‘เศรษฐา’ ลั่น!! พร้อมเป็นนายกฯ คนที่ 30 หากถูกเสนอชื่อ  ไม่เคาะสูตรจัดตั้งรัฐบาล บอกต้องรอผลประชุม 8 พรรคก่อน

(17 ก.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ขณะนี้ดูเหมือนจะมีปัญหา เรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรีในรอบที่ 2 มองสถานการณ์อย่างไร ว่า วันนี้ช่วงเวลา 17.00 น.จะมีการพูดคุยกัน ก็ต้องรอผลการหารือของ 2 พรรคก่อน ซึ่งช่วงวันเสาร์ - อาทิตย์ที่ผ่านมา ตนเองได้รวบรวมข้อมูลจากคณะทำงาน 12 คณะ ของพรรคเพื่อไทย ที่เกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ มีความกังวลมาก ทั้งเรื่องภาระหนี้เสีย เรื่อง FTA ที่ยังค้างการเจรจา รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านที่มีการแย่งแหล่งเงินทุนไปพอสมควร เราต้องเร่งเจรจา ไม่เช่นนั้นจะเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้น เรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งสถานการณ์ยังต้องเร่งให้จัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด

ส่วนสถานการณ์โหวต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในรอบแรก ทั้งเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.รวมถึงเรื่องญัตติซ้ำ ในฐานะที่นายเศรษฐา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้เราคุยเรื่องนี้กันมา 4 เดือนที่แล้ว ถ้าเกิดไม่พร้อมก็คงไม่มีรายชื่ออยู่ใน 3 แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย และเราพรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล เรื่องสำคัญที่สุดที่ได้รับมอบหมายในวันนี้ คือ เรื่องเศรษฐกิจ การเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งรัฐบาล ฉะนั้น ต้องเตรียมนโยบายในการประชุม ครม.นัดแรก เรื่องการกระตุ้นเศรฐกิจ

เมื่อถามว่า หากรูปแบบจัดตั้งรัฐบาล ไม่มีพรรคก้าวไกล นายเศรษฐา พร้อมรับตำแหน่งหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ทราบ และยังไม่ได้พูดคุยกัน หากมีความเห็นแตกต่างจาก 8 พรรค ก็ต้องกลับไปคุยกันในกรรมการบริหารพรรค ซึ่งพรรคเพื่อไทย มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน จึงต้องให้เกียรติ และไม่ขอก้าวล่วง

เมื่อถามว่า หากในสมการมีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพิ่มขึ้นมา หรือพรรคอื่นนอกเหนือจาก 8 พรรค นายเศรษฐา ยังพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไกลเกินไป ขอรอผลประชุมจาก 8 พรรคก่อน

เมื่อถามว่า หากกรรมการบริหารพรรคมองอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นสมการไหน และให้นายเศรษฐา รับตำแหน่งก็พร้อมทำตามกรรมการบริหารพรรคใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องไปว่ากัน เพราะยังมีหลักการหลายอย่างที่ต้องพูดคุยกัน พร้อมย้ำ เรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องใครจะมาร่วมหรือไม่ การจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุดเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในวันนี้

เมื่อถามถึงเงื่อนไขการรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า อย่าไปคุยถึงเงื่อนไข เราไม่มีเงื่อนไขอะไรทั้งสิ้น วันนี้ยังต้องไปดูเรื่องราคาน้ำมัน ภัยแล้ง และหลายๆ เรื่อง ซึ่งในระยะที่ผ่านมา มองว่าประชาชนอาจไม่ได้พูด แต่เรื่องปากท้อง เป็นเรื่องที่ทุกคนน่าจะห่วงกันมากกว่า ต้องอย่าลืมว่าเราเป็นนักการเมือง และหน้าที่ของนักการเมืองคืออะไร คือการดูแลประชาชนสำคัญที่สุดตอนนี่

เมื่อถามถึงกระแสตีกลับมายังพรรคเพื่อไทย รวมถึงมีคนมองว่า นายเศรษฐาก็อยากเป็นนายกรัฐมนตรี จะรับมืออย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ผมพูดสั้นๆ ว่า ครับ ก็ต้องรับครับ แต่พูดไป 3 หนแล้ว คำว่า ครับ ไม่ได้หมายความว่า รับ หรือ ไม่รับ แต่หมายถึง รับทราบถึงเสียงที่ว่าจะอยู่ด้วยกัน 8 พรรค แต่วันนี้เรื่องปากท้องสำคัญ ตนเองอาจจะพูดเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง แต่ค่อนข้างเป็นห่วง ถ้าจะไปกับก้าวไกลเราก็พร้อมที่จะเสนอนโยบายในการประชุม ครม.นัดแรก หรือจะเป็นเรื่องอื่นก็ยังให้ความสำคัญกับเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง

เมื่อถามย้ำว่า ที่สุดแล้วไม่ว่ากรรมการบริหารพรรคจะว่าอย่างไร พร้อมทำตามมติใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ผมเล่นกีฬาเป็นทีมอยู่แล้ว เราเป็นประชาธิปไตย เมื่อมติเป็นอย่างไรก็พร้อมน้อมรับ และไม่อยากพูดเพื่อเป็นการกดดัน หรืออะไรทั้งสิ้น เพราะเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคในการพิจารณา ทั้งนี้ แม้จะถูกมองว่า จะมีการข้ามขั้ว แต่มองว่า อย่าพึ่งข้ามไปเลย วันนี้ขอให้ 8 พรรคคุยกันก่อนดีกว่า และมองว่า เราเล่นการเมืองกันมาเยอะแล้ว