‘อี้ แทนคุณ’ ฉะ ‘รองอ๋อง’ ทำตัวเป็นเด็ก-ไร้วุฒิภาวะ ‘มารยาท-การแต่งกาย’ ไม่เหมาะนั่ง ‘รอง ปธ.สภาฯ’
(25 ส.ค. 66) ดร.แทนคุณ จิตต์อิสระ รักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 จากก้าวไกลกระทำตัวไม่เหมาะสมไร้วุฒิภาวะหลายครั้งจนเป็นเหตุให้สภากลายเป็นสภาโจ๊ก จนมี สส. จากพรรคเดียวกันยังล้อเล่นตลกตอกย้ำ ความเป็น ‘ประธานสภาหมูกระทะ’ ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์
ล่าสุดกับการแต่งกายไม่เหมาะสมจนกลายเป็นต้องมีเรื่องให้ สส. ประท้วงและประชาชนตำหนิทุกวันและยังปิดปากลิดรอนสิทธิ์ สส. ในการประท้วงตนเองอีกโดยมีประชาชนวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าใช้อำนาจตามอำเภอใจไม่ให้เกียรติสถานที่และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ร่วมประชุมอยู่ ทำเสมือนเป็นเด็กเล็ก ๆ เล่นในสนามเด็กเล่น จะเล่นอะไรจะทำตัวอย่างไร แต่งตัวขึ้นบนบัลลังก์อย่างไรก็ได้ พ่วงด้วยคดี ‘โชว์เชียร์เบียร์’ ที่ผลิตคนละจังหวัดเป็นการทำผิดกฎหมายก็ยังไม่สลด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้สถานการณ์ชัดเจนแล้วว่า พรรคก้าวไกลต้องไปเป็นฝ่ายค้าน ตามธรรมเนียมควรมีสำนึกลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาฯ หลีกทางให้พรรครัฐบาลเป็นแทนอย่าให้มองว่าไม่รู้เรื่องไม่สนใจธรรมเนียม ไม่รู้กาลเทศะอะไรเลย โดยบอกว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในขณะที่ประชาชนยังอดสงสัยไม่ได้ว่าเรื่องแค่นี้ยังดูแลตัวเองไม่ได้ แล้วจะสามารถดูแลประเทศชาติในเรื่องใหญ่กว่านี้ได้อย่างไร
รวมทั้งอยากจะตั้งคำถามไปยังพรรคก้าวไกลว่านี่คือคนที่ ‘คัดมาอย่างดีที่สุด’ ในการมาดำรงตำแหน่งนี้แล้วใช่ไหม ถึงมีเรื่องให้เป็นที่ครหาได้ไม่เว้นแต่ละวัน หรือจะรอถลุงเงินหลวงจากภาษีประชาชนเพื่อโปรโมตตัวเองและพรรคของตัวเองให้หมดก่อนแล้วจึงค่อยลาออก ซึ่งย้อนแย้งกับนโยบายที่พรรคก้าวไกลเคยประกาศไว้ว่าห้ามใช้เงินหลวงโปรโมตตัวเอง
เรียกได้ว่าเป็นพรรคการเมืองและนักการเมืองที่ไม่เคยสนใจหลักการจริยธรรม กฎระเบียบบ้านเมือง เป็นแบบอย่างให้เยาวชนตีความเสรีภาพผิดจนเกิดความก้าวร้าวรุนแรงกระด้างกระเดื่องต่อกฎหมายบ้านเมืองจนเสียอนาคตไปหลายคน แต่ไม่เคยเห็นความรับผิดชอบใด ๆ ของคนในพรรคนี้เลย ซึ่งทำให้เชื่อว่าหากพรรคนี้อยู่ต่อไปยิ่งนานยิ่งทำให้สังคมมีแต่ถดถอยลง
อยากเตือนไปถึง ‘หมออ๋อง’ อย่าตะแบงทำผิดไปมากกว่านี้ก่อนที่จะต้อง ‘ให้มันจบที่ คุกเรา’ อีกคน แค่นี้ขาข้างหนึ่งก็ก้าวเข้าไปรอในเรือนจำแล้วเพราะคดีก่อนหน้านี้ยังไงก็ผิดกฎหมายแล้ว ขืนยิ่งอยู่นานยิ่งมีปัญหาและนี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะหยุดทำเพื่อสนองต่อกิเลสตัณหาและอำนาจของตัวเองก่อนที่จะทำให้ภาพลักษณ์รัฐสภาไทยแย่ลงไปกว่านี้