‘ชพก.’ เปิดปราศรัยแฟลตคลองจั่น อ้อนชาวบ้าน หนุน ‘ธาม’ เข้าสภาฯ ลั่น!! พร้อมทุบทุนผูกขาด กระจายรายได้สู่ฐานราก สร้างโอกาสให้ ปชช.

(4 พ.ค. 66) พรรคชาติพัฒนากล้า นำโดย นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค และทีมผู้สมัคร ส.ส.ประกอบด้วย นายพรชัย มาระเนตร์ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ นายบุญสืบ จันทร์แจ่มศรี ผู้สมัคร เขตลาดพร้าว บึงกุ่ม เบอร์ 3 นายนที ศิริธรรมวัฒน์ ผู้สมัครเขต พญาไท ดินแดง เบอร์ 11 ลงพื้นที่บางกะปิ เพื่อช่วยนายธาม สมุทรานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.บางกะปิ-วังทองหลาง เบอร์ 8 หาเสียง และจัดเวทีปราศรัยย่อยที่แฟลตคลองจั่น โดยมีผู้สนใจรับฟังเป็นจำนวนมาก

นายวรวุฒิ กล่าวว่า ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นคนรุ่นใหม่เกือบทั้งสิ้น และมีความตั้งใจที่ตรงกันคือ อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ที่เราจะไม่ทำแบบการเมืองเก่า ตนในฐานะที่เป็นนักธุรกิจ เติบโตจากธุรกิจเครื่องเขียนห้องแถว ที่เกือบล้มละลาย เติบโตจนเป็นธุรกิจเครื่องเขียนยักษ์ใหญ่มีรายได้หมื่นล้านในเวลา 30 ปี ผ่านมาหลายวิกฤตทั้งในประเทศและนอกประเทศ และยังเป็นผู้ก่อตั้งสมาคมอีคอมเมิร์ซขึ้นมา 20 ปี ก่อนได้เตือนรัฐบาลว่าให้สนับสนุนอีคอมเมิร์ซของคนไทยไว้ เพราะไม่เช่นนั้นสักวันเราจะไม่เหลืออยู่เลย

ซึ่งวันนี้ก็เป็นจริง เราสูญเสียเอกราชแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ให้กับต่างชาติไปเป็นที่เรียบร้อย อำนาจอยู่ในมือบริษัทข้ามชาติทั้งสิ้นเขาจะกำหนดเงื่อนไขอย่างไร เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย ยกตัวอย่างแพลตฟอร์มจองโรงแรม ผู้คิดค้นคนแรก ๆ ของโลกเป็นคนไทย แต่รัฐบาลไทยไม่เข้าใจไปเก็บภาษีเขาแพงทำให้อยู่ไม่ได้ จนต้องขายให้กับ agoda จนปัจจุบันเป็นแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ของโลกไปแล้ว เราต้องสูญเสียรายได้ที่ต้องจ่ายให้กับแพลตฟอร์มเหล่านี้ถึงปีละ แสนกว่าล้านบาท นี่เพียงแพลตฟอร์มเดียว และยังมีอีกหลายแพลตฟอร์มที่เราสูญเสียไป อย่างน่าเสียดาย เพียงเพราะเรามีรัฐบาลที่ไม่เข้าใจ

นายวรวุฒิ กล่าวว่า นักธุรกิจไทยเก่งจนต่างชาติยกย่อง เขาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ประเทศไทยดีทุกอย่างยกเว้นการเมือง เรากลายเป็นคนป่วยของเอเชีย การเติบโตทางเศรษฐกิจของคนไทยถดถอยมาตลอดหลายปี เพราะการเมืองรังแกประเทศ นั่นคือจุดที่เราอยากมาทำงานการเมือง เราเห็นพรรคการเมืองทำหลายเรื่อง แบ่งขั้ว ซ้าย ขวา ความจริงมันไม่มีอะไรซ้ายขวาจริง ๆ ในทางการเมือง สิ่งที่เราต้องกลัวคือ คนขี้โกง พวกนี้ต่างหากที่ทำให้ประเทศมีปัญหา พรรคชาติพัฒนากล้าจึงประกาศชนทุนผูกขาด ที่ไม่เอื้อให้คนตัวเล็กเติบโตลืมตาอ้าปากได้ ทั้งพลังงาน สินเชื่อ ภาษี ตลอดจนระบบราชการ เราจะทำระบบคู่ขนานโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อให้มีการตรวจสอบโปร่งใส

นอกจากนี้ ยังเราหารายได้จากธุรกิจเฉดสี 5.5 ล้านล้านบาท เราไม่เน้นประชานิยมแจกเงิน เพราะเวลานี้ประเทศเราไม่ได้มีเงินมากมาย และไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤตเหมือนช่วงโควิดที่ผ่านมา พรรคเรามีคุณกรณ์ เป็นหัวหน้าพรรคที่มีประสบการณ์ตรงจากการแก้วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ที่ส่งผลกระทบทั่วโลกเมื่อ 10 กว่าปีก่อน คุณกรณ์ ก็เคยใช้วิธีการแจกเงิน พร้อมไปกับการกู้วิกฤตเศรษฐกิจ โดยสามารถพลิกจีดีพีติดลบ 2.7% ขึ้นมา 7.8% ได้ภายใน 1 ปี จนได้รับการยกย่องให้เป็น รมว.คลังโลก และวันนี้เราก็พร้อมนำประสบการณ์มาแก้วิกฤตให้พี่น้องประชาชน

“วันที่ 14 พฤษภาคม ท่านใช้สิทธิของท่านด้วยความเป็นตัวของตัวเอง ท่านจะเลือกพรรคไหนเราเคารพการตัดสินใจ เพราะเราได้เสนอตัวให้เป็นทางเลือกกับท่านแล้ว แต่อย่าเลือกด้วยความกลัวว่าเลือกคนนี้เพราะกลัวคนนั้นจะมา โดยไม่สนใจนโยบายหรือคุณภาพของตัวบุคคล เราจะเสียโอกาสในการได้ผู้แทนที่ดีเข้าไปทำหน้าที่แทนประชาชน แต่ถ้าอยากได้คนอย่างคุณกรณ์ หรือผม เข้าไปทำงานในสภา 14 พฤษภาคม กาเบอร์ 14 พรรคชาติพัฒนากล้า” นายวรวุฒิ กล่าว

นายธาม กล่าวว่า ตนเป็นคนรุ่นใหม่อายุ 28 ปี แต่มีประสบการณ์มากพอในการทำธุรกิจ และได้ลงพื้นที่บางกะปิ มานานจนผูกพัน เห็นความยากลำบาก เห็นปัญหาของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ต้องบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในบ้าน มันยิ่งตอกย้ำปมในใจที่ตนได้เสียคุณทวดไป เพราะล้มในบ้านของตัวเอง นั่นจึงเป็นที่มาที่ตนตัดสินใจนำเสนอนโยบาย อารยสถาปัตย์ ซ่อมบ้านให้ผู้สูงอายุและคนพิการ กับนายกรณ์ และเสนอตัวขอลงสมัคร ส.ส.เขตบางกะปิ-วังทองหลาง เพื่ออาสาเป็นตัวแทนที่จะไปต่อสู้เพื่อคุณภาพชีวิตของชีวิตของพี่น้องประชาชน เพราะลำพังเป็นนักธุรกิจบ้านจัดสรรอย่างเดียว แม้จะทำบ้านดี ๆ ให้กับประชาชนได้ แต่ไม่สามารถช่วยในภาพใหญ่ได้ ดังนั้นวันนี้ ไม่ว่าจะเหนื่อย ลำบากแค่ไหนก็จะไม่ท้อ และจะสู้เต็มที่ เพราะถ้าตนชนะ ทุกคนก็จะชนะ เพราะตนทำจริง และก็ดีใจที่นายกรณ์ รับข้อเสนออารยสถาปัตย์เป็นนโยบายหลักของพรรค ที่จะขยายผลซ่อมบ้านให้ผู้สูงอายุและผู้พิการทั่วประเทศ

นายธาม กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ขวางกั้นความเจริญก้าวหน้าและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนคนธรรมดา คือ ทุนผูกขาด ประเทศเราเคยเป็นประเทศแห่งโอกาส มีคนจีน มุสลิม ตลอดจนคนไทย ได้สร้างเนื้อสร้างตัวในประเทศนี้ได้เป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันระบบไม่เอื้อ เพราะเรามีกำแพงเศรษฐกิจจากทุนผูกขาด น้ำมันแพง ไฟแพง ต้นเหตุทุกอย่างแพงหมด กระทบต่อค่าครองชีพ รัฐบาลทำสัญญาซื้อไฟเกินความต้องการ เพราะเอื้อทุนใหญ่ พรรคชาติพัฒนากล้า จะยึดอำนาจจากทุนใหญ่ ทุบทุนผูกขาดทุกรูปแบบ เปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชน มีบันไดถีบตัวเองให้มีฐานะทางสังคมได้ คนตัวเล็กแข่งขันกับคนตัวใหญ่ได้ พรรคเราไม่มีนโยบายซื้อเสียง ไม่มีประชานิยม แต่แจกโอกาส  ให้ทางประชาชนหารายได้ตั้งตัวได้

นายพรชัย กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้าได้คิดเศรษฐกิจเฉดสี 5.5 ล้าน เงินที่ต้องกระจายไปถึงพ่อแม่พี่น้อง จากนี้ไปเราจะเห็นนโยบายพรรคกระจายไปยังชุมชนต่างเพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้พี่น้องประชาชนได้รู้ว่า ถ้าต้องการงานดี มีเงิน และของไม่แพง จะต้องทำอย่างไร โดยทุกนโยบายเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ทันที

ขณะที่ นายนที กล่าวว่า นโยบายประชานิยม แจกเงิน เราใช้ไม่กี่วันก็หมด และเงินก็จะไหลไปที่คนรวย เหลือเงินไหลในระบบเศรษฐกิจน้อยมาก และไม่ยั่งยืน แต่พรรคเราเน้นเติบโตอย่างยั่งยืน เราเน้นลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และสู้กับทุนใหญ่เพื่อลดค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชน ใครจะเป็นพรรคซ้าย พรรคขวา หาเสียงให้เลือกคนนั้นไม่เอาคนนี้ เลือกคนนี้ไม่เอาคนนั้น ช่างเขา เพราะสุดท้ายประเทศไม่ได้อะไร  แต่ควรเลือกพรรคที่หาเงินเข้าประเทศ แก้ปัญหาปากท้องให้พี่น้องประชาชน โดยการรื้อโครงสร้างให้มันไม่ผูกขาด กระจายรายได้ลงสู่เศรษฐกิจฐานราก

นายนที กล่าวว่า ช่วงโควิด ตนเห็นผู้ประกอบการหลายรายต้องเดือดร้อน จากการจ่ายดอกเบี้ยแพงมหาโหดจากการพึ่งหนี้นอกระบบ เนื่องจากไม่สามารถกู้ในระบบได้เพราะติดแบล็กลิสต์ ตนได้ทำโครงการกล้าปลดหนี้ เพื่อช่วยให้ผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบกลับมากู้ในสถาบันการเงินได้ จนสามารถสร้างเศรษฐีได้ 3 ราย และยังกระจายรายได้ไปยังลูกจ้าง พนักงาน ไปอีกหลายครอบครัว เราเป็นพรรคเดียวที่คิดเรื่องเศรษฐกิจปากท้องอย่างจริงจัง และมีรูปแบบเป็นชิ้นเป็นอันมากที่สุด วันที่ 14 พฤษภาคม ถ้าท่านอยากได้รัฐบาลที่จะสร้างเงินในกระเป๋ามากยิ่งขึ้นเลือกพรรคชาติพัฒนากล้า

ด้านนายบุญสืบ กล่าวว่า ก้าวแรกที่ประชาชนต้องกล้าและเชื่อว่าเราทำได้ คือ การเลือกผู้แทนที่จะทำเข้าทำงานและเป็นกระบอกเสียงให้ท่านในสภา ตนเดินพื้นที่ ลาดพร้าว วังทองหลาง มา 2 ปีกว่า รู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี เข้าใจปัญหาของพี่น้องประชาชน และเห็นความเจ็บปวดจากการเลือกผู้แทนแล้วไม่ได้ทำอะไรเลยแต่ชาวบ้านก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเลือกไปแล้ว ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นระดับเขตหรือระดับประเทศ เราต้องมีสิทธิตามดูผู้แทนของเราว่า เขาเอางบประมาณไปทำอะไร นโยบายไหนได้ดำเนินการบ้างตามที่เขาได้ประกาศไว้ พรรคชาติพัฒนากล้าเราไม่เน้นประชานิยม เพราะประเทศกู้เงินมาแจกจนประเทศติดหนี้มากพอแล้ว สิ่งที่เราเน้นคือโอกาสนิยม จะสร้างเงินในกระเป๋า สร้างรายได้ใหม่ให้ประเทศ ลดค่าครองชีพ รื้อโครงสร้างพลังงาน ภาษีไม่เป็นธรรม รวมถึงระบบราชการล้าหลัง และเราได้นำเสนอมาตลอด พร้อมไปกับทำให้ดู หากท่านอยากได้ผู้แทนแบบนี้ ก็ขอโอกาสพรรคชาติพัฒนากล้าเข้าไปทำงาน