‘ไทย’ ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ ‘เมียนมา’ หลังพายุไซโคลน ‘โมคา’ เข้าถล่มรัฐยะไข่ เสียหายหนัก

เมื่อไม่นานมานี้ ที่ประชุม ครม. อนุมัติหลักการให้กระทรวงการต่างประเทศ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาการ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมา กรณีพายุไซโคลน ‘โมคา’ (Mocha) ซึ่งก่อตัวขึ้นในอ่างเบงกอลได้เคลื่อนตัวเข้าพื้นที่ด้านตะวันตกของเมียนมา บริเวณรัฐยะไข่ เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดพายุฝนตกหนัก น้ำท่วมเฉียบพลัน ดินโคลนถล่มและกระแสไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของชาวเมียนมาอย่างกว้างขวาง

ต่อมาในวันที่ 12 พ.ค. 66 สถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย ได้ส่งหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศของไทย แจ้งว่าทางการเมียนมาได้เตรียมความพร้อม ให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าว และขอรับการสนับสนุนจากไทยในกรณีที่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน 

ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ ได้พิจารณาแล้วว่า พายุไซโคลนที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงใกล้เคียงกับระดับซูเปอร์ไต้ฝุ่นที่รุนแรงมากกว่าพายุไซโคลนนาร์กีส ที่เคยเกิดขึ้นกับเมียนมาในปี 2551 และมีโอกาสที่จะสร้างความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินชาวเมียนมาอย่างกว้างขวางและเฉียบพลัน ดังนั้น การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างทันท่วงที จึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนอย่างยิ่ง

ส่วนงบประมาณที่จะใช้สำหรับให้การช่วยเหลือนั้น จะใช้จ่ายจากงบประมาณของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องซึ่งได้รับการจัดสรรไว้อยู่แล้ว จึงไม่มีผลเป็นการอนุมัติงานหรือโครงการ หรือมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อ ครม. ชุดต่อไป