‘จุรินทร์’ ปลุกพลังเงียบ ‘เซฟ ปชป.’ เพื่อเป็นเสาหลักพาชาติรอด วอน คนไทยอย่าเลือกตามกระแส แต่เลือกเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

(12 พ.ค. 66) ที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์จัดการปราศรัยใหญ่นัดสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง ภายใต้ชื่องาน ‘#SAVEประชาธิปัตย์ เพื่อ #SAVEประชาธิปไตยไม่โกง’ โดยมีแกนนำพรรคฯ อาทิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคฯ, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคฯ, นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคฯ ดูแล กทม., น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง และนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม.รวมถึงคณะผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 คน และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

ต่อมา นายจุรินทร์ กล่าวปราศรัยว่า ขอขอบคุณประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ที่ไม่เคยทอดทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีการเลือกตั้งครั้งไหนที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร ในนามพรรคประชาธิปัตย์ วันนี้เป็นวันสุดท้ายการปราศรัยใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้ง เพราะวันที่ 14 พ.ค.นี้ เป็นวันเลือกตั้ง สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการแข่งขันที่รุนแรงครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ แข่งขันกันทั้งคน ทั้งนโยบาย แข่งขันทั้งพรรค และทั้งการสร้างกระแสทางการเมือง เพื่อทำให้ประชาชนเข้าใจว่า เสียงของตัวเองเป็นเลิศ สามารถแลนด์สไลด์ได้

ที่สำคัญ ตนเป็นห่วงว่าแม้ฝุ่น PM 2.5 หมดไปแล้วด้วยฝนหลวงที่ลงมาชะล้าง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ PM 500 กับ PM 1,500 ตนจึงอยากกับทุกคนว่า การเลือกตั้งเที่ยวนี้ ประชาชนในกรุงเทพฯ และประชาชนทั้งประเทศอย่าลงคะแนนเลือกตั้งตามกระแส และอย่าเลือกเพราะผลประโยชน์เฉพาะหน้า แต่ขอให้เลือกอนาคตที่ยั่งยืนให้ประเทศ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกเพื่ออนาคตของกรุงเทพฯ และประเทศไทยของเรา สำหรับ กทม. พรรคประชาธิปัตย์พร้อมทั้งผู้สมัครของเรา 33 คน 33 เขต และยังมีผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า สถานการณ์การเลือกตั้งสำหรับพรรคประชาธิปัตย์เที่ยวนี้ ตนขอบอกว่า ตั้งแต่นับหนึ่งเมื่อ 4 ปีที่แล้ว มาจนถึงวันนี้ ทุกอย่างดีขึ้นเป็นลำดับ เสียงตอบรับจากคนไทยทั้งประเทศดีขึ้นในทุกภาค ขณะที่ 3 ทัพของพรรคประชาธิปัตย์กำลังเดินหน้าบุกตะลุยไปทั่วประเทศ ตนจึงขอให้พลังเงียบและพลังประชาธิปัตย์ช่วยกันตะลุยหาเสียงต่อไปจนนาทีสุดท้าย เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ได้รับเสียงสนับสนุนจากคนไทยทั่วประเทศถล่มทลาย เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์อยู่คู่ฟ้าไทยตลอดไป

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า สัญญาณที่พรรคประชาธิปัตย์ได้แถลง เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขอเน้นย้ำกับชาว กทม.และคนไทยทั้งประเทศ ว่าขอเรียกร้องให้ช่วยกัน ‘Save ประชาธิปัตย์’ เพื่อ ‘Save ประชาธิปไตย’ ต่อไป เพราะนี่คือทางรอดทางเดียวของประเทศ และทำไมต้อง ‘Save ประชาธิปัตย์’ คือ

1.) เพราะถ้ามีไม่มีพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะไม่มีสถาบันการเมืองที่อยู่คู่กับประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประเทศ

2. เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีอายุยืนยาวที่สุดในเอเชียอาคเนย์ คู่กับพรรคอัมโนของมาเลเซีย

3.) เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง ไม่ใช่ของจอมพลคนใดจอมพลคนหนึ่ง ไม่ใช่ของนายพลคนใดนายพลคนหนึ่ง ไม่ใช่นายทุนคนใดคนหนึ่ง และไม่ใช่พรรคเพื่อครอบครัวใดเพื่อครอบครัวเดียว ไม่ใช่พรรคของนายพล เพื่อนายพล ไม่ใช่พรรคเพื่อนายทุนเพื่อนายทุน แต่ประชาธิปัตย์เป็นพรรคของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน  และใน 140 ประเทศ บรรดาพรรคการเมืองทั้งหมดในประเทศไทย มีสมาพันธ์พรรคการเมืองเสรีนิยมประชาธิปไตยโลกให้การยมอรับว่าเป็นประชาธิปไตยตัวจริง คือพรรคประชาธิปัตย์

4.) พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคของคนรุ่นใดรุ่นหนึ่ง แต่เป็นของคนทุกรุ่นและของคนไทยทั้งประเทศ

5.) นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์อาจไม่หวือหวา แต่ตกผลึก และมีความรับผิดชอบ รวมถึงทำได้จริง ที่สำคัญ ไม่พาประเทศไปสุ่มเสี่ยง แต่สามารถพาประเทศรอดได้จริงในอนาคต ถ้ามีโอกาสตั้งรัฐบาล และนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์จะไม่เป็นระเบิดเวลาของประเทศ เพราะไม่เปลี่ยนทุกอย่างที่ขวางหน้า เพราะถ้าสิ่งนั้นดีอยู่แล้ว แต่ไปเปลี่ยนก็จะพาประเทศไปไม่รอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่กระทบกับหัวใจคนทั้งประเทศ

6.) พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใดที่ทุจริตจนต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ

นายจุรินทร์ กล่าวว่า จาก 6 เหตุผลดังกล่าว ตนขอส่งสัญญาณไปยังคนกรุงเทพฯ และคนไทยประเทศว่าทำไมพวกเราต้องประกาศวิงวอนขอให้ช่วยพรรคประชาธิปัตย์ และขอให้ช่วยพรรคประชาธิปัตย์ให้อยู่คนไทยต่อไป และนอกจากนี้ เราต้องเซฟประชาธิปไตยไม่โกง ให้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบเท่านั้น เพราะถ้าประชาธิปไตยครึ่งใบก็ไปต่อไม่ได้ แต่ถ้ามีประชาธิปไตยอย่างเดียวไม่พอ เพราะมีหลายยุคหลายสมัยที่ประเทศไปต่อไม่ได้ ไม่ใช่แค่ประชาธิปไตย แต่โคตรโกง เพราะสุดท้ายคนที่เสียหายคือประชาชนและประเทศชาติ อีกทั้งที่ผ่านมา เมื่อประชาธิปไตยไปต่อไม่ได้ เพราะมีการยึดอำนาจก็ต้องไปดูว่ารัฐบาลก่อนหน้านั้น ทำอะไรไว้ ซึ่งส่วนหนึ่งก็คดโกง ดังนั้นนอกจากจะเซฟประชาธิปัตย์ ต้องเซฟประชาธิปไตยไม่โกง เพราะเป็นทางรอดทางเดียวของประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง

“นี่คือสิ่งที่ผมอยากส่งสัญญาณให้ชัดเจน ว่าถ้าประชาชยไว้ใจพรรคประชาธิปัตย์ ผมยืนยันว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาลได้ พรรคประชาธิปัตย์จะพาประเทศรอดแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ เพราประวัติศาสตร์บอกไว้ว่าทุกครั้งที่ประเทศเกิดวิกฤติ ประสบปัญหาเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์กู้วิกฤตทุกครั้ง เช่น วิกฤตต้มยำกุ้ง แฮมเบอร์เกอร์ และถ้าเลือกพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาลได้ การปฏิวัติจะเป็นศูนย์ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่โกง ไม่สร้างเงื่อนไข นี่คือสัญญาณทั้งหมดเพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นเสาหลักในการเซฟประชาธิปไตยไม่โกง และเป็นทางรอดของประเทศต่อไป จึงขอส่งสัญญาณไปยังชาว กทม. และคนไทยทั้งประเทศ ทั้งพลังเงียบ พลังประชาธิปัตย์ ช่วยวิงวอนประชาชนทุกคนไปช่วยกันเลือกพรรคประชาธิปัตย์ 14 พ.ค.” นายจุรินทร์ กล่าว