต และนำเข้าเสื้อผ้า ผู้จงรักภักดีต่อสถาบัน มาร่วมพูดคุย ในฐานะผู้สร้างสถิติการฟ้องร้องคดีผู้หมิ่นมาตรา 112 มากที่สุด ด้วยจำนวนถึง 9 คดี หากนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

โดยคุณบูม ถือเป็นมือฉมังในการแจ้งความคดี 112 ต่อผู้ที่ละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ในพื้นที่ของ สภ.บางแก้ว-ศาลสมุทรปราการ ซึ่งมักจะอดทนไม่ได้กับผู้ที่ละเมิด 112 จาบจ้วงสถาบันฯ ทั้งในที่สาธารณะ และในโลกโซเชียลมีเดีย

“โดยนิสัยส่วนตัว ผมค่อนข้างจะเป็นบู๊ๆ อยู่แล้ว (ดูได้จากหน้าตา) เวลาเราพบเห็นการกระทำที่ไม่บังควรต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ในลักษณะใด เราจะรู้สึกถึงความ ‘มากเกินไป’ และยิ่งมากขึ้นๆ จนลุกลาม มันบีบคั้นหัวใจเรานะ บีบคั้นหัวใจคนไทยที่ยึดมั่นในสถาบันฯ ฉะนั้นหากมีช่องทางด้านกฎหมาย ที่สามารถทำให้ชะลอหรือยุติปัญหาได้ เราก็ต้องใช้ช่องทางกฎหมาย”

คุณบูม เล่าว่า การใช้ช่องทางกฎหมายเพื่อจัดการผู้ละเมิดใน 112 นั้น ตัวเขาจะพยายามเก็บข้อมูลต่างๆ เอกสาร รูปภาพ ข้อความ หรือแม้แต่ในโซเชียล ก็มีโปรไฟล์และ URL ให้ตามเก็บเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งแรกๆ ก็งงๆ แต่พอทำไปสัก 2-3 ครั้งก็จะเริ่มเข้าใจวิธีการ ซึ่งง่ายต่อการที่เจ้าหน้าที่จะไปดำเนินการต่อได้ดียิ่งขึ้น 

“ผมเป็นคนธรรมดานะ ไม่ใช่กลุ่มองค์กรใดๆ การกระทำของเรา ก็มาจากความอัดอั้น ภายใต้กติกาที่ถูกต้อง ซึ่งผมมองว่าคนไทยที่รักมั่นในสถาบันฯ ก็ย่อมคิดไม่ต่างกัน เปรียบเหมือนกับความศรัทธาในพุทธศาสนาแหละครับ หากมีใครมาหมิ่นหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็เหมือนมาหยามตัวผมเหมือนกัน เป็นต้น ฉะนั้นผมก็ต้องแสดงออกตามกติกา โดยที่ผ่านมา ก็รับทราบได้พอสมควรว่ามีผู้ที่ต้องโทษและหนีคดีไปมากมาย”

เมื่อถามว่าหลายคนที่โดนคดีจากที่ คุณบูมฟ้อง รู้สึกอย่างไร? คุณบูม ตอบว่า “บางรายซึ่งเป็นญาติที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดของผู้หมิ่น แต่ต้องมาเจอหมายศาลวางไว้หน้าบ้าน ก็หดหู่นะ เพราะสิ่งที่เราเห็น คือ หลังจากนั้นคุณแม่ของผู้กระทำผิด เดินร้องไห้มาหา พนมมือ ขอโทษผม ซึ่งผมก็ตกใจและถามผมบอกคุณแม่เป็นอะไร? คุณแม่เขาก็บอกว่าเป็นแม่ของจําเลย ซึ่งผมก็ต้องอธิบายไปตามความจริงว่า นี่ไม่ใช่ปัญหาส่วนตัวระหว่างผู้ทำผิดกับผม แต่เป็นปัญหาของลูกคุณแม่กับกฎหมายของรัฐ พอท่านฟังท่านเข้าใจ แล้วก็เรียกน้องจำเลยมาฟังความจริง ซึ่งส่วนใหญ่ ก็เข้าใจและยอมรับสารภาพ โดยไม่หวนกลับไปเชื่อทนายสิทธิที่มีแต่จะยื้อเพื่อให้ผู้ที่ทำผิดโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ อยู่ในสภาพที่ไม่รอดคุก ส่วนจำเลยคนไหนที่แสบๆ และยังเถียงหัวชนฝา ผมบอกได้เลยว่า พออยู่หน้าศาล เรียบร้อยทุกคนครับ”

แน่นอนว่า หลังจากผันตัวมาเป็นประชาชนผู้ไม่ยอมต่อการหมิ่นประมาทสถาบันฯ ก็ทำให้ คุณบูม เริ่มสัมผัสประสบการณ์ทัวร์ลงเป็นระยะๆ  มีทั้งโพสต์ด่ามาทางโซเชียล / อินบ็อกซ์ / อีเมลล์ธุรกิจบ้าง ซึ่งคุณบูมมองว่า นี่คือการทำร้ายตัวเองล้วนๆ เพราะจากการเป็นผู้ฝักใฝ่ละเมิด 112 แล้ว ยังกลายเป็นผู้ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลแถมเข้าไปอีกคดี ซึ่งเรื่องคุณบูมเตือนว่า จะทำอะไรคงต้องคิดให้ดี เอาเวลาที่มีไปทำมาหากินเลี้ยงดูตนเองและพ่อแม่ดีกว่า

เมื่อถามว่า ทำไมถึงต้องมาทำอะไรเช่นนี้เอง? คุณบูมตอบว่า “สิ่งที่ผมทำ ผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นฮีโร่นะ แต่เพราะนี่คือประเทศของเรา ประเทศที่ถ้าไม่มีสถาบันฯ ความมั่นคงของประเทศจะอยู่ตรงไหน แล้วลูกหลานเราจะอยู่ยังไง ขณะที่ตัวผมเองก็ไม่ได้เป็นทหาร สิ่งที่ทำได้ ปกป้องชาติได้ จึงมีแค่วิธีนี้เท่านั้น”

คุณบูม กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า “ผู้ชมที่ติดตามสัมภาษณ์นี้อยู่ ก็คงมีทั้งคนรัก คนชัง และคนที่เฉยๆ ซึ่งผมเข้าใจดีว่าในช่วงของการเปลี่ยนรัชสมัย มันต้องใช้เวลาที่จะเปิดใจ และระหว่างทางเราจะพบเจอกับข่าวลือเยอะมาก อย่างคนรุ่นผมเองจะเข้าใจดี เพียงแต่สมัยนี้ข่าวลือ ข่าวปั่น ข่าวปล่อย และข่าวปลอม มันเยอะมาก คนที่จะเข้าใจความจริงได้ ต้องมีภูมิคุ้มกันสูง ต้องคิด วิเคราะห์ และมีความยุติธรรมให้กับทุกฝ่าย แล้วมองให้ออกว่าอะไรคือความเป็นจริง

“นั่นหมายความว่า เราต้องค้นหาความจริงให้เจอ ซึ่งทุกวันนี้เราค้นหาข้อมูลได้มากมาย เราสามารถพบเห็นภาพถ่ายของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในถิ่นทุรกันดารต่างๆ เพื่อไปช่วยเหลือชาวบ้าน เราพบเห็นผลงานมากมายของท่าน และล่วงมาถึงในสมัยรัชกาลที่ 10 ที่พระองค์ทรงติดตามรัชกาลที่ 9 ตั้งแต่เยาว์วัย เรานี้มีหลักฐานประจักษ์ 

“แน่นอนว่า สังคมทุกวันนี้ เราปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องอยู่กับเรื่องนินทา และเรื่องที่อยุติธรรมมากมาย ซึ่งจะเลือกเชื่อกันอย่างไรก็ตามแต่ละบุคคล แต่ผมมักพูดทุกครั้งว่า ไม่รักไม่ว่าแต่อย่าละเมิดกัน คุณก็มีสิทธิ์ของคุณ ผมก็มีสิทธิ์ของผม คุณไม่รัก ก็อย่ามาละเมิดสิทธิ์ความเชื่อและความรักของผม”

“ผมเชื่อมั่นว่าสถาบันกษัตริย์จะยังอยู่กับเมืองไทยไปอีกยาวนานแน่นอนครับ” คุณบูม ทิ้งท้าย

รับชมคลิปเต็มได้ที่ >> https://www.youtube.com/watch?v=LsLj5RYY5YM