‘สืบสวนนครบาล’ ทลาย ‘แก๊งไข่หวง’ 4 เจ้าพ่อยาเสพติดไต้หวัน บุกรวบคาเซฟเฮ้าส์หรู พบยัดไอซ์ในเพลารถ เตรียมส่งข้ามชาติ 

(19 ส.ค. 66) พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผบ.ตร./ ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ประจำ, พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ/ บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วิชัย สมสกุล ผกก.กก.สส.บก.น.1, พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส. 4/ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.บดินทร์ ร้อยกรอง, พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว, พ.ต.ท.ทศพร พวงทอง, พ.ต.ท.เรวัช ประจวบสุข, พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ, ร.ต.อ.ธนัชพงศ์ วัชรราศีวิทย์, ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น เจ้าหน้าที่ชุด ศอ.ปส.ตร.ชุดที่ 5 เจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาล และเหล่านักเรียนหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 111 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายเฉิน ยู่ หนิง (Mr.Chen You Ning) อายุ 34 ปี, นายหลี่ หมิง เจิ้น (Mr.Lee Ming Chang) อายุ 26 ปี โดยจับกุมตัวได้ที่ บ้านเลขที่ 89/19 แขวงคลองสองตันนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร

และจับกุมตัว นายเซิง เยี่ยน หมิง (Mr. Tseng, Yen-Ming) อายุ 31 ปี, นายหลิน เฉอ เฉิง (Mr.Lin Che-Cheng) อายุ 24 ปี, นายเฉิน ยี่ เหวิน (Mr.Chen, Yi-Wen) อายุ 23 ปี, นายชู ชุน เยน (Mr.Chu Chun Yen) อายุ 22 ปี ทั้ง 6 คนเป็นชาวไต้หวั่น และนายอภิญญา อุดม อายุ 24 ปี จับกุมตัวได้ที่ บ้านเลขที่ 111/30 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรสาคร

พร้อมของกลาง แท่งเหล็กเพลากลางรถบรรทุก จำนวน 17 แท่ง, ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 1,057 กรัม, กัญชา จำนวน 10 กิโลกรัม, เครื่องมืออุปกรณ์เพื่อตัดแปลงท่อนเพลา เพื่อใช้ซุกซ่อนยาเสพติด กว่า 15 รายการ, ยาไฟว์ไฟว์ จำนวน 29 เม็ด, เครื่องปั่นใช้ผสมยาเสพติด จำนวน 2 เครื่อง, เคตามีน จำนวน 17 กรัม, ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แฮปปี้วอเตอร์) จำนวน 1 ชอง

พล.ต.อ.ชินภัทร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากช่วงเดือน ส.ค. 66 พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. ได้รับแจ้งจากสายลับ ‘กลุ่มชายชาวไต้หวันสักลาย’ ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติสั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ส่งชุดสืบสวนนครบาลและนักเรียนสืบสวนคดีอาญา 111 สะกดรอยแก๊งชาวไต้หวั่นใช้แท่งเพลารถขนยาเสพติดข้ามชาติ

จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มแก๊งชาวไต้หวั่นระดับราชายาเสพติดไต้หวัน 4 ราย โดยให้ชื่อ ‘แก๊งไข่หวง’ เนื่องจากผู้สั่งการรายใหญ่ชื่อ ‘ไข่หวง’ อยู่ประเทศไต้หวั่น โดยแก๊งผู้ต้องหาดังกล่าวได้ถูกทางการไต้หวันออกหมายจับตามล่า จึงหลบหนีมาอยู่ในประเทศไทย จากการตรวจสอบพบว่า มีการทำงานเป็นขบวนการ โดยให้ทีมงานมาเช่าหมู่บ้านหรูใจกลางกรุงย่านกรุงเทพกรีฑา โดยเช่าบ้านเดือนละ 60,000 บาท ใช้เป็นพื้นที่ในการรับ-ส่งออกยาเสพติด ใช้บริการรถจักรยานยนต์ขนส่งตลอดทั้งวัน ชุดสืบสวนจึงได้แผนนำวางกำลังซุ่มโปร่งแอบดูจนพบว่า มีซุกซ่อนแท่งเพลา 17 แท่ง ห่อแร็บเตรียมส่งออกนอกไปนอกประเทศ

ต่อมาเวลา 08.10 น. ของเช้าวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่าจะมีการเคลื่อนย้ายแท่งเพลาไปขึ้นเรือขนส่งทางทะเล พล.ต.ต.ธีรเดช พร้อมทีมชุดสืบสวน นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรีที่ 535/2566 ลงวันที่ 17 ส.ค. 66 บุกเข้าเซฟเฮ้าส์ บ้านเลขที่ 89/19 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง จ.กรุงเทพมหานคร พบนายเฉิน ยู่ หนิง (Mr.Chen You Ning) และนายหลี่ หมิง เจิ้น (Mr.Lee Ming Chang) อยู่บริเวณดังกล่าว ท่าทางมีพิรุธ ก่อนตรวจสอบท่อนเพลาดังกล่าว จากการตรวจสอบพบของกลางยาไอซ์และกัญชาร่วงออกมาจำนวนมาก และยังพบอุปกรณ์การเชื่อมเหล็ก หินเจีย และอีกหลายรายการที่มีไว้เพื่อตัดแปลงท่อนเพลา เพื่อใช้ซุกซ่อนยาเสพติด ก่อนนำส่งออกไปยังประเทศไต้หวัน

จากการตรวจสอบขยายผลนายเฉิน ยู่ หนิง (Mr.Chen You Ning) หัวหน้าขบวนการก่อนนำพาเจ้าหน้าที่ไปบุกไปที่ บ้านเลขที่ 111/30 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นที่กบดานของแก๊งไข่หวงที่ผลิตยาแฮปปี้วอเตอร์ และใช้เป็นพื้นที่ ‘ปาร์ตี้ยา’ พบของกลางยาเสพติด ยาไอซ์, เคตามีน,ไฟว์ไฟว์ และแฮปปี้วอเตอร์ จำนวนหลายรายการ รวมไปถึงของจำพวก ซองเปล่า, เครื่องปั่น เพื่อใช้ใส่ยาแฮปปี้วอเตอร์ในจำนวนมาก ก่อนพบและจับกุมผู้ต้องหาในบ้านได้อีกกว่า 5 ราย ขณะพยายามวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ขึ้นชั้นบน เพื่อทำลายพยานหลักฐานในบ้าน

พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เดินทางมาควบคุมขยายผลด้วยตัวเองก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสอบสวนนายเฉิน ยู่ หนิง (Mr.Chen You Ning) หัวหน้าขบวนการแก๊งไข่หวง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “เมื่อ 7 เดือนก่อน ตนได้ถูกตำรวจไต้หวันจับกุมที่ประเทศไต้หวัน และออกข่าวดังเพราะเป็นขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ แต่ได้จ้างทนายสู้คดีและประกันตัวออกมา ก่อนจะหนีออกนอกประเทศไต้หวันด้วยการแอบขึ้นเรือสินค้า เป็นเวลากว่า 15 วัน จนถึงประเทศกัมพูชา จากนั้น จึงค่อยเดินทางเข้ามาตั้งฐานทัพใหม่ในประเทศไทย จนทางการไต้หวันได้ออกหมายจับและตามล่าตน

โดยปัจจุบันตนมาตั้งฐานทัพที่ประเทศไทยและอยู่ระหว่างค้นหาวิธีการที่จะส่งออกยาเสพติดไปยังประเทศไต้หวัน โดยมีผู้ร่วมขบวนการชื่อว่า ‘เสี่ยวผ้าง’ ซึ่งอยู่ในประเทศไต้หวัน และคอยรอรับยาเสพติดจากตนที่ส่งไปจากประเทศไทย ตนได้เห็นจากข่าวเรื่องการลักลอบขนส่งยาบ้า และเฮโรอีนโดยทำการผ่ายัดลงไปในเพลารถ และเชื่อมเพื่อปกปิดทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้โดยง่าย จึงลองนำมาใช้ โดยตนนั้นได้ขับรถไปซื้อเพลารถที่ จ.ชลบุรี โดยยาเสพติดที่หามานั้นซื้อมาจากเพื่อนชาวไต้หวัน ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ จำนวน 1 กก. ในราคา 230,000 บาท และซื้อกัญชา มาจากร้านค้าทั่วไปในกรุงเทพฯ จำชื่อร้านไม่ได้ โดยซื้อมาจำนวน 40 กก. ในราคา 70,000 บาท และจะชำระเงินกันผ่านช่องทางแพลตฟอร์ม Cryptocurrency สกุลเงิน usdt หลายแอปพลิเคชัน หากหลุดรอดไปได้จากขายได้ 10 เท่า เพิ่มเป็น 7 แสนบาท หากนำไปแบ่งขายได้ประมาณ 2.5 ล้านบาท

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า คนร้ายกลุ่มนี้เรียกได้ว่าเป็นสมาชิกแก๊งขนส่งยาเสพติดข้ามแดนรายใหญ่ ที่ทางการประเทศไต้หวันต้องการตัว จากการขยายผลหัวขบวนการรายนี้ถูกตามล่าจากทางการไต้หวัน จึงหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติเพื่อกบดาน และใช้ประเทศไทยเป็นฐานสร้างเครือข่ายในการขนส่งยาเสพติดกลับไปยังประเทศไต้หวัน และล่าสุดแก๊งนี้กำลังทดลองเพื่อส่งออกยาไอซ์แต่ทำไม่สำเร็จถูกจับกุมเสียก่อน

หลังปฏิบัติการนี้ ทางการเจ้าหน้าที่ไต้หวันได้ประสานงานมาที่ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. ในทันทีเพราะผู้ต้องหาในขบวนการนี้เป็นที่ต้องการตัวของทางการไต้หวันเป็นอย่างมาก ซึ่งเราจะขยายผลร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไต้หวันให้ถึงที่สุด เพราะปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาความมั่นคงระดับชาติที่หยั่งรากฝังลึกในสังคมไทย และมีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นมาก

ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายในการแก้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระเร่งด่วนลำดับแรก และสั่งการเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดทุกมิติ และขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากมีเบาะแส สามารถแจ้งได้ที่ Facebook เพจ ‘สืบนครบาล IDMB’ ตลอด 24 ชั่วโมง