ต่างชาติแห่หนีตายจาก 'ซูดาน' หลังเมืองหลวงกลายเป็นมิคสัญญี ฟาก 2 กองทัพระเบิดสงครามกลางเมือง เข้าสู่วันที่ 10

รัฐบาลต่างชาติ ทั้งสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ฝรั่งเศส ซาอุดีอาระเบีย ฯลฯ ประกาศอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูต และพลเมืองของตนออกจากซูดานอย่างเร่งด่วน หลังเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงด้วยอาวุธสงคราม และการโจมตีทางอากาศระหว่าง 2 กองกำลังแห่งชาติ ได้แก่ กองทัพซูดาน ที่นำโดย พลเอก อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮานและ กองกำลังกึ่งทหาร Rapid Support Forces (RSF) ที่มี โมฮาเหม็ด ฮัมดัน ดากาโล เป็นผู้นำ ณ ใจกลางกรุงคาร์ทูม เมืองหลวงของซูดาน

โดยการสู้รบเปิดฉากขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2566 เป็นต้นมาแบบไม่มีสัญญาณการแจ้งเตือนล่วงหน้า จนถึงวันนี้ก็เข้าสู่วันที่ 10 แล้ว สถานการณ์ก็ยังคงรุนแรง และไม่มีฝ่ายใดหยุดยิง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วไม่น้อยกว่า 400 คน ขณะที่ชาวซูดานผู้ติดอยู่ในเมืองกำลังประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร และน้ำ สาธารณูปโภคทั้งประปา และ ไฟฟ้า ถูกตัดขาด ไม่นับรวมปัญหาการปล้นสดมภ์ และการถูกลูกหลงจากการโจมตีทางทหาร

นอกจากนี้ กองกำลังซูดาน ต่างพยายามแย่งชิงพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ อาทิ ทำเนียบประธานาธิบดี, รัฐสภา, สนามบิน, สถานีโทรทัศน์, สถานีเครือข่ายโทรคมนาคม ทำให้การอพยพชาวต่างชาติเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะไม่สามารถเข้าถึงสนามบินนานาชาติได้

ล่าสุดมีการประสานงานให้สามารถอพยพชาวต่างชาติออกจากกรุงคาร์ทูมได้ทางรถยนต์ ทางเรือ หรือทางอากาศ โดยรัฐบาลต่างชาติสามารถส่งเครื่องบินมารับพลเมืองของตนได้ที่ท่าเรือซูดาน ทางชายฝั่งทะเลดำ ซึ่งห่างจากกรุงคาร์ทูมถึง 850 กิโลเมตร

โดยซาอุดีอาระเบีย เป็นชาติแรกที่สามารถอพยพพลเมืองกว่า 150 คนออกจากซูดานได้ และเดินทางมาถึงเมืองเจดดาห์อย่างปลอดภัยเมื่อวันเสาร์ 22 เมษายนที่ผ่านมา และยังช่วยเหลือพลเมืองของชาติอื่นๆ เช่น คูเวต, UAE, ตูนิเซีย, ปากีสถาน, อินเดีย, ฟิลิปปินส์ ฯลฯ ออกจากซูดานด้วย

ด้านกองทัพสหรัฐฯ ได้จัดส่ง Chinook เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงขนาดใหญ่จำนวน 3 ลำ พร้อมกองกำลังอีก 100 นายไปรับพลเมืองอเมริกัน คณะทูตและครอบครัวแล้วเช่นกัน โดยนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐประกาศยุติปฏิบัติการด้านการทูตในซูดานอย่างไม่มีกำหนด แต่ยังมีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นประจำอยู่คอยช่วยเหลือพลเมืองอเมริกัน ที่คาดว่ายังติดอยู่ในซูดานนับพันคน 

ริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีอังกฤษส่งกองกำลังติดอาวุธ รุดหน้าไปช่วยอพยพคณะทูตอังกฤษพร้อมครอบครัวออกมาทั้งหมดแล้ว อีกทั้งยอมรับว่ามีการคุกคามเจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษ ที่นับวันความรุนแรงก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 

ล่าสุด ที่ฝรั่งเศสมีรายงานว่าพลเมืองของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 คน ขณะที่กองทัพฝรั่งเศสกำลังอพยพชาวฝรั่งเศส และคณะทูตไปยังเมืองอุมเดอร์มาน ซึ่งกองทัพซูดานกล่าวหาว่า ฝ่าย RSF เป็นผู้เปิดฉากยิงใส่พลเมืองฝรั่งเศส ในขณะที่ฝ่าย RSF ตอบโต้ว่าเป็นการป้องกันตัวจากการถูกโจมตีโดยเครื่องบินทหารของกองทัพซูดาน จนพลาดโดนชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บ โดยด้านรัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสปฏิเสธที่จะออกความเห็นใดๆ ในเหตุการณ์นี้ และกล่าวเพียงว่าแผนการช่วยเหลือ อพยพชาวฝรั่งเศสออกจากซูดานยังคงดำเนินต่อไปตามแผนที่วางไว้ 

แม้ว่านานาชาติจะได้เร่งจัดส่งเครื่องบิน และกองกำลังไปรับพลเมืองของตนออกจากซูดานอย่างเร่งด่วนแล้ว แต่ยังมีบางประเทศที่ยังติดปัญหา อาทิ รัสเซีย ที่เอกอัคราชทูตรัสเซียในซูดานยังอยู่ในขั้นตอนประสานงานไปยังมอสโคว ให้มารับพลเมืองรัสเซียราวๆ 140 คนที่ประสงค์เดินทางออกจากซูดาน ในจำนวนนี้มีอยู่ 15 คนที่มีทั้งผู้หญิง และเด็ก ยังติดค้างอยู่ในโบสถ์คริสต์ นิกายรัสเซีย ออร์โธดอกซ์ ที่ตั้งอยู่ใกล้กรุงคาร์ทูม ที่ยังไม่สามารถอพยพออกมาจากอาคารได้ เพราะอยู่ในพื้นที่การต่อสู้ของทหารทั้ง 2 ฝ่าย

ความขัดแย้งทางการเมือง จนประทุเดือดกลายเป็นสงครามกลางเมืองของกองทหารทั้ง 2 ฝ่าย เกิดจากการไม่ลงรอยกันในอำนาจระหว่างผู้นำของฝ่ายกองทัพซูดาน และ กองกำลังกึ่งทหาร RSF ซึ่งครั้งหนึ่งเคยร่วมกันทำรัฐประหารยึดอำนาจ ประธานาธิบดี โอมาร์ อัล-บาซีร์ ผู้นำเผด็จการที่ครองอำนาจในซูดานมานานถึง 30 ปี โดยสัญญากับชาวซูดานว่าจะพาประเทศเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลพลเรือนที่เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์

แต่ต่อมาในปี 2564 ผู้นำทางทหารทั้ง 2 ฝ่ายได้ทำการรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลประชาชนในสภาเปลี่ยนผ่านอีกครั้ง ทำลาย Roadmap ของการตั้งรัฐบาลพลเรือน และเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งรุนแรงระหว่างกองทัพซูดาน และ กองกำลัง RSF ที่ไม่สามารถแบ่งสรรอำนาจอย่างลงตัวได้ ที่ต่างฝ่ายต่างกุมกำลังหลักแสนคน และมีคลังอาวุธสงครามเป็นของตัวเอง จนนำไปสู่การสู้รบเพื่อแย่งอำนาจปกครองสูงสุดในรัฐบาลซูดานกันอย่างดุเดือดกลางกรุงคาร์ทูมในวันนี้

เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์

อ้างอิง: Wion News / Euro News / France24