‘นักวิเคราะห์’ เตือน!! ปัญหาสังคมผู้สูงอายุ อาจกระทบเครดิตเรทติ้งรัฐบาลทั่วโลก

สังคมผู้สูงอายุเริ่มส่งผลกระทบต่อการเงินสาธารณะทั่วโลกแล้ว โดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือหลายแห่ง ได้ออกมาเตือนว่า อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ได้เพิ่มผลกระทบของต้นทุนเงินบำนาญและการดูแลสุขภาพที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ มูดี้ส์, เอสแอนด์พี และฟิทช์เตือนว่า สถานการณ์ด้านประชากรที่ย่ำแย่ลงเริ่มส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลต่าง ๆ แล้ว หลังธนาคารกลางทั่วโลกปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่พุ่งทะยานขึ้น

มูดี้ส์, เอสแอนด์พี และฟิทช์กล่าวด้วยว่า ทางสถาบันมีแนวโน้มที่จะต้องปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของแต่ละประเทศหากไม่มีการปฏิรูปขนานใหญ่ ซึ่งเสี่ยงที่จะสร้างวงจรภาระทางการคลังที่เพิ่มสูงขึ้นและต้นทุนการกู้ยืมเงินที่เพิ่มสูงขึ้น

“ในอดีต ประเด็นด้านประชากรศาสตร์นั้นถือเป็นปัจจัยพิจารณาระยะกลางและระยะยาว แต่ขณะนี้ ประเด็นดังกล่าวได้ขยับเข้ามาและเริ่มกระทบอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศแล้ว” นายดีทมาร์ ฮอร์นุง รองกรรมการผู้จัดการของมูดี้ส์ กล่าว

สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์สรายงานว่า ในเดือนนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ต่างก็ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์การเงิน ซึ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนในการชำระหนี้ของรัฐบาล

“เมื่ออัตราการเกิดชะลอตัวลง ปัญหาก็เร่งด่วนมากยิ่งขึ้น” นายเอ็ดเวิร์ด ปาร์กเกอร์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยประเทศและนานาชาติของฟิทช์ระบุ พร้อมกล่าวเสริมว่า “หลายประเทศกำลังเผชิญผลกระทบไม่พึงประสงค์ โดยผลกระทบดังกล่าวมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ”

ด้านนายมาร์โค เมิร์สนิก หัวหน้านักวิเคราะห์ประเทศของเอสแอนด์พีระบุว่า ต้นทุนการกู้ยืมเงินที่เพิ่มขึ้น 1 จุดเปอร์เซ็นต์ จะเพิ่มอัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อผลผลิตมวลรวมภายในประเทศสำหรับญี่ปุ่น, อิตาลี, อังกฤษ และสหรัฐประมาณ 40-60 จุดเปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2603