'ตะวันตก' กรี๊ด!! จีนเบรกส่งออก 2 แร่หายาก ตอบโต้มาตรการคุมส่งออก 'ชิปชั้นสูง' ของสหรัฐฯ

สงครามชิงเจ้าแห่งอุตสาหกรรมผลิตชิป ยังคงเดือดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทางการจีนออกกฎหมายใหม่ จำกัดการส่งออกแร่หายาก Gallium และ Germanium หนึ่งในวัตถุดิบสำคัญในการผลิตชิป เพื่อใช้ในอุปกรณ์สื่อสารล้ำสมัย แผงโซลาร์เซลล์ อุปกรณ์เรดาร์ อุปกรณ์ไฟเบอร์ออพติค เลนส์กล้องอินฟาเรด ที่ช่วยส่งผ่านข้อมูลได้เร็วขึ้น โดยกฎหมายนี้เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั้งในสหรัฐฯ และ ยุโรป

ทางการจีนระบุว่า จำเป็นต้องจำกัดการส่งออกแร่หายากทั้ง 2 ชนิด เพื่อความมั่นคงของชาติ โดยบริษัทผู้ส่งออกต้องได้รับ Licence จากกระทรวงพาณิชย์จีนเท่านั้น จึงสามารถส่งออกได้ และต้องแจ้งรายละเอียดของผู้ซื้อปลายทาง รวมถึงระบุวัตถุประสงค์ที่นำแร่ไปใช้ เพื่อพิจารณาอนุมัติการส่งออกด้วย ซึ่งกฎหมายนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป 

เชื่อว่ากฎหมายจำกัดการส่งออกแร่ Gallium และ Germanium เป็นการตอบโต้มาตราการควบคุมการส่งออก ชิปชั้นสูง สำหรับใช้ในอุปกรณ์เทคโนโลยีล้ำสมัย และ เทคโนโลยีของสหรัฐฯ ที่นำมาใช้กับจีนมาก่อน 

โดยรัฐบาลสหรัฐฯ เคยออกกฎหมายในลักษณะเดียวกันในช่วงเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว (2022) ว่า บริษัทใดที่ส่งออกชิปชั้นสูง ระบบซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ไฮเทคไปจีนต้องได้รับ Licence จากรัฐบาลเสียก่อน ไม่ว่าอุปกรณ์ หรือชิปนั้น จะผลิตจากใน หรือ นอกสหรัฐก็ตาม ซึ่งนอกจากสหรัฐแล้ว ยังมีเนเธอร์แลนด์ และ ญี่ปุ่น กระโดดมาเข้าร่วมกับสหรัฐ แบนการส่งออกชิปไปจีนกับเขาเหมือนกัน 
.
'ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวย' จีนเลยยกระดับการโต้กลับบ้าง ด้วยการระงับการส่งออก 2 แร่หายากไปต่างประเทศ หรือจะพูดให้ตรงก็คือ ห้ามส่งไปประเทศที่ผลิตชิปเป็นหลัก และ คว่ำบาตรจีนนั่นแล

ซึ่งแร่หายากทั้ง 2 ชนิดนี้ อยู่ในหมวด 'โลหะรอง' ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการถลุงโลหะพื้นฐาน อาทิ สังกะสี และ อลูมิเนียม และผลิตออกมาได้น้อยมาก และนิยมนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชิปประมวลผลความเร็วสูง เลนส์กล้องส่องทางไกล และอุปกรณ์ไอทีอื่นๆ 

และในแต่ละปี สหรัฐอเมริกามีการนำเข้าแร่ Gallium และ Germanium ราวๆ 225 ล้านเหรียญ (ประมาณ 7.84 พันล้านบาท) ส่วนใหญ่นำไปใช้ในการผลิตเทคโนโลยีด้านกลยุทธ์ หรือพูดง่ายๆคือ อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับอาวุธทางทหารนั่นแล ดังนั้นการตัดกำลังการส่งออกแร่หายากของจีนอาจไม่ส่งผล กระทบต่อตลาดผู้บริโภคเท่าไหร่นัก ยกเว้น บริษัทผลิตขีปนาวุธ และเครื่องบินรบชั้นนำของสหรัฐอย่าง Lockheed Martin 

พอล ทริโอโล นักวิเคราะห์จากสถาบันด้านยุทธศาสตร์ และการต่างประเทศของสหรัฐมองว่า ยิ่งจีนพยายามที่จะตัดห่วงโซ่อุปทานในกระบวนการผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผลดีกับทั้งสหรัฐ EU และเอเชีย ที่จะเริ่มพึ่งพาจีนน้อยลงเท่านั้น 

ดังนั้น แบนได้ แบนไป ใช่ว่าจีนจะเป็นผู้ผลิตแร่หายากเจ้าเดียวในโลกเสียเมื่อไหร่ 

ซึ่งจะว่าไปก็ถูกต้อง เพราะจีนไม่ใช่ประเทศเดียวที่สามารถผลิต Gallium และ Germanium ได้ แค่ในตอนนี้ 94% ของแร่ Gallium และ 83% ของ แร่ Germanium ในตลาดโลกตอนนี้ มาจากจีนเท่านั้นเอง ด้วยปริมาณการผลิตที่มากขนาดนี้ทำให้แร่หายากทั้ง 2 ชนิดที่ผลิตจากจีน มีราคาถูกที่สุดในท้องตลาด 

ส่วนประเทศอื่น ที่สามารถผลิต Gallium และ Germanium ในปริมาณที่ส่งออกได้ และมีราคาพอรับได้ ก็คือ รัสเซีย และ ยูเครน ซึ่งตอนนี้ไม่ว่าง เพราะกำลังรบกันอยู่ 

สงครามเซมิคอนดัคเตอร์เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น มีอะไรให้ตกใจอีกเยอะต่อจากนี้