‘ตร.ไซเบอร์’ ทลาย ‘แก๊งจีน’ ลวงส่งของเก็บเงินปลายทาง พบเหยื่อโผล่ทั่วไทย เงินหมุนเวียน 20 ล้านบาท

ตร.ไซเบอร์ทลาย"แก๊งจีน"ตีเนียนส่งของเก็บเงินปลายทาง พบเหยื่อโผล่ทั่วไทย บุกค้นโกดังสินค้าย่านบางนาพบพัสดุนับหมื่นชิ้น เร่งขยายผลล่านายทุนจีนตัวการใหญ่ เผยเงินหมุนเวียนกว่า 20 ล้าน
.
(24 เม.ย.66) พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท 2 พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจ นากูร ผกก.2 บก.สอท.2  นำกำลัง บก.สอท. 2 ปิดล้อมตรวจค้น 3 จุด ในพื้นที่บางนา หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่าได้รับความเดือดร้อนจากการที่มีพัสดุเก็บเงินปลายทางมาส่ง ทำให้หลงเชื่อว่าอาจจะมีบุคคลในครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงานเป็นคนสั่งก่อนชำระเงินให้ไป ทำให้เดือดร้อนและเกิดความเสียหาย มีผู้หลงเชื่อชำระเงินไปเป็นจำนวนมาก

โดยจุดที่น่าสนใจเป็นการเข้าตรวจค้นโกดัง เก็บของ รับของ 2 แห่ง ภายในซอยบางนาตราด 17 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กทม. ซึ่งลักษณะเป็นโกดังให้เช่า โดยโกดังแห่งแรกเป็นโกดังเก็บพัสดุสินค้า จากการตรวจสอบพบพัสดุสินค้าหลายรายการ ภายในบรรจุสินค้าหลายรายการ อาทิ เครื่องสำอาง,รองเท้า, เสื้อผ้า อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น  นอกจากนี้ยังพบกล่องพัสดุเปล่าที่เตรียมแพ็กของสุ่มส่งลูกค้า  และสติกเกอร์รายชื่อที่อยู่ของเหยื่อที่ถูกทำลายเป็นจำนวนมาก  อีกทั้งตรวจค้นในสำนักงานพบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีรายชื่อของผู้รับถูกบันทึกไว้อย่างละเอียดในระบบคอมพ์พิวเตอร์ และยังมีสินค้าตีกลับอีกนับหมื่นรายการ

โกดังที่สองเป็นโกดังสำหรับแพคพัสดุที่รอทำการส่ง พบชั้นวางกล่องพัสดุที่ถูกตีกลับ และกระสอบใส่กล่องพัสดุที่ถูกตีกลับกว่าหมื่นกล่อง  รวมทั้งบาร์โค้ดที่ใช้สำหรับส่งของพัสดุ  นอกจากนี้ทั้งสองจุดสามารถควบคุมตัวผูู้ดูแล คือ น.ส.สุรีพร อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ. 225 /2566 ลงวันที่ 24 เม.ย.ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และคุมตัวนายตู่ อายุ 27 ปีพนักงานแพ็กของ

เบื้องต้นทั้งสองอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นว่าเป็นพฤติกรรมการหลอกลวงส่งของเก็บเงินปลายทาง ทั้งในส่วนบาร์โค้ด รายชื่อลูกค้า และโลโก้บริษัทส่งของต่างๆ อ้างเพียงถูกจ้างมาแพ็กของติดชื่อส่งพัสดุยังผู้รับ ได้ค่าจ้างเดือนละ  15,000 บาท ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งในส่วนรายชื่อ หรือพัสดุ โดยเจ้าของกิจการ ซึ่งเป็นคนจีนจัดหามาให้เพียงแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น แต่ให้ข้อมูลว่าสินค้าทั้งหมดนำเข้ามาจากจีน แต่ไม่ทราบวิธีการนำเข้า จากนั้นจะนำชื่อที่อยู่ของผู้รับ จากระบบคอมพิวเตอร์ปริ้นท์ลงกระดาษแปะหน้ากล่อง ก่อนจะนำไปส่งต่อยังบริษัทรับส่งพัสดุ เพื่อนำส่งไปตามที่อยู่ที่ระบุหน้ากล่อง ซึ่งทั้งหมดจะถูกเก็บเงินปลายทางยังผู้รับทุกวัน โดยแต่ละวันจะส่งวันละหลายร้อยกล่อง ที่ผ่านมาก็ถูกตีกลับเกินครึ่ง และหากสินค้าที่ถูกตีกลับมาจะนำลอกชื่อหน้ากล่องออก แปะข้อมูลของอีกคนเข้าไปแทนจากนั้นดำเนินการส่งใหม่อีกรอบ ทำซ้ำๆ วนไปแบบนี้เป็นวงจรปกติ สำหรับรายชื่อของผู้รับไม่ทราบว่าเจ้าของซึ่งเป็นคนจีนนำมาจากไหน แต่จะมีเข้ามาในระบบเรื่อยๆ

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า ตามนโยบายของพล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. ที่เน้นย้ำสั่งการให้ปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ หลังสถิติการรับแจ้งความทางออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่า มีประชาชนตกเป็นเหยื่อจากการสั่งสินค้าทางออนไลน์สูงเป็นอันดับหนึ่ง ขณะเดียวกันทาง บก.สอท.2 ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายจำนวนมากว่าได้สั่งซื้อสินค้าผ่านเพจเฟชบุ๊ก Wdecd-US แต่ได้รับสินค้าที่ไม่ตรงตามที่สั่ง และกรณีที่ผู้เสียหายได้รับสินค้า ที่ไม่ได้สั่งซื้อ โดยเรียกเก็บเงินปลายทางกับผู้เสียหาย จึงได้แจ้งความไว้ผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ หลังรับเรื่องได้ทำการสืบสวนจนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีลักษณะเป็นขบวนการ จึงรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายค้นและหมายจับ

โดยพฤติกรรมของขบวนการนี้มีสองรูปแบบ คือ จะส่งสินค้าที่ไม่ตรงปกและส่งสินค้าทั้งที่ไม่ได้สั่ง และจะเก็บเงินปลายทาง โดยสินค้าส่วนใหญ่ เป็นสินค้าไม่ได้คุณภาพและเป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์  ซึ่งหากผู้รับปฏิเสธไม่จ่ายเงินปลายทาง ก็จะสามารถตีกลับคืนไปยังต้นทางได้ทันที ส่วนเหยื่อรายไหนที่เผลอรับหรือจ่ายเงินปลายทาง นั้นถือเป็นรายได้ของแก๊งมิจฉาชีพ  ซึ่งส่วนใหญ่คนที่มีรายชื่อระบุหน้ากล่องจะรู้ตัวเองว่าไม่ได้สั่ง แต่คนในบ้าน ซึ่งเป็นญาติพี่น้องจะไม่รู้ว่าไม่ได้สั่ง จึงเผลอจ่ายเงินปลายทาง รับของไว้ให้ทำให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก และมีอยู่ทั่วประเทศเนื่องจากขบวนการนี้จะทำการสุ่มกระจายรายชื่อเหยื่อ  ส่วนชิ้นไหนถูกบริษัทขนส่งเอกชนตีกลับก็จะนำมาลอกรายชื่อกระดาษหน้ากล่องออก แปะทับรายชื่อใหม่ส่งวนไปสู่เหยื่อรายใหม่ โดยในแต่ละวันทางหัวหน้าขบวนการจะส่งรายชื่อไม่ต่ำกว่าวันละ 100-200 ราย 

อย่างไรก็ตาม จากแนวทางสืบสวนพบว่าทำมาไม่ต่ำกว่า 5 เดือน มีเงินหมุนเวียนจากการที่หลอกลวงประชาชนกว่า 20 ล้านบาท อีกทั้งจากการตรวจสอบฐานข้อมูลในรายชื่อพบรายชื่อเหยื่อกว่า 2.5 หมื่นราย ส่งสำเร็จ 1.6 หมื่นราย และตีกลับ 7 พันราย และชุดสืบสวนได้พิสูจน์ทราบและรู้ตัวผู้เช่าอาคารดังกล่าวที่เป็นคนจีนแล้วอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับเพิ่มเติม