‘ชพก.’ เปิดเวทีปราศรัย ‘นครศรีฯ’ ลั่น!! รื้อระบบกองสลาก ชู ‘หวยจังหวัด’ หนุน ปชช.เป็นเศรษฐีเงินล้านเดือนละ 462 คน

วันนี้ (6 พฤษภาคม) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี, นายจูรี นุ่มแก้ว ดาวติ๊กต็อก ขวัญใจชาวใต้ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จังหวัดสงขลา เบอร์ 8 ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขอคะแนนสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.ได้แก่ นายโอฬาร สุตตะนาคา หรือ ‘ทนายแชมป์’ ผู้สมัครเขต 1 เบอร์ 7 และนายหัวสิทธิ์ สิทธิรัก ทิพย์อักษร ผู้สมัคร เขต 4 เบอร์ 9 โดยในช่วงเช้า นายกรณ์พร้อมคณะ ได้เดินหาเสียงที่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช และช่วงบ่ายช่วยหาเสียงที่ตลาดอำเภอชะอวด โดยมีประชาชนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและอวยพรให้ได้ ส.ส.เข้าไปทำงานในสภาฯ มากๆ

ต่อมาในช่วงค่ำ ได้จัดเวทีปราศรัยที่สถานีรถไฟชะอวด มีประชาชนร่วมรับฟังกว่าครึ่งหมื่น โดยนายกรณ์ ได้ขึ้นปราศรัย โดยระบุว่า เหลือเวลาอีกเพียง 8 วันก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้ง ตั้งใจมุ่งมั่นมาตั้งแต่แรกว่ายังไงก็ต้องมาชะอวด เพราะมีความผูกพันเป็นพิเศษเนื่องจากเมื่อ 2 ปีที่แล้วเราส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมในนามพรรคกล้า ทุกคะแนนที่ได้เป็นคะแนนเสียงบริสุทธิ์ ที่มีค่าทางใจมหาศาลกับเราและเป็นกำลังใจให้เราทำการเมืองตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ และวันนี้พวกท่านก็ได้มานั่งอยู่ตรงนี้และพร้อมสนับสนุนพรรคเรา

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวถึงความกังวลของพี่น้องประชาชนบางคนที่ว่า เป็นพรรคเล็กเลือกไปแล้วจะเสียของหรือเปล่า เลือกไปแล้วจะได้ทำงานไหม ตนขอบอกว่า การเลือกตั้งมันเลือกด้วยหลากหลายเหตุผล แต่สำหรับคนที่มั่นใจว่าเราเป็นคนที่ท่านเลือกมาแล้วสามารถทำงานรับใช้ท่านได้แน่นอน พรรคชาติพัฒนากล้าถึงแม้จะเป็นพรรคเล็ก แต่เราต่อสู้กับทุนใหญ่ ทุนผูกขาดทุกประเภท วันนี้การผูกขาดเป็นต้นตอที่มาของสินค้าราคาแพง ต้นทุนค่าครองชีพของพี่น้องประชาชนสูงขึ้น ปุ๋ยราคาแพง ราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ

อีกทั้งยังมีปัญหาคอร์รัปชัน ที่ทุนผูกขาดไม่ได้ครอบงำแต่ระดับเศรษฐกิจ แต่ครอบงำไปถึงการเมืองระดับประเทศ เพราะความจริงพรรคยิ่งใหญ่ ยิ่งต้องใช้เงิน และยิ่งมีความจำเป็นต้องอยู่ในระบบอุปถัมภ์ของการผูกขาด เราไม่สามารถที่จะพึ่งพรรคที่อยู่ในระบบอุปถัมภ์ของการผูกขาด มาแก้ปัญหาการผูกขาด สร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนได้ และนี่คือสาเหตุที่ต้องเป็นพรรคชาติพัฒนากล้า

นายกรณ์ ยืนยันด้วยว่า พรรคชาติพัฒนา ‘ไม่ยกเลิก ไม่แก้ มาตรา 112’ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว นายอรรถวิชช์ ได้เสนอทางออกให้กับรัฐบาล โดยเราบอกว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ต้องมีกฎหมายคุ้มครองนั่นคือมาตรา 112 เราไม่เห็นด้วยกับยกเลิก หรือแม้แต่แก้ไข แต่เราต้องการเสนอแนวทางมีคณะกรรมการกลั่นกรอง เพื่อไม่ให้มีข้ออ้างว่ามีการนำกฎหมายนี้ไปแกล้งใครในทางการเมือง

นายกรณ์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้า จะเพิ่มรางวัลให้กับพี่น้องประชาชนที่ซื้อลอตเตอรี่ ทุก ๆ งวด จะมีพี่น้องประชาชนทุกจังหวัด ๆ ละ 3 คนถูกรางวัลคนละ 1 ล้านบาทรวม 3 ล้านบาท หมายความว่าเราจะมีเศรษฐีเงินล้านทั่วประเทศ 231 คนต่องวด 462 คนต่อเดือน และ 5,400 คนต่อ เราทำได้แน่นอน เพราะกองสลากผูกขาดเรื่องการขายลอตเตอรี่ ที่ผ่านมาเมื่อ 8 ปีที่แล้ว  เขาขายลอตเตอรี่งวดละ 37 ล้านใบ ขณะที่ปัจจุบันขาย 100 ล้านใบ ทำให้รายได้กองสลากเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 5 หมื่นกว่าล้านบาทต่อปี แต่สัดส่วนการแบ่งรางวัลยังเท่าเดิม นั่นคือสาเหตุที่คนไม่ค่อยถูกลอตเตอรี่กัน

นายอรรถวิชช์ พูดถึงปัญหาค่าไฟแพงโดยระบุว่า รัฐบาลควรยกเลิกการเก็บค่าเอฟที เพราะราคาก๊าซในอ่าวไทยก็ถูกลงแล้ว และไม่ต้องนำเข้าก๊าซจากต่างประเทศ ขณะที่ค่าเงินบาทก็แข็งค่าขึ้นมาก ค่าไฟในประเทศไทย เป็นราคาสมมติ ปกติทุกประเทศจะตั้งไฟสำรองไว้ 15% ค่าไฟเขาจึงไม่แพง แต่รัฐบาลไทยตั้งสำรองไฟเกือบ 60% มันเกินความจำเป็นไปมาก ให้เอกชนผลิตไฟฟ้าแล้วรัฐรับซื้อทั้งหมด ประชาชนเลยต้องแบกต้นทุนทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของเขา ค่าน้ำมันก็เช่นเดียวกัน ถูกยัดเยียดต้นทุนจากราคาสมมุติ ประชาชนต้องจ่ายแพงเกินจริง ส่วนกำไรตกอยู่กับทุนผูกขาด

ด้านจูรี ชูประเด็นการเมืองสร้างสรรค์ ไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง คืนศักดิ์ศรีคนใต้ ไม่ให้มาซื้อได้ นอกจากนี้ ยังได้พูดถึงนโยบายเกี่ยวกับพืชผลทางการเกษตรของพรรคชาติพัฒนากล้า เพื่อแก้ปัญหาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ เพราะนายทุนเป็นผู้กำหนดราคา โดยที่ชาวบ้านไม่มีอำนาจต่อรองอะไรเลย พรรคชาติพัฒนากล้าเสนอให้มีการตั้ง ยกตัวอย่างให้เกษตรกรชาวสวนยางมารวมตัวกันทั้งประเทศ ตั้ง ‘บริษัทการยางมหาชน’ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์  โดยมีชาวบ้าน ชาวสวนยาง เป็นผู้ถือหุ้น และเป็นนายทุนเอง มีอำนาจต่อรองกำหนดราคาซื้อ ราคาขายเอง ไม่มีพ่อค้าคนกลางมาตัดราคา เราก็จะได้ราคายางที่เพิ่มขึ้น บริษัทนี้รัฐบาลต้องร่างกฎหมาย และเป็นคนจัดแจง ตั้งให้มีฝ่ายผลิต ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฝ่ายขาย อย่างครบวงจร แล้วกำหนดราคาซื้อ ราคาขายมีอำนาจต่อรองกับตลาดโลกได้